เมื่อจับตามองสถานการณ์การซื้อขายในตลาดตอนนี้ ก็เหมือนจะดูไม่ดีและไม่ค่อยเป็นใจกับทีมหงส์แดงเท่าไร ผู้เล่นใหม่จนถึงตอนนี้มีแค่โซลันเก้ ซาล่าห์ และแอนดรู โรบินสัน 3 คนเท่านั้นที่ชูเสื้อเข้ามาร่วมทีมอย่างเป็นทางการแล้ว และแม้ทั้งสามคนก็เหมือนจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้จัดการทีมและตอบโจทย์กับความคาดหวังของแฟนบอล ที่ต้องการปีกคุณภาพสูงที่พร้อมใช้งานมาเพิ่มเติม ต้องการกองหน้าตัวเป้าที่มีความเฉียบคมมากขึ้น และต้องการแบ๊คซ้ายมืออาชีพ เพียงแต่ก็ยังไม่รู้ว่าทั้งสามคนจะมีคุณภาพมากพอจะช่วยเข้ามาเติมเต็มทีมชุดหลักทำผลงานได้จริงๆรึเปล่า…?

       โซลันเก้แม้โชว์ฟอร์มดีจากทัวนาเม้นเยาวชนชิงแชมป์โลกกับเกมส์ปรีซีซั่น แต่สิ่งสำคัญที่ยังต้องคิด คือ เขายังเป็นแค่นักเตะเยาวชนเท่านั้น เขาจะพร้อมรับความกดดันของเกมส์การแข่งขันของผู้ใหญ่แล้วรึยัง..? เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ว่าผู้เล่นเยาวชนมากมายต้องดับไป แจ้งเกิดไม่ได้เพราะความไม่พร้อมด้านประสบการณ์

       ซาล่าห์ก็เหมือนกัน แม้จะโชว์ฟอร์มดีกับต้นสังกัดเก่าอย่างโรม่า แต่ผลงานค้าแข้งบนแดนอังกฤษรอบแรกกับเซลซีก็ยังมีคำถามว่า เขาดีพอที่จะกลับมาแก้มือในพรีเมียร์ลีคได้ไหม..?

       โรบินสันที่ใครๆก็รู้ว่าไม่ใช่เป้าหมายแรกของคล้อป แถมมาจากทีมที่ตกชั้นอย่าง ฮัลด์ ซิตี้ที่มีสถิติการเสียประตูมากที่สุดของทีมในพรีเมียร์ลีคฤดูกาลก่อนถึง 80 ประตู เขาจะตอบโจทย์การเข้ามาแก้ปัญหาแนวรับที่มีปัญหาของลิเวอร์พูลได้หรือไม่..?

       คำถามเหล่านี้รวมกับที่ปัญหาเก่าของทีมอย่างเกมส์รับ ที่เหมือนยังไม่ได้รับการแก้ไขการจากเสริมทัพรอบใหม่ปีนี้ตามสายตาคนนอก ก็ไม่แปลกที่ทีมหงส์แดงจะถูกจัดอันดับให้เป็นเต็ง 5 ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีค จากการออกราคาของโต๊ะพนันถูกกฎหมายบางเจ้าในอังกฤษ ถูกจัดให้เป็นรองกระทั่งทีมเอฟเวอร์ตันซึ่งเสริมทัพได้ดุดันและตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเดิมของทีมมากกว่า แม้จะเสียกองหน้าตัวหลักอย่าง ลูกาลูไป

เรียกว่ายังไม่ทันรบก็ต้องตกเป็นรองเพราะไม่รีบแก้ไขปัญหาจริงๆของทีมตัวเองซะแล้ว

       แน่นอนไม่ใช่การหยิบเอฟเวอร์ตันมาพูดถึงแบบนี้ จะแปลว่า โรนัลต์ คูมัน ผู้จัดการทีมของเอฟเวอร์ตันนั้นฝีมือเหนือกว่าคล็อป เพียงแต่ตอนนี้ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินจัดการได้ดีกว่าเพราะคว้าตัวนักเตะที่ตนเองต้องการมาใช้แก้ปัญหาของทีมได้แล้ว มันจึงเป็นเรื่องของการจัดการที่ดีไม่ใช่เรื่องฝีมือการคุมทีม

       และเรื่องการจัดการให้ได้ตัวนักเตะที่เป็นเป้าหมายของนี้เอง ที่ลิเวอร์พูลนั้นถ้าเทียบกับทีมคู่แข่งแย่งพื้นที่ฟุตบอลถ้วยยุโรปด้วยแล้ว ถึงตอนนี้ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า สู้ใครไม่ได้เลย ขนาดทีมขี้ตืดขี้เหนียวอย่างอาเซน่อลยังทุบกระปุกกระชากตัวผู้เล่นที่เขาต้องการมาแก้ปัญหาของทีมที่มี อย่าง อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ มาเสริมความคมในแดนหน้าซึ่งเป็นปัญหาของทีมปืนใหญ่

       ไม่ต้องพูดถึงแมนยู แมนซิตี้ หรือเซลซี ที่ต่างเสริมทัพผู้เล่นให้ตอบโจทย์กับปัญหาที่ทีมตัวเองมี ในขณะที่มีแค่ เจอร์เก้น คล้อป คนเดียวเท่านั้นที่เลือกจะ"อินดี้" เสริมทัพซื้อผู้เล่นทีมเพื่อเติมจุดเด่นที่ทีมมีอยู่แล้ว

       กับตัวล่าสุดที่พยายามทุ่มเทจะเอาให้ได้ ถึงขนาดปรับราคารอบ 3 ขยับเป็น 75 ลป. เพื่อไปตามตื้อขอซื้อให้ได้ อย่าง นาบี เกอิต้า สไตล์การเล่นก็เห็นๆกันว่า นักเตะคนนี้ก็เป็นนักเตะที่คล้อปหวังจะให้มาช่วยเติมจุดเด่นเกมส์รุกของทีม มากกว่ามาแก้ปัญหาเกมส์รับ ซึ่งต่อให้ได้มาจริงก็เชื่อว่าราคาอัตตราต่อรองการคว้าแชมป์ ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เพราะถึงนั้นจะทำให้แฟนบอลชุ่มชื่นหัวใจที่ทีมได้นักเตะมีระดับมาร่วมทีม แต่มันก็ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของทีมอยู่ดี

       ซึ่งหากหยุดการเสริมทัพรอบนี้ไว้แค่นี้ (จริงๆก็คงหยุดแล้วล่ะเพราะหมดงบ หากคว้าเกอิต้ามาได้) สิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลต้องใช้ในการหวังถึงความสำเร็จ ก็มีอยู่ 2 อย่าง คือ

1.หมอนกลิ่นหอมอ่อนๆ กับ
2.ที่นอนนุ่มๆไว้ค่อยหลับ“ฝัน”

       แต่อาจไม่ต้องทำเช่นนั้นก็ได้ หากครึ่งทางหลังของตลาดซื้อขาย คล้อปเลือกที่จะใส่ใจเสริมทัพเพื่อแก้ไขปัญหาเดิมของทีมที่มีบ้าง ขอแค่เซ็นเตอร์เกรดB ชื่อชั้นไม่ต้องมีมากมายอย่าง WD ก็ได้ หามาให้ได้สักตัว บางทีการคาดหวังถึงความสำเร็จก็อาจจะใช้แค่ ยาดมยาหม่องเหมือนเดิมที่เคยทำกันอยู่แล้ว

       ขอบอกตรงๆ ว่าที่เขียนข้อเขียนชิ้นนี้ขึ้นมาเพราะ ตามความเห็นส่วนตัวของผม ผมไม่เชื่อว่าเกมส์รุกที่ดีเพียงอย่างเดียวจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้ และอยากให้ทีมเสริมทัพแบบสมดุลบ้าง  ไม่อยากให้เลือกเส้นทางที่สุดโต่งจนเกินไป จนทำลายความคาดหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันจริง

---

ป.ล. ยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมสนทนากันอย่างมีมารยาทสมกับเป็นปัญญาชนนะครับ แต่ไม่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้พื้นที่กะทู้นี้ เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือหาประโยชน์จากข้อความคำใดคำหนึ่งในกะทู้ มาระบายความใคร่ แบบไร้วุฒิภาวะ ทำตัวเป็นขยะสังคมในการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ ชี้แจงให้ทราบตามนี้ครับ