ถึงแล้วครับ โยโกฮาม่า ออกมาตรงสถานี Sakuragicho เราก็เดินตามคนเยอะๆไปเลยครับ ช่วงนั้นตรงช่วงเทศกาลราเมง พอดี จะช้าอยู่ใยหิวมาตั้งแต่บนรถไฟ รีบต่อแถวโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่รู้ว่าเขาต้องไปซื้อคูปองก่อน ไม่ได้รับเงินสด รีบวิ่งไปซื้อคูปองอีก ผมว่าแถวนี้เหมาะกับการมาเดินเล่น ถ่ายรูป เช๊คอิน บรรยากาศจะออกแนวยุโรปๆ หน่อยๆ ถ้าเป็นกลางคืนเปิดไฟตามตึกคงสวยน่าดูโดยเฉพาะชิงช้าสวรรค์ (หวังว่าสักวันจะกลับมาถ่ายไฟกลางคืนนะ 555) แต่แค่นี้ก็ดีใจแล้วครั้งหนึ่งเคยได้มาเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีทีมฟุตบอลที่ผมชอบอย่าง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เส้นนี้ผมใช้ Pass คุ้มมาก 555 นั่งรถไฟแต่เช้ายาวมา Kamakura ขากลับก็แวะ Yokohama เย็นๆกลับเข้าโตเกียว Tokyo ได้ 2 ที่ใน 1 วัน 

พาลูกมานั่งเล่นชิวๆ ผมชอบภาพแบบนี้จริงๆ รู้สึกอบอุ่นดี

ข้ามถนนไปเลยครับ มีเทศกาลราเมงพอดี ถึงว่าทำไมคนเยอะจัง

ส่วนตัวรู้สึกว่าน้ำซุปใส่น้ำมันเยอะไปหน่อย รู้สึกเลี่ยนๆ (หรือคิดไปเอง) ไม่เหมือนที่กินตรงตลาดปลา Tsukiji

อิ่มแล้วก็เดินต่อไปทางท่าเรือครับ ผ่านตึกแดงสวยดี เหมือนอยู่ยุโรปเลย

แวะดูพิพิธภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูป ครับ

ขวัญใจเลยครับ นากาซาว่า อดีตทีมชาติญี่ปุ่น

เส้นทางคร่าวๆ พอดูเป็นไกด์ครับจาก Kamakura มาที่ สถานี Sakuragicho

จบทริปใช้ JR TOKYO Wide Pass วันที่ 2 ครับ แล้ว ติดตามวันสุดท้ายของเราในการใช้ Pass เราจะไปหา คุณฟูจิ ที่ Kawaguchiko ลุ้นตัวโก่งดูสภาพอากาศมาเรียบร้อย จะได้เห็น ฟูจิ หรือไม่โปรดติดตามตอนต่อไปคร้าบบ