ช่วงไม่ถึงสิบปีก่อน ตอนที่ CR7 ย้ายจากแมนฯยูไนเต็ดไปเรอัลมาดริด (2009) ตอนนั้นราคา 80 ล้านปอนด์นี่คือโคตรโหดสรัสแล้วนะ แต่แฟนๆ ก็ยังโอเค เพราะโด้ตอนนั้นโหดมาสักพักละ 2-3 ปีละ ได้ UCL มาแล้ว ได้บัลลงค์ดอร์ไปแล้ว
หลังจากนั้น เวลามีคนบอกว่า นักเตะสักคนจะมีค่าตัว 100 ล้านปอนด์ นี่หัวเราะงอหงายกันเป็นแถว ไร้สาระ บ้าไปแล้ว นักเตะระดับเมสซี่กับโรนัลโด้เท่านั้นที่คู่ควรราคานั้น และมันก็เกิดได้ยากเหลือเกิน
ถ้าย้อนอดีตดูกันนิดนึง ค่าตัว ซีดาน นี่ถือว่าล้ำยุคหน่อย เพราะถ้าดูค่าตัวสถิติโลกสักประมาณเกือบๆ 20 อันดับแรกนี่ เก่าสุดก็ปี 2009 ของ CR7 นั่นเอง ก่อนจะมี เบล (85 ลป.), เนย์มาร์ (75 ลป.), คาวานี่ (55 ลป.) ฯลฯ ในปี 2013 (คุณพระ เพิ่ง 4 ปีเองนะ!) แต่มีค่าตัวของ ซีดาน (46.6 ลป.) ที่ย้อนไปตั้งปี 2001 โน่นเลย ถ้าเทียบกับยุคสมัยแล้วแพงมากนะ
ปัจจุบัน มีนักฟุตบอลค่าตัวตั้งแต่ 75 ล้านปอนด์ (85 ล้านยูโร) ขึ้นไปอยู่ 6 คน (ป็อกบา, เบล, โด้, อิกวาอิน, เนย์มาร์, ลูกากู) นี่คือ "ที่สุด" ของโลกฟุตบอลแล้วนะ
ปัจจุบัน อย่างที่ได้ยินข่าวกัน เรอัล ยื่นข้อเสนอมูลค่า 160 ล้านปอนด์ หรือไม่ก็ 180 ล้านยูโร! และยังไม่เฟิร์มว่าสรุปแล้วโมนาโกใจอ่อนยอมขายหรือยัง หรือ ราคาอาจจะทะยานไปมากกว่านี้อีก!
ขุ่นพระ....
ผมสรุปให้ง่ายๆ นะ อันนี้ไม่ได้ว่าเรอัลหรอก (เพราะทีมผมปีศาจแดงก็หน้ามืดเหมือนกันในช่วงหลังๆ 55555)
1. มีเงินหมุนเวียนในวงการฟุตบอลมากขึ้น (เยอะ) ทีมใหญ่ๆ มีรายได้มากขึ้น ทีมเล็กสามารถเรียกค่าตัวได้สูงขึ้น
2. ความสำเร็จในการแข่งขันรายการต่างๆ นำมาซึ่งรายได้มากขึ้น ได้ prize money มากขึ้น สปอนเซอร์ยินดีจ่ายเงินมากขึ้น แฟนบอลยอมจ่ายค่าตั๋วแพงขึ้น F.A. ประเทศต่างๆ และ UEFA มีรายได้ค่าลิขสิทธิ์ทีวีและสปอนเซอร์มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ คือ "เดิมพัน" ในการประสบความสำเร็จในรายการต่างๆ และความนิยมในหมู่แฟนบอลทั่วโลก นั้นสูงขึ้น มีมูลค่ามากขึ้น ทีมที่มีเงินก็ยินดีจะจ่าย เพราะเล็งเห็นแล้วว่าสามารถถอนทุนคืนได้
3. ปรากฏการณ์ Messi & Ronaldo ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า นักเตะที่ "พิเศษ" บางคนสามารถสร้างความแตกต่างได้จริง ได้เยอะ ได้มาก ชนิดที่มากกว่ากระทั่งนักเตะระดับโลกคนอื่นๆ ซึ่งนักเตะประเภทนี้หาได้ยากมากกกกก ดังนั้น การทำให้ได้มาซึ่งนักเตะที่อยู่ในระดับนี้ จึงเป็นอะไรที่ทุกทีมต่างพยายามทำให้สำเร็จ
กรณีของ Kylian Mbappé อาจจะยังห่างไกลที่จะนำไปเปรียบเทียบกับ Lionel Messi และ Cristiano Ronaldo แต่ผมเชื่อว่าทีมใหญ่ๆ ไม่ได้ซื้อมาโดยหวังว่าเค้าจะเก่งขึ้นมาเอง แต่เห็นแล้วว่าเด็กคนนี้มีพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม และการได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาที่ดี มันเป็นไปได้ที่คนนี้จะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ 2 ตำนานข้างต้น
ถ้าเงิน 180 ล้านยูโร ไม่พอที่จะซื้อเมสซี่ โรนัลโด้ หรือ เนย์มาร์ ในทุกวันนี้ การซื้อ Mbappe ที่ราคานี้ในวันนี้ อาจเป็นเรื่องฉลาดถ้าหากวันนึงเจ้าหนูนี่ถูกพูดถึงที่ราคา 300 ล้านปอนด์ในอีกหลายปีข้างหน้า
มองกันอย่างอึ้งๆ นั่นล่ะครับ บร้าไปแล้วจริงๆ โลกฟุตบอล เรอัลเสี่ยงมากเลยนะถ้าได้จริง โห นับไม่ถ้วนนะปัจจัยที่อาจส่งผลด้านลบต่อนักฟุตบอล ชื่อเสียง, ความโด่งดัง, ความกดดัน, ชีวิตส่วนตัว, อาการบาดเจ็บ, ทัศนะคติ ฯลฯ
คงต้องจำหน้าเจ้าหนูคนนี้ไว้ให้ดีๆ กันนะครับ มีอนาคตที่น่าสนใจแน่นอน
เอ็มบัปเป้ = 180 ล้านยูโร? (ถึงจะยังไม่เฟิร์ม) เกิดอะไรขึ้นกับวงการฟุตบอลกันเนี่ย?
หลังจากนั้น เวลามีคนบอกว่า นักเตะสักคนจะมีค่าตัว 100 ล้านปอนด์ นี่หัวเราะงอหงายกันเป็นแถว ไร้สาระ บ้าไปแล้ว นักเตะระดับเมสซี่กับโรนัลโด้เท่านั้นที่คู่ควรราคานั้น และมันก็เกิดได้ยากเหลือเกิน
ถ้าย้อนอดีตดูกันนิดนึง ค่าตัว ซีดาน นี่ถือว่าล้ำยุคหน่อย เพราะถ้าดูค่าตัวสถิติโลกสักประมาณเกือบๆ 20 อันดับแรกนี่ เก่าสุดก็ปี 2009 ของ CR7 นั่นเอง ก่อนจะมี เบล (85 ลป.), เนย์มาร์ (75 ลป.), คาวานี่ (55 ลป.) ฯลฯ ในปี 2013 (คุณพระ เพิ่ง 4 ปีเองนะ!) แต่มีค่าตัวของ ซีดาน (46.6 ลป.) ที่ย้อนไปตั้งปี 2001 โน่นเลย ถ้าเทียบกับยุคสมัยแล้วแพงมากนะ
ปัจจุบัน มีนักฟุตบอลค่าตัวตั้งแต่ 75 ล้านปอนด์ (85 ล้านยูโร) ขึ้นไปอยู่ 6 คน (ป็อกบา, เบล, โด้, อิกวาอิน, เนย์มาร์, ลูกากู) นี่คือ "ที่สุด" ของโลกฟุตบอลแล้วนะ
ปัจจุบัน อย่างที่ได้ยินข่าวกัน เรอัล ยื่นข้อเสนอมูลค่า 160 ล้านปอนด์ หรือไม่ก็ 180 ล้านยูโร! และยังไม่เฟิร์มว่าสรุปแล้วโมนาโกใจอ่อนยอมขายหรือยัง หรือ ราคาอาจจะทะยานไปมากกว่านี้อีก!
ขุ่นพระ....
ผมสรุปให้ง่ายๆ นะ อันนี้ไม่ได้ว่าเรอัลหรอก (เพราะทีมผมปีศาจแดงก็หน้ามืดเหมือนกันในช่วงหลังๆ 55555)
1. มีเงินหมุนเวียนในวงการฟุตบอลมากขึ้น (เยอะ) ทีมใหญ่ๆ มีรายได้มากขึ้น ทีมเล็กสามารถเรียกค่าตัวได้สูงขึ้น
2. ความสำเร็จในการแข่งขันรายการต่างๆ นำมาซึ่งรายได้มากขึ้น ได้ prize money มากขึ้น สปอนเซอร์ยินดีจ่ายเงินมากขึ้น แฟนบอลยอมจ่ายค่าตั๋วแพงขึ้น F.A. ประเทศต่างๆ และ UEFA มีรายได้ค่าลิขสิทธิ์ทีวีและสปอนเซอร์มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ คือ "เดิมพัน" ในการประสบความสำเร็จในรายการต่างๆ และความนิยมในหมู่แฟนบอลทั่วโลก นั้นสูงขึ้น มีมูลค่ามากขึ้น ทีมที่มีเงินก็ยินดีจะจ่าย เพราะเล็งเห็นแล้วว่าสามารถถอนทุนคืนได้
3. ปรากฏการณ์ Messi & Ronaldo ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า นักเตะที่ "พิเศษ" บางคนสามารถสร้างความแตกต่างได้จริง ได้เยอะ ได้มาก ชนิดที่มากกว่ากระทั่งนักเตะระดับโลกคนอื่นๆ ซึ่งนักเตะประเภทนี้หาได้ยากมากกกกก ดังนั้น การทำให้ได้มาซึ่งนักเตะที่อยู่ในระดับนี้ จึงเป็นอะไรที่ทุกทีมต่างพยายามทำให้สำเร็จ
กรณีของ Kylian Mbappé อาจจะยังห่างไกลที่จะนำไปเปรียบเทียบกับ Lionel Messi และ Cristiano Ronaldo แต่ผมเชื่อว่าทีมใหญ่ๆ ไม่ได้ซื้อมาโดยหวังว่าเค้าจะเก่งขึ้นมาเอง แต่เห็นแล้วว่าเด็กคนนี้มีพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม และการได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาที่ดี มันเป็นไปได้ที่คนนี้จะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ 2 ตำนานข้างต้น
ถ้าเงิน 180 ล้านยูโร ไม่พอที่จะซื้อเมสซี่ โรนัลโด้ หรือ เนย์มาร์ ในทุกวันนี้ การซื้อ Mbappe ที่ราคานี้ในวันนี้ อาจเป็นเรื่องฉลาดถ้าหากวันนึงเจ้าหนูนี่ถูกพูดถึงที่ราคา 300 ล้านปอนด์ในอีกหลายปีข้างหน้า
มองกันอย่างอึ้งๆ นั่นล่ะครับ บร้าไปแล้วจริงๆ โลกฟุตบอล เรอัลเสี่ยงมากเลยนะถ้าได้จริง โห นับไม่ถ้วนนะปัจจัยที่อาจส่งผลด้านลบต่อนักฟุตบอล ชื่อเสียง, ความโด่งดัง, ความกดดัน, ชีวิตส่วนตัว, อาการบาดเจ็บ, ทัศนะคติ ฯลฯ
คงต้องจำหน้าเจ้าหนูคนนี้ไว้ให้ดีๆ กันนะครับ มีอนาคตที่น่าสนใจแน่นอน