MGRออนไลน์ -- การก่อสร้างทางรถไฟสายหยุนหนัน-เวียงจันทน์ ในส่วนที่อยู่ดินแดนลาวคืบหน้าไปแล้ว 31.35% ตามแผนการก่อสร้าง ระยะเวลา 5 ปี เพื่อเปิดใช้งานในปี 2564 นับเป็นความคืบหน้าที่รวดเร็ว สื่อของทางการรายงานในสัปดาห์นี้ อ้างเอกที่นำเสนอโดย รองรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะบริหารการก่อสร้างทางรถไฟสายลาว-จีน
ตามรายงานของ "เวียงจันทน์ใหม่" รายงานของนายคูนนิวง ลัดตะนะมะนี ระบุว่า นับแต่เริ่มก่อสร้างปีที่แล้ว ขณะนี้ทางรถไฟแล้วเสร็จ 130.67 กิโลเมตร เทียบกับระยะทางทั้งหมด 417 กม. ในนั้นเจาะอุโมงค์เสร็จ 49 แห่ง ใน 101 จุดก่อสร้าง รวมอุโมงค์ยาว 5,836.6 เมตร เจาะตอม่อสะพานได้ 268 เสา ติดตั้งโรงโม่หินแล้วเสร็จ 14 แห่ง สร้างห้องทดลอง 18 แห่ง แค้มป์ผู้รับเหมา 88 แห่ง สำนักงานที่ศึกษาโครงการอีก 12 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 100 แห่ง
นายคุนนิวง รายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการชี้นำโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีนายบุนจัน สินทะวงม รมว.โยธาธิการและขนส่ง เป็นประธาน ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 19 ก.ค. ในนครเวียงจันทน์
ทางรถไฟในดินแดนลาว เริ่มจากชายแดนเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ผ่านแขวงอุดมไซ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ และ นครเวียงจันทน์ ประกอบด้วย 32 สถานี ต้องสร้างสะพานข้ามลำน้ำ ลำห้วย รวมทั้งแม่น้ำโขงช่วงเมืองหลวงพระบาง รวมทั้งหมด 167 แห่ง เจาะอุโมงค์ 75 อุโมงค์ ความยาวของสะพานกับอุโมงค์ คิดเป็นประมาณ 62% ของระยะทางทั้งหมด
ทางรถไฟส่วนใหญ่ยังตัดผ่านเขตภูเขาคิดเป็น 80% ของเส้นทาง ตัดผ่านเขตพื้นราบมีเพียง 20% เท่านั้น รายงานของคณะกรรมการดังกล่าวระบุ
นอกจากนั้นยังมีการก่อสร้างทางซอย เข้าไปยังสถานที่ก่อสร้าง รวมกันเป็นระยะทางทั้งหมด 657.9 กม. (ยาวกว่าทางรถไฟอีก) สะพานอีก 2 กม.เศษ ติดตั้งข่ายสายส่งไฟฟ้ารวมยาว 360.2 กม. ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า 172 หน่วย สร้างระบบน้ำประปาสำหรับแค้มป์ก่อสร้าง และ สถานที่ก่อสร้างแห่งต่างๆ รวมยาว 77 กม. ในส่วนนี้มีความคืบหน้าไป 30% เมื่อเทียบกับแผนการทั้งหมด
ที่ผ่านมายังมีการดำเนินงานอีกหลายแขนง ควบคู่กันไป รวมทั้งการไกล่เกลี่ยเวนคืนที่ดิน และ การจ่ายเงินชดเชย แก่ผู้ได้รับผลกระทบ การบริหารจัดการเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง และการจัดเก็บภาษี อย่างถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย
คณะกรรมการได้ประสานกับกรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชน กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในการเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่อาจหลงเหลือมาแต่ครั้งสงคราม และ ตกค้างอยู่ตามแนวทางรถไฟ มีการปักหลักหมายแนวทาง และ การเก็บกู้ระเบิดทางน้ำ ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างสะพานข้ารมาแม่น้ำโขง 2 แห่ง กับสะพานข้ามลำน้ำคาน อีก 1 แห่ง
สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานในขณะเดียวกันว่า บริษัทร่วมทุนจีน-ลาว ผู้พัฒนาโครงการทางรถไฟ ได้ประกาศรับแรงงานชาวลาว เพิ่มอีกกว่า 7,000 คน เพื่อบรรจุทำงานตามจุดต่างๆ โดยทั้งหมดจะเริ่มเข้าทำงานในปลายปีนี้ ทำให้เชื่อกันว่า ในปี 2564 ประชาชนลาว จะได้นั่งรถไฟจาก สปป.ลาว ไป สป.จีน ตามแผนการอย่างแน่นอน.
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9600000076711 
รถไฟจีน-เวียงจันทน์ไปไว มีเวลาตั้ง 5 ปี เสร็จแล้ว 1 ใน 3 รับคนงานอีกหลายพันฟันธง 2564 เปิดหวูด
ตามรายงานของ "เวียงจันทน์ใหม่" รายงานของนายคูนนิวง ลัดตะนะมะนี ระบุว่า นับแต่เริ่มก่อสร้างปีที่แล้ว ขณะนี้ทางรถไฟแล้วเสร็จ 130.67 กิโลเมตร เทียบกับระยะทางทั้งหมด 417 กม. ในนั้นเจาะอุโมงค์เสร็จ 49 แห่ง ใน 101 จุดก่อสร้าง รวมอุโมงค์ยาว 5,836.6 เมตร เจาะตอม่อสะพานได้ 268 เสา ติดตั้งโรงโม่หินแล้วเสร็จ 14 แห่ง สร้างห้องทดลอง 18 แห่ง แค้มป์ผู้รับเหมา 88 แห่ง สำนักงานที่ศึกษาโครงการอีก 12 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 100 แห่ง
นายคุนนิวง รายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการชี้นำโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีนายบุนจัน สินทะวงม รมว.โยธาธิการและขนส่ง เป็นประธาน ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 19 ก.ค. ในนครเวียงจันทน์
ทางรถไฟในดินแดนลาว เริ่มจากชายแดนเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ผ่านแขวงอุดมไซ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ และ นครเวียงจันทน์ ประกอบด้วย 32 สถานี ต้องสร้างสะพานข้ามลำน้ำ ลำห้วย รวมทั้งแม่น้ำโขงช่วงเมืองหลวงพระบาง รวมทั้งหมด 167 แห่ง เจาะอุโมงค์ 75 อุโมงค์ ความยาวของสะพานกับอุโมงค์ คิดเป็นประมาณ 62% ของระยะทางทั้งหมด
ทางรถไฟส่วนใหญ่ยังตัดผ่านเขตภูเขาคิดเป็น 80% ของเส้นทาง ตัดผ่านเขตพื้นราบมีเพียง 20% เท่านั้น รายงานของคณะกรรมการดังกล่าวระบุ
นอกจากนั้นยังมีการก่อสร้างทางซอย เข้าไปยังสถานที่ก่อสร้าง รวมกันเป็นระยะทางทั้งหมด 657.9 กม. (ยาวกว่าทางรถไฟอีก) สะพานอีก 2 กม.เศษ ติดตั้งข่ายสายส่งไฟฟ้ารวมยาว 360.2 กม. ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า 172 หน่วย สร้างระบบน้ำประปาสำหรับแค้มป์ก่อสร้าง และ สถานที่ก่อสร้างแห่งต่างๆ รวมยาว 77 กม. ในส่วนนี้มีความคืบหน้าไป 30% เมื่อเทียบกับแผนการทั้งหมด
ที่ผ่านมายังมีการดำเนินงานอีกหลายแขนง ควบคู่กันไป รวมทั้งการไกล่เกลี่ยเวนคืนที่ดิน และ การจ่ายเงินชดเชย แก่ผู้ได้รับผลกระทบ การบริหารจัดการเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง และการจัดเก็บภาษี อย่างถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย
คณะกรรมการได้ประสานกับกรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชน กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในการเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่อาจหลงเหลือมาแต่ครั้งสงคราม และ ตกค้างอยู่ตามแนวทางรถไฟ มีการปักหลักหมายแนวทาง และ การเก็บกู้ระเบิดทางน้ำ ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างสะพานข้ารมาแม่น้ำโขง 2 แห่ง กับสะพานข้ามลำน้ำคาน อีก 1 แห่ง
สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานในขณะเดียวกันว่า บริษัทร่วมทุนจีน-ลาว ผู้พัฒนาโครงการทางรถไฟ ได้ประกาศรับแรงงานชาวลาว เพิ่มอีกกว่า 7,000 คน เพื่อบรรจุทำงานตามจุดต่างๆ โดยทั้งหมดจะเริ่มเข้าทำงานในปลายปีนี้ ทำให้เชื่อกันว่า ในปี 2564 ประชาชนลาว จะได้นั่งรถไฟจาก สปป.ลาว ไป สป.จีน ตามแผนการอย่างแน่นอน.
http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9600000076711