คำเตือน เนื้อหาค่อนข้างยาวและไม่มีสาระความบันเทิงใดๆ เป็นเพียงกระทู้ชี้แจงเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณ
สวัสดีครับ ผมขอรบกวนพื้นที่บอร์ดห้องวอลเลย์บอลซักนิดเพื่อชี้แจงกรณีที่มีบางท่านกล่าวหาว่าผมกุเรื่องกฏวอลเลย์บอลที่แปลผิด
สืบเนื่องจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36678406 ที่ผมได้โต้ตอบกับบางท่านในเรื่องกฏวอลเลย์บอล
ในตอนต้นผมให้ข้อมูลผิดไป ผมขออภัยทุกท่านที่อ่านข้อมูลที่ผิดนั้นด้วยครับ ผมยอมรับผิดที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนจะนำมาลง
ในบอร์ดสาธารณะ ตอนนี้ผมได้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้ชี้แจงนี้ ที่ไม่ชี้แจงตัวเองในกระทู้นั้นเพราะ
ผมไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืดในกระทู้นั้นแล้ว ผมให้ข้อมูลไว้ในกระทู้เพียงพอแล้ว ที่เหลือคงต้องแล้วแต่วิจารณญาณของ
ผู้ที่อ่านเจอเลือกเชื่อกันเอง
ประเด็นที่ผมต้องชี้แจงมันเกิดจากตอนที่ผมตัดสินใจจะเลิกโพสต์โต้ตอบใดๆในกระทู้นั้นและได้โพสต์ข้อความไปตามนี้
https://pantip.com/topic/36678406/comment1-23
ขอยืมภาพที่บางท่านแคปไว้มาใช้นะครับ

เจตนาของผมที่บอกว่ากฏนั้นแปลผิดก็เพื่อเป็นการบอกเล่าสิ่งที่พบเจอแก่ผู้อ่านกระทู้นั้นแล้วพึงระมัดระวังการตีความกฏนี้
เพราะบางคนอาจจะตีความผิดเพี้ยนจากความหมายเดิมในต้นฉบับภาษาอังกฤษ และผมขอออกตัวเลยว่าคงไม่ใช่การเบี่ยง
ประเด็นแบบที่บางท่านกล่าวหาผม ถ้าผมต้องการเบี่ยงประเด็นจริงผมโพสต์แค่ว่า"เอากฏที่แปลผิดมาใช้" แค่นั้นดีกว่ามั้ย
ผมก็ใส่ข้อความไปแล้วว่าสิ่งที่แปลผิดมันไม่กระทบต่อเนื้อหาที่สมาชิกท่านนั้นต้องการสื่อและนำมาอ้างอิง
กฏข้อที่ว่าเป็นกฏวอลเลย์บอลข้อ 11.4.1 ว่าด้วยการทำผิดกติกาที่บริเวณตาข่าย
ต้นฉบับปี 2015-2016 ของ fivb จากลิงค์นี้
https://www.fivb.org/EN/Refereeing-Rules/documents/FIVB_Volleyball_Rules_2015-2016_EN_V3_20150205.pdf

ฉบับแปลภาษาไทยปี 2559 จากลิงค์นี้
www.thai-ref.org/tva/downloads/Thai%20Rules%20update%202015.pdf

ผมขออธิบายสิ่งที่ผมคิดว่ากฏข้อนี้แปลผิดดังนี้ครับ
ข้อสังเกตแรก มีการแปลคำว่า before ตกไป ซึ่งตำแหน่งของคำมันอยู่หน้าคำเชื่อม or ที่ทำหน้าที่แยกกรณี
แต่มันคงไม่สำคัญถ้าแปลแล้วยังคงไว้ซึ่งสาระสำคัญตามต้นฉบับได้ครบถ้วน
ผมลองแปลเองแปลได้แบบนี้ครับ
"11.4.1 ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลหรือสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้าม ก่อนหรือในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม"
(ขอใช้คำว่าสัมผัสแทนคำว่าถูกนะครับ กรณีนี้ความหมายเหมือนกัน)
แล้วลองตีความจากต้นฉบับภาษาอังกฤษและแยกเป็นกรณีย่อยๆได้ 4 กรณีดังนี้ครับ

(ขออภัยหากการเรียงประโยคในรูปไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์)
ลองแปลดูจะได้ว่า
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
1.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามก่อนการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่น ตัวบล๊อคยื่นมือล้ำแดนไปปัดบอลก่อนที่ตัวเซตจะเซตในขณะที่บอลทั้งลูกยังอยู่ในแดนอีกฝั่ง
1.2ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่น ตัวบล๊อคยื่นมือล้ำแดนเข้าบล๊อคบอลก่อนตัวตบจะตบโดนบอลในขณะที่บอลทั้งลูกยังอยู่ในแดนอีกฝั่ง
1.3ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามก่อนการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่น ตัวบล๊อคยื่นมือไปล้ำแดนไปจะเล่นบอลแรกจากอีกฝั่งที่พุ่งเข้าหาเนทไปโดนมือของตัวเซตที่ยังอยู่ในวิสัยจะเล่นบอลสองได้ในขณะที่บอลทั้งลูกยังอยู่ในแดนอีกฝั่ง
1.4ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่น ตัวบล๊อคยื่นมือล้ำแดนเข้าบล๊อคโดนมือตัวตบก่อนตัวตบจะตบโดนบอลในขณะที่บอลทั้งลูกยังอยู่ในแดนอีกฝั่ง
ส่วนฉบับแปลไทย

ในกรณีที่ใช้คำว่า "หรือ" เพื่อเป็นคำเชื่อมสำหรับแยกกรณี ผมลองแยกกรณีดูได้ 4 กรณีดังนี้ครับ
(ขอเปลี่ยนคำว่าถูกเป็นคำว่าสัมผัสนะครับ เปลี่ยนแล้วยังคงความหมายเดิมอยู่)
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
2.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ -การที่ประโยคถูกแยกกรณีด้วยคำว่า"หรือ"ทำให้สาระสำคัญผิดไป กลายเป็นว่าการล้ำแดนไปเล่นบอลในแดนฝั่งตรงกันข้ามผิดทุกกรณีซึ่งมันไม่จริงเช่น กรณีการบล๊อคบอล 3 ของอีกฝั่งซึ่งอนุญาตให้ยื่นมือไปบล๊อคในแดนฝั่งตรงกันข้ามได้ หรือกรณียื่นมือล้ำแดนไปเล่นบอลที่กำลังจะข้ามเนทซึ่งไม่อยู่ในวิสัยที่ผู้เล่นอีกฝั่งจะเล่นบอลได้แล้ว หรือกรณีรับบอลแรกไม่ดีบอลพุ่งเข้าใต้เนทก็สามารถยื่นมือล้ำแดนไปเล่นบอลใต้เนทได้ตราบใดที่บอลยังข้ามฝั่งไม่เต็มใบ
2.2ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-เหมือนข้อ 1.2
2.3ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ -การที่ประโยคถูกแยกกรณีด้วยคำว่า"หรือ"ทำให้สาระสำคัญผิดไป กลายเป็นว่าการล้ำแดนไปโดนคู่แข่งผิดทุกกรณีซึ่งมันไม่จริง ตัวอย่างเช่นตัวบล๊อคสะบัดข้อมือไปโดนตัวตบของอีกฝั่งในแดนของอีกฝั่งหลังจากที่ตัวตบคนนั้นตบบอลไปแล้ว ถึงมือจะสัมผัสกันก็ไม่เป็นการฟาล์ว หรือกรณีง่ายๆก็การเหยียบเท้ากันใต้เนท ถ้าไม่มีใครบาดเจ็บหรือเป็นการรบกวนการเล่นเกมส์ก็ดำเนินต่อ
2.4ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-เหมือนข้อ 1.4
จะเห็นนะครับว่าพอแยกกรณีแล้วบางข้อกลับมีความหมายไม่เหมือนต้นฉบับ นั่นเป็นเพราะการแปลตก(หรือพิมพ์ตก)คำว่า"ก่อน(before)"ซึ่งอยู่หน้าคำว่า"หรือ(or)"ซึ่งใช้แยกกรณีของประโยค
ส่งผลกลายเป็นว่าไปรวบเอาเงื่อนไขสำคัญที่อยู่ข้างหน้ามาเป็นกรณีที่แยกแทน
แล้วมีอีกรณีนึงที่คำว่า"หรือ"สามารถใช้เพื่อขยายความของประโยคข้างหน้าได้ดังนี้ครับ
11.4.1 ผู้เล่นถูกลูกบอลหรือถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ในแดนของฝ่ายตรงข้าม หรือระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก
ถ้าใช้คำว่า"หรือ"เพื่อการขยายความก็จะกลายเป็นประโยค "ระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก"ขยาย"ในแดนของฝ่ายตรงข้าม"
หรือง่ายๆเป็นการรวบประโยคเป็น "ในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก"
ทีนี้พอแยกประโยคออกเป็นกรณี จะได้เพียง 2 กรณีคือ
(ขอเปลี่ยนคำว่าถูกเป็นสัมผัสนะครับ)
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
3.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-เหมือนข้อ 1.2
3.2ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-เหมือนข้อ 1.4
มองเผินการรวบข้อความมันอาจจะดูครอบคลุมแต่การตีความของผมมันยังสื่อได้ไม่ครบสาระสำคัญตามต้นฉบับอยู่ดี
ลองทำความเข้าใจกับศัพท์คำว่า "ทำการรุก" หรือ "attack hit"ก่อนนะครับ

หรือยกตัวอย่างง่ายๆก็กรณีการขึ้นตบ(ฯลฯ) จะตบโดนบล๊อคตบข้ามเนทได้หมด
การที่มีแต่เพียงประโยคว่า"ระหว่างการรุก"เลยตีความหมายได้แค่ช่วงที่ขึ้นตบ ขึ้นหยอด หรืออื่นๆที่เป็นการรุก
แต่การแปลตก(หรือพิมพ์ตก)คำว่า"ก่อน"มันทำให้สาระสำคัญไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เช่น
การอันเดอร์ตั้งบอลแรก การเซตบอลสอง ตามที่สาระสำคัญของต้นฉบับมีความหมายครอบคลุมไว้
จะเห็นนะครับ แม้พยายามจะตีความคำว่า"หรือ"ในการขยายความประโยคข้างหน้ามันก็ยังไม่ครอบคลุม
ทุกกรณีของต้นฉบับอยู่ดี
เนื้อหายาวผมต้องขออภัยด้วยครับ ผมขอชี้แจงไว้เท่านี้และขอยืยันว่านี่ไม่ใช่การกุเรื่องอย่างที่บางท่านกล่าวหาครับ
ขอพื้นที่เคลียร์ตัวเองกรณีโดนกล่าวหาว่ากุเรื่องกฏวอลเลย์บอลที่แปลผิดครับ
สวัสดีครับ ผมขอรบกวนพื้นที่บอร์ดห้องวอลเลย์บอลซักนิดเพื่อชี้แจงกรณีที่มีบางท่านกล่าวหาว่าผมกุเรื่องกฏวอลเลย์บอลที่แปลผิด
สืบเนื่องจากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/36678406 ที่ผมได้โต้ตอบกับบางท่านในเรื่องกฏวอลเลย์บอล
ในตอนต้นผมให้ข้อมูลผิดไป ผมขออภัยทุกท่านที่อ่านข้อมูลที่ผิดนั้นด้วยครับ ผมยอมรับผิดที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนจะนำมาลง
ในบอร์ดสาธารณะ ตอนนี้ผมได้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้ชี้แจงนี้ ที่ไม่ชี้แจงตัวเองในกระทู้นั้นเพราะ
ผมไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืดในกระทู้นั้นแล้ว ผมให้ข้อมูลไว้ในกระทู้เพียงพอแล้ว ที่เหลือคงต้องแล้วแต่วิจารณญาณของ
ผู้ที่อ่านเจอเลือกเชื่อกันเอง
ประเด็นที่ผมต้องชี้แจงมันเกิดจากตอนที่ผมตัดสินใจจะเลิกโพสต์โต้ตอบใดๆในกระทู้นั้นและได้โพสต์ข้อความไปตามนี้
https://pantip.com/topic/36678406/comment1-23
ขอยืมภาพที่บางท่านแคปไว้มาใช้นะครับ
เจตนาของผมที่บอกว่ากฏนั้นแปลผิดก็เพื่อเป็นการบอกเล่าสิ่งที่พบเจอแก่ผู้อ่านกระทู้นั้นแล้วพึงระมัดระวังการตีความกฏนี้
เพราะบางคนอาจจะตีความผิดเพี้ยนจากความหมายเดิมในต้นฉบับภาษาอังกฤษ และผมขอออกตัวเลยว่าคงไม่ใช่การเบี่ยง
ประเด็นแบบที่บางท่านกล่าวหาผม ถ้าผมต้องการเบี่ยงประเด็นจริงผมโพสต์แค่ว่า"เอากฏที่แปลผิดมาใช้" แค่นั้นดีกว่ามั้ย
ผมก็ใส่ข้อความไปแล้วว่าสิ่งที่แปลผิดมันไม่กระทบต่อเนื้อหาที่สมาชิกท่านนั้นต้องการสื่อและนำมาอ้างอิง
กฏข้อที่ว่าเป็นกฏวอลเลย์บอลข้อ 11.4.1 ว่าด้วยการทำผิดกติกาที่บริเวณตาข่าย
ต้นฉบับปี 2015-2016 ของ fivb จากลิงค์นี้
https://www.fivb.org/EN/Refereeing-Rules/documents/FIVB_Volleyball_Rules_2015-2016_EN_V3_20150205.pdf
ฉบับแปลภาษาไทยปี 2559 จากลิงค์นี้
www.thai-ref.org/tva/downloads/Thai%20Rules%20update%202015.pdf
ผมขออธิบายสิ่งที่ผมคิดว่ากฏข้อนี้แปลผิดดังนี้ครับ
ข้อสังเกตแรก มีการแปลคำว่า before ตกไป ซึ่งตำแหน่งของคำมันอยู่หน้าคำเชื่อม or ที่ทำหน้าที่แยกกรณี
แต่มันคงไม่สำคัญถ้าแปลแล้วยังคงไว้ซึ่งสาระสำคัญตามต้นฉบับได้ครบถ้วน
ผมลองแปลเองแปลได้แบบนี้ครับ
"11.4.1 ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลหรือสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้าม ก่อนหรือในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม"
(ขอใช้คำว่าสัมผัสแทนคำว่าถูกนะครับ กรณีนี้ความหมายเหมือนกัน)
แล้วลองตีความจากต้นฉบับภาษาอังกฤษและแยกเป็นกรณีย่อยๆได้ 4 กรณีดังนี้ครับ
(ขออภัยหากการเรียงประโยคในรูปไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์)
ลองแปลดูจะได้ว่า
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
1.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามก่อนการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1.2ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1.3ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามก่อนการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1.4ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนฉบับแปลไทย
ในกรณีที่ใช้คำว่า "หรือ" เพื่อเป็นคำเชื่อมสำหรับแยกกรณี ผมลองแยกกรณีดูได้ 4 กรณีดังนี้ครับ
(ขอเปลี่ยนคำว่าถูกเป็นคำว่าสัมผัสนะครับ เปลี่ยนแล้วยังคงความหมายเดิมอยู่)
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
2.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้าม[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.2ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.3ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้าม[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.4ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการรุกของฝ่ายตรงข้าม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จะเห็นนะครับว่าพอแยกกรณีแล้วบางข้อกลับมีความหมายไม่เหมือนต้นฉบับ นั่นเป็นเพราะการแปลตก(หรือพิมพ์ตก)คำว่า"ก่อน(before)"ซึ่งอยู่หน้าคำว่า"หรือ(or)"ซึ่งใช้แยกกรณีของประโยค
ส่งผลกลายเป็นว่าไปรวบเอาเงื่อนไขสำคัญที่อยู่ข้างหน้ามาเป็นกรณีที่แยกแทน
แล้วมีอีกรณีนึงที่คำว่า"หรือ"สามารถใช้เพื่อขยายความของประโยคข้างหน้าได้ดังนี้ครับ
11.4.1 ผู้เล่นถูกลูกบอลหรือถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ในแดนของฝ่ายตรงข้าม หรือระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก
ถ้าใช้คำว่า"หรือ"เพื่อการขยายความก็จะกลายเป็นประโยค "ระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก"ขยาย"ในแดนของฝ่ายตรงข้าม"
หรือง่ายๆเป็นการรวบประโยคเป็น "ในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก"
ทีนี้พอแยกประโยคออกเป็นกรณี จะได้เพียง 2 กรณีคือ
(ขอเปลี่ยนคำว่าถูกเป็นสัมผัสนะครับ)
จะเป็นการฟาล์วก็ต่อเมื่อ
3.1ผู้เล่นสัมผัสลูกบอลในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.2ผู้เล่นสัมผัสผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในแดนของฝ่ายตรงข้ามระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามทําการรุก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มองเผินการรวบข้อความมันอาจจะดูครอบคลุมแต่การตีความของผมมันยังสื่อได้ไม่ครบสาระสำคัญตามต้นฉบับอยู่ดี
ลองทำความเข้าใจกับศัพท์คำว่า "ทำการรุก" หรือ "attack hit"ก่อนนะครับ
หรือยกตัวอย่างง่ายๆก็กรณีการขึ้นตบ(ฯลฯ) จะตบโดนบล๊อคตบข้ามเนทได้หมด
การที่มีแต่เพียงประโยคว่า"ระหว่างการรุก"เลยตีความหมายได้แค่ช่วงที่ขึ้นตบ ขึ้นหยอด หรืออื่นๆที่เป็นการรุก
แต่การแปลตก(หรือพิมพ์ตก)คำว่า"ก่อน"มันทำให้สาระสำคัญไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เช่น
การอันเดอร์ตั้งบอลแรก การเซตบอลสอง ตามที่สาระสำคัญของต้นฉบับมีความหมายครอบคลุมไว้
จะเห็นนะครับ แม้พยายามจะตีความคำว่า"หรือ"ในการขยายความประโยคข้างหน้ามันก็ยังไม่ครอบคลุม
ทุกกรณีของต้นฉบับอยู่ดี
เนื้อหายาวผมต้องขออภัยด้วยครับ ผมขอชี้แจงไว้เท่านี้และขอยืยันว่านี่ไม่ใช่การกุเรื่องอย่างที่บางท่านกล่าวหาครับ