ส่วนตัวเป็นเพศที่ 3 นะค่ะ และมีการใช้บริการบัตร KTC มานานหลายปี หลายปีมากมาก
ถือคู่ทั้งบัตร Titanium และบัตร Platinum ของ KTC
(นอกจาก KTC ก็มีบัตร Platinum ของธนาคารอื่นค่ะ เช่น ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ กสิกร แต่ไม่ได้ใช้เลย)
เรื่องมีอยู่มา 100% ใช้บัตรไทเทเนี่ยมมาตลอด เพราะจ่ายบัตรไม่หมดสักที
เพิ่งจ่ายหมดต้นปีที่ผ่านมา เลยสลับมาใช้บัตร Platinum ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เคยจ่ายหมด แต่ตอนนั้นไม่ได้มีบัตร Platinum ระบบการคิดดอกเบี้ยไม่ใช่แบบนี้
เดือน 6 ที่ผ่านมามีโบนัสกลางปี และเห็นว่ามียอดเรียกเก็บทั้งหมดแค่ 18,254.89 บาท
ทางเราเลยจ่ายหมด 18,255 บาท และคิดว่า คือ การเคลียร์ยอดทั้งหมดผ่านเคาท์เตอร์ของ KTC ที่สาขาเดอะมออล์บางกะปิ
พร้อมกับความสบายใจไม่เป็นหนี้
แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อเช้าดูยอดเรียกเก็บ 43.34 บาท มัน คือ อะไร(ว่ะค่ะ)
ที่เพิ่งเปิดดูเพราะเราเพิ่งเห็นและเพิ่งกลับบ้าน ช่วงนี้เรากลับบ้านอาทิตย์ละครั้งค่ะ
รายละเอียดที่เรียกเก็บ คือ เป็นค่าดอกเบี้ย 32.96 บาทและค่าธรรมเนียมใช้บัตร 10.99 บาท
จึงมีข้อสงสัยโทรเข้า Call center 02-123-5000
เรื่องเริ่มต้นจากบรรทัดนี้ค่ะ
ทางเราพยายามชี้แจ้งว่า เราจ่ายยอดหมดแล้ว ทำไมยังคิดดอกเบี้ย
ทางเจ้าหน้าที่ก็เอาแต่ชี้แจ้งว่าเป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องโทรแจ้งให้หยุดคิดดอกเบี้ย
อ้าวเห้ย นี่หรือคือบริการ Platinum ที่ได้รับ (ประทับใจเลยค่ะ)
ตอนใช้ Titanium จ่ายหมดก็ คือ ไม่มีดอกไม่ใช่เหรอ
แต่นี่คือบริการบัตรที่ดีกว่า ทำไมทำแบบนี้อ่ะ
คือ เรายอมรับว่าเราองค์ลงเลยเพราะเจ้าหน้าที่พูดอยู่อย่างเดียวว่าเราต้องจ่าย
ดิชั้นเลยพูดเลยขอพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ (เพราะ

ไม่ฟังความต้องการของลูกค้าเลย)
สักพักนางหายไป กลับมาพร้อมกับแจ้งว่าจะยื่นเรื่องให้ค่ะ จบการสนทนาครั้งที่ 1
เราตั้งใจว่าเดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ใจเย็นขึ้นจะโทรเข้าไปใหม่ ร้องเรียนเรื่องการให้บริการ
แต่ไม่มีเจตนาจะแจ้งชื่อหรืออะไร แค่จะบอกว่าให้ฟังความต้องการของลูกค้าบ้างว่าเขาต้องการอะไร
และในใบเรียกเก็บ เขียนไว้ไม่ใช่เหรอค่ะว่า *** หากมีข้อสงสัยใด ๆ กรุณาให้สอบถาม
(คือ ถ้าทำหน้าที่ได้แค่ตอบว่าต้องจ่าย ใช้ระบบออโต้ไปเลยค่ะ ไม่ต้องมีคนคอยให้บริการ
คุณไม่ฟังความต้องการลูกค้าเลย แล้วสุดท้ายมาบอกจะแจ้งเรื่องให้
คุณคิดว่าลูกค้าเขาจะประทับใจเหรอค่ะหลังจากที่อารมณ์ขึ้นสู่จุดสูงสุด
ลูกค้ารู้ค่ะ ว่าทางคุณทำอะไรได้บ้าง หากให้บริการแจ้งว่าจะดำเนินการแจ้งเรื่องให้จะจบง่ายและสวยมาก)
พอเราไปทานข้าวและได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เรารับทันริงที่ 3
ซึ่งเราได้ยินเสียงนางยังคุยกับเพื่อนอยู่เลย
ประมาณเพื่อนแนะนำว่า ไม่ใช่เจ้าของบัตรแจ้งเรื่องแทนไม่ได้
เราฟังอยู่เต็มๆ หู แล้วเราก็รับสายพนักงานถามกลับมาแค่ว่าคำนำหน้านาม คือ อะไร
เราก็ตอบว่านาย นางวางสายใส่เลยค่ะ
แล้วเราก็กินข้าวต่อ นางโทรมาอีกรอบบอกเมื่อกี้สายหลุด(จะแหลก็ให้มันเนียนหน่อยนะย่ะ)
และบอกว่า ทาง Call center จะดำเนินการให้ เราขอชื่อและนามสกุลนางเพราะถึงขีดสูงสุด
ในมารยาทอันทรามของหล่อน นางอิดออดให้มาแต่ชื่อ ถามหน่อยค่ะ ชื่อโหล ๆ ของหล่อนไม่มีนามสกุล
ถ้าชั้นจะเล่นงานคนชื่อนี้ คนอื่นที่เขาไม่ได้บริการแย่อย่างนางแต่ซวยชื่อเดียวกันไม่โดนหางเลขไปด้วยเหรอ
สุดท้ายนางให้นามสกุลมา บอกจะดำเนินการให้ภายใน 3 วันและวางสายไป
เราไปทานข้าวของเราปกติ โทรกลับเข้าไป KTC Call center ใหม่พร้อมทั้งร้องเรียนและให้รายละเอียดกับ Call center อีกคนหนึ่งไป
ซึ่งบริการต่างกันมาก (ไม่ได้ดีล้ำเลิศ แต่ไม่แย่อย่างเลวร้ายเหมือนคนแรกค่ะ)
แต่ตอบมาว่าทราบผลใน 7 วัน จะกี่วันฉันก็รอได้ค่ะ ขอรู้ผลว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่ควรต้องจ่ายอีกมั้ย(ว่ะค่ะ)
และอยากทราบบทลงโทษของ call center มารยาทไม่ดีด้วย
สิ่งที่ติดใจ
E-ดอกเบี้ยเนี่ย
กว่าจะรู้ผลเนี่ยดอกมันยังเรียกเก็บเท่านี่อยู่หรือเปล่า ในกรณีที่ทาง KTC ยังคงยืนยันเจตนาที่จะเรียกเก็บลูกค้าเหมือนเดิม
เพราะทางคุณบอกคำนวณเป็นวัน จากเงินต้นที่เป็นศูนย์ก็อุตส่าห์คำนวณกันได้เนอะ
เรียนคณิตศาสตร์อะไรคูณศูนย์ก็ได้ศูนย์นะค่ะ
สิ่งที่อยากให้ Call center ทุกที่แหละค่ะ แต่อาจจะโดยเฉพาะ KTC เพราะเพิ่งโดนมา
1.ตุ๊ด กระเทย รายได้ดีในเมืองไทยไม่ได้มีแค่ พี่ม้า อรนภา กับ น้องปอย ตรีชฎา รู้ไว้แล้วก็จำใส่สมองไว้ด้วยนะค่ะ
รึเป็นพวกเหยียดเพศค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น อย่ามาทำเลยค่ะงานบริการ ไปทำอย่างอื่นน่าจะรุ่งกว่า
2.คุณจะมาเป็น Call center ยังจะมีหน้ามาเม้าท์ลูกค้า ให้ลูกค้าได้ยินอีก
ไอ้ที่ไม่ได้ยินอีกไม่รู้เท่าไหร่ ต้องปรับปรุงอย่างมาก
ถ้ายังคงต้องการดำเนินอาชีพนี้หาเลี้ยงชีพสุจริตต่อไป
อันนี้ฝากถึง KTC โดยตรง ปกติโทรไปทีไรก็อ้างถึงแต่ระบบอัตโนมัติ
(เคยโดนมาคร้งหนึ่งตอน บัตรไทเทเนี่ยม มียอดค้างชำระ 400 กว่าบาทจากวงเงินเป็นแสน โดนระงับบัตรค่ะ
ยอมรับว่าตอนนั้นอายมาก ใช้ตอนไปกินโออิชิ กะว่าจะกินแล้วค่อยไปจ่าย ดีนะมีเงินสดติดตัวเพราะไปกินคนเดียวด้วย
เขาจะยอมให้ออกมากดเงินหน้าร้านรึป่าวไม่รู้ ถ้าไม่มีเงิน จริง ๆ ตอนนั้นอยากเลิกใช้ไปเลย
เพราะทำให้เราอาย แต่ยอมรับเรื่องส่วนลด ผ่อน 0% 10 เดือน และอื่น ๆ ที่พอจะมีดีบ้าง)
ลูกค้าทุกคนไม่ได้กินหญ้าแทนข้าว และบังเอิญจบปริญญาตรี IT เกียรตินิยมอันดับสองนะค่ะ
ทำไมไม่ใช้ความอัตโนมัติเช็คยอดว่าลูกค้าจ่ายมามากกว่ายอดเรียกเก็บ
ไม่โทรมาสอบถามลูกค้าก่อนเรียกเก็บบิลเหรอค่ะ ว่าการที่ลูกค้าจ่ายเท่ากับยอดเรียกเก็บทางบัตรก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย
แล้วเขาจะจ่ายครบทำไม
หรือทางบัตร Platinum มีนโยบายไม่ให้กดเงินสดก็ขอความชัดเจนด้วยค่ะ
ถ้าไม่เป็นองค์กรที่หวังผลกำไรจนมากเกินไปนะค่ะ ขอแนะนำว่า
ควรโทรหาลูกค้าที่คนที่เป็นกรณีนี้แล้วคุณจะได้ใจของลูกค้าไปอีกนาน
ในส่วนของเคาท์เตอร์ KTC เองก็เหอะ
น่าจะเห็นยอดทั้งหมดควรต้องโทรแจ้งให้เรารึเปล่าค่ะว่าเราจ่ายหมดแล้ว (อันนี้ก็แนะนำบริการเหมือนกัน)
ขอบคุณทุกคนทีเสียเวลาอ่านค่ะ ถ้าผิดห้องก็ขออภัย
สำหรับใครที่ไม่ทราบเหมือนดิชั้นลองดูว่ายอดจ่ายบัตรมันเกินกว่าที่กดรึยังจะได้ไม่เสียดอกแบบนี้
ที่พูดมา เราไม่ได้ถูกทั้งหมด แต่เราไม่ได้เป็นคนเริ่มค่ะ
ขอบคุณค่ะ
บัตร Platinum, ดอกเบี้ย Platinum, Call center รากหญ้า กับ KTC
ถือคู่ทั้งบัตร Titanium และบัตร Platinum ของ KTC
(นอกจาก KTC ก็มีบัตร Platinum ของธนาคารอื่นค่ะ เช่น ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ กสิกร แต่ไม่ได้ใช้เลย)
เรื่องมีอยู่มา 100% ใช้บัตรไทเทเนี่ยมมาตลอด เพราะจ่ายบัตรไม่หมดสักที
เพิ่งจ่ายหมดต้นปีที่ผ่านมา เลยสลับมาใช้บัตร Platinum ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เคยจ่ายหมด แต่ตอนนั้นไม่ได้มีบัตร Platinum ระบบการคิดดอกเบี้ยไม่ใช่แบบนี้
เดือน 6 ที่ผ่านมามีโบนัสกลางปี และเห็นว่ามียอดเรียกเก็บทั้งหมดแค่ 18,254.89 บาท
ทางเราเลยจ่ายหมด 18,255 บาท และคิดว่า คือ การเคลียร์ยอดทั้งหมดผ่านเคาท์เตอร์ของ KTC ที่สาขาเดอะมออล์บางกะปิ
พร้อมกับความสบายใจไม่เป็นหนี้
แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อเช้าดูยอดเรียกเก็บ 43.34 บาท มัน คือ อะไร(ว่ะค่ะ)
ที่เพิ่งเปิดดูเพราะเราเพิ่งเห็นและเพิ่งกลับบ้าน ช่วงนี้เรากลับบ้านอาทิตย์ละครั้งค่ะ
รายละเอียดที่เรียกเก็บ คือ เป็นค่าดอกเบี้ย 32.96 บาทและค่าธรรมเนียมใช้บัตร 10.99 บาท
จึงมีข้อสงสัยโทรเข้า Call center 02-123-5000
เรื่องเริ่มต้นจากบรรทัดนี้ค่ะ
ทางเราพยายามชี้แจ้งว่า เราจ่ายยอดหมดแล้ว ทำไมยังคิดดอกเบี้ย
ทางเจ้าหน้าที่ก็เอาแต่ชี้แจ้งว่าเป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องโทรแจ้งให้หยุดคิดดอกเบี้ย
อ้าวเห้ย นี่หรือคือบริการ Platinum ที่ได้รับ (ประทับใจเลยค่ะ)
ตอนใช้ Titanium จ่ายหมดก็ คือ ไม่มีดอกไม่ใช่เหรอ
แต่นี่คือบริการบัตรที่ดีกว่า ทำไมทำแบบนี้อ่ะ
คือ เรายอมรับว่าเราองค์ลงเลยเพราะเจ้าหน้าที่พูดอยู่อย่างเดียวว่าเราต้องจ่าย
ดิชั้นเลยพูดเลยขอพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ (เพราะ
สักพักนางหายไป กลับมาพร้อมกับแจ้งว่าจะยื่นเรื่องให้ค่ะ จบการสนทนาครั้งที่ 1
เราตั้งใจว่าเดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ใจเย็นขึ้นจะโทรเข้าไปใหม่ ร้องเรียนเรื่องการให้บริการ
แต่ไม่มีเจตนาจะแจ้งชื่อหรืออะไร แค่จะบอกว่าให้ฟังความต้องการของลูกค้าบ้างว่าเขาต้องการอะไร
และในใบเรียกเก็บ เขียนไว้ไม่ใช่เหรอค่ะว่า *** หากมีข้อสงสัยใด ๆ กรุณาให้สอบถาม
(คือ ถ้าทำหน้าที่ได้แค่ตอบว่าต้องจ่าย ใช้ระบบออโต้ไปเลยค่ะ ไม่ต้องมีคนคอยให้บริการ
คุณไม่ฟังความต้องการลูกค้าเลย แล้วสุดท้ายมาบอกจะแจ้งเรื่องให้
คุณคิดว่าลูกค้าเขาจะประทับใจเหรอค่ะหลังจากที่อารมณ์ขึ้นสู่จุดสูงสุด
ลูกค้ารู้ค่ะ ว่าทางคุณทำอะไรได้บ้าง หากให้บริการแจ้งว่าจะดำเนินการแจ้งเรื่องให้จะจบง่ายและสวยมาก)
พอเราไปทานข้าวและได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เรารับทันริงที่ 3
ซึ่งเราได้ยินเสียงนางยังคุยกับเพื่อนอยู่เลย
ประมาณเพื่อนแนะนำว่า ไม่ใช่เจ้าของบัตรแจ้งเรื่องแทนไม่ได้
เราฟังอยู่เต็มๆ หู แล้วเราก็รับสายพนักงานถามกลับมาแค่ว่าคำนำหน้านาม คือ อะไร
เราก็ตอบว่านาย นางวางสายใส่เลยค่ะ
แล้วเราก็กินข้าวต่อ นางโทรมาอีกรอบบอกเมื่อกี้สายหลุด(จะแหลก็ให้มันเนียนหน่อยนะย่ะ)
และบอกว่า ทาง Call center จะดำเนินการให้ เราขอชื่อและนามสกุลนางเพราะถึงขีดสูงสุด
ในมารยาทอันทรามของหล่อน นางอิดออดให้มาแต่ชื่อ ถามหน่อยค่ะ ชื่อโหล ๆ ของหล่อนไม่มีนามสกุล
ถ้าชั้นจะเล่นงานคนชื่อนี้ คนอื่นที่เขาไม่ได้บริการแย่อย่างนางแต่ซวยชื่อเดียวกันไม่โดนหางเลขไปด้วยเหรอ
สุดท้ายนางให้นามสกุลมา บอกจะดำเนินการให้ภายใน 3 วันและวางสายไป
เราไปทานข้าวของเราปกติ โทรกลับเข้าไป KTC Call center ใหม่พร้อมทั้งร้องเรียนและให้รายละเอียดกับ Call center อีกคนหนึ่งไป
ซึ่งบริการต่างกันมาก (ไม่ได้ดีล้ำเลิศ แต่ไม่แย่อย่างเลวร้ายเหมือนคนแรกค่ะ)
แต่ตอบมาว่าทราบผลใน 7 วัน จะกี่วันฉันก็รอได้ค่ะ ขอรู้ผลว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่ควรต้องจ่ายอีกมั้ย(ว่ะค่ะ)
และอยากทราบบทลงโทษของ call center มารยาทไม่ดีด้วย
สิ่งที่ติดใจ
E-ดอกเบี้ยเนี่ย
กว่าจะรู้ผลเนี่ยดอกมันยังเรียกเก็บเท่านี่อยู่หรือเปล่า ในกรณีที่ทาง KTC ยังคงยืนยันเจตนาที่จะเรียกเก็บลูกค้าเหมือนเดิม
เพราะทางคุณบอกคำนวณเป็นวัน จากเงินต้นที่เป็นศูนย์ก็อุตส่าห์คำนวณกันได้เนอะ
เรียนคณิตศาสตร์อะไรคูณศูนย์ก็ได้ศูนย์นะค่ะ
สิ่งที่อยากให้ Call center ทุกที่แหละค่ะ แต่อาจจะโดยเฉพาะ KTC เพราะเพิ่งโดนมา
1.ตุ๊ด กระเทย รายได้ดีในเมืองไทยไม่ได้มีแค่ พี่ม้า อรนภา กับ น้องปอย ตรีชฎา รู้ไว้แล้วก็จำใส่สมองไว้ด้วยนะค่ะ
รึเป็นพวกเหยียดเพศค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น อย่ามาทำเลยค่ะงานบริการ ไปทำอย่างอื่นน่าจะรุ่งกว่า
2.คุณจะมาเป็น Call center ยังจะมีหน้ามาเม้าท์ลูกค้า ให้ลูกค้าได้ยินอีก
ไอ้ที่ไม่ได้ยินอีกไม่รู้เท่าไหร่ ต้องปรับปรุงอย่างมาก
ถ้ายังคงต้องการดำเนินอาชีพนี้หาเลี้ยงชีพสุจริตต่อไป
อันนี้ฝากถึง KTC โดยตรง ปกติโทรไปทีไรก็อ้างถึงแต่ระบบอัตโนมัติ
(เคยโดนมาคร้งหนึ่งตอน บัตรไทเทเนี่ยม มียอดค้างชำระ 400 กว่าบาทจากวงเงินเป็นแสน โดนระงับบัตรค่ะ
ยอมรับว่าตอนนั้นอายมาก ใช้ตอนไปกินโออิชิ กะว่าจะกินแล้วค่อยไปจ่าย ดีนะมีเงินสดติดตัวเพราะไปกินคนเดียวด้วย
เขาจะยอมให้ออกมากดเงินหน้าร้านรึป่าวไม่รู้ ถ้าไม่มีเงิน จริง ๆ ตอนนั้นอยากเลิกใช้ไปเลย
เพราะทำให้เราอาย แต่ยอมรับเรื่องส่วนลด ผ่อน 0% 10 เดือน และอื่น ๆ ที่พอจะมีดีบ้าง)
ลูกค้าทุกคนไม่ได้กินหญ้าแทนข้าว และบังเอิญจบปริญญาตรี IT เกียรตินิยมอันดับสองนะค่ะ
ทำไมไม่ใช้ความอัตโนมัติเช็คยอดว่าลูกค้าจ่ายมามากกว่ายอดเรียกเก็บ
ไม่โทรมาสอบถามลูกค้าก่อนเรียกเก็บบิลเหรอค่ะ ว่าการที่ลูกค้าจ่ายเท่ากับยอดเรียกเก็บทางบัตรก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย
แล้วเขาจะจ่ายครบทำไม
หรือทางบัตร Platinum มีนโยบายไม่ให้กดเงินสดก็ขอความชัดเจนด้วยค่ะ
ถ้าไม่เป็นองค์กรที่หวังผลกำไรจนมากเกินไปนะค่ะ ขอแนะนำว่า
ควรโทรหาลูกค้าที่คนที่เป็นกรณีนี้แล้วคุณจะได้ใจของลูกค้าไปอีกนาน
ในส่วนของเคาท์เตอร์ KTC เองก็เหอะ
น่าจะเห็นยอดทั้งหมดควรต้องโทรแจ้งให้เรารึเปล่าค่ะว่าเราจ่ายหมดแล้ว (อันนี้ก็แนะนำบริการเหมือนกัน)
ขอบคุณทุกคนทีเสียเวลาอ่านค่ะ ถ้าผิดห้องก็ขออภัย
สำหรับใครที่ไม่ทราบเหมือนดิชั้นลองดูว่ายอดจ่ายบัตรมันเกินกว่าที่กดรึยังจะได้ไม่เสียดอกแบบนี้
ที่พูดมา เราไม่ได้ถูกทั้งหมด แต่เราไม่ได้เป็นคนเริ่มค่ะ
ขอบคุณค่ะ