ลองเสียเวลาอ่านสักนิดนะคะ ถ้าคุณคิดว่าชีวิตนี้คุณลำบาก เราเองเด็ดยุค 90 คะ
เดี่ยวนี้เราเห็นส่วนมากพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบสบายอยากได้อะไรก็ได้
จนไม่รักษาของ ใช้ของแบบไม่ห่วงของกัน ไม่ค่อยรู้จักช่วยตัวเอง ไม่อดทนกับการรอคอย
จนเราเองต้องขอบคุณแม่ที่เลี้ยงเรามาแบบให้อดออมในสิ่งที่อยากได้ ให้รู้จักรช่วยตัวเอง(แม่เราคือ Super Mom) ก่อนอื่น จขกท. ต้องขอเกริ่นชิวิตครบครัวสักนิดนะคะ เพราะแม่เราต้องขายของหารายได้เพราะท่านเป็นหลักของครอบครัว แม่เรามีลูก 3 คน ซึ่งพ่อกับแม่เราแยกทางกัน ตั้งแต่ เรา เข้า ป.1 ต้องบอกว่าตอนที่พ่ออยู่ด้วยครอบครัวเราเรียกว่ามีกินมีใช้เลยว่าได้เพราะพ่อเราออกเรือทะเล รายได้ต่อวันก็เยอะอยู่พอควร เรียน อนุบาลเราเรียนเอกชน จนจบ ป.1 แต่พอพ่อเลิกกับแม่ พ่อไม่ให้อะไรแม่เราเลยแม้แต่เสื้อผ้า เราทั้ง 2 คนแม่ มีเสื้อผ้าติดตัวออกมาแค่คนละชุดเท่านั้น แต่แม่ก็มีเงินเก็บที่พอจะตั้งตัวได้เล็กน้อย แม่เลี้ยงเรามาคนเดียวแต่เราไม่เคยคิดว่าเราขาดเลยคะ และถ้าเราไม่บอกว่าพ่อแม่เราแยกทางกันไม่มีใครมองเราออกเลยคะ ว่าเรามีปมด้อย จนบางครั้ง เราบอกคุณครูที่ รร. ว่า เราไม่มีพ่อ ครูบางคนถึงกับตกใจคะ ว่าจริงหรือครูแทบมองไม่ออกเลย เพราะด้วยความเราเป็นเด็กร่าเริงด้วยแหละ
(ช่วงแรก 4-5 เดือน พี่ชายยังอยู่กับพ่อเรา แต่ช่วงหลังพี่ชายเราเขาแอบออกมาอยู่กับแม่) ชีวิตเราเลยต้องช่วยแม่แบ่งเบาภาระตั้งแต่เด็ก
1.เราต้องตื่นเช้าขึ้นรถรับส่งเองตั้งแต่ ป.1
2.สอนให้หุ้งข้าวเอง ล้างจาน ตั้งแต่ ป.2 เพราะแม่ต้องไปขายของ
3.ซักผ้า ซักถุงเท้า รีดผ้าเอง เพราะแม่บอกว่าถ้าซักสะอาดก็มีคนชมเองเพราะเราผ้าซักเอง แต่ถ้าซักไม่สะอาดเราใส่เองเราก็จะอายเอง เพราะไม่สะอาด
4.เราเริ่มนั่งรถไปกลับเองตอนอยู่ ป.4 ถือว่าไกลนะ ต้องนั่งรถสองต่อ จากบ้านกับโรงเรียนห่างกัน ประมาณ 13 กิโล
5.หากอยากได้อะไร แม่เราขายของในตลาด นึกออกไหมถ้าใครลูกแม่ค้าก้จะรู้นะคะ ก็จะมีคนหามาให้ผ่อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ชุดนักเรียน คือมีทุกอย่างอะคะ เลือกเอา วันละ 10-50 บาท ก็ว่ากันไป เราก็ต้องทำงานรับจ้างล้างจานเองเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่อนของที่อยากได้อยากใช้เอง แต่บางอย่างแม่เขาก็ซื้อให้ (แต่ไม่ใช่ของเล่นลูกอมขนมอันนี้ตัดไปได้เลย) รับจ้างล้างจานนี้ของป้าร้านตรงข้ามที่ขายข้าวแกง เราจะล้างในวันที่ไม่มีการบ้านนะคะ
(วันละ50 บาทคะ) เพราะต้องไปล้างของให้แม่ต่อ ที่บ้าน
6.ช่วงเวลาเราเรียน ปฐม มธัยม เช้าเราต้องรีบตื่น ต้องตื่น ตี 5.30 ทุกวันเพื่อมาช่วยแม่เตรียมของ เพื่อไปขาย ก่อนไป รร.กลับจาก รร.ต้องไปหาแม่และทำการบ้านตรงนั้น เพื่อ 2 ทุ่ม เก็บร้านแลัวไปล้างจานต่อ เราไม่เคยจะได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆนะ หรือแม้แต่ดูการ์ตูน เพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียวที่จะช่วยแม่ได้ (พี่ชายคนโตใฝ่ฝันเป็นวิศวกร เรียนที่พระจุลจอมเกล้าให้ได้ เขาขจึงย้ายไปอยู่กับน้าเพื่อไปเรียนที่ กทม. ส่วนพี่ชายคนกลางเรา"เกเรสุด" ไม่เรียน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น)
7.เราเรียนปฐม เกรดดี ตลอด เข้า มัธยมก็มี ปานกลางบ้าง เพราะจะติดเพื่อน ติดเล่นบ้าง แต่ไม่เคยเดือนร้อนแม่เลย ไม่เคยสร้างเรื่อง ไม่เคยนอกลู่นอกทาง อันนี้แม่เตือนตลอดว่า แม่ไม่มีเงินทองมากองให้มีแต่วิชาความรู้ที่แม่ส่งเรียนรับได้เท่าไรเก็บได้เท่าไรก็อยู่ที่ตัวเรา(อันนี้เราจำขึ้นใจจริงๆ)
8.เข้า มหาลัย แม่จะส่งให้แค่ เดือนละ 6000 บาท จ่ายค่าหอ 2000 จ่ายค่ากินแค่อาทตยืละ 1000 เท่านั้น นอกนั้น ต้องหาเอง (ค่าเทอมเรากู้เอานะ)
9.ตั้งแต่จบมา ไม่เคยแบมือขอเงินแม่เลย เราเรียนจบ เมษา 2555 พฤศภาคม 2555 เรามีงานทำ เรียกได้ว่า จบปีปทำงานปั๊ป ไม่มีช่วงว่างที่จะพักก่อนเรียนมาเหนื่อย สำหรับเราไม่มีเลย เราคิดแค่ว่าเราจะไม่ให้แม่ลำบากเลย
จนตอนนี้ พี่ชายเราก็เปนวิศวกรสมดังใจ แม่ภูมิใจกับคนนี้สุดๆ เราเองก็จบคหกรมม ธรรมดา ส่วนพี่ชายคนกลางก็ตามเดิมเรียนไม่จบทำงานไม่อดทนบอกเหนื่อย ลำบาก (เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาคิดได้คะ มีลูกแล้วด้วยตอนนี้ลูกก็ 13 แล้วคะยังคิดไม่ได้) อย่างว่าละเนอะเขาว่าต้องมีบ้างครอบครัวละ 1 คน
นี่ก็เป็นเพียงส่วนนึงของเรา เพื่อนๆน้องๆคนไหนที่ท้อ ลองนึกถึงพ่อแม่นะคะ ว่าเขาลำบากแค่ไหนที่เลี้ยงเรามากว่าจะโต เรามีจุดพีคที่เจอคนใจร้ายทำให้เราจนเกือบกลายไปเป็นเด็กมีปัญหา แต่มันก็ยังมีปม ในใจเราจนถึงทุกวันนี้คะ เพียงแค่ ผช เลวๆคนนึง
เพื่อนๆพี่ๆคนไหน อยากแชร์เรื่องราว ก็เล่าให้เราฟังนะคะ เราคิดว่าคงมีคนลำบากกว่าเราอีกเยอะ เราก็อยากอ่านเรื่องราวคนอื่นเหมือนกันนะคะ
ปล.หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ
ชีวิตนี้คุ้มแล้วที่เกิดมาได้เจอแม่คนนี้ของเรา เราว่าเด็กเดี่ยวนี้พ่อแม่เขาเลี้ยงสบายนะ ทุกคนว่าไงคะ
เดี่ยวนี้เราเห็นส่วนมากพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบสบายอยากได้อะไรก็ได้
จนไม่รักษาของ ใช้ของแบบไม่ห่วงของกัน ไม่ค่อยรู้จักช่วยตัวเอง ไม่อดทนกับการรอคอย
จนเราเองต้องขอบคุณแม่ที่เลี้ยงเรามาแบบให้อดออมในสิ่งที่อยากได้ ให้รู้จักรช่วยตัวเอง(แม่เราคือ Super Mom) ก่อนอื่น จขกท. ต้องขอเกริ่นชิวิตครบครัวสักนิดนะคะ เพราะแม่เราต้องขายของหารายได้เพราะท่านเป็นหลักของครอบครัว แม่เรามีลูก 3 คน ซึ่งพ่อกับแม่เราแยกทางกัน ตั้งแต่ เรา เข้า ป.1 ต้องบอกว่าตอนที่พ่ออยู่ด้วยครอบครัวเราเรียกว่ามีกินมีใช้เลยว่าได้เพราะพ่อเราออกเรือทะเล รายได้ต่อวันก็เยอะอยู่พอควร เรียน อนุบาลเราเรียนเอกชน จนจบ ป.1 แต่พอพ่อเลิกกับแม่ พ่อไม่ให้อะไรแม่เราเลยแม้แต่เสื้อผ้า เราทั้ง 2 คนแม่ มีเสื้อผ้าติดตัวออกมาแค่คนละชุดเท่านั้น แต่แม่ก็มีเงินเก็บที่พอจะตั้งตัวได้เล็กน้อย แม่เลี้ยงเรามาคนเดียวแต่เราไม่เคยคิดว่าเราขาดเลยคะ และถ้าเราไม่บอกว่าพ่อแม่เราแยกทางกันไม่มีใครมองเราออกเลยคะ ว่าเรามีปมด้อย จนบางครั้ง เราบอกคุณครูที่ รร. ว่า เราไม่มีพ่อ ครูบางคนถึงกับตกใจคะ ว่าจริงหรือครูแทบมองไม่ออกเลย เพราะด้วยความเราเป็นเด็กร่าเริงด้วยแหละ
(ช่วงแรก 4-5 เดือน พี่ชายยังอยู่กับพ่อเรา แต่ช่วงหลังพี่ชายเราเขาแอบออกมาอยู่กับแม่) ชีวิตเราเลยต้องช่วยแม่แบ่งเบาภาระตั้งแต่เด็ก
1.เราต้องตื่นเช้าขึ้นรถรับส่งเองตั้งแต่ ป.1
2.สอนให้หุ้งข้าวเอง ล้างจาน ตั้งแต่ ป.2 เพราะแม่ต้องไปขายของ
3.ซักผ้า ซักถุงเท้า รีดผ้าเอง เพราะแม่บอกว่าถ้าซักสะอาดก็มีคนชมเองเพราะเราผ้าซักเอง แต่ถ้าซักไม่สะอาดเราใส่เองเราก็จะอายเอง เพราะไม่สะอาด
4.เราเริ่มนั่งรถไปกลับเองตอนอยู่ ป.4 ถือว่าไกลนะ ต้องนั่งรถสองต่อ จากบ้านกับโรงเรียนห่างกัน ประมาณ 13 กิโล
5.หากอยากได้อะไร แม่เราขายของในตลาด นึกออกไหมถ้าใครลูกแม่ค้าก้จะรู้นะคะ ก็จะมีคนหามาให้ผ่อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ชุดนักเรียน คือมีทุกอย่างอะคะ เลือกเอา วันละ 10-50 บาท ก็ว่ากันไป เราก็ต้องทำงานรับจ้างล้างจานเองเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่อนของที่อยากได้อยากใช้เอง แต่บางอย่างแม่เขาก็ซื้อให้ (แต่ไม่ใช่ของเล่นลูกอมขนมอันนี้ตัดไปได้เลย) รับจ้างล้างจานนี้ของป้าร้านตรงข้ามที่ขายข้าวแกง เราจะล้างในวันที่ไม่มีการบ้านนะคะ
(วันละ50 บาทคะ) เพราะต้องไปล้างของให้แม่ต่อ ที่บ้าน
6.ช่วงเวลาเราเรียน ปฐม มธัยม เช้าเราต้องรีบตื่น ต้องตื่น ตี 5.30 ทุกวันเพื่อมาช่วยแม่เตรียมของ เพื่อไปขาย ก่อนไป รร.กลับจาก รร.ต้องไปหาแม่และทำการบ้านตรงนั้น เพื่อ 2 ทุ่ม เก็บร้านแลัวไปล้างจานต่อ เราไม่เคยจะได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆนะ หรือแม้แต่ดูการ์ตูน เพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียวที่จะช่วยแม่ได้ (พี่ชายคนโตใฝ่ฝันเป็นวิศวกร เรียนที่พระจุลจอมเกล้าให้ได้ เขาขจึงย้ายไปอยู่กับน้าเพื่อไปเรียนที่ กทม. ส่วนพี่ชายคนกลางเรา"เกเรสุด" ไม่เรียน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น)
7.เราเรียนปฐม เกรดดี ตลอด เข้า มัธยมก็มี ปานกลางบ้าง เพราะจะติดเพื่อน ติดเล่นบ้าง แต่ไม่เคยเดือนร้อนแม่เลย ไม่เคยสร้างเรื่อง ไม่เคยนอกลู่นอกทาง อันนี้แม่เตือนตลอดว่า แม่ไม่มีเงินทองมากองให้มีแต่วิชาความรู้ที่แม่ส่งเรียนรับได้เท่าไรเก็บได้เท่าไรก็อยู่ที่ตัวเรา(อันนี้เราจำขึ้นใจจริงๆ)
8.เข้า มหาลัย แม่จะส่งให้แค่ เดือนละ 6000 บาท จ่ายค่าหอ 2000 จ่ายค่ากินแค่อาทตยืละ 1000 เท่านั้น นอกนั้น ต้องหาเอง (ค่าเทอมเรากู้เอานะ)
9.ตั้งแต่จบมา ไม่เคยแบมือขอเงินแม่เลย เราเรียนจบ เมษา 2555 พฤศภาคม 2555 เรามีงานทำ เรียกได้ว่า จบปีปทำงานปั๊ป ไม่มีช่วงว่างที่จะพักก่อนเรียนมาเหนื่อย สำหรับเราไม่มีเลย เราคิดแค่ว่าเราจะไม่ให้แม่ลำบากเลย
จนตอนนี้ พี่ชายเราก็เปนวิศวกรสมดังใจ แม่ภูมิใจกับคนนี้สุดๆ เราเองก็จบคหกรมม ธรรมดา ส่วนพี่ชายคนกลางก็ตามเดิมเรียนไม่จบทำงานไม่อดทนบอกเหนื่อย ลำบาก (เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาคิดได้คะ มีลูกแล้วด้วยตอนนี้ลูกก็ 13 แล้วคะยังคิดไม่ได้) อย่างว่าละเนอะเขาว่าต้องมีบ้างครอบครัวละ 1 คน
นี่ก็เป็นเพียงส่วนนึงของเรา เพื่อนๆน้องๆคนไหนที่ท้อ ลองนึกถึงพ่อแม่นะคะ ว่าเขาลำบากแค่ไหนที่เลี้ยงเรามากว่าจะโต เรามีจุดพีคที่เจอคนใจร้ายทำให้เราจนเกือบกลายไปเป็นเด็กมีปัญหา แต่มันก็ยังมีปม ในใจเราจนถึงทุกวันนี้คะ เพียงแค่ ผช เลวๆคนนึง
เพื่อนๆพี่ๆคนไหน อยากแชร์เรื่องราว ก็เล่าให้เราฟังนะคะ เราคิดว่าคงมีคนลำบากกว่าเราอีกเยอะ เราก็อยากอ่านเรื่องราวคนอื่นเหมือนกันนะคะ
ปล.หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ