ขาย HD ให้เอไอเอส “ประวิทย์” ผนึก “คุณแดง” ลุย SD ต่อลมหายใจช่อง 3

กระทู้สนทนา
ความล่มสลายในภาพใหญ่ของทีวีดิจิตอล นำมาซี่งการดิ้นรนเฮือกสำคัญของช่อง 3 ในการต่อลมหายใจให้ตัวเอง แม้ว่าอาจจะต้องตัดเนื้อบางส่วนออก เพื่อรักษาชีวิต ก็ต้องทำ !!    
       
           ถ้าพูดกันเฉพาะในเรื่องของต้นทุน ต้องบอกว่าช่อง 3 แบกรับไว้มากที่สุดในบรรดาช่องดิจิตอลทั้งหมด เพราะมีสัมปทานถึง 3 ช่องดิจิตอล คือ 3 HD (ช่อง 33 ) , 3 SD (ช่อง 28) และ 3 Family (ช่อง 13) ดีที่ออกอากาศแบบคู่ขนานควบกับช่อง อะนาล็อกไป 1 ช่อง เท่ากับมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตคอนเทนต์เพิ่มขึ้นอีกแค่ 2 ช่อง
       
           ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้าช่อง 3 จะเปลี่ยนตัวเลขจากขาดทุนเป็นกำไรให้ได้นั้น ในปีหนึ่งๆ จะต้องหารายได้เข้าช่องปีละเท่าไหร่ !!??    
       
           ในขณะที่รายจ่ายสูงขึ้น สวนทางกับรายได้จากค่าโฆษณาที่ลดลง เพราะจากที่เคยรั้งอันดับ 2 ไว้อย่างเหนียวแน่น ก็โดนม้ามืดอย่างเวิร์คพอยท์เตะตัดขา แซงขึ้นไปอยู่อันดับ 2 แทนอย่างทระนงองอาจ และผ่าเผย    
       
           ระยะนี้จึงเป็นระยะที่ช่อง 3 จะต้องดิ้นรนเพื่อหนีตายในสมรภูมิดังกล่าวให้จงได้ นั่นจึงเป็นที่มาของการเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่ อย่างเอไอเอส เข้ามาประคับประคองในเรื่องสถานภาพทางการเงิน และเป็นผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จของช่อง 3 HD. ไว้ทั้งหมด อาจจะมีเพียง “คุณประชุม มาลีนนท์” ที่ยังรั้งตำแหน่งใหญ่ไว้ เพื่อกันครหาว่าช่อง 3 โดนนายทุนใหญ่ฮุบ
       
           เรื่องนี้มองว่า Win- Win ทั้ง 2 ฝั่ง !!
       
           คือฝั่งช่อง 3 ที่นอกจากจะตัดรายจ่ายในการแบกรับต้นทุนค่าผลิตไป 1 ช่องเต็มๆ แถมยังได้เงินก้อนโตมาอุ่นอยู่ในกระเป๋า เพื่อนำไปต่อยอด หรือพัฒนาช่องที่ยังเหลือ
       
           ขณะที่ฝั่งนายทุน ซึ่งต้องการที่จะมีสื่ออยู่ในมือ เพื่อเป็นฐานโปรโมทให้กับบริษัท และเครือข่ายสินค้าในเครือแล้ว แต่แทนที่จะทุ่มเงินเพื่อไปเปิดช่องใหม่ ซึ่งอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้กว่าจะติดตลาด สู้เอาเงินมาซื้อช่องที่มีฐานลูกค้าแล้วไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็ร่นระยะเวลาในการเปิดตลาดไปได้มากโขอยู่
       
           โดยพฤตินัยก็เท่ากับว่าช่อง 3 HD. อยู่ในขั้วอำนาจของนายทุนใหญ่จากเอไอเอส โดยสมบูรณ์
       
           ส่วนสายเลือดช่อง 3 แท้ๆ อย่างตระกูล “มาลีนนท์” ก็จะลี้ภัยพาตัวเอง กับพลพรรคไปปักหลักที่ช่อง 3 SD. เป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ ด้วยเงินลงทุนก้อนโตที่ได้จากการเทขายหุ้น
       
           โดยมี “คุณประวิทย์ มาลีนนท์” ที่เคยมีความคิดที่จะล้างมือในอ่างทองคำ กลับมาดำรงตำแหน่งเป็น “นายใหญ่” เหมือนเดิม    
       
           การกระโจนลงมาดูช่อง 3 SD. อาจจะต้องถือว่าเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะแม้จะมีระยะออกสตาร์ทพร้อมกับช่องดิจิตอลอื่นๆ แต่ก็ยังรั้งอยู่ในอันดับท้ายๆ ของ Top 10 มาโดยตลอด    
       
           แต่ในความยาก ก็ยังพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เพราะคุณประวิทย์ไม่ได้ก้าวมาแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ยังพ่วงด้วยลูกสมุนที่จงรักภักดี ไม่ว่าจะผู้บริหารระดับรองลงมาอย่าง “คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย” หรือบรรดาผู้จัดมือฉมังของช่อง ที่พร้อมจะมาร่วมหัวจมท้ายด้วย
       
           และฟันเฟืองสำคัญ ก็คือการผนึกกำลังกับ “คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์” อดีตเจ้าแม่ช่อง 7
        จริงอยู่ที่เมื่อครั้งอยู่ต่างช่อง ทั้งคุณประวิทย์ ทั้งคุณแดง ต้องถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ผลัดกันรุก ผลัดกันรับมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน แต่นอกสนามแข่ง ทั้งคู่ต้องต่างก็เป็นกัลยาณมิตรที่พร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดประสบปัญหา
       
           เมื่อคุณแดงต้องระเห็จลงจากบัลลังก์ช่อง 7 จึงเป็นคุณประวิทย์ที่หลายคนมองว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต ยื่นมือเข้ามาโอบอุ้ม ช่วงหนึ่งคุณแดงถึงขนาดได้ครอบครองสัมปทานของการผลิตละครก่อนข่าวของช่อง 3 และก็สร้างเร็ตติ้งได้อย่างน่าชื่นใจแทบทุกเรื่อง    
       
           ในทางกลับกัน เมื่อถึงเวลาที่คุณประวิทย์ต้องไปก่อร่างสร้างตัวในบ้านหลังใหม่ จึงเป็นคุณแดงที่พร้อมจะตามไปตอกเสาเอกอยู่เคียงข้าง    
       
           และในที่นี้ต้องถือว่าเป็นการผนึกกำลังและนำจุดแข็งของทั้งคู่มาเสริมส่งซึ่งกันและกัน ในการที่จะนำพาให้ช่อง 3 SD. ตีตื้นขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ได้อย่างไม่ยากนัก    
       
           นั่นคือคุณประวิทย์ ที่แม่นในเรื่องของการจับตลาดคนเมือง กับคุณแดง ที่เชี่ยวชาญในส่วนของตลาดภูธร และแน่นอนว่าเมื่อนำจุดแข็งของทั้งคู่มาหลอมรวมกัน เท่ากับว่าจะสามารถ “เอาอยู่” ทั้ง 2 ตลาด ซึ่งก็หมายถึงตลาดรวมทั่วประเทศนั่นเอง และก็มีความเป็นไปได้สูงที่โปรเจ็กต์การปลุกผีละครจักรๆ วงศ์ๆ หรือละครเจ้าในมือคุณแดง ที่เดิมมีโปรแกรมจะลงที่ช่อง 3 HD. เปิดหัวแหวนด้วยเรื่อง “อุทัยเทวี” อาจจะถูกผ่องถ่ายมาลงที่ช่อง 3 SD. แทน เท่าเป็นการประกาศตนลงสนามเดียวกับช่อง 7 ที่ผูกขาดละครเจ้าแต่เพียงผู้เดียวมายาวนานอย่างเต็มตัว

    ในขณะที่ฝั่งช่อง 3 HD. ก็มีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการออกนโยบายห้ามนักแสดงที่เซ็นสัญญากับช่องรับงานอื่นๆ เอง โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากต้นสังกัด เพื่อจะใช้เป็นข้อต่อรองในการขายโฆษณาแบบเป็นแพกเกจ
       
           ยกตัวอย่างถ้าสินค้าจะว่าจ้างณเดชน์ หรือญาญ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็จะมีการขายพ่วงกับสปอตโฆษณา ต่างจากเมื่อก่อนที่แยกส่วนกันอย่างชัดเจน ระหว่างค่าตัวของงานจ้าง (ซึ่งส่วนใหญ่จะจ้างผ่านผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงแต่ละคน) กับการซื้อ สปอตโฆษณาในช่อง

ว่ากันตามตรง การออกข้อกำหนดเป็นนโยบายดังกล่าว ส่งผลกระทบทั้งกับตัวนักแสดง ผู้จัดการส่วนตัว ที่ต้องยอมรับว่ารายได้ส่วนหนึ่งอาจจะหดหาย ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ ตรงๆ นั่นก็คือบรรดาสินค้าทั้งหลายที่จะมาว่าจ้างนักแสดงในสังกัดช่อง 3 ไปร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นงานพรีเซ็นเตอร์ หรืออื่นใดก็ตาม เพราะจะต้องถูกมัดมือชกให้ต้องซื้อสปอตโฆษณาไปด้วย คือถ้าไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อในแพกเกจนี้ ก็เสี่ยงกับการที่อาจจะไม่ได้ดาราคิวทองของช่อง 3 ไปร่วมงาน นักแสดงก็จะพลอยชวดรายได้จากการรับงานไปด้วย
       
           เอาง่ายๆ ว่าค่าตัวณเดชน์ กับญาญ่า ต่อ 1 งานอีเวนท์คือคนละ 4 แสนบาท ถ้าจ้างคู่ ค่าตัวรวมก็จะอัปขึ้นเป็น 1 ล้านบาทขาดตัว แต่นโยบายใหม่ นอกจากจะต้องจ่ายค่าตัวแล้ว ยังจะต้องพ่วงด้วยการซื้อโฆษณาอีก เหนาะๆ ก็น่าจะต้องจ่ายเฉียดๆ 2 ล้าน เพราะช่อง 3 สะดวกแบบนี้ ไหวป่ะล่ะ !!??
  ต่างจากช่อง 7 ที่มีผลกระสบกับเรื่องรายได้ของค่าโฆษณาน้อยมาก แม้ในสายตาของคนภายนอก ช่อง 7 อาจจะไม่ได้มีดาราระดับแม่เหล็กมากมายเท่าช่อง 3 แต่อย่างน้อยก็มี 3 คน ที่การันตีได้ว่าสปอนเซอร์ลงแน่นอน ก็คือเวียร์-ศุกลวัฒน์ , นิว-วงศกร และมิกค์ ทองระย้า และอาจจะรวมไปถึงอั้ม-พัชราภาอีกคน
  ก็ต้องมาดูกันต่อว่านโยบายนี้ จะทำให้ช่อง 3 HD.พลิกฟื้นคืนกลับมากำไร เทียงเคียงกับช่อง 7 และเวิร์คพ้อยท์ได้หรือเปล่า !!??    
       
           และการผนึกกำลังระหว่างคุณประวิทย์กับคุณแดง จะสร้างความสำเร็จให้กับช่อง 3 SD.ได้มากน้อยขนาดไหน !!??
       ที่มา นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 401 22-28 กรกฎาคม 2560

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000074340
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่