อินโทรกระทู้
----------------------------
- ทู้นี้ภาษาจะเป็นอะไรที่มีความงงๆ งวยๆ สูงมากกกก I'm sry ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะฮ้าา
- จะมี ครับ / ค่ะ ปนๆ เปๆ โบ้ๆ เบ้ๆ ไปเนอะ
- บางช่วงอาจจะมีคำที่มีความหมายรุนแรง 18+ นิดนึงง ไม่ควรให้ผู้ใหญ่ให้คำแนะนำเพราะท่านๆ จะบอกว่า "ปิดกระทู้นี้แล้วแจ้งสแปมเลยลูก"
- ต้องบอกไว้ก่อนว่าประสบการณ์ใรทู้นี้เป็นสิ่งที่เราประสบพบเจอแต่เพียงผู้เดียว...นะจ๊ะ
- กระทู้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประกาใด หรือเล่าไม่หนุกหนานขออภัยไว้ ณ ที่นู้น
ก่อนอื่นเลยเรามารู้จัก Six flags fiesta texas กันก่อน... (ต่อไปนี้จะขอเรียกว่า ซฟ แล้วกัน) ซฟ ที่เราไปทำอยู่ที่เมือง San Antonio ใน Texas เป็นสวนสนุกที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว (ในความคิดเรา เพราะไม่เคยกรีกกรายไปที่อื่นเลย) ย้อนกลับไปนิดนึงช่วงที่เลือกเอเจนซี่ (ประเด็นฮอต topic ฮิต ติดทุกชาร์จ ปาดทุกทุกโค้ง) ในเดือนมีนาคม ขณะที่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง อยู่ๆ กิเลส ของตุ้ดก็เริ่มกลับมา ความคิดที่อยากไปจะไปเวิร์ค ก็เลยเอาสะหน่อยขอลองไปหาอ่านตามพันทิปสิ อ่านไปอ่านมา เออ ชั้นอยากว่ะ แต่ละคนเล่าเรื่องสนุกชริบบบหาย (ต้องโทษอีพวกมารีวิว!) เราเริ่มหาข้อมูลในช่วงท้ายๆ (แบบโคตรจะท้ายของโครงการ) หาไปหามาเหมือนไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ไม่ว่าจะในพันทิป ในกลุ่มตามเฟสบุ๊ค หรือกระทู้ตามเว็บต่างๆ ก็จะมีเจ้ม้า คอยไปอวย (อย่าผวนนะนะเด็กๆ) อวยแบบสุดพลังวังเว่อร์ แล้วก็จะไปบลัฟค่ายอื่นชนิดที่ว่า เหยียบได้ กรูวเหยียบค่ะ เอาให้จมแล้วไม่มีวันได้ผุดขึ้นมาหายใจ (ฉะนั้นใช้จิตวิญญาณในการเลือกให้ดีนะแจ๊ะ อย่าเชื่ออะไรที่มมันดูปลอม จกตา อย่าให้เขาหลอก หรือจะเป็น รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกกกกก~~~)
2. แล้วจะมีอีกกลุ่มที่เป็นลูกน้องเจ้ม้าอีกทีก็ แก๊งนายหน้า แก๊งนี้ก็เป็นเด็กเวิร์คอย่างเราๆ นี่แหละ พวกนี้จะได้ offer มาว่าถ้าหาลูกค้าได้เท่านั้นเท่านี้จะได้นั่นนี่ หรือลดนั่นลดนี่ ก็ว่าไป จะคอยมาแบบ เราหาเพื่อนไป WAT ปีนี้ สมัครเอเจนนี้ไป พี่ดูแลดีม๊ากกกกมากกกกกก ทำงานดี ทำงานไว แถมคอยโทรเช็คเราตลอด บลาๆๆ
เหตุผลทั้งหมดทั้งมวล (เดี๋ยวก่อน! มีแค่ 2 ข้อเองนะยะ! จะพูดอลังไปไหน) ทำให้หาเอเจนไมไ่ด้สะทีเพราะเดี๋ยวคนนู้นบอกดี อีกคนบอกแย่
ขอสรุปในเรื่องการหาเอเจนไว้ตรงนี้ว่า การเลือกเอเจนขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ (เพราะ เอเจนที่เราเลือกไปก็มีคนบอกว่าไม่ดี มีเด็กโดเทงาน เหมือนกัน แต่อีนี่โชคดี ไม่โดน อะไร แต่พี่เค้าก็ไม่ได้มาเทคแคร์ดูแลอะไรมากมายนะ พอพ้นจากไทยไปก็อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะเอาตัวรอด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้ายังไง) ไม่สามารถบอกตายตัวได้ว่าเอเจนไหนดี เอเจนไหนแย่ บางที่ไม่ได้ดังแต่ดูแลเด็กทั่วถึงเพราะเด็กน้อย บางทีเอเจนใหญ่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป แต่ถ้าใครจะถามว่าเราไปเอเจนเราไปกับ A......X
เริ่มแรกเลยเราก็โทรไปสมัครทุน กทม. (กองทุนเงินของคุณแม่ ฮ่าๆๆๆ) แล้วบอกว่า "แม่จ๋าาาา หนูอยากลองไปหา ปสก. ที่เมกาอะ" ในใจก็คิดว่าคงไมไ่ด้หรอกเพราะขนาดไป ตจว. แม่ยังไม่ค่อยอยากให้ไปเลย กลัวจะโดนพี่อาทิตย์ลากข่มขืนกายใจ (อย่าเพิ่งด่าฉัน พวกเธอทั้งหลาย) แต่คำตอบแม่แบบทำหูอื้อ งงงวยมาก แม่ตอบแบบไม่คิด แบบไวกว่าปริศนาฟ้าแล่บ "ไปสิ" ก็กรี้ดกร้าดถามย้ำเพื่อความแน่ใจแล้วก็บรรยายความดีงามของโครงการนี้ (ขายของสุดฤทธิ์) พอผ่านเรื่องทุน ต่อไปก็เรื่องเลือกเอเจน เอาจริงๆ นี่หลังจากอ่านๆ มาประมานสองสามวัน ก็เลยสะดุดตาเข้ากับเว็บของเอเจนนึงแบบ เออ เว็บดูน่าเชื่อถือดี แบบเว็บไม่ใช่ขี้ไก่ ขี้กา ขี้อาราเร่ อะ แบบดูมีมาตรฐานผ่าน อย. (พ่าม!) เลยเอาอันนี้แหละ ก็ทักแชทเฟสไปตามระเบียบ
หลังจากคุยกันอยู่สองสามประโยคนางก็บอกว่าให้เข้าไปวัดระดับภาษาก่อน ก็เลยนัดแนะวันกันดิบดี พอไปถึงใจตุ้ดดวงน้อยๆ ก็ไหววูบ จะไปจริงหรอวะ ภาษาก็โบ้ๆ เบ้ๆ แต่ด้วยความระริกระรี้ที่มีพลังมืดเยอะกว่าผลักดันให้เปิดประตูเข้าไป ก็นั่งรออยู่แปปนึงก็มีพี่มาพาเข้าห้องมืด (แต่มันไม่มืดนะสว่างมาก อยากให้ดูน่ากลัวเฉยๆ ) ก่อนเข้าพี่เค้าก็บอกว่า มีอะไรจะถามมั้ยคะ ถ้าเข้าไปแล้วเราจะพูดแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ คิดในใจ อีลอกกกกกกกกกทอง (จงเปลี่ยน ลอลิงให้เป็นดอเด็ก) จะพูดทำไมมม เหงือมือเหงือตีนไหลเป็นสึนามิแล้วเนี่ย ก็ได้แต่คิดในใจ แต่ความจริงๆ ก็ยิ้มแบบมั่นใจตอบไปว่า ค่ะ
พอเข้าไปก็ถามคำถามทั่วไป ออกแนวจะคุยกันซะมากกว่า เช่นบับ What's your name? tell me a little bit about yourself, Why do you wanna go to The United? โอ้ยยยย ร้อยแปดพันเก้า ตอบไปเถอะค่ะ เค้าไม่เน้นโลกสวย เค้าไม่ได้อยากวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ เค้าแค่จะดูว่า อีนี่ไปแล้วจะรอดมั้ย แค่นั้นแหละ ก็ตอบๆ ไป เสร็จปุ้บ พี่เค้าก็ถามว่า น้องคิดว่าน้องได้คะแนนเท่าไหร่ ตอบไปเลยค่ะตอบไป คิดว่าได้เต็มค่ะ (มั่นไหมล่ะ) แล้วพี่เค้าก็ทำลายความมั่นของเราด้วยคะแนนที่แท้ทรู (แต่อย่าหวังถึงดาเมจจะรุนแรงปานแผ่นดินไหวที่ซานแอนเดรียส (หนัง) แต่ตุ้ดอย่างชั้นมีฮีล โนแคร์ โนสน555)
พี่เค้าก็จะเอาลิสต์งานคิดว่าเราพอจะทำได้โดยไม่โดนนายจ้างเนรเทศออกมาน่ะนะ ด้วยความสวย เฟรนนี่ อาารมณ์ดีราวกับอยู่ในวอร์ด (เพราะตอบพี่เค้าถามอะไรชั้นก็หัวเราะไปก่อน ทำเหมือนเข้าใจ) เลยได้งานสวนสนุกที่นี่มา (Six flags Fiesta TX) ก็เลยบอกว่า พี่คะ Texas นี่มันที่ไหนอะคะ พี่เค้าก็ Tie-in สินค้าเต็มที่ ก็สรรหารูปที่วิริสมาหรา (อ่านว่า วิ-ริด-สะ-มา-หรา) มาให้ดู ด้วยความเป็นคนคิดน้อย (เพราะถ้าคิดมากสมองจะประมวลผลหนักเกินไป แรมสมองน้อยต้องเข้าใจด้วย) ก็ตอบไปว่า ค่ะเอาที่แหละค่ะ นางก็จัดแจงเอาเอกสารนนู่นนี่มาให้เขียนให้เซน พร้อมให้รายละเอียดสำหรับจ่ายตัง บอกนู่นนี่ว่าจ่ายนี่แล้วคืนเท่านี้ บางอันคืนไมไ่ด้ ดู ดีๆ นะจ๊ะเด็กๆ
ก็ขอ skip ผ่านช่วงนี้ไปเลยเนอะ บอกเลยเราเป็นคนใจเย็น คิดบวก บางคนบอกว่าเอเจนนี้นาน เราก็เลยไม่ได้ไปเร่งอะไร และรู้สึกว่ามันก็นานจริงๆ แต่ก็ทำใจรับได้ เป็นคนที่ชิลมากๆ แต่ก็จะมีช่วงนึงที่นานมากจนแบบ เห้ย ds ทำไม shipping นานจังวะ นี่ใกล้จะถึงวันที่กรอกเริ่มงาน แถม visa ก็ยังไม่ได้ทำ (รอ ds) ก็บ่นๆ เฉยๆ ไม่ได้ไปโวยวายอะไร กลัวพี่เค้าหมั่นไส้แล้วจะนานกว่าเดิม ฉะนั้น อดทนรอค่ะ! แต่ถ้ามันนานเกินเราจะถามก็ได้นะ สิทธิ์ของเราอะเนอะ
ข้ามช่วงนั้นที่เป็นช่วงเตรียมเอกสาร รอเอกสาร เป็นช่วงที่เวลาเฉื่อยมาก ในที่สุดพี่ที่เอเจนก็โทรมาบอกให้ไปเลือกวันสัมภาษณ์ VISA ก็เลือกไป เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก (ใช่ เราโกหหก มันก็ไม่เร็วอะไรเบอร์นั้น) ก็มาถึงวันที่เราต้องไปสัมวี (ขอย่อ) ก็หาข้อมูลอะไรต่อมิอะไรในพันทิป ว่าควรไปถึงกี่โมง ทำอะไรยังไง หาเอาเยอะแยะ กว่าจะตั้งกระทู้ถามเสร็จ ค้นในกูเกิ้ลเร็วกว่าเยอะ
------------ ก็ผ่านไปกับการสัมวี ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยคนมันไม่เคยเนอะ ----------------------
อ้อ เราลืมบอก เครื่องบินเราจ่ายเงินมัดจำไปกับพี่ที่เอเจน แต่เหมือนว่าราคามันแพงกว่าที่เราหาไว้ เราเลยเอาที่เราหามาเองเป็นของ Korean air สจ๊วตหล่อม๊ากกก แต่ซอรี่จ่ะ นี่คุณแม่ไง 5555
สำหรับเรา Korean air ผ่านเลยนะ เราที่เป็นคนตัวสูงหน่อย ไม่รู้สึกว่าแคบอะ นั่งสะดวก กับข้าวก็กินได้ เครื่องดื่มโอเค เดินเสิร์ฟบ่อย แต่ไฟล์ทนั้นเรานั่งแถวถัดจากเด็กอ่อน เป็นอะไรที่ซวยมาก นอนไม่ได้เลย ร้องดังมากก อยากจะบอกคุณแม่น้องว่า (แม่คะ หนูขอยืมน้องไปเป็นนาฬิกาปลุกหน่อยได้มั้ยคะ 555) แต่จริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เข้าใจอะเนอะ เด็ก ขนาดเราเรายังกลัวเลยขึ้นเครื่อง หูอื้อ นู่นนี่นนั่นไปหมด แต่นี่เด็ก ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรก็ทำได้แค่ร้อง เข้าใจค่ะ ไม่โวยวายใส่เด็กเนอะ anyway ความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้ลลลมากกกกกกก กอไก่ล้านตัว ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก แถมไป ตปท ครั้งแรกด้วย โอยยย แต่เพลง และสิ่งบันเทิงบนเครื่องช่วยได้ค่ะ ดูวนไป ฟังวนไปค่าาา
พอถึงเกาหลีปุ้บบบ (เราทรานซิสที่เกา) ด้วยความที่ไม่เคยไป ตปท ไม่ขึ้นเครื่อง กลัวมากเลยเลือกไฟล์ทที่มีการทรานซิสนานที่สุดในโลกค่ะ (เว่อร์อีกแล้ว วังตลอดอีนี่) คือ 6 ชม พอทีนี้เดินออกมาจากเครื่องก็ด้วยความตาถูกโฉลกกับของฟรี เห็นความ FREE ไม่ได้ ปรี่เข้าไปเลยค่ะ Transit tour FREE!!!!!
ฟอรออีฟรี ตัวเบ้อเร้อเลยค่ะ ไม่รอช้า ถามไถ่ได้ความปุ้บนางก็ขอดูไฟล์ทบินเรา เจ่เจ้อาจุมม่าก็บอกว่าได้เป็นทัวร์วัดนะ เราก็บอก เป็นเมียงดงไม่ได้หรอเจ้ นางก็บอกว่าบ่ได้หรอกอีตุ้ด ไฟล์ทเจ้าถ้าไปเมียงดงกลับมานี่วิ่งขาหนีบไหม้เลยนะ เพราะมันจะกลับมาแบบพอดีกลับเวลาเข้าเกท โอเค ลาก่อนเมียงดง
เราก็ โอเคค่ะเจ้ ทัวร์วัดก็วัด นางก็จัดแจงลงทะเบียน แจกเข็มกลัดนู่นนี่ บอกเวลา บอกจุดขึ้นรถ ไปลุยวัดกันนน (ทำไมคำน่ากลัว

)
และแล้วเรื่องพีคก็เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ตราตรึงติดในใจเรามาตลอดเมื่อคุณไกด์อาสาของเรา (เป็นอาจุมม่าที่น่ารัก ใจดี ใจเย็น แล้วก็เต็มที่กับการนำทัวร์มากๆ แม้จะเป็นทัวร์ฟรี) เริ่มนับจำนวนคนบนรถกับลิสต์รายชื่อที่นางได้มา ก็ประกาศออกไมค์บนรถทัวร์ว่า One person more แล้วก็มีนักท่องเที่ยวคนนึง หัวเราะก๊ากดังมากแล้วล้อเลียน One more person แล้วก็หัวเราะคิกคัก และแล้วก็มีผู้กล้าไม่ใช่ใครที่ไหน (และไม่ใช่เราด้วย ฮ่าๆๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยังไม่ปีกกล้าขาแข็งขนาดนั้น แต่ เดี๋ยวมีแน่) เป็นชาวมะกันของเรานี่เอง นางก็พูดขึ้นมาเสียงดังว่า It's doesn't matter. I can understand her. อู้วววว เผ็ชมากค่ะ แทบจะยืนลุกขึ้นปรบมือให้ he รัวๆ พอถึงวัดปุ้บ เราก็เดินไปทำความรู้จักกะนางทันที ทราบความว่านางมาจาก LA ก็คุยกันไปบลาๆ
นี่เป็นเรื่องที่สอน และกระตุ้นแรงฮึดให้เราเป็นอย่างมาก และเราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อให้คนอื่นๆ (พวกรุ่นน้อง คนที่เรียนภาษาอังกฤษกะเรา) ฟังตลอด
อย่างที่ครูลูกกอล์ฟ ใน ลูกกอล์ฟอิงลิชรูมพูดเสมอว่า "ให้มองภาษาเป็นแค่เครื่องมือที่เราใช้สื่อสาร ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจก็จบ" เรื่องนี้ทำให้ชีวิตเราในเมกาง่ายขึ้นมากกๆ (ขอขอบคุณ he และ พี่ลูกกอล์ฟไว้ตรงนี้อีกครั้ง) ฉะนั้น ใครที่ผ่านมาอ่านแล้วกำลังฝึก หรือเริ่มต้นใช้ภาษาอังกฤษ สู้ๆ เนอะ ไม่ต้องไปกลัว ดูสิเจ้าของภาษาเค้ายังพูดเลย พูดผิดพูดถูกไม่สำคัญ ฉันเข้าใจก็พอ น้านนนน อยู่ๆ ตุ้ดผู้ไร้สาระ เอาสาระมีจากไหนน ฮาเลลูยาา
พอวนครบทุกที่ตามแพลนที่กำหนดไว้ ทัวร์ก็พากลับมาหย่อนที่สนามบินเหมือนเดิม เราก็แบบซึ้งใจในความเฟรนลี่ของเจ้ไกด์ เราก็เดินคุยกับนางมาตลอดนางก็เล่าประวัตินู่นนี่ของเกาหลีให้ฟัง คุยสนุกดี ความสายเปย์ของชั้นมันอยู่ในสายเลือดดด ควักตังมาหยิบให้อาจุมม่า นางแกก็ไม่เอา แต่เราก็คะยั้นคะยอให้นางรับ นางก็รับ ถ้าปฏิเสธอีกความเป็นคนดีจะอ่อนพลังลง แล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้วนะป้า
ก็ไม่มีอะไร นั่งเล่นไวไฟที่สนามบินสักพักก็ถึงเวลาเข้าเกท จากอินชอนไป LA ฟิ้ววววววววว
เดี๋ยวมาต่อไปทำธุระแปรบบบบบบบบ มีไรให้แก้ไข แนะนำไรบอกได้นะ ยังมีเรื่องอีกเยอะนี่ยังไม่ถึงเมกาหมดไปแล้ว 9 พันกว่าตัวอักษรแม่เจ้า
ถ้าเขียนไม่สนุก ใช้คำไม่เหมาะ หรือเล่าน่าเบื่อ บอกได้นะ จะได้เลิกเขียน (พ่าม!) ไม่ใช่ๆ จะได้ปรับปรุงงง
[เล่าประสบการณ์] the tud in Six flags FIESTA TEXAS! [Work & Travel 2016]
----------------------------
- ทู้นี้ภาษาจะเป็นอะไรที่มีความงงๆ งวยๆ สูงมากกกก I'm sry ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะฮ้าา
- จะมี ครับ / ค่ะ ปนๆ เปๆ โบ้ๆ เบ้ๆ ไปเนอะ
- บางช่วงอาจจะมีคำที่มีความหมายรุนแรง 18+ นิดนึงง ไม่ควรให้ผู้ใหญ่ให้คำแนะนำเพราะท่านๆ จะบอกว่า "ปิดกระทู้นี้แล้วแจ้งสแปมเลยลูก"
- ต้องบอกไว้ก่อนว่าประสบการณ์ใรทู้นี้เป็นสิ่งที่เราประสบพบเจอแต่เพียงผู้เดียว...นะจ๊ะ
- กระทู้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประกาใด หรือเล่าไม่หนุกหนานขออภัยไว้ ณ ที่นู้น
ก่อนอื่นเลยเรามารู้จัก Six flags fiesta texas กันก่อน... (ต่อไปนี้จะขอเรียกว่า ซฟ แล้วกัน) ซฟ ที่เราไปทำอยู่ที่เมือง San Antonio ใน Texas เป็นสวนสนุกที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว (ในความคิดเรา เพราะไม่เคยกรีกกรายไปที่อื่นเลย) ย้อนกลับไปนิดนึงช่วงที่เลือกเอเจนซี่ (ประเด็นฮอต topic ฮิต ติดทุกชาร์จ ปาดทุกทุกโค้ง) ในเดือนมีนาคม ขณะที่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง อยู่ๆ กิเลส ของตุ้ดก็เริ่มกลับมา ความคิดที่อยากไปจะไปเวิร์ค ก็เลยเอาสะหน่อยขอลองไปหาอ่านตามพันทิปสิ อ่านไปอ่านมา เออ ชั้นอยากว่ะ แต่ละคนเล่าเรื่องสนุกชริบบบหาย (ต้องโทษอีพวกมารีวิว!) เราเริ่มหาข้อมูลในช่วงท้ายๆ (แบบโคตรจะท้ายของโครงการ) หาไปหามาเหมือนไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ไม่ว่าจะในพันทิป ในกลุ่มตามเฟสบุ๊ค หรือกระทู้ตามเว็บต่างๆ ก็จะมีเจ้ม้า คอยไปอวย (อย่าผวนนะนะเด็กๆ) อวยแบบสุดพลังวังเว่อร์ แล้วก็จะไปบลัฟค่ายอื่นชนิดที่ว่า เหยียบได้ กรูวเหยียบค่ะ เอาให้จมแล้วไม่มีวันได้ผุดขึ้นมาหายใจ (ฉะนั้นใช้จิตวิญญาณในการเลือกให้ดีนะแจ๊ะ อย่าเชื่ออะไรที่มมันดูปลอม จกตา อย่าให้เขาหลอก หรือจะเป็น รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกกกกก~~~)
2. แล้วจะมีอีกกลุ่มที่เป็นลูกน้องเจ้ม้าอีกทีก็ แก๊งนายหน้า แก๊งนี้ก็เป็นเด็กเวิร์คอย่างเราๆ นี่แหละ พวกนี้จะได้ offer มาว่าถ้าหาลูกค้าได้เท่านั้นเท่านี้จะได้นั่นนี่ หรือลดนั่นลดนี่ ก็ว่าไป จะคอยมาแบบ เราหาเพื่อนไป WAT ปีนี้ สมัครเอเจนนี้ไป พี่ดูแลดีม๊ากกกกมากกกกกก ทำงานดี ทำงานไว แถมคอยโทรเช็คเราตลอด บลาๆๆ
เหตุผลทั้งหมดทั้งมวล (เดี๋ยวก่อน! มีแค่ 2 ข้อเองนะยะ! จะพูดอลังไปไหน) ทำให้หาเอเจนไมไ่ด้สะทีเพราะเดี๋ยวคนนู้นบอกดี อีกคนบอกแย่ ขอสรุปในเรื่องการหาเอเจนไว้ตรงนี้ว่า การเลือกเอเจนขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ (เพราะ เอเจนที่เราเลือกไปก็มีคนบอกว่าไม่ดี มีเด็กโดเทงาน เหมือนกัน แต่อีนี่โชคดี ไม่โดน อะไร แต่พี่เค้าก็ไม่ได้มาเทคแคร์ดูแลอะไรมากมายนะ พอพ้นจากไทยไปก็อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะเอาตัวรอด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้ายังไง) ไม่สามารถบอกตายตัวได้ว่าเอเจนไหนดี เอเจนไหนแย่ บางที่ไม่ได้ดังแต่ดูแลเด็กทั่วถึงเพราะเด็กน้อย บางทีเอเจนใหญ่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป แต่ถ้าใครจะถามว่าเราไปเอเจนเราไปกับ A......X
เริ่มแรกเลยเราก็โทรไปสมัครทุน กทม. (กองทุนเงินของคุณแม่ ฮ่าๆๆๆ) แล้วบอกว่า "แม่จ๋าาาา หนูอยากลองไปหา ปสก. ที่เมกาอะ" ในใจก็คิดว่าคงไมไ่ด้หรอกเพราะขนาดไป ตจว. แม่ยังไม่ค่อยอยากให้ไปเลย กลัวจะโดนพี่อาทิตย์ลากข่มขืนกายใจ (อย่าเพิ่งด่าฉัน พวกเธอทั้งหลาย) แต่คำตอบแม่แบบทำหูอื้อ งงงวยมาก แม่ตอบแบบไม่คิด แบบไวกว่าปริศนาฟ้าแล่บ "ไปสิ" ก็กรี้ดกร้าดถามย้ำเพื่อความแน่ใจแล้วก็บรรยายความดีงามของโครงการนี้ (ขายของสุดฤทธิ์) พอผ่านเรื่องทุน ต่อไปก็เรื่องเลือกเอเจน เอาจริงๆ นี่หลังจากอ่านๆ มาประมานสองสามวัน ก็เลยสะดุดตาเข้ากับเว็บของเอเจนนึงแบบ เออ เว็บดูน่าเชื่อถือดี แบบเว็บไม่ใช่ขี้ไก่ ขี้กา ขี้อาราเร่ อะ แบบดูมีมาตรฐานผ่าน อย. (พ่าม!) เลยเอาอันนี้แหละ ก็ทักแชทเฟสไปตามระเบียบ
หลังจากคุยกันอยู่สองสามประโยคนางก็บอกว่าให้เข้าไปวัดระดับภาษาก่อน ก็เลยนัดแนะวันกันดิบดี พอไปถึงใจตุ้ดดวงน้อยๆ ก็ไหววูบ จะไปจริงหรอวะ ภาษาก็โบ้ๆ เบ้ๆ แต่ด้วยความระริกระรี้ที่มีพลังมืดเยอะกว่าผลักดันให้เปิดประตูเข้าไป ก็นั่งรออยู่แปปนึงก็มีพี่มาพาเข้าห้องมืด (แต่มันไม่มืดนะสว่างมาก อยากให้ดูน่ากลัวเฉยๆ ) ก่อนเข้าพี่เค้าก็บอกว่า มีอะไรจะถามมั้ยคะ ถ้าเข้าไปแล้วเราจะพูดแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ คิดในใจ อีลอกกกกกกกกกทอง (จงเปลี่ยน ลอลิงให้เป็นดอเด็ก) จะพูดทำไมมม เหงือมือเหงือตีนไหลเป็นสึนามิแล้วเนี่ย ก็ได้แต่คิดในใจ แต่ความจริงๆ ก็ยิ้มแบบมั่นใจตอบไปว่า ค่ะ
พอเข้าไปก็ถามคำถามทั่วไป ออกแนวจะคุยกันซะมากกว่า เช่นบับ What's your name? tell me a little bit about yourself, Why do you wanna go to The United? โอ้ยยยย ร้อยแปดพันเก้า ตอบไปเถอะค่ะ เค้าไม่เน้นโลกสวย เค้าไม่ได้อยากวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ เค้าแค่จะดูว่า อีนี่ไปแล้วจะรอดมั้ย แค่นั้นแหละ ก็ตอบๆ ไป เสร็จปุ้บ พี่เค้าก็ถามว่า น้องคิดว่าน้องได้คะแนนเท่าไหร่ ตอบไปเลยค่ะตอบไป คิดว่าได้เต็มค่ะ (มั่นไหมล่ะ) แล้วพี่เค้าก็ทำลายความมั่นของเราด้วยคะแนนที่แท้ทรู (แต่อย่าหวังถึงดาเมจจะรุนแรงปานแผ่นดินไหวที่ซานแอนเดรียส (หนัง) แต่ตุ้ดอย่างชั้นมีฮีล โนแคร์ โนสน555)
พี่เค้าก็จะเอาลิสต์งานคิดว่าเราพอจะทำได้โดยไม่โดนนายจ้างเนรเทศออกมาน่ะนะ ด้วยความสวย เฟรนนี่ อาารมณ์ดีราวกับอยู่ในวอร์ด (เพราะตอบพี่เค้าถามอะไรชั้นก็หัวเราะไปก่อน ทำเหมือนเข้าใจ) เลยได้งานสวนสนุกที่นี่มา (Six flags Fiesta TX) ก็เลยบอกว่า พี่คะ Texas นี่มันที่ไหนอะคะ พี่เค้าก็ Tie-in สินค้าเต็มที่ ก็สรรหารูปที่วิริสมาหรา (อ่านว่า วิ-ริด-สะ-มา-หรา) มาให้ดู ด้วยความเป็นคนคิดน้อย (เพราะถ้าคิดมากสมองจะประมวลผลหนักเกินไป แรมสมองน้อยต้องเข้าใจด้วย) ก็ตอบไปว่า ค่ะเอาที่แหละค่ะ นางก็จัดแจงเอาเอกสารนนู่นนี่มาให้เขียนให้เซน พร้อมให้รายละเอียดสำหรับจ่ายตัง บอกนู่นนี่ว่าจ่ายนี่แล้วคืนเท่านี้ บางอันคืนไมไ่ด้ ดู ดีๆ นะจ๊ะเด็กๆ
ก็ขอ skip ผ่านช่วงนี้ไปเลยเนอะ บอกเลยเราเป็นคนใจเย็น คิดบวก บางคนบอกว่าเอเจนนี้นาน เราก็เลยไม่ได้ไปเร่งอะไร และรู้สึกว่ามันก็นานจริงๆ แต่ก็ทำใจรับได้ เป็นคนที่ชิลมากๆ แต่ก็จะมีช่วงนึงที่นานมากจนแบบ เห้ย ds ทำไม shipping นานจังวะ นี่ใกล้จะถึงวันที่กรอกเริ่มงาน แถม visa ก็ยังไม่ได้ทำ (รอ ds) ก็บ่นๆ เฉยๆ ไม่ได้ไปโวยวายอะไร กลัวพี่เค้าหมั่นไส้แล้วจะนานกว่าเดิม ฉะนั้น อดทนรอค่ะ! แต่ถ้ามันนานเกินเราจะถามก็ได้นะ สิทธิ์ของเราอะเนอะ
ข้ามช่วงนั้นที่เป็นช่วงเตรียมเอกสาร รอเอกสาร เป็นช่วงที่เวลาเฉื่อยมาก ในที่สุดพี่ที่เอเจนก็โทรมาบอกให้ไปเลือกวันสัมภาษณ์ VISA ก็เลือกไป เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก (ใช่ เราโกหหก มันก็ไม่เร็วอะไรเบอร์นั้น) ก็มาถึงวันที่เราต้องไปสัมวี (ขอย่อ) ก็หาข้อมูลอะไรต่อมิอะไรในพันทิป ว่าควรไปถึงกี่โมง ทำอะไรยังไง หาเอาเยอะแยะ กว่าจะตั้งกระทู้ถามเสร็จ ค้นในกูเกิ้ลเร็วกว่าเยอะ
------------ ก็ผ่านไปกับการสัมวี ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยคนมันไม่เคยเนอะ ----------------------
อ้อ เราลืมบอก เครื่องบินเราจ่ายเงินมัดจำไปกับพี่ที่เอเจน แต่เหมือนว่าราคามันแพงกว่าที่เราหาไว้ เราเลยเอาที่เราหามาเองเป็นของ Korean air สจ๊วตหล่อม๊ากกก แต่ซอรี่จ่ะ นี่คุณแม่ไง 5555
สำหรับเรา Korean air ผ่านเลยนะ เราที่เป็นคนตัวสูงหน่อย ไม่รู้สึกว่าแคบอะ นั่งสะดวก กับข้าวก็กินได้ เครื่องดื่มโอเค เดินเสิร์ฟบ่อย แต่ไฟล์ทนั้นเรานั่งแถวถัดจากเด็กอ่อน เป็นอะไรที่ซวยมาก นอนไม่ได้เลย ร้องดังมากก อยากจะบอกคุณแม่น้องว่า (แม่คะ หนูขอยืมน้องไปเป็นนาฬิกาปลุกหน่อยได้มั้ยคะ 555) แต่จริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เข้าใจอะเนอะ เด็ก ขนาดเราเรายังกลัวเลยขึ้นเครื่อง หูอื้อ นู่นนี่นนั่นไปหมด แต่นี่เด็ก ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรก็ทำได้แค่ร้อง เข้าใจค่ะ ไม่โวยวายใส่เด็กเนอะ anyway ความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้ลลลมากกกกกกก กอไก่ล้านตัว ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก แถมไป ตปท ครั้งแรกด้วย โอยยย แต่เพลง และสิ่งบันเทิงบนเครื่องช่วยได้ค่ะ ดูวนไป ฟังวนไปค่าาา
พอถึงเกาหลีปุ้บบบ (เราทรานซิสที่เกา) ด้วยความที่ไม่เคยไป ตปท ไม่ขึ้นเครื่อง กลัวมากเลยเลือกไฟล์ทที่มีการทรานซิสนานที่สุดในโลกค่ะ (เว่อร์อีกแล้ว วังตลอดอีนี่) คือ 6 ชม พอทีนี้เดินออกมาจากเครื่องก็ด้วยความตาถูกโฉลกกับของฟรี เห็นความ FREE ไม่ได้ ปรี่เข้าไปเลยค่ะ Transit tour FREE!!!!!
ฟอรออีฟรี ตัวเบ้อเร้อเลยค่ะ ไม่รอช้า ถามไถ่ได้ความปุ้บนางก็ขอดูไฟล์ทบินเรา เจ่เจ้อาจุมม่าก็บอกว่าได้เป็นทัวร์วัดนะ เราก็บอก เป็นเมียงดงไม่ได้หรอเจ้ นางก็บอกว่าบ่ได้หรอกอีตุ้ด ไฟล์ทเจ้าถ้าไปเมียงดงกลับมานี่วิ่งขาหนีบไหม้เลยนะ เพราะมันจะกลับมาแบบพอดีกลับเวลาเข้าเกท โอเค ลาก่อนเมียงดง
เราก็ โอเคค่ะเจ้ ทัวร์วัดก็วัด นางก็จัดแจงลงทะเบียน แจกเข็มกลัดนู่นนี่ บอกเวลา บอกจุดขึ้นรถ ไปลุยวัดกันนน (ทำไมคำน่ากลัว
และแล้วเรื่องพีคก็เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ตราตรึงติดในใจเรามาตลอดเมื่อคุณไกด์อาสาของเรา (เป็นอาจุมม่าที่น่ารัก ใจดี ใจเย็น แล้วก็เต็มที่กับการนำทัวร์มากๆ แม้จะเป็นทัวร์ฟรี) เริ่มนับจำนวนคนบนรถกับลิสต์รายชื่อที่นางได้มา ก็ประกาศออกไมค์บนรถทัวร์ว่า One person more แล้วก็มีนักท่องเที่ยวคนนึง หัวเราะก๊ากดังมากแล้วล้อเลียน One more person แล้วก็หัวเราะคิกคัก และแล้วก็มีผู้กล้าไม่ใช่ใครที่ไหน (และไม่ใช่เราด้วย ฮ่าๆๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยังไม่ปีกกล้าขาแข็งขนาดนั้น แต่ เดี๋ยวมีแน่) เป็นชาวมะกันของเรานี่เอง นางก็พูดขึ้นมาเสียงดังว่า It's doesn't matter. I can understand her. อู้วววว เผ็ชมากค่ะ แทบจะยืนลุกขึ้นปรบมือให้ he รัวๆ พอถึงวัดปุ้บ เราก็เดินไปทำความรู้จักกะนางทันที ทราบความว่านางมาจาก LA ก็คุยกันไปบลาๆ
นี่เป็นเรื่องที่สอน และกระตุ้นแรงฮึดให้เราเป็นอย่างมาก และเราก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อให้คนอื่นๆ (พวกรุ่นน้อง คนที่เรียนภาษาอังกฤษกะเรา) ฟังตลอด อย่างที่ครูลูกกอล์ฟ ใน ลูกกอล์ฟอิงลิชรูมพูดเสมอว่า "ให้มองภาษาเป็นแค่เครื่องมือที่เราใช้สื่อสาร ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจก็จบ" เรื่องนี้ทำให้ชีวิตเราในเมกาง่ายขึ้นมากกๆ (ขอขอบคุณ he และ พี่ลูกกอล์ฟไว้ตรงนี้อีกครั้ง) ฉะนั้น ใครที่ผ่านมาอ่านแล้วกำลังฝึก หรือเริ่มต้นใช้ภาษาอังกฤษ สู้ๆ เนอะ ไม่ต้องไปกลัว ดูสิเจ้าของภาษาเค้ายังพูดเลย พูดผิดพูดถูกไม่สำคัญ ฉันเข้าใจก็พอ น้านนนน อยู่ๆ ตุ้ดผู้ไร้สาระ เอาสาระมีจากไหนน ฮาเลลูยาา
พอวนครบทุกที่ตามแพลนที่กำหนดไว้ ทัวร์ก็พากลับมาหย่อนที่สนามบินเหมือนเดิม เราก็แบบซึ้งใจในความเฟรนลี่ของเจ้ไกด์ เราก็เดินคุยกับนางมาตลอดนางก็เล่าประวัตินู่นนี่ของเกาหลีให้ฟัง คุยสนุกดี ความสายเปย์ของชั้นมันอยู่ในสายเลือดดด ควักตังมาหยิบให้อาจุมม่า นางแกก็ไม่เอา แต่เราก็คะยั้นคะยอให้นางรับ นางก็รับ ถ้าปฏิเสธอีกความเป็นคนดีจะอ่อนพลังลง แล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้วนะป้า
ก็ไม่มีอะไร นั่งเล่นไวไฟที่สนามบินสักพักก็ถึงเวลาเข้าเกท จากอินชอนไป LA ฟิ้ววววววววว
เดี๋ยวมาต่อไปทำธุระแปรบบบบบบบบ มีไรให้แก้ไข แนะนำไรบอกได้นะ ยังมีเรื่องอีกเยอะนี่ยังไม่ถึงเมกาหมดไปแล้ว 9 พันกว่าตัวอักษรแม่เจ้า
ถ้าเขียนไม่สนุก ใช้คำไม่เหมาะ หรือเล่าน่าเบื่อ บอกได้นะ จะได้เลิกเขียน (พ่าม!) ไม่ใช่ๆ จะได้ปรับปรุงงง