[CR] Ba Na Hills French Village ดานัง เวียดนาม 3 วัน 2 คืน งบน้อย เที่ยวง่าย ถ่ายรูปสวย


นานาสวัสดี สวัสดีเพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตอีกครั้งจ้า นานาสวัสดี

ดอกไม้วันนี้เราจะมารีวิวทริปสั้นๆ งบน้อย เที่ยวง่าย ถ่ายรูปสวยดอกไม้

เยี่ยมสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า Ba Na Hills เมืองดานัง ประเทศเวียดนามเยี่ยม

     จุดเริ่มต้นของทริปนี้ จริงๆแล้วเวียดนามไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางของเราเลย เพราะเคยอ่านรีวิวมาหลายครั้ง ทำให้รู้สึกกลัว กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวโดนหลอก โดนโกง กลัวขโมย แต่แล้ววันหนึ่งก็เปิดเจอกระทู้รีวิวที่นี่ ซึ่งเป็นโรงแรมอยู่บนยอดเขา ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ถึงเวลากระเช้าก็ปิด ในโรงแรมมีที่เที่ยวจบในที่เดียว เฮ้ย!!! น่าสนใจ อยู่แค่เวียดนามเอง
กระทู้นี้จะยาวซักหน่อย ใครอยากชมบรรยากาศเราก็เอาวิดีโอมาฝาก เชิญชมจ้า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักสถานที่นี้ เราขอคัดลอกบทความแนะนำสั้นๆ ตามนี้
เครดิต :https://travel.mthai.com/hotel-review/135693.html
       “Ba Na Hills” เมืองดานังแห่งนี้ ถือเป็นที่พักตากอากาศดีที่สุดของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมนั่งกระเช้าเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติระหว่างทางไปเทือกเขาบาน่า โดยกระเช้าของที่นี่ได้รางวัล Guinness World Records ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดถึง 5,042 เมตร (ไม่หยุดระหว่างทาง) และกระเช้าที่สูงที่สุด 1,291  เมตร
       ด้านบนมีทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สปาร์ บาร์ สวนสนุก วัด สวนดอกไม้ พูดง่ายๆก็เป็นเมืองเมืองนึงนั่นเอง โดยสิ่งก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19
ทริปนี้เดินทางทั้งหมด 4 คน วันที่ 14-16 ก.ค. 2017 (หน้าฝน รูปมันจะครึ้มๆหน่อย)


ทำไมถึงต้องพัก Mercure Danang French Village Bana Hills?
- เพราะในช่วงกลางวันนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก แทบไม่มีที่เดิน ถ่ายรูปออกมาติดคนไปหมด แต่ถ้าพักโรงแรมนี้ เนื่องจากกระเช้าเปิดปิดเป็นเวลา ตอนเช้านักท่องเที่ยวจะยังไม่ขึ้นมา มีแต่คนที่พักในโรงแรมเท่านั้น ถ่ายรูปได้สวยๆชิวๆ
- ได้ราคา Cable Car ถูกกว่าปกติ (นักท่องเที่ยวทัวไป 650,000ดอง ลูกค้าโรงแรม 400,000ดอง)
- สะดวกสบาย เหนื่อยก็ขึ้นไปพัก หรือจะเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาถ่ายรูปก็ง่าย

ค่าใช้จ่าย
- ค่าตั๋วไปกลับดอนเมือง-ดานัง Airasia (รวมค่าตัดบัตรเครดิต ไม่โหลดกระเป๋า) 2,460 บาท/คน
- ค่าโรงแรม Mercure Danang French Village Bana Hills 2 คืน (ไม่รวมอาหารเช้า) 1,576 บาท/คน จองผ่าน Booking.com ตัดบัตรเครดิตก่อนเข้าพัก
- ค่า Cable Car (4แสนดอง) ประมาณ 600 บาท/คน (ราคานี้สำหรับลูกค้าที่พักในโรงแรม Mercure เท่านั้น นักท่องเที่ยวทั่วไป 650,000ดอง)
- ค่าแท็กซี่ไปกลับ  หารแล้วตกประมาณ 300 บาท/คน
- ประกันการเดินทางทิพยประกันภัย Backpack 1 ราคา 170 บาท/คน
- Pocket Wifi ของ http://www.easypocketwifi.com 162 บาท/คน
ราคารวมเริ่มต้น 5,218 บาท
- ค่าอาหารจานละประมาณ 200,000 VND ตกมื้อละประมาณ 300 บาท 6 มื้อ คิดเป็นเลขกลมๆก็ประมาณ 2,000 บาท
โดยรวมแล้วงบจะไม่เกิน 7,500 บาท

เตรียมตัวก่อนเดินทาง
- เตรียมพาสปอร์ต อย่าลืมตรวจสอบอายุพาสปอร์ตควรเหลือมากกว่า 6 เดือน และปริ้นเอกสารการจองโรงแรมต่างๆให้เรียบร้อย
- แลกเงิน แนะนำให้คำนวนค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้แล้วแลกเป็นเงินดองไปเลย เพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเวลาหาที่แลกเงิน ส่วนเงินสำรองอาจจะแลกเป็น USD เนื่องจากถ้าเหลือกลับมาจะแลกเป็นเงินไทยได้ง่ายกว่า และร้านอาหารส่วนใหญ่ก็รับเงินดอลล่า หรือใช้บัตรเครดิตก็ได้ ตามร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่นั่น หรือที่สนามบิน ส่วนใหญ่รับบัตรเครดิตหมด
- ยาดม ยาอม ยาหม่อง อาจจะเกิดอาการวิงเวียนขณะนั่ง Cable Car คนที่กลัวความสูงถ้าอยากไปต้องคิดให้ดีดี
- เสื้อผ้า หน้า ผม เอาให้พร้อม จัดมาให้เต็ม เอาให้เข้ากับบรรยากาศ French Village
- ร้านค้า ร้านอาหารที่นี่ปิดค่อนข้างเร็ว ส่วนใหญ่ปิด 5 โมงเย็น หลังจากนั้นจะเหลือแต่ร้านอาหารของโรงแรมซึ่งปิดประมาณ 2 ทุ่ม
- เสื้อแขนยาวกันหนาว เพราะที่นี่อยู่สูงกลางคืนจะเย็น ยิ่งถ้าฝนตกจะหนาวเลย ถ้าไปหน้าฝนก็เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วย

การเดินทาง

วิธีการเดินทางก็แสนง่าย เมื่อออกจากสนามบินดานัง ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเรียกรถแท็กซี่ให้ เคยอ่านมาว่าให้นั่ง Mai Linh สีเขียวๆ แต่พอออกมาแล้วยืนดูอยู่นาน ไม่มีสีเขียวเลยจ้า มีแต่สีฟ้าๆ ยี่ห้อ Hang Khong ตามรูป

เครดิตภาพจาก Google

เลือกเป็นคันเล็กจะถูกกว่าคันใหญ่ ก่อนขึ้นก็คอนเฟิร์มก่อนว่า ให้เปิดมิเตอร์นะ แล้วก็ยื่นใบจองโรงแรมที่พิมพ์เป็นภาษาเวียดนามให้คนขับดู แล้วก็บอกว่า บาน่าฮิลล์ พร้อมกับเปิดรูปให้ดู แล้วก็ชี้ๆตรงโรงแรมเมอเคียว หมายเลข 1
เครดิตภาพจาก กระทู้นี้ https://pantip.com/topic/36410691

จากรูปจะเห็นว่าสถานี Cable Car ด้านล่าง นั้นจะมี 2 สถานี คือ
1. ตรงที่เขียนว่า Ba Na Cable Entrance ตรงนี้สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่จะขึ้นไปด้านบนต้องซื้อตั๋วและขึ้นที่นี่
2. ส่วนที่เขียนว่า สถานีที่ 5 (Station 5) หมายเลข 1 ในรูปจะเป็น Reception ของโรงแรม Mercure
แท็กซี่จะไปส่งเราที่สถานีที่ 5 นี้ โดยจะต้องผ่านยามเข้าไป ตรงนี้อาจจะต้องแสดงใบจองโรงแรม แต่ตอนเราไปแท็กซี่เค้าบอกยามแล้วยามก็เปิดให้ผ่านเข้าไป ค่าแท็กซี่ 358,000 ดองตามรูป แท็กซี่ส่วนใหญ่จะทอนไม่ค่อยครบขาดนิดๆหน่อยๆก็ถือซะว่าให้ทิป

มาในส่วนของโรงแรม
เมื่อถึงหน้า Reception จะมีพนักงานออกมารับแล้วพาไปเช็คอิน
ที่เค้าท์เตอร์เช็คอิน ให้ยื่นใบจองให้พนักงาน ยื่นพาสปอร์ตของผู้เข้าพัก จากนั้นจะมีเอกสารให้เซ็นต์นิดหน่อย
ถ้าห้องพักที่จองเป็นแบบไม่รวมอาหารเช้า แล้วต้องการซื้ออาหารเช้าเพิ่ม ให้แจ้งพนักงานและจ่ายเงินที่ตรงนี้
ค่าอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ คนละ 215,000 ดอง (ประมาณ 320 บาท) ต่อมื้อ
* แนะนำให้จองห้องรวมอาหารเช้า หรือทำการซื้อไปเลย เนื่องจากตอนเช้าร้านอาหารจะยังไม่เปิด

ต่อมาเราจะต้องจ่ายค่ากระเช้าเพื่อขึ้นไปบนโรงแรม สำหรับผู้ที่เข้าพักกับโรงแรมเมอเคียว ผู้ใหญ่ 400,000 ดอง เด็ก 300,000ดอง
ยกเว้นแต่มีโปรโมชั่นของโรงแรมหรือแพ็คเก็จห้องพักแบบอื่นที่รวม Cable Car อาจจะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นจาก เว็บไซต์ของแอคคอร์ https://www.accorhotels.com/th/thailand/index.shtml
หรือ Facebook ของโรงแรมโดยตรง https://www.facebook.com/MercureBanahills/
หรือติดตามข้อมูลท่องเที่ยว เทศกาลต่างๆบน Ba Na Hills  ได้ที่ http://banahills.sunworld.vn/en/

เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย พนักงานจะให้
- เอกสารมาห้องละ 1แผ่น (น่าจะเป็นเอกสารสำหรับเข้าพัก)
- นามบัตรสำหรับเอาไปแลกคีย์การ์ดห้องพักที่ด้านบน
- บัตรขึ้นกระเช้า
- แผนที่โรงแรม
พร้อมทั้งอธิบายเงื่อนไขต่างๆ เช่น
- อาหารเช้าเริ่ม 6.30-10.30
- สามารถใช้สระว่ายน้ำ(ในร่ม),ฟิตเนสได้ฟรี
- สามารถเข้าสวนสนุก Fantasy Park และเล่นเครื่องเล่นได้ฟรี (ส่วนใหญ่ฟรี มีบางส่วนที่เสียเงินเพิ่ม)
- สามารถนั่งกระเช้าที่ Gare Morin ไปเที่ยวสวนดอกไม้ LE JARDIN D’AMOUR และชมโรงไวน์ DEBAY WINE CELLAR ฟรี
- ถ้าลูกค้าลงมาที่สถานีด้านล่าง ที่ไม่ใช่ในส่วน Reception ของโรงแรม ถ้าต้องการกลับขึ้นไปอีก จะต้องไปขึ้นที่สถานที่ 5 ซึ่งต้องติดต่อ Reception ของโรงแรมก่อน (ซึ่งจะไปยังไงก็แล้วแต่ คิดว่าน่าจะมีวิธีเดียวคือเดินมั้ง) ส่วนนี้เราไม่แน่ใจเพราะเราไม่ได้ลงมาเลย

Cable Car

    ทางขึ้น Cable Car อยู่ในส่วนของ Reception เลย พนักงานจะเดินมาส่ง พนักงานก็จะจัดการยื่นบัตรขึ้นกระเช้า เค้าจะเก็บเอกสารกับบัตรขึ้นกระเช้าไป จากนั้นก็เตรียมพบกับความบันเทิง กับกระเช้าที่ยาว 5 กิโลกว่า และสูงที่สุด
     วันที่เราไปนั่งฝนตกจ้า ในกระเช้ามีเรา 4 คน กับครอบครัวเวียดนาม พ่อ แม่ ลูก 2 คน คนโตอายุประมาณ 7 ขวบ คนเล็กประมาณ 1 ขวบกว่า เนื่องจากฝนตกลมค่อนข้างแรง กระเช้าเลยแกว่งๆ ในกระเช้าก็ไม่ค่อยมีอากาศ ทำให้เวียนหัวมากทีเดียว แม่ชาวเวียดนาม กับลูกสาวคนโต ถือถุงพลาสติกคนละใบ อ้วกจนสุดทาง ประกอบกับลูกคนเล็กก็ร้องงอแง กระเช้าก็ต้องวิ่งๆ หยุดๆเพราะลมแรง หวาดเสียวมากมาย แต่วิวระหว่างนั่งกระเช้าสวยมากนะ ตามรูป

หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานมาหลายสิบนาที ในที่สุดก็มาถึง

จากนั้นเราต้องเอานามบัตรไปแลกคีย์การ์ดสำหรับเข้าห้องพัก โดยเข้าไปหา Reception ของโรงแรมในตึกตามรูปนี้

ในส่วนของห้องพัก จะกระจายกันอยู่ตามตึกใน French Village พนักงานจะพาเราไปส่งที่ห้องพัก ซึ่งพนักงานบางคนจะพูดภาษาไทยได้
ทางเดิน

รูปห้องพักของเรา ตอนจองเราขอห้องใกล้ๆกัน ก็ได้เป็น Connecting Room มา ห้องเล็กหน่อยแต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ห้องเตียงแฝด

ทีวี Wifi โต๊ะ

ตู้เย็น ตู้เซฟ กาน้ำร้อน ชา กาแฟ โต๊ะรีดผ้า เตารีด ไม้แขวนเสื้อ

ห้องน้ำ มีไดร์เป่าผมอยู่ใต้อ่างล้างหน้า แนะนำให้ไปเสียบปลั๊กด้านนอกจะแรงกว่าในห้องน้ำ

นี่เป็นแผนที่สำหรับท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์
รูปเก่าไปหน่อย ตอนนี้ Cable Car มีเพิ่มอีก 1 สาย น่าจะเป็นจากจุดที่ 20 ด้านบน ลงมาจุดที่ 6

ชมภาพการท่องเที่ยวในในความคิดเห็นต่อไปค่ะ
ชื่อสินค้า:   Mercure Danang French Village Bana Hills, Danang, Vietnam
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่