[CR] ป่าเขียว...ที่เขาใหญ่ [ทริปขยายปอด และฟอกปอดด้วยโอโซน]

ช่วงนี้ฝนตกถี่ๆ เรามาหากิจกรรมแอ๊ดเวนเจอร์ทำกันดีกว่า มีวันหยุดเล็กน้อย ก็จัดแค่ทริปสั้นๆ พอ เดินป่าเที่ยวชมธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เกาะกระแส หมาก-คิม ควงกันหวานหยด มดเรียกพี่ ที่เขาใหญ่ เผื่อใครสนใจตามรอยความหวาน ก็ติดตามอ่านกันได้เลยจ้า จุ๊บๆ

ทริปนี้ใช้เวลา ๓ วัน ๒ คืน ขับรถกันมาเอง โดยค้างบ้านญาติที่สระบุรี ๑ คืน ค้างเขาใหญ่ ๑ คืน มาคืนวันศุกร์ กลับบ่ายวันอาทิตย์ (๒๓-๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๐) ขอตัดภาพไปที่เขาใหญ่เลยละกัน

เอ้า...เริ่ม

ออกจากบ้านพักที่สระบุรีประมาณ ๖.๓๐ น. ถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ๘.๐๐ น.

ถึงแล้วจ้า


ค่าบัตรผ่านเข้าอุทยานคนละ ๔๐ บาท ค่ารถยนต์ ๕๐ บาท


แวะสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ตามธรรมเนียม


มุ่งหน้าไปที่ทำการอุทยานฯ


แวะจุดชมวิวสักนิด

ถึงที่ทำการ ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่นัดไว้ ๘.๓๐ น. เข้าไปกรอกข้อมูลแจ้งความประสงค์ขอเข้าเดินป่าในอุทยานฯ แจ้งจำนวนคน และเส้นทางที่เดิน


เราเลือกเส้นทางที่ ๖ เป็นระยะทางที่ไกลที่สุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดิน ระยะทางประมาณ ๘ กิโลเมตร

ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่นำทาง ก็ถ่ายภาพบ้างไรบ้างไปเรื่อย

เจ้าหน้าที่บางท่านเห็นสภาพของนักเดินป่าในชุดเสื้อยืดกางเกงแค่เข่า ถามว่า "ไม่ใส่ถุงกันทากเหรอ" พวกเราส่ายหัว แล้วแอบมาซุบซิบกันว่า "เค้าจะหลอกขายถุงกันทากอ่ะดิ" สืบมาแล้วว่าไม่มีทาก

รออยู่เป็นนานสองนาน เจ้าหน้าที่ยังไม่มา โทรไปถาม ได้ความว่า "ติดธุระ" (กลอกตาบนแป๊บ) เดี๋ยวจะให้คนอื่นมาแทน ไม่นานนักพวกเราก็เห็นผู้ชายร่างสูงกับคอสตูมที่จัดเต็ม เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และถุงกันทากพร้อมสรรพ เป็นชุดเดินป่าที่พร้อมมาก ขี่มอไซด์เลี้ยวเข้ามาหน้าที่ทำการ

มาแล้ว แท่น แทน แท๊นนนนนน

ขนาดเจ้าหน้าที่ยังจัดเต็มขนาดนี้ ซื้อสิ รออะไร ถุงกันทาก

คู่ละ ๗๐ บาท ไม่เอาสิ ไม่งก

สภาพนักเดินป่าเลยออกมาดูประดักประเดิดพิกล

นุ่งทับด้วยขอบอก ถามจริงป้องกันอะไรได้มั่ง อยากจะเอาหัวฟาดพื้น แล้วตายๆ ไป ตอนเจอเจ้าหน้าที่


ไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน พูดดดดดด

เมื่อสมาชิกพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ ลุยยยยยยย ยิ้มยิ้มยิ้ม

ข้ามสะพานมาก็เจอเลย งูเขียวหางไหม้


ลิง ค่าง บ่าง ชะนี ต้องใช่สักตัว


คนหากิน สัตว์ก็หากิน


เหนื่อยๆ ก็กัด เอ๊ย ทะเลาะกันเอง


สักพักโดนทากกัด


ห้ามเลือดด้วยหญ้าสาบเสือ ดูธรรมชาติสุดๆ


กิ้งก่าก็กัด


ป้ายบอกพิกัด เส้นทางที่ ๖ เดินมาได้ ๑๖๐๐ เมตร เหลือแค่ ๖๔๐๐ เมตร เอ๊งงงง สบายๆ


เจ้าหน้าที่นำทางชื่อ "โชค" แวบแรกที่เจอ ดูออกจะโหดๆ แต่แอบแฝงความตะมุตะมิเอาไว้ เขามักจะปล่อยมุกและเปลือกหอยมาให้พวกเราได้เฮฮากันอยู่เนืองๆ "หมีหมา กับหมีควาย ต่างกันยังไง" เขาถาม เอาล่ะสิ หลอกด่าเราเป็นหมาหรือเป็นควายแน่เลย "ยอม" "หมีหมามีขนสีขาวเป็นรูปตัว U อยู่ที่คอ ส่วนหมีควายเป็นรูปตัว V" อ๋อ ลากเสียงยาว นี่คิดว่าพกทีวีช่องสารคดีสัตว์โลกติดตัวมาด้วยเลยนะเนี่ย ได้สาระและความบันเทิงแบบสุดติ่ง

ยังไม่จบ "ถ้าหมีหมาและหมีควายมันผสมข้ามสายพันธุ์กันเมื่อไหร่นะ โลกจะร้อนขึ้นกว่าทุกวันนี้หลายเท่า" โลกมันวิปริตสินะเพราะสัตว์ผสมข้ามสายพันธุ์ ทุกวันนี้ยังอยู่ยากไม่พออีกเหรอ คิดเองในใจ แต่ก็อยากรู้สาเหตุที่แท้จริง "ทำไมอ่ะ" ถามพร้อมตั้งตารอฟังเหตุผลดีๆ "อ๋อ มันก็จะออกลูกมาเป็นหมีลูกครึ่ง Hybrids” “เป็นหมี UV ทำให้โลกร้อนขึ้นอีกเท่าตัว” ป๊าดโธ่ ตั้งใจฟังอยู่ตั้งนาน

ยังยังไม่พอ “ถ้าให้เลือกระหว่างหมีหมากะหมีควายคุณอยากเป็นตัวไหน” อ่าวทำไมเราต้องอยากเป็นหมีด้วยละ “หมีหมาครับ เพราะจะได้มียูอยู่ข้างหัวใจ” โอ๊ย...หลังจากนั้นมีมุกอะไร เราก็ผลัดกันปล่อยมุกโค กระบือ ไปตลอดทาง ฮาบ้าง ไม่ฮาบ้าง จนว่าจะตั้งเป็นคณะตลกโปกไม่ฮา...ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้


ปล่อยมุกเหนื่อย นั่งพักหน่อย


ความสนุกก็มี ความรู้ก็ได้ "กิ้งกือป่า" เพราะมันอยู่ในป่า เอิ่มมมมม


"กระสุนพระอินทร์" กิ้งกือชนิดนึง พอถูกตัวมัน ก็ม้วนกลม แข็งโป๊กเลย


เก็บมาถ่ายรูป เก๋ๆ


ต้นไม้ ใบหญ้า มีให้ชมไม่อั้น สีเหลืองนี่คือ "ลูกตาเสือ"


บางช่วงต้นไม้ก็จะรกครึ้ม ท่วมหัวแบบนี้


แหงนหน้าไป เจอต้นไม้หลากสีสัน

น้ำตกเหวไทร เราแวะกินข้าวกลางวันที่เตรียมมากันที่นี่ แต่ไม่ต้องเตรียมก็ได้ เพราะอีกนิดเดียวก็จะถึงจุดหมายปลายทางเหวสุวัตแล้ว

บางช่วงก็จะมีปีนป่าย ไต่เขาเล็กน้อย พอให้หวาดเสียว


จุดหมายปลายทาง "น้ำตกเหวสุวัต"

แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแถวๆ น้ำตก เล็กน้อย แล้วก็เตรียมตัวกลับที่ทำการ ด้วยการโบกรถ เพราะเราไม่มีคนมารับ ซึ่งที่นี่ห่างจากที่ทำการประมาณ ๑๔ กิโลเมตร โชคดีที่เจ้าของรถกระบะใจดี จอดรับเราไปด้วย ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

นี่เหรอ รูปที่ระลึก


ขอบคุณเจ้าของรถผู้ใจดีนะคะ


ดอกไม้น่ารักๆ แถวที่ทำการอุทยาน

หลังจากหายเหนื่อยจากการเดินป่า เป็นเวลาเกือบๆ ๕ ชั่วโมง พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ที่พักที่จองไว้ “บ้านริมเขา” บรรยากาศโดยรวมถือว่าดี เสียตรงห้องน้ำ ที่ท่อตัน และมีฝุ่นและขี้จิ้งจกอยู่บนเตียงนั่งเล่น เหมือนไม่ได้ทำความสะอาด แต่ที่นอน หมอน ถือว่าสะอาดเรียบร้อยดี ห้องกว้างขวาง สองเตียง สี่คน มีทีวี ตู้เย็นให้บริการ

หน้าห้องพัก กว้างขวาง โปร่ง โล่ง สบาย


ที่นอน หมอน ผ้าห่ม สะอาด ห้องกว้างขวาง ทีวี ตู้เย็น พร้อม แต่ไม่มี wifi นะจ๊ะ


ห้องน้ำ ไม่ให้ผ่าน เพราะท่อตัน

บรรยากาศรอบๆ รีสอร์ท ถือว่าดีค่ะ  ต้นไม้เขียวขจี ลมพัดเย็นสบาย ตอนเช้ามานั่งดื่มกาแฟ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดค่ะ


อาหารเช้าง่ายๆ ที่รีสอร์ท เตรียมไว้ให้

หลังจากอาหารเช้าแสนเรียบง่าย เราไปเล่นน้ำในบ่อน้ำผุด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ที่นี่น้ำใส และเย็นมาก เราสามารถลงเล่นได้ ท่ามกลางบรรยากาศต้นไม้เขียวขจี ถือเป็นตัวแถมของการมาพักที่รีสอร์ทนี้ค่ะ สระไม่ใหญ่นะคะ ลงไปสักสามสี่กลุ่ม ก็เต็มพื้นที่แล้วค่ะ พอดีไปช่วงเช้า คนไม่เยอะ ถ้าเป็นช่วงเย็นคนน่าจะค่อนข้างเยอะ อาจจะเจี๊ยวจ๊าวนิดนึง

ลงไปลอยคอเล่น เย็นๆ ใจ


ท่องเที่ยวกับธรรมชาติ เติมความสดชื่นให้ชีวิต


กลับแล้วนะ...บ๊าย บาย เขาใหญ่

////////////////////

อ้อ...ไปเที่ยวอุทยาน อย่าลืมพกพาสปอร์ตไปนะ เอาไปปั๊ม เท่ๆ เก็บไว้ดูคนเดียว แล้วก็ภูมิใจ เหรอออออออ 555

เล่มละ ๑๐๐ หาซื้อได้ที่อุทยานแห่งชาติค่ะ แต่เล่มนี้ฝากเพื่อนซื้อ ที่ ม.เกษตรฯ จ้า

ต้องขออภัยกับขนาดรูปที่ขาดๆ เกินๆ กระทู้หน้าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นน้า ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

ติดตามอ่านเรื่องราวฉบับเต็มได้ที่นี่นะ
https://www.facebook.com/kalokekalatraveller/
ชื่อสินค้า:   กิจกรรมเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่