#WarForThePlanetOfTheApes #เตือนเตรียมใจก่อนไปดู
#ดราม่าดีฉากสวยแต่สงครามขอสะใจกว่านี้อีกนิดได้ไหม
1. อย่าคาดหวังว่าจะเป็นแอ็คชั่นดราม่า แต่ภาคนี้มันคือดราม่าแอ็คชั่น (เอ๊ะยังไง... ก็ดราม่าเด่นกว่าเยอะมากกก แสดงดีกว่าหนังออสการ์สายประกวดบ้าพลังบางเรื่องซะอีก)
2. หนังเน้นซีนอารมณ์เยอะมาก แต่ส่วนตัวดูเพลินชวนติดตามไม่ง่วงหาวเผลอหลับเลยนะ

3. งานด้านเทคนิค สวยจนนึกว่าเอาคนมาใส่ชุดลิงแสดง 555 คือการเคลื่อนไหว สายตา มันสมจริงมากๆ แถมสมจริงถึงขนาดใส่เทคนิคการโฟกัสภาพเบลอหน้าชัดหลัง(กับภาพกราฟฟิค!) แล้วสลับโฟกัส!! อะไรงานจะละเอียดขนาดน๊าน
4. นักแสดง ดีมากกก แม้จะเป็น motion capture แต่อารมณ์ระดับรางวัลออสการ์จริงๆ (แต่ฝั่งคนแสดง ขนาดตัวละครที่น่าจะแรงสุด อารมณ์กลับแรงสู้ซีจีไม่ได้เฉยเลย)

5. ถามว่าต้องดูภาค 1 กับ 2 ไหม จะไม่ดูก็ตามเรื่องนี้ได้สบายๆอยู่ อาจจะแนะนำให้ดูภาคนี้ก่อนด้วยซ้ำ เพราะจะได้ดูภาค 1+2 ได้สนุกกว่าโดยไม่ต้องเปรียบเทียบให้วุ่นวาย (เพราะภาค 2 แอ็คชั่นและตลกเยอะกว่ามาก 555) แต่ภาค 3 ก็ดราม่าอย่างมีชั้นเชิงกว่าเยอะนะ
6. งานออกแบบภาพ มีฉากสวยๆเชิงสัญลักษณ์เยอะมาก ถ้าฟรีซภาพออกมา มีฉากจำสวยๆเยอะแทบทุกฉากเลย เรียกว่าหยุดภาพตรงไหน ก็สวยดูดีแทบทั้งเรื่อง

7. เนื้อเรื่องในภาคนี้ กลับเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุด คือสามารถเล่าจบได้ด้วยประโยคไม่กี่ประโยค และความหวังว่าจะได้เห็น Apes's War ??? (ถ้าสงครามในใจก็คงใช่มั้ง 555) แถมเดินเรื่องด้วยดราม่า+เหตุผลสุดๆ แต่กลับขมวดปมสรุปได้แบบ... กรรมบันดาลเกินไปไหม
8. ฉากประทับใจที่สุด คือฉากโกนหัวด้วยตัวเองซะงั้น (ไร้สาระไหม แต่ตอนแรกแปลกใจว่าทำได้ไง) แต่ถ้าดูดีๆ แหม...แค่ทาครีมโกนหนวดปิดไว้เฉยๆนี่นา 555

9. สรรสาระ (รึเปล่านะ) เจอของแปลก อย่าเก็บมาไว้ใกล้ตัวโดยไม่ระวัง อาจเจอของขลังพาซวยก็เป็นได้ 555
10. สรุป เป็นหนังดราม่าที่ดีมากเรื่องหนึ่ง แต่อย่าไปเทียบกับ 2 ภาคก่อนที่วิธีเล่าเรื่องแทบจะคนละแนวกัน แน่นอนมันไม่ใช่แบบที่แฟนเก่าหวังจะดูแน่ๆ แต่อย่างไรก็คงไม่พลาดอยู่แล้ว ส่วนแฟนใหม่ดูได้สบายใจไม่ต้องห่วงครับ
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่ https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ http://goo.gl/67o301
[CR] #WarForThePlanetOfTheApes ดราม่าดีฉากสวยแต่สงครามขอสะใจกว่านี้อีกนิดได้ไหม
#ดราม่าดีฉากสวยแต่สงครามขอสะใจกว่านี้อีกนิดได้ไหม
1. อย่าคาดหวังว่าจะเป็นแอ็คชั่นดราม่า แต่ภาคนี้มันคือดราม่าแอ็คชั่น (เอ๊ะยังไง... ก็ดราม่าเด่นกว่าเยอะมากกก แสดงดีกว่าหนังออสการ์สายประกวดบ้าพลังบางเรื่องซะอีก)
2. หนังเน้นซีนอารมณ์เยอะมาก แต่ส่วนตัวดูเพลินชวนติดตามไม่ง่วงหาวเผลอหลับเลยนะ
3. งานด้านเทคนิค สวยจนนึกว่าเอาคนมาใส่ชุดลิงแสดง 555 คือการเคลื่อนไหว สายตา มันสมจริงมากๆ แถมสมจริงถึงขนาดใส่เทคนิคการโฟกัสภาพเบลอหน้าชัดหลัง(กับภาพกราฟฟิค!) แล้วสลับโฟกัส!! อะไรงานจะละเอียดขนาดน๊าน
4. นักแสดง ดีมากกก แม้จะเป็น motion capture แต่อารมณ์ระดับรางวัลออสการ์จริงๆ (แต่ฝั่งคนแสดง ขนาดตัวละครที่น่าจะแรงสุด อารมณ์กลับแรงสู้ซีจีไม่ได้เฉยเลย)
5. ถามว่าต้องดูภาค 1 กับ 2 ไหม จะไม่ดูก็ตามเรื่องนี้ได้สบายๆอยู่ อาจจะแนะนำให้ดูภาคนี้ก่อนด้วยซ้ำ เพราะจะได้ดูภาค 1+2 ได้สนุกกว่าโดยไม่ต้องเปรียบเทียบให้วุ่นวาย (เพราะภาค 2 แอ็คชั่นและตลกเยอะกว่ามาก 555) แต่ภาค 3 ก็ดราม่าอย่างมีชั้นเชิงกว่าเยอะนะ
6. งานออกแบบภาพ มีฉากสวยๆเชิงสัญลักษณ์เยอะมาก ถ้าฟรีซภาพออกมา มีฉากจำสวยๆเยอะแทบทุกฉากเลย เรียกว่าหยุดภาพตรงไหน ก็สวยดูดีแทบทั้งเรื่อง
7. เนื้อเรื่องในภาคนี้ กลับเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุด คือสามารถเล่าจบได้ด้วยประโยคไม่กี่ประโยค และความหวังว่าจะได้เห็น Apes's War ??? (ถ้าสงครามในใจก็คงใช่มั้ง 555) แถมเดินเรื่องด้วยดราม่า+เหตุผลสุดๆ แต่กลับขมวดปมสรุปได้แบบ... กรรมบันดาลเกินไปไหม
8. ฉากประทับใจที่สุด คือฉากโกนหัวด้วยตัวเองซะงั้น (ไร้สาระไหม แต่ตอนแรกแปลกใจว่าทำได้ไง) แต่ถ้าดูดีๆ แหม...แค่ทาครีมโกนหนวดปิดไว้เฉยๆนี่นา 555
9. สรรสาระ (รึเปล่านะ) เจอของแปลก อย่าเก็บมาไว้ใกล้ตัวโดยไม่ระวัง อาจเจอของขลังพาซวยก็เป็นได้ 555
10. สรุป เป็นหนังดราม่าที่ดีมากเรื่องหนึ่ง แต่อย่าไปเทียบกับ 2 ภาคก่อนที่วิธีเล่าเรื่องแทบจะคนละแนวกัน แน่นอนมันไม่ใช่แบบที่แฟนเก่าหวังจะดูแน่ๆ แต่อย่างไรก็คงไม่พลาดอยู่แล้ว ส่วนแฟนใหม่ดูได้สบายใจไม่ต้องห่วงครับ
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้