ปลายนาสุดของฟ้า ที่ "บ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง"

** หมายเหตุ : เรื่องราวการเดินทางโดยการขี่มอเตอร์ไซค์ไป ถ่ายรูปไป เรื่องเล่าแบบพูดไปเรื่อย ภาพเยอะมาก

การเดินทางหน้าฝนสำหรับบางคนคงคิดแต่เรื่องเฉอะแฉะ ลำบาก ไม่สะดวก ผมก็คิดคล้าย ๆ กัน แต่ถ้าได้ลองสัมผัสจริง ๆ มองให้ลึกลงไป กลับรู้สึกว่า หน้าฝนเป็นฤดูหนึ่งที่เดินทางได้สนุกที่สุด ไม่ร้อน ไม่เย็นเกินไป แดดไม่แรง หมอกเยอะ น้ำตกสวย วิวสีเขียวช่ำตา มีเรื่องบันเทิงเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ แต่มันแลกมากับการเดินทางอย่างไม่เร่งรีบ กินบรรยากาศไปเรื่อย ๆ และเฝ้ารอวันเมฆสวย ๆ ฟ้าสวย ๆ ยามหน้าฝน ซึ่งก็ต้องวัดทั้งดวง และวัดทั้งใจ



[พล่าม]



ทุกปีเมื่อเข้าหน้าฝน ผมมีนัดกับเด็กหนุ่มชาวบ้าน กับสถานที่ที่น่าจะเป็นพื้นนาขั้นบันไดที่กว้างที่สุดในประเทศไทยอย่าง ‘ป่าบงเปียง’ บางปีอาจจะแวะไป 2 - 3 ครั้ง อยู่รวม ๆ กันนานเกือบเดือน

หนุ่มชาวบ้านที่เรียนจบด้านเกษตรกลับมาพัฒนาบ้านของตนที่ป่าบงเปียงด้วยชื่อที่ผมเรียกเขาว่า ‘บัติ’ ซึ่งเขาทำโฮมสเตย์ ‘บ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง 080-7946883 บัติ’ (พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/u476s3kwm4N2) เป็นเหมือนน้องที่รู้จักกันมานาน ทั้งที่ผมนับชั่วโมงการรู้จักกันแล้วถือว่าน้อยมาก แต่ผมก็เริ่มชินกับการพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักกันอยู่แล้วนับตั้งแต่เริ่มออกเดินทางถ่ายรูปบ่อยขึ้น

บัติเป็นเด็กหนุ่มที่ผมยกย่อง เป็นคนซื่อ ๆ มีน้ำใจ ขี้เกรงใจ ตั้งใจดี แม้ว่าเราจะเจอหน้ากันแค่หลัก 100 ชั่วโมง แต่สิ่งเหล่านี้สัมผัสได้ตั้งแต่การเจอกันช่วงชั่วโมงแรกเมื่อปีที่แล้วด้วยซ้ำ

ผมได้ช่วยเหลืออะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับภาพถ่าย และการสำรวจเส้นทางการเดินทางไปป่าบงเปียง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการการเผยแพร่ข้อมูลที่พักของน้องบัติเองใน Social Media ซึ่งสำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทำแบบนี้กับหลายสถานที่ ๆ ไปอยู่แล้ว และทุกที่ ๆ ผมช่วยแนะนำ ผมก็มักจะได้รับน้ำใจกลับมาเหมือนกับน้องบัติให้ผม

[ที่เห็นนั้นไม่ใช่หมอก ขาว ๆ นั้นไม่ใช่เมฆ แต่มันเป็นฝนที่กำลังไล่เข้ามาหายามเรามองอยู่ไกล ๆ ฝนที่อยู่สูง และเราก็อยู่สูง สายฝนจึงดูขาว]
[ข้อมูลภาพ] Nikon D750 / Tamron SP 70-200mm. F2.8 / ISO100 / 122mm. / f7.1 / 1/125sec.



ปีนี้ผมเล็งไว้ 26 มิ.ย. 60 เป็นวันเริ่มเดินทาง แม้จะแว่วว่าอาจจะมีมรสุมเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นนัก การขี่รถกลางสายฝนมันทำให้เรารู้สึกฟินได้ไม่ต่างจากเสียงลมที่ปะทะยามมอเตอร์ไซค์คู่ใจผมไหลผ่านแหวกอากาศ หรือเส้นสายของฝน

ทริปนี้พิเศษขึ้นไปอีกเมื่อมีน้องที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ทักเข้ามาหลังจากผมโพสต์ใน Facebook เพื่อประกาศหาเพื่อนร่วมเดินทางขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วยกัน แต่เขาจะรออยู่ที่เชียงใหม่ เจอกันที่นั้น เดินทางด้วยกันที่นั้น มันทำให้พิเศษกว่าทริปอื่นที่ผมมักออกทริปเดินทางคนเดียวเสมอ เคยมีแค่ 4 ทริปที่มีคนร่วมเดินทางด้วย ซึ่งทั้ง 4 ทริป เป็นเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่ก็ได้ช่วยเหลือ ดูแล ไปด้วยกัน ไปนอนบ้านเขาบ้าง หรือไปนอนเต็นท์ด้วยกัน สนุก และได้ประสบการณ์ที่ดีมาก ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกับทุกคนทั้ง 4 ทริปนั้นอยู่เลย คุยเยอะบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่โอกาส

[กว่าจะได้ภาพนี้ก็ใช้เวลานานพอสมควร เริ่มจากแกล้งยืนถ่ายรูปตรงคันนาติดกับที่เขามัดรวบต้นกล้า แล้วจึงขออนุญาตลงในพื้นนา แล้วก็ถ่ายเท่าที่ได้ จากนั้นก็นั่งใกล้ ๆ พี่คนนี้ รอนานซักหน่อยให้เขาคุ้นเคย แล้วขออนุญาตถ่ายจากมุมนี้ บอกพี่เขาว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม แต่ถ้าเขาอนุญาต ผมก็ขอขอบคุณมาก พี่เขายิ้มแบบไม่มองหน้า แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ถ่ายได้ แต่รู้สึกเสียดายที่เรายังขี้เกรงใจเกินไป มุมนี้ถ่ายมา 7 - 8 ภาพ แต่ไม่ได้ใช้เวลาเช็คภาพให้ดี เพราะการยืนถ่ายอยู่ในจุดที่ไม่มั่นคง ยืนกล้องออกไปถ่าย องค์ประกอบภาพนี้ดีสุดในเซ็ตภาพนี้ แต่จังหวะการใช้มือของแบบไม่สมบูรณ์ มองแล้วดูยากว่ากำลังถอนต้นกล้าอย่างคล่องแคล้วมามัดรวมกันอยู่]
[ข้อมูลภาพ] Nikon D750 / Tamron SP 15-30mm. F2.8 / ISO400 / 15mm. / f5.6 / 1/500sec.





[ตื่นตัว]



ตีอะไรละ ตื่นขึ้นมามองนาฬิกาไม่รู้กี่รอบตั้งแต่ยังไม่ถึงตี 2 พลางคิดในใจว่าคงตื่นเต้นเหมือนกับการเดินทางไกล 4 - 5 ครั้งก่อนหน้านี้ นึกขำตัวเองในใจ แต่ก็พยายามข่มตาให้หลับพักผ่อน เพราะเคยหลับในระหว่างเดินทางมาแล้วครั้งนึง มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกเพราะการนอนหลับไม่พอ
แต่.. มันไม่ยอมหลับ เลยลุกมาอาบน้ำ เตรียมตัว แพ็คของส่วนที่เหลือจากเมื่อวานที่ยังแพ็คขึ้นมอเตอร์ไซค์ไม่หมด รอบนี้นอนเยอะพอสมควรแล้ว แล้วก็คิดจะตัดการเดินทางออกเป็นช่วง ๆ ไปแวะค้างคืนถ่ายรูปอีก 2 จังหวัด ไม่ได้ขี่ตรงไปเชียงใหม่ น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องหลับใน ก็พร้อมออกเดินทางอีกทีตอน ตี 3.40 น.

วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่เคยไปถ่ายรูปแล้วครั้งนึง ตอนนั้นไปถ่ายแสงหัวค่ำ (แสงเย็นสวยมากในบางฤดู ต้องดูเดือนดี ๆ ว่าพระอาทิตย์ลงตรงไหน) แต่ครั้งนั้นไม่ได้ถ่ายแสงเย็น ไปสายก็ถ่ายตอนช่วง Blue Hour แทน สวยมาก รอบนี้เลยอยากมาลองถ่ายตอนเช้าดู



Google Maps บอกว่าผมต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีออกจากบ้านเพื่อไปถึงจุดหมายแรกสำหรับการถ่ายแสงเช้าที่ อยุธยา - วัดไชยวัฒนาราม (พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/J56YCQ81Dcz)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่