จากภาพยนตร์ Dunkirk สู่บุคคลในประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม

กระทู้สนทนา

โนแลน เคยให้สัมภาษณ์ เขาเคยบอกว่าตัวละครในภาพยนตร์นี้ไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แต่ทราบว่าเขาได้วิจัยประวัติศาสตร์จากในหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Forgotten Voices of Dunkirk ของ Joshua Levine ซึ่งบุคคลจริงเหล่านี้ที่มีในประวัติศาสตร์ ได้เป็นแรงบัลดาลใจให้กับเขาในการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้ ซึ่งเขากำลังทำให้วีรบุรุษที่ถูกลืมนี้กลับมาอีกครั้ง

นักบินแห่งกองทัพอังกฤษ Farrier นำแสดงโดย Tom Hardy นักบินหนุ่มผู้นำเครื่องบินรุ่นไหม่ล่าสุดอย่าง Spitfire
เข้าประจัญบานกับกองทัพอากาศเยอร์มัน ได้รับแรงบัลดาลในจาก Alan Christopher "Al" Deere ชาวนิวซีแลนด์ ในเครือจักรภพ
เขาประจำการอยู่ในฝูงบิน 54 หน่วยของเขาได้เปลี่ยนจากเครื่องบินเฮอริเคน เป็น Supermarine Spitfire Mk 1s หน่วยแรกๆ ในยุคต้นสงคราม เขาถึงอุทานออกมาเมื่อได้ลองขับว่า “มันสวย และขับง่าย”

23 พ.ค. 1940 เขาและ J. Allen พร้อมนาวาอากาศโท James Leathart สามลำ บินข้ามช่องแคบอังกฤษเข้าช่วยเหลือ ฝูงบินที่ 78
Deere เล่าว่าเขาได้ชัยชนะเป็นครั้งแรกของเครื่องบินรุ่นนี้ต่อเครื่องบิน Bf 109 (พวกสัมพันธมิตรเรียก Me 109) เขาได้สอยตกไปสองลำ วันต่อมาได้สอย Bf 110 เหนือดันเคิร์ท และวันที่สามก็ได้อีกสองลำบริเวณเดียวกัน เขาได้เขียนในรายงานการรบว่า เครื่อง Spitfire เหนือกว่า Me 109 ในทุกด้าน ยกเว้น การใต่ระดับ และการทิ้งดิ่ง ต่างจากเครื่องเฮอริเคนที่คล่องตัวกว่า แต่ความเร็ว และอัตราการใต่ระดับต่ำ)

นักบิน RAF ของจริง กับในหนัง ของแท้ต้องผูกไทด์ขึ้นบิน

แต่พอถึงวันที่ 28 โชคไม่เข้าข้างเขา เครื่องเขาถูกยิงจากป้อมปืนด้านหลังของเครื่องบิน Dornier Do 17 เข้าที่ระบบทำความเย็นเหนือดันเคิร์ท เขาบังคับเครื่องตกลงที่ชายหาดเบลเยี่ยม โดยได้รับความช่วยเหลือจากทหาร เขาบาดเจ็บที่คิ้ว เขาต้องเดินเท้าพร้อมผ้าพันศีรษะจากเบลเยี่ยมกลับดันเคิร์ท เพื่อรอรับความช่วยเหลือ ซึ่งระหว่างทางโชคดีก็ได้เจอรถทหารอังกฤษ ระหว่างที่รออพยพ เขาต้องเจอกับทหารหลายนายที่เกรียวกราดใส่เขาว่า “Where the hell have you been?" เพื่อถามถึงกองทัพอากาศไปอยู่ไหน (ความจริงคือทัพอากาศไป dogfight กันกลางทะเล ห่างไกลชายหาด) เขาขึ้นบกที่โดเวอร์ และนั่งรถไฟต่อกลับลอนดอน และต่อมาได้รับเหรียญกล้าหาญ the Distinguished Flying Cross จากพระเจ้าจอร์จที่ 6 23 กรกฏา ปีเดียวกัน

ผู้บัญชาการเรือ Bolton (Kenneth Branagh) ได้รับแรงบัลดาลใจจาก Captain William Tennant
ผู้มาถึงหาดดันเคิร์ทด้วยเรือพิฆาต HMS Wolfhound ผู้ตัดสินในจะอยู่จนกว่าเรือลำสุดท้ายออกจากดันเคิร์ท จนได้ฉายาว่า "Dunkirk Joe"

วีรกรรมของเขาไม่ได้จบลงแค่นี้ ต่อมาเขาได้เป็นผู้บัญชาการเรือลาดตระเวนหนัก HMS Repulse หนึ่งในกองเรือที่ล่าเรือประจันบานบิสมาร์ค และเกือบเป็นส่วนหนึ่งของ สิงคโปร์ดันเคิร์ท เพราะความประมาทในการประเมินศักยภาพของเครื่องบินตอปิโดของญี่ปุ่นต่ำไป
เรื่องมีอยู่ว่าอังกฤษที่สิงคโปร์ ได้ถอดรหัสได้ว่ากองเรือญี่ปุ่นกำลังเคลื่อนเข้ามาที่ภาคใต้ของไทย และข่าวการโจมตีที่เพิร์ลฮาเบอร์ของกองเรือญี่ปุ่น และข่าวการเสียสงขลาให้กับญี่ปุ่น และสิงคโปร์กำลังจะกลายเป็นดันเคิร์ทแห่งใหม่ ทางอังกฤษจึงจัดกองกำลังทางเรือที่เรียกว่า force z ประกอบด้วยเรือประจัญบาน Prince of Wales และ Repulse และเรือพิฆาตอีกสี่ลำขึ้นไปโจมตีสงขลา แต่เนื่องจากขาดการสนับสนุนทางอากาศจึงต้องกลับมาสิงคโปร์ และเจอกับเครื่องบินตอปิโดระยะไกลจากไซง่อนจมระหว่างทางจากโกตาบารูกลับมาป้องกัน และอพยบทหารอังกฤษออกจากสิงคโปร์ Captain William Tennant ถูกช่วยจากเรือพิฆาตที่ไปด้วยกัน หลังสงครามจบได้เหรียญกล้าหาญชั้นอัศวินจาก พระเจ้าจอร์จที่ 6

Mr. Dawson นำแสดงโดย Mark Rylance กัปตันเรือส่วนตัวที่ที่ชื่อ Moonstone
เข้าไปช่วยทหารจากดันเคิร์ท ได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก Charles Lightoller ขับเรือส่วนตัวที่ชื่อ Sundowner

ถ้าใครนึกไม่ออกว่า Charles Lightoller คือใครให้กลับไปดูหนังเรื่องไททานิคใหม่ เขาคือรองผู้บัญชาการเรือคนที่สองบนเรือไททานิค เป็นคนที่ยึดมั่นในคำสั่งผู้บัญชาการเรือมาก ตอนเรือกำลังล่มมีคำสั่งว่า “เรือชูชีพเฉพาะเด็กกับผู้หญิงเท่านั้น” ต่อมาเขาพบว่าเรือชูชีพลำหนึ่งมีผู้ชาย 25 คน และลูกเรือ เขาใช้ปืนพกสั่งให้ลงมาจากเรือ และก่อนเรือจมเขาเป็นคนพูดว่า ลาก่อนเพื่อนเก่า ก่อนที่เขาจะจมไปพร้อมกับเรือ ก่อนที่จะตะเกียกตะกายออกมาจากกระแสน้ำ และพบเรือ Collapsible B คว่ำอยู่โดยมีผู้รอดชีวิตเกาะอยู่ เขาดึงเชือกหัวเรือและใช้กระแสน้ำทำเรือให้หงายขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งเขาและผู้รอดชีวิตกว่าสามสิบชีวิตบนเรือที่ต้องเผชิญความหนาวเหน็บ และเป็นเรือชูชีพลำสุดท้ายของเรือไททานิคที่ช่วยขึ้นมาโดยเรือ RMS Carpathia

และช่วงเกษียณเขาได้ซื้อเรือยอร์ชติดเครื่องยนต์มาลำหนึ่ง ชื่อว่า Sundowner และได้ยินข่าวทางวิทยุและเป็นหนึ่งในเจ็ดร้อยเรือเล็ก ที่กล้าหาญเข้าไปช่วยเหลือทหารที่ดันเคิร์ท ซึ่งเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงชายหาดได้ ปัจจุบันเรือลำนี้จัดแสดงที่ Ramsgate Maritime Museum และเขาได้เขียนในบันทึกในหนังสือความทรงจำของเขาว่า สาเหตุที่เขารอดมาได้ตลอดว่า “ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า แล้วทุกสิ่งจะเป็นไปได้”