พอดีเมื่อวานผมมีเวลาสองสามชั่วโมงก่อนจะไปรับน้องแถวรังสิตครับ เลยหาที่ไป55 ตัดสินใจแวะดูเครื่องบินสักหน่อยครับ ไม่ได้มานานแล้ว ไหนๆก็ผ่านมาแถวดอนเมืองทั้งที
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศเปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 ตามเวลาราชการบ้านเราแหละครับ ถือว่าอยู่ไม่ไกล เข้าชมฟรีอีกต่างหาก แต่ผมแทบไม่ค่อยได้แวะมาชมเลย
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แบ่งการจัดแสดงอากาศยานออกเป็นหลายอาคาร รวมทั้งมีการจัดแสดงในพื้นที่กลางแจ้งด้วย ซึ่งอาคารที่อยู่หน้าสุดคืออาคาร 1จะนำเสนอประวัติศาสตร์การบินของกองทัพอากาศไทย เป็นอาคารติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการจัดแสดงอากาศยานรวมทั้งบอร์ดนำเสนอข้อมูลต่างๆใหม่ ซึ่งผมถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว
จากตรงทางเข้าอาคารหลักด้านหน้าถ้าเลี้ยวไปทางซ้าย จะเหมือนเดินทางย้อนอดีต มีนิทรรศการประวัติการบินในประเทศไทยครับ
ที่น่าสนใจสำหรับผมก็นี่เลยครับ...T33 เครื่องทีเบิร์ดในตำนาน.....เข้าไปอ่านดู T-33 เครื่องนี้มาไกลจากอเมริกาตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ.2498
เข้าไปดูมีลายเสือเผ่นด้วย...ลองนึกถึงตอนบินสมัยก่อนทีเบิร์ดคงร้ายไม่เบา.....เหมือนเสือติดปีกเลยมั๊งครับ
สเปคเครื่องก็ตามนี้เลยครับ
เท่าที่ผมเข้าใจเจ้าทีเบิร์ดเครื่องนี้ใช้ฝึกนักบินก่อนไปทำการบินกับเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงๆต่อไป...เจ้าหน้าที่เล่าว่า เมื่อเครื่องนี้หมดอายุขัย จำเป็นต้องปลดประจำการไปตามเวลา เราก็ได้ L 39 มาใช้ฝึกนักบินแทน ผมเริ่มรู้สึกว่าเครื่องบินก็เหมือนกับคน...ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สุดท้ายวันนึงก็ต้องปลดระวาง เจ้าหน้าที่เล่าว่าในที่สุดแล้ว L39 ก็จำเป็นต้องทยอยปลดประจำการเช่นกัน ซึ่งเรากำลังจะได้เครื่องบินเจ๋งๆหน้าตาน้องๆ F-16 จาก เกาหลีชื่อ T-50 ที่กำลังเป็นข่าวมาทดแทน
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าการเป็นนักบินขับไล่ เมื่อหัดบินขั้นต้นแล้วไปฝึกขับ F-16เลยไม่ได้เหรอ ก็ได้รับคำตอบว่ามันเป็นขั้นตอนการฝึกที่นักบินต้องเรียนและปรับทักษะ เหมือนชั้นประถมมัธยม...คงเป็นไปได้ยากมากที่เด็กประถมจะข้ามไปเรียบมหาลัยได้โดยไม่ผ่านชั้นมัธยม....การเป็นนักบินขับไล่ เครื่องบินความเร็วสูง ที่ความเร็วเหนือเสียง มันไม่ง่ายเลย
เลยนึกถึงคุณชายรณพีร์ของสาวๆหลายๆคน55ที่น่าจะเคยบินเครื่องนี้ก่อน ไปบินกับ F-86 Sabre ที่เคยเห็นบินเอาปีกแตะกันในละคร 55555
ถือโอกาสแปะรูปหล่อๆ ของ F-86 เอ้ย ของคุณชายนะขอรับ....
สาระกันนิด....
ในละครเป็นเสือเผ่น...แต่ที่พิพิธภัณฑ์ เป็นงูบินครับ....ถามพี่ที่พิพิธภัณฑ์ ได้ความว่าเป็นตราสัญลักษณ์ประจำกองบินที่เครื่องนั้นเคยประจำการ
เจ้าเครื่อง F-86F เราก็ได้รับการช่วยเหลือจากอเมริกาเหมือนเจ้าทีเบิร์ดก่อนหน้านี้เมื่อปีพ.ศ.2504 เท่าที่ผมอ่านจากป้ายเจ้าเครื่อง F-86F(ของอเมริกา) สามารถพิชิต เครื่องมิก-15 ได้ ในสงครามเกาหลี ถือว่าเป็นเครื่องที่มีความสามารถมากเลยทีเดียว
ถ้าเดินออกมาด้านนอกก็จะเจอเจ้าเครื่อง F-86L ถ้าสังเกตก็จะเห็นว่าด้านหน้าของเจ้า F-86F กับ F-86L จะต่างกัน ซึ่งจริงๆเท่าที่ผมสอบถามจากเจ้าหน้าที่ เจ้า 2 รุ่นนี้ก็ต่างกันนิดเดียว เพราะเจ้าเครื่อง F-86F ของคุณชายรณพีร์ จะเป็นเครื่องที่ไม่มีเรดาร์ แต่เจ้าเครื่อง F-86L เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าในสมัยนั้นจะมีเรดาร์
ประวัติตามนี้เลยครับ
ถัดมาจากเจ้าเครื่อง F-86L จะเป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบแรกของไทยคือเจ้าเครื่อง F-84G ได้รับเครื่องจากอเมริกาเหมือนสามแบบด้านบน เมื่อปีพ.ศ.2499
ประวัติครับ
เข้ามาด้านในอีกครั้ง(ความจริงผมไปถ่ายข้างนอกทีหลังแหละครับ แต่ว่าเห็นมันรุ่นใกล้เคียงกันเลยเอาขึ้นไปก่อน 5555) ลำต่อมาเป็นเครื่อง F8F-1/1B เจ้าแบร์แคท หน้าตาเท่ไม่เบา พับปลายปีกได้ด้วย เป็นเครื่องบินขับไล่ใบพัดแบบสุดท้ายของไทย ใช้งานเมื่อปีพ.ศ.2494
ต่อไปผมจะพาไปดูเครื่องบินประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศคือเครื่อง คอร์แซร์ และเครื่อง ฮอว์ค3 เป็นเครื่องบินโจมตี และเครื่องบินขับไล่ตามลำดับ ประวัติศาสตร์ของสองแบบนี้ก็คือเป็นเครื่องที่ทำการรบทางอากาศครั้งแรกของประเทศไทยในการพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสจากการที่ฝรั่งเศสมาบุกประเทศไทยที่จังหวัดนครพนม
เครื่องแรกเป็น V93 S CORSAIR (รุ่นนี้เหลือเครื่องเดียวในโลก)
อีกเครื่องเป็น Hawk III (เหลือลำเดียวโลกเหมือนกัน)
ประวัติศาสตร์ที่บอกไปข้างต้น
อีกฝั่งของพิพิธภัณฑ์จะเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ยังใช้งานอยู่ของกองทัพอากาศซึ่งบางลำได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ด้วยยยยย!
เริ่มต้น F-5 มีทั้งแบบที่นั่งเดี่ยว และ 2ที่นั่ง สิ่งที่น่าสนใจคือ มีเครื่องบิน F-5 ที่เป็นลำแรกของโลกอยู่ในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศของไทยเรา ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2510....นับถึงวันนี้ก็ 50 ปี พอดี เรียกลุงได้สบายๆและอาจเป็นปู่ของเด็กหลายๆคน555
ข้างๆกันมี F-16 ปัจจุบันมีการใช้งานอยู่เยอะที่สุด และเริ่มใช้งานเมื่อปี พ.ศ.2531
และลำสุดท้ายเป็นเครื่องบิน Gripen เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดของกองทัพอากาศ เริ่มใช้งานเมื่อปีพ.ศ.2555
นอกจากเครื่องบิน นิทรรศการเกี่ยวกับนักบินก็มีครับ เริ่มจาก ชุดเครื่องแบบนักบินในยุคแรกๆของบ้านเรา
แต่...เวลาผมหมดเท่านี้ครับ...ไว้วันหลังไปจะคว้ากล้องจัดเต็มกว่านี้แน่นอน...
ที่นี่พูดเลยว่ามีอะไรมากกว่าเครื่องบินที่จอดนิ่งๆ....หลายวีรกรรมของทหารไทย หรือเรื่องราวเบื้องหลัง ความเป็นมาเป็นไป หรือแม้กระทั้ง สิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้...มาดูได้ที่นี่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศที่เดียวเท่านั้นครับ!
และชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ....มาได้บ่อยๆครับ55
รีวิวทริปสั้นๆชมเครื่องบินขับไล่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศครับ
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศเปิดให้เข้าชมทุกวัน (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 ตามเวลาราชการบ้านเราแหละครับ ถือว่าอยู่ไม่ไกล เข้าชมฟรีอีกต่างหาก แต่ผมแทบไม่ค่อยได้แวะมาชมเลย
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แบ่งการจัดแสดงอากาศยานออกเป็นหลายอาคาร รวมทั้งมีการจัดแสดงในพื้นที่กลางแจ้งด้วย ซึ่งอาคารที่อยู่หน้าสุดคืออาคาร 1จะนำเสนอประวัติศาสตร์การบินของกองทัพอากาศไทย เป็นอาคารติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการจัดแสดงอากาศยานรวมทั้งบอร์ดนำเสนอข้อมูลต่างๆใหม่ ซึ่งผมถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว
จากตรงทางเข้าอาคารหลักด้านหน้าถ้าเลี้ยวไปทางซ้าย จะเหมือนเดินทางย้อนอดีต มีนิทรรศการประวัติการบินในประเทศไทยครับ
ที่น่าสนใจสำหรับผมก็นี่เลยครับ...T33 เครื่องทีเบิร์ดในตำนาน.....เข้าไปอ่านดู T-33 เครื่องนี้มาไกลจากอเมริกาตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ.2498
เข้าไปดูมีลายเสือเผ่นด้วย...ลองนึกถึงตอนบินสมัยก่อนทีเบิร์ดคงร้ายไม่เบา.....เหมือนเสือติดปีกเลยมั๊งครับ
สเปคเครื่องก็ตามนี้เลยครับ
เท่าที่ผมเข้าใจเจ้าทีเบิร์ดเครื่องนี้ใช้ฝึกนักบินก่อนไปทำการบินกับเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงๆต่อไป...เจ้าหน้าที่เล่าว่า เมื่อเครื่องนี้หมดอายุขัย จำเป็นต้องปลดประจำการไปตามเวลา เราก็ได้ L 39 มาใช้ฝึกนักบินแทน ผมเริ่มรู้สึกว่าเครื่องบินก็เหมือนกับคน...ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สุดท้ายวันนึงก็ต้องปลดระวาง เจ้าหน้าที่เล่าว่าในที่สุดแล้ว L39 ก็จำเป็นต้องทยอยปลดประจำการเช่นกัน ซึ่งเรากำลังจะได้เครื่องบินเจ๋งๆหน้าตาน้องๆ F-16 จาก เกาหลีชื่อ T-50 ที่กำลังเป็นข่าวมาทดแทน
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าการเป็นนักบินขับไล่ เมื่อหัดบินขั้นต้นแล้วไปฝึกขับ F-16เลยไม่ได้เหรอ ก็ได้รับคำตอบว่ามันเป็นขั้นตอนการฝึกที่นักบินต้องเรียนและปรับทักษะ เหมือนชั้นประถมมัธยม...คงเป็นไปได้ยากมากที่เด็กประถมจะข้ามไปเรียบมหาลัยได้โดยไม่ผ่านชั้นมัธยม....การเป็นนักบินขับไล่ เครื่องบินความเร็วสูง ที่ความเร็วเหนือเสียง มันไม่ง่ายเลย
เลยนึกถึงคุณชายรณพีร์ของสาวๆหลายๆคน55ที่น่าจะเคยบินเครื่องนี้ก่อน ไปบินกับ F-86 Sabre ที่เคยเห็นบินเอาปีกแตะกันในละคร 55555
ถือโอกาสแปะรูปหล่อๆ ของ F-86 เอ้ย ของคุณชายนะขอรับ....
สาระกันนิด....
ในละครเป็นเสือเผ่น...แต่ที่พิพิธภัณฑ์ เป็นงูบินครับ....ถามพี่ที่พิพิธภัณฑ์ ได้ความว่าเป็นตราสัญลักษณ์ประจำกองบินที่เครื่องนั้นเคยประจำการ
เจ้าเครื่อง F-86F เราก็ได้รับการช่วยเหลือจากอเมริกาเหมือนเจ้าทีเบิร์ดก่อนหน้านี้เมื่อปีพ.ศ.2504 เท่าที่ผมอ่านจากป้ายเจ้าเครื่อง F-86F(ของอเมริกา) สามารถพิชิต เครื่องมิก-15 ได้ ในสงครามเกาหลี ถือว่าเป็นเครื่องที่มีความสามารถมากเลยทีเดียว
ถ้าเดินออกมาด้านนอกก็จะเจอเจ้าเครื่อง F-86L ถ้าสังเกตก็จะเห็นว่าด้านหน้าของเจ้า F-86F กับ F-86L จะต่างกัน ซึ่งจริงๆเท่าที่ผมสอบถามจากเจ้าหน้าที่ เจ้า 2 รุ่นนี้ก็ต่างกันนิดเดียว เพราะเจ้าเครื่อง F-86F ของคุณชายรณพีร์ จะเป็นเครื่องที่ไม่มีเรดาร์ แต่เจ้าเครื่อง F-86L เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าในสมัยนั้นจะมีเรดาร์
ประวัติตามนี้เลยครับ
ถัดมาจากเจ้าเครื่อง F-86L จะเป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบแรกของไทยคือเจ้าเครื่อง F-84G ได้รับเครื่องจากอเมริกาเหมือนสามแบบด้านบน เมื่อปีพ.ศ.2499
ประวัติครับ
เข้ามาด้านในอีกครั้ง(ความจริงผมไปถ่ายข้างนอกทีหลังแหละครับ แต่ว่าเห็นมันรุ่นใกล้เคียงกันเลยเอาขึ้นไปก่อน 5555) ลำต่อมาเป็นเครื่อง F8F-1/1B เจ้าแบร์แคท หน้าตาเท่ไม่เบา พับปลายปีกได้ด้วย เป็นเครื่องบินขับไล่ใบพัดแบบสุดท้ายของไทย ใช้งานเมื่อปีพ.ศ.2494
ต่อไปผมจะพาไปดูเครื่องบินประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศคือเครื่อง คอร์แซร์ และเครื่อง ฮอว์ค3 เป็นเครื่องบินโจมตี และเครื่องบินขับไล่ตามลำดับ ประวัติศาสตร์ของสองแบบนี้ก็คือเป็นเครื่องที่ทำการรบทางอากาศครั้งแรกของประเทศไทยในการพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสจากการที่ฝรั่งเศสมาบุกประเทศไทยที่จังหวัดนครพนม
เครื่องแรกเป็น V93 S CORSAIR (รุ่นนี้เหลือเครื่องเดียวในโลก)
อีกเครื่องเป็น Hawk III (เหลือลำเดียวโลกเหมือนกัน)
ประวัติศาสตร์ที่บอกไปข้างต้น
อีกฝั่งของพิพิธภัณฑ์จะเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ยังใช้งานอยู่ของกองทัพอากาศซึ่งบางลำได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ด้วยยยยย!
เริ่มต้น F-5 มีทั้งแบบที่นั่งเดี่ยว และ 2ที่นั่ง สิ่งที่น่าสนใจคือ มีเครื่องบิน F-5 ที่เป็นลำแรกของโลกอยู่ในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศของไทยเรา ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2510....นับถึงวันนี้ก็ 50 ปี พอดี เรียกลุงได้สบายๆและอาจเป็นปู่ของเด็กหลายๆคน555
ข้างๆกันมี F-16 ปัจจุบันมีการใช้งานอยู่เยอะที่สุด และเริ่มใช้งานเมื่อปี พ.ศ.2531
และลำสุดท้ายเป็นเครื่องบิน Gripen เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดของกองทัพอากาศ เริ่มใช้งานเมื่อปีพ.ศ.2555
นอกจากเครื่องบิน นิทรรศการเกี่ยวกับนักบินก็มีครับ เริ่มจาก ชุดเครื่องแบบนักบินในยุคแรกๆของบ้านเรา
แต่...เวลาผมหมดเท่านี้ครับ...ไว้วันหลังไปจะคว้ากล้องจัดเต็มกว่านี้แน่นอน...
ที่นี่พูดเลยว่ามีอะไรมากกว่าเครื่องบินที่จอดนิ่งๆ....หลายวีรกรรมของทหารไทย หรือเรื่องราวเบื้องหลัง ความเป็นมาเป็นไป หรือแม้กระทั้ง สิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้...มาดูได้ที่นี่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศที่เดียวเท่านั้นครับ!
และชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ....มาได้บ่อยๆครับ55