The Disaster Artist ว่าที่หนังรางวัลออสการ์สายฮาแห่งปีของ เจมส์ ฟรังโก


      รางวัลออสการ์สายฮา? ใช่แล้วคุณฟังไม่ผิดหรอก เพราะนี่จะมาทุบรายได้ box office แซงหน้าหนังตลกที่เคยมีมาก่อน ประเดิมด้วย
ทีเซอร์แรก ฉากโผล่ดาดฟ้า ล้อฉากดัง Oh Hi Markในหนัง The Room ซึ่งได้กระแสตอบรับไปถล่มทลายตอนฉายในเทศกาล SXSW 2017

ฮาแค่ไหน ดูตัวอย่าง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

      หากจะเอาไปพูดกัน The Disaster Artist  คงไม่มีใครรู้จักแต่ถ้าพูดถึงเรื่อง The room (2003) ทุกคนคงร้องอ๋อทันที เพราะนี่คือหนังที่แย่ที่สุดในโลก และไม่มีหนังเรื่องไหนที่ทำได้แย่เท่าเรื่องนี้มาก่อน  แต่ใครจะคิดละว่า หนังแย่ๆแบบนี้กลับมีคนมาทำใหม่โดย ตีแผ่เบื้องลึก เบื้องหลังของหนังสุดยอดบรมห่วยของ Tommy Wiseau กับนักแสดงในเรื่อง ที่รับประกันความฮา งง เอ๋อและเพี้ยนไปตามๆกัน  เรื่องนี้นำแสดงโดย James Franco รับบทเป็น Johny และ Dave Franco รับบทเป็น Mark และมีนักแสดงสมทบอีกมากมาย Seth Rogan, Zac Efron,Josh Hutcherson  และเหล่าตัวละครที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะกับหนังซ้อนหนังที่มีชื่อว่า The disaster artist หนังที่บอกเล่าเรื่องและที่มาก่อนจะเป็น The room (2003) หนังที่สุดแห่งปี

เกริ่นนำ
บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก The room เรามาทำความรู้จักกับหนังเรื่องนี้ให้มากขึ้นดีกว่า
The Room เป็นเรื่องเกี่ยวกับรักสามเศร้าของ Johnny, Lisa และ Mark โดยที่ Mark เป็นเพื่อนสนิทของ Johnyแต่ดันไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ Lisa โดยที่ johny ไม่รู้ เห็นเนื้อเรื่องง่ายๆและดูไม่มีอะไร แต่หารู้ไม่เป็นรักสามเศร้าที่จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่

บทจะเครียดก็เครียด พอดูไปดูมาเอ้า ดีกันซะอย่างนั้น คือ ไปเปลี่ยนอารมณ์ตอนไหน คือ ตามไม่ทัน…
หรือบทบางบทมันดูขัดแย้ง มันดูเชยและมันดูตลกมากถึงมากที่สุด...


ตัวอย่าง scene ในตำนาน นี่คือสุดยอด scene ที่ดูยังไง๊  ยังไงอารมณ์ในการพูดมันก็ตายด้านสุดๆ ซึ่งมันควรต้องพูดด้วยอารมณ์โกรธในความเป็นจริง แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือพูดเสร็จ ก็เปลี่ยนอารมณ์ไปสวัสดีเพื่อนเฉยๆเหมือนฉากก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Johnny: I did not hit her, it's not true! It's ยิ้ม! I did not hit her! I did not… Oh hi, Mark.

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หรือบทพูดที่เหมือนจะด่า แต่ทำไมฟังแล้วฮา อย่างฉากที่ johny ด่า mark
Johnny: You betrayed me! You're not good. You, you're just a chicken. Chip-chip-chip!!! (chicken noise).

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หรือวลีฮิตอย่าง
Johnny: YOU ARE TEARING ME APART, LISA!

Johnny:  ... Anyway, how is your sex life?

Johnny: Lisa, TALK to me, PLEASE!

Johnny: YOU BITCH! YOU BITCH! YOU BITCH!
หากใครจะเรียนรู้คำสวยงามที่ได้จากหนัง ขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่าไม่มีเลย มีแต่คำง่ายๆที่ไม่ได้ถูกดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น

หรือฉากดราม่าแต่ตลกซะงั้น
Johnny: Are you okay, Denny?
Denny: I'm okay.
Johnny: Are you *okay*?
Denny: I'm okay!
Claudette : What's okay? He's taking drugs.

หรือฉากหวานๆ แต่กลับจืดชืดและตลกสุดๆ
Lisa: I miss you, Mark.
Mark: What are you talking about? I just saw you!

ฉากเศร้าเสียใจ แต่ไม่ได้ทำให้คนดูอินไปกับบทพูดของเค้าเลย
Johnny: I'm tired, I'm wasted... I love you, darling!

Johnny: Everybody betrayed me! I'm fed up with this world!

ต้องบอกก่อนเลยว่าบทที่เป็นอย่างนี้เพราะ
        Tommy Wiseau เขียนบทเอง โปรดิวซ์เอง กำกับเอง และแสดงนำเอง ซึ่งแรงบันดาลใจเกิดจากเขาได้ดูหนังเรื่องหนึ่งของ Matt Damon แล้วเกิดชอบจนอยากมีหนังเป็นของตัวเองบ้าง ย้ำว่าเรื่องเดียวจริงๆ และนั่นก็ทำให้ไฟในการทำหนังของเขาลุกโชติช่วงเขาพยายามเขียนหนังและนำเสนอหนังในรูปแบบของเค้า และอยากจะลองแสดงในหนังสักครั้ง    แต่ใครจะเชื่อว่าในการถ่ายทำหนังของเค้านั้น ยากลำบากสุดๆ เพราะตัว Tommy ไม่เคยแสดงหนังมาก่อน ไม่มีความรู้เรื่องการสื่ออารมณ์ อารมณ์ของเขาจึงเป็นอย่างที่เห็นในหนัง ส่วนนักแสดงสมทบที่หามาก็เป็นนักแสดงไร้สังกัด ไร้ค่าย ไม่มีใครรู้จัก ก็ทำให้หนังเรื่องนี้หมดความน่าสนใจ

        ยิ่งตัว Tommy เขาไม่เคยจะจำบทพูดในหนังได้ บางฉากเขาต้องให้ทีมงานเขียนบทไว้บนกระดาษเพื่อให้เขาอ่าน และสั่งเทคใหม่กว่า 30 40 รอบในฉากเดียว แต่เชื่อไหมว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ได้ใช้เสียงตอนถ่ายหรอก เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็มาอัดเสียงแยกและใส่ใหม่เข้าไปอีกที ความไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยของtommy ท้ายที่สุดแล้วก็ได้ออกมาเป็นหนังเรื่องนึงที่ออกฉายด้วยความพยายามของตัว Tommy เอง และหนังก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบมากกว่าแง่บวก และนั่นก็เป็นที่มาของหนังแย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ใครจะไปรู้ล่ะว่าสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นกลับมีคนนำเสนอมุมมองอีกด้านว่ามันเป็นความแปลกใหม่ที่เราไม่เคยเจอในวงการหนังมาก่อน!!

ทำไมถึงสร้างหนัง Disaster artist
จุดเริ่มต้นเลยก็คือ เจมส์ ฟรังโกถูกใจกับหนังสือชื่อ The Disaster Artist: My Life Inside The Room, the Greatest Bad Movie Ever Made ที่เขียนขึ้นโดย Greg Sestero หนึ่งในนักแสดงหลักของ the room บอกเล่าเรื่องราวของเขากับ tom wiseau ในระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ที่เรียกได้ว่า แปลกและเพี้ยน


เนื้อหาหลักๆเป็นการกล่าวพาดพิงถึง Tom Wisaeu เป็นส่วนใหญ่ ทั้งเรื่องบุคลิก ลักษณะการแต่งตัวดังคำกล่าวที่ว่า
“ทุกคนไม่สามารถละสายตากจากชายผู้นี้ได้เลย และผมก็ไม่สามารถละสายตาจากเค้าเช่นกัน... ชายผู้สวมแว่นกันแดดสีดำ หนาเตอะ สวมเสื้อสีดำพร้อมสูทตัวใหญ่ที่ดูขัดๆกับกางเกงขายาวหลวมๆสีคล้ายกระดาษทรายที่มักจะใส่คู่กับรองเท้าคอมแบทคู่โปรด  และที่ขาดไม่ได้เลยคือเข็มขัดสองอัน อันนึงเอาไว้รัดกางเกงทำหน้าที่เข็มขัดตามประสาของมันและอีกอันเอาไว้ด้านล่างถัดจากด้านบน....เพื่อ? และก่อนเข้าฉากเค้าจะต้องset ผมดำๆ หยิกๆของเขาให้เปียกอยู่เสมอ”- Greg Sestero กล่าว



ในรูปเจมส์ ฟรังโกถอดแบบทอมมาเป๊ะๆ


รวมไปถึงความคิดเห็นของเค้าที่ขัดแย้งตั้งแต่คาแรกเตอร์ตัวละคร รวมไปถึงบทละครที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย
“The room เป็นหนังที่บทมันไม่ได้ make sense เอาสักนิดหรือคาแรกเตอร์ของตัวละครที่ feeling เปลี่ยนอารมณ์ไปแบบดื้อๆ หรือแม้แต่อารมณ์ของหนังทั้งขึ้นและลงอย่างกับหนังคนที่ไม่เคยดูหนังมาก่อน เหมือนกับหนังของเอเลี่ยน”


และที่ดูขัดสุดๆก็คือความไม่เข้ากันของ tommy และ greg ซึ่ง greg ที่ดูหนุ่มกว่าทั้งสูง  ทั้งหุ่นดีและมี ใบหน้าที่หล่อเหลาเหาะกับผมสีบลอนด์น้ำตาลที่ชวนหลงใหลเหลือเกิน ส่วนอีกคนคือ..........

แต่ยังไง Tommy ก็เป็นอีกบุคคลนึงที่มองโลกในแง่ดีเรื่องความรัก และนี่ก็เป็นอีก quote นึงที่แสดงถึงตัวตนเค้า
“You love somebody. Do you? What is love? You think you have everything, but you don’t have anything you have. You have to have hope and spirit. Be an optimist but can you handle all your human behavior or other’s behavior? You don’t want to be good, but great!!”

หลายต่อหลายฉากที่ tom นำเสนอถึงความอดทนของผู้ชายคนนึงที่มีต่อผู้หญิงสาวที่ตนรัก ถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายหมายปองอยู่เสมอ
Denny: I gotta tell you something.
Johnny: Shoot, Denny.
Denny: It's about Lisa.
Johnny: Go on.
Denny: She's beautiful. She looks great in her red dress. I think I'm in love with her.
Johnny: Go on...

หรือฉากที่ Dennyแสดงถึงความหลงใหลในตัว lisa แต่ lisa กลับคิดได้แค่น้อง
Denny: Can I kiss you?
Lisa: You are such a little brat!
Denny: I was just kidding! I love you and Johnny!

แต่อย่างน้อยก็มีคนจดจำว่า
“The Room is a drama that is also a comedy that is also an existential cry for help that is finally a testament to human endurance.” - Greg Sestero, The Disaster Artist: My Life Inside The Room, the Greatest Bad Movie Ever Made

ปิดท้ายด้วย คลิปรวมซีนที่ฮาที่สุด สำหรับคนที่ไม่อยากดูหนังเต็มเรื่อง แค่นี้ก็รับประกันความเหวอของเรื่องได้พอตัว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



The Disaster Artist จะเข้าฉายในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 ดิฉันเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เรารักผู้กำกับหนังคนนี้และรักเจมส์ ฟรังโกผู้ที่นำเสนอเรื่องราวดีๆผ่านแผ่นฟิลม์ให้ทุกคนได้ชม  รอดูเลยค่ะ...

Cr.http://www.catdumb.com/i-did-naaaht-oh-hi-mark-044/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่