JAPAN TRIP JULY 2017

สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวpantipทุกคน อย่างที่หัวข้อบอกเลยค่ะ กระทู้นี้จะเป็นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นนะคร้าา นักกิน นักเที่ยว นักช้อป และที่สำคัญเพื่อนๆที่กำลังวางแผนจะไปญี่ปุ่น ช่วยติดตามทริปเค้าด้วยน้าาา ส่วนตัวแล้วเรามาเที่ยวญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อย ถึงกับเป็นประเทศสุดที่รักเลยค่ะ ทุกครั้งที่มาเที่ยวที่นี่เรามีความรู้สึกประทับใจทุกครั้ง คราวนี้ก็เลยตัดสินใจมาตั้งกระทู้เพื่อแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเราให้เพื่อนๆได้ชมกัน เราจะเขียนทุกอย่างตั้งแต่ ที่พัก ที่ช้อปปิ้ง ร้านกินเด็ดๆ รีวิวขนมดังๆของญี่ปุ่น ของที่น่าซื้อฝาก และ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป หวังว่าจะชอบกันนะคร้าา ถ้ามีคำถาม หรือ ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติ่ม comment มาด้านล่างเลยคร้าา หรือใครมีสถานที่อยากจะแนะนำก็มาแชร์กันเลยคร้าา ><

ใน Japan Trip July 2017 นี้นะคะ เรามาเที่ยวกับครอบครัว พอดีตอนนี้ปิดเทอม (เราเรียนมหาลัยอยู่ที่อังกฤษน้าา สอบเสร็จขอเที่ยวนิสสนึงงงเนอะ)ในทริป 10 วันนี้ก็มีplanไป sapporo, hokkaido และ osaka ค่ะ แค่พูดชื่อเมืองก็ตื่นเต้นแล้ววว ><

วันที่1: เราบินตรงจาก bangkok มาที่ sapporo โดยการบินไทย ใช้เวลาประมาณ 7ชม.ค่ะ




วันที่2: บินมาถึงญี่ปุ่นตอนเช้า จากนั้นก็นั่งรถไฟมาที่สถานี sapporo ซึ่งเดินถึงโรงแรมที่พักได้ โรงแรมที่พักครั้งนี้ชื่อ Century Royal hotel


มาฝากกระเป๋าเดินทางที่โรงแรมกันก่อน แล้วนั่งtaxi ไป Nijo market ไปทานอาหารกลางวันกันคร้าา ร้านที่ทานชื่อ Ohiso ถือว่าดังมากในระดับนึงเลยค่ะ


ไปดูเมนูที่สั่งกันเลยดีกว่าา ...

ข้าวหน้าปลาแซลมอน และ ไข่ปลาแซลมอน อร่อยยยมากกๆ มันหวานแบบธรรมชาติ และสดมากๆไม่คาวสักนิด


ข้าวหน้า Uni ก็ให้เยอะมากก ฟินเว่อออร์ ใครชอบ Uni แนะนำให้มาลองค่ะ


มีแบบไข่ปลากับ Uni ด้วยน้าาา

ยังไม่หมด^^ มี grilled scallop ด้วยคร้าา


และอีกอย่างที่ประทับใจมากๆ นี่เลยคร้าา Otoro คือหอมหวาน กัดไปนี่แทบละลายบนลิ้น ดีไปอีกก จานเดียวไม่พอ ต้องสั่งเพิ่ม (ก็มันไม่อ้วนนิ 55555)


อิ่มสุดๆไปเลยกับมื้อนี้ เดินเล่นที่ตลาดสักพัก แล้วนั่ง taxi กลับไปโรงแรมเพื่อเตรียมตัวไปทานมื้อเย็นสุดหรูที่ร้านอาหาร ระดับ Michelin

เรามาดูด้านในโรงแรมกันดีกว่าคร้าา ^^

ภาพด้านล่างนี้คือวิวจากห้องนอน คือสวยมากกกก ผ้าม่านเป็นระบบauto ใช้รีโมทเปิดปิด ชอบมากค่ะ สะดวกดี


ห้องนอนเป็น 2 เตียงค่ะ เรียบง่าย ดูสะดวกสบาย มีเก้าอี้นวดด้วยค่ะ เดินเหนื่อยๆก็มานั่งนวดได้ อิอิ ห้องนอนเป็นกระจกใสๆกั้นจากตัว living room ค่ะ


ส่วนห้องน้ำนะคะก็กว้างมาก แยกชักโครก แยกห้องแต่งตัว และห้องอาบน้ำ มีอ่างแช่และดูวิวไปพร้อมๆกันได้ด้วยค่ะ




ที่ชอบมากอีกอย่างของญี่ปุ่นคือทางโรงแรมเค้าให้ครีมอาบน้ำ สระผม หวี ทุกๆอย่างพร้อมมาก ปกติที่อื่นเค้าก็มีให้เนอะ แต่ที่นี่มีที่streamหน้าด้วยคร้าา และไดร์เป่าผมมีแบบเป่าธรรมดา แบบหวีตรง และแบบม้วน เก๋ไปอีกก


หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็จองtaxiมารับไปร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่เคยมาที่ร้านอาหารแห่งนี้แล้วประทับใจมาก คราวนี้เลยพาลูกๆมาด้วย ดีเน้อออ ><

ร้านอาหารชื่อว่า Moliére เป็นร้านอาหารฝรั่งเศษ ซึ่งได้รับ 3 Michelin star แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆค่ะ


สำหรับคอร์สที่เลือกนะคะเป็น ¥12,400 ต่อท่าน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ มาดูอาหารกันดีกว่า (เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆนะคะ)

จานแรกนะคะ เป็น onion tart (Tarte à l'oignon) คือแบบอร่อยมากๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว ไส้จะเยิ้มๆ ร้อนๆ กลิ่นหอมonionมาก และตัว pastry กรอบมากก ชอบทุกอย่าง ยกเว้นน... มันเล็กไปอ่ะ 5555


น้ำที่สั่งเป็น rose sparkling grape juice นะคะ หอมดีชอบ

ต่อมาเป็น Gazpacho ค่ะ อันนี้เป็นซุปทำมาจากผัก serve แบบเย็น มาในถ้วยกาแฟเล็กๆ ซึ่งวิธีกิน ก็คือต้องซดกินแบบกาแฟเลยค่ะ รสชาติมันจะเป็นแบบซุปมะเขือเทศ แต่คือปรุงเก่งมากกอ่ะ รสกลมกล่อมมาก


ถ่ายขนมปังทำไม???? 5555 คือจะบอกว่ามันเป็นขนมปังที่อร่อยมากอีกเช่นกัน serve ร้อนแบบเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ควันขึ้นเลย ตัวขนมปังนุ่มมากค่ะ ส่วนด้านนอกกรอบมาก พยายามกินไม่ให้เลอะแล้วนะ แต่เลอะอยู่ดี 5555 อายจังง


ต่อมาเป็น Gnocchi ค่ะ ซึ่งทำจาก potato คือแบบไม่คิดว่าอาหารธรรมดาแบบนี้จะทำได้อร่อยขนาดนี้ มันนุ่มนิ่มมาก ละรสชาติเบาๆนุ่มๆ ไม่จัดจ้านน


เมนูต่อไปชอบมากก เป็น hotate scallop (La coquille saint j acques) ทำแบบ tempura คือมันกรอบนอก และด้านในตัว scallop ยังคงความนุ่มและหอมหวานอยู่ serveบนกิ่งไม้ น่าร้ากกก


อย่าเพิ่งอิ่มมน้า ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย 5555 อันนี้คือ present มาดีมาก เป็น vegetable salad (Les lé gumes) พิเศษตรงที่ว่า บนจานนี้มีผักทั้งหมดอยู่ 25 ชนิด เลิศไปอีก ถ่ายรูปเสร็จ พนักงานก็จะค่อยๆ guide วิธีทาน ว่าจะต้องผสมส่วนตรงกลางเข้าด้วยกันและ ค่อยผสม sauce 3 ชนิดด้านรอบๆเข้าไป โดยไม่ควรผสมไปมาเกิน3ครั้ง เพราะผักจะช้ำได้ค่ะ


ทานผักแล้ว มาต่อที่ protein กันบ้างง ตอนแรกตกใจ เอากุ้งดิบมาทำไม อ่อ เค้าเอามาโชว์ว่ามันยังเป็นๆอยู่แล้วค่อยเอาไปต้มค่ะ


เมนู hokkaisima ebi นี้กุ้งสีส้มสวยมากเลย ค่ะ เค้าให้เราแกะเองโดยใช้มือ และจะมีผ้าเปียกวางให้ด้านข้าง กุ้งเนื้อสด และหอมหวานมากๆค่ะ limit แค่คนละ3ตัว เท่านั้นนน ว้าาาาา


อาหารยังไม่หมดๆ นี่คือความ Michelin ของแท้ 55555  จานถัดมานะคะเรียกว่า Greenling (La bouillabaisse à la Moliére) เป็นเมนูปลาค่ะ ทานไปครึ่งตัวละเค้าก็มา serve risotto ลงไปในจาน คือส่วนตัวเป็นคนชอบ risotto อยู่แล้ว ไปไหนก็ต้องสั่ง ละอันนี้คือเด็ดมากก รสชาติกลมกล่อม ปลาสดมากค่ะ ไม่มีความคาวเลย และทานคู่กับตัวrisottoซึ่งทำได้ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป อร่อย และเข้ากันได้ดีมากเลย



ก่อนจะไปถึง main course ก็มี Pear and tea sorbet (Trou Normande) เพื่อล้างปาก คือชอบที่แบบขนาดเมนูเล็กๆแบบนี้ เค้ายังใส่ใจมาก เค้าให้เราชิมก่อนคำนึง แล้วจากนั้นค่อยๆเทตัว liquor ลงไป ซึ่งให้รสชาติที่เข้ากันมาก มีความหวานผสมรสของเหล้า


Main course มาแล้วคร้าาา!!!


อ่ะล้อเล่นน 5555 หลังจากทุกคนกำลังงงว่า ทำไมมีแต่ผัก พนักงานก็มา serve เนื้อ (สิ่งที่รอคอยยมานานน) สุกในขนาด medium rare  


เมนูนี้ชื่อแบบหรูๆ Le filet  de bœuf คือแบบดีมากเว่อร์ เนื้อสีชมพู นิ่มมากกกก ทานกับ mustard sauce ที่ไม่เผ็ดจนเกินไป  red wine pan sauce และ พริกไท เข้ากันดีมากค่ะ แต่ชิ้นเล็กไปอีกละ 5555 อ้อ มี Potato gratin มาใส่บนจานด้วยหลังจากที่กินไปสักพัก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา มันแบบอร่อยจนหยุดกินไม่ได้ 5555 ประทับใจอันนี้มากเช่นกัน หอมเนยและตัวpotatoไม่เละจนเกินไป ดีงามม

หลังจากmain ก็มี serve เป็น goat cheese (crottin de chavignol) ร้อนๆเยิ้มๆบนขนมปังกรอบๆแผ่นจิ๋ว ส่วนตัวไม่ได้ชอบชีสมาก เลยรู้สึกกลิ่นค่อนข้างแรง และเค็ม แต่ก็ไม่เลี่ยนจนเกินไปค่ะ สำหรับใครที่รักชีสนี่ต้องชอบแน่ๆ


เย่!!! มาถึงขนมหวานแล้วว อันแรกนะคะเป็น lles flottantes หรือว่า Floating island มาในรสกาแฟค่ะ อร่อยเกินบรรยายอ่ะ ตัวเมอแรงเบามาก มีtexture แบบมูสๆที่เบากว่ามูส อร่อยเต็ม10


จากนั้นก็เป็นผลไม้ค่ะ cherry & gooseberry บนแกวเซรามิคสีขาว ส่วนตัวชอบผลไม้ที่ญี่ปุ่นมากๆอยู่แล้ว  และไม่ใช่แค่2อย่างนี้ที่อร่อย แต่ผลไม้หลายๆอย่างอร่อยมากเช่นกันค่ะ


ถัดมาที่เชื่อว่าเป็นของโปรดใครหลายคน เป็นชอคโกแลตคล้ายๆยี่ห้อ Royce แต่อร่อยกว่า อิอิ ข้างในเป็นกรุบๆ ละserveในอุณหภูมิที่แบบไม่แข็งหรือละลายเกินไป อร่อยมากกก แต่ให้คนละชิ้นพอ


อันต่อไปก็ของโปรดเราอีกแล้วว อันนี้ชอบมากกก baumkuchen หรือเค้กขอนไม้นันเองง พนักงานแอบแซวว่าไม่ได้ให้ทั้งก้อนนี้น้าาาา 5555



และในที่สุดก็ขอจบมื้ออาหารดินเนอร์สุดหรูนี้ที่มะเขือเทศเชื่อมในsyrup อร่อยและเป็นการปิดท้ายที่น่าประทับใจมากค่ะ


ขอบคุณมากนะคะที่อ่านจนจบ นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่มเขียนบนพันทิปเลยค่ะ ยังไม่ค่อยชินเท่าไร และเราได้รับ feedback มาว่าให้สร้างเพจบน facebook ดีกว่าค่ะเพราะไม่ใช่ทุกคนมี account pantip จัดให้คร้าาา

Facebook: the story of my life
Www.facebook.com/thestoryofmylifepage

Instagram: @thestoryofmylifepage

ขอบคุณที่ติดตาม เราขอใช้เวลาในการอัพโหลดภาพและเขียนนะคะ เพราะต้องการให้ข้อมูลที่ดีที่สุด ไม่หายไปไหนแน่นอนน ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่