1. เราถือบัตร family plus แบบ fix ค้ำ ได้ทำเรื่องขอเพิ่มวงเงินค้ำที่ scb สาขาอำเภอแห่งหนึ่ง ระหว่างรอเรื่องอนุมัติ เลยลองไปสมัครบัตร up2me แบบยื่น statement ดูเผื่อจะผ่าน เพราะไม่เคยยื่นแบบปกติของ scb เลย (บัตร up2me นี้เราสมัครที่ scb สาขา The Mall แห่งหนึ่ง)
2. ต่อมามีเจ้าหน้าที่โทรมายืนยันข้อมูลและให้รอผลอนุมัติบัตร up2me อีก 3 วัน พอถึงวันที่ 3 มีเจ้าหน้าที่จาก scb The Mall โทรมา บอกว่าได้รับการติดต่อจากส่วนกลางว่า ให้เราเลือกว่าจะเอาบัตร up2me หรือ เพิ่มวงเงิน family plus ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เราเลยบอกไปว่า ขอเลือก up2me เพราะเป็นการขอแบบยื่น statement (กะจะยกเลิก fix ค้ำของ family plus เป็นแบบปกติเมื่อใช้ครบ 1 ปี อยู่แล้ว)
3. ใน scb connect เราสามารถแอดบัตร up2me เพิ่มได้ แสดงว่าบัตรอนุมติแล้ว (เราไม่ได้รับ sms หรือ email ใดๆ) แต่วงเงินไปรวมอยู่กับแบบ fix ค้ำ….โทรถามฝ่ายบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอ
4. เราโทรติตต่อ scb อำเภอที่ให้ทำเรื่อง fix ค้ำ เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องอนุมัติแล้วให้มาเซ็นสัญญา เอกสารมาถึงแล้ว ….เราก็งงว่า ในเมื่อให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำไมต้องเซ็นสัญญา เลยถามไปว่าทราบเรื่องจากส่วนกลางหรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกไม่ทราบ เราเลยเล่าเรื่องที่เจ้าหน้าที่ scb The Mall โทรมาให้ฟัง….เจ้าหน้าที่ scb อำเภอบอกว่า ยังไงก็ต้องเซ็น เพราะเรื่องมาถึงแล้ว ให้มาเซ็นชื่อเดี๋ยวเค้าจะโทรคุยกับ scb The Mall เอง เราเลยเซ็นให้มันจบๆ ไป เพราะไม่อยากเรื่องมาก อีกอย่างเงินที่จะค้ำเพิ่มเราก็จ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว (เจ้าหน้าที่บริการสุภาพดีโดยมารยาท แต่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ว่าเราเรื่องมาก)
ความไม่เข้าใจของเราคือ : ในเมื่อให้เราเลือกว่าจะเอาบัตร up2me หรือ จะเพิ่มวงเงินค้ำ พอเราเลือกแล้ว ทำไมให้เราไปเซ็นสัญญาอีก ไม่ประสานสื่อสื่อสารกันภายใน หรือแจ้งให้เราทราบและเข้าใจว่าเราควรทำอะไร (เช่น แจ้งเราว่าให้เซ็นก่อน แล้วค่อยทำเรื่องยกเลิกตาม ให้เป็นไปตามขั้นตอน หรือ ฯลฯ)
@สรุป เราเลยเซ็นสัญญา แล้วให้ scb อำเภอ ทำเรื่องยกเลิก fix ค้ำต่อเลย ไม่อยากยุ่งยากอีก ซึ่งหมายความว่า บัตร family plus คงถูกยกเลิกไป ส่วนบัตร up2me ก็รอว่าเป็นการอนุมัติแบบปกติ หรือ รวมใน fix ค้ำ จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้แค่นั้น ตอนนี้เฉยๆ แล้ว ทั้งๆ ที่ตอนแรกอยากได้บัตรมาก เราเป็นลูกค้าไม่ใช้เจ้าหน้าที่ใน scb หรือฝ่ายบัตรเครดิต ไม่อาจรู้ขั้นตอนภายในได้ การสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ไม่ใช่ให้ลูกค้าสอบถามทางโน้นทีทางนี้ทีว่าจะเอายังไง
scb คะ ถ้าสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจจะดีกว่านี้ค่ะ
2. ต่อมามีเจ้าหน้าที่โทรมายืนยันข้อมูลและให้รอผลอนุมัติบัตร up2me อีก 3 วัน พอถึงวันที่ 3 มีเจ้าหน้าที่จาก scb The Mall โทรมา บอกว่าได้รับการติดต่อจากส่วนกลางว่า ให้เราเลือกว่าจะเอาบัตร up2me หรือ เพิ่มวงเงิน family plus ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เราเลยบอกไปว่า ขอเลือก up2me เพราะเป็นการขอแบบยื่น statement (กะจะยกเลิก fix ค้ำของ family plus เป็นแบบปกติเมื่อใช้ครบ 1 ปี อยู่แล้ว)
3. ใน scb connect เราสามารถแอดบัตร up2me เพิ่มได้ แสดงว่าบัตรอนุมติแล้ว (เราไม่ได้รับ sms หรือ email ใดๆ) แต่วงเงินไปรวมอยู่กับแบบ fix ค้ำ….โทรถามฝ่ายบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอ
4. เราโทรติตต่อ scb อำเภอที่ให้ทำเรื่อง fix ค้ำ เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องอนุมัติแล้วให้มาเซ็นสัญญา เอกสารมาถึงแล้ว ….เราก็งงว่า ในเมื่อให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำไมต้องเซ็นสัญญา เลยถามไปว่าทราบเรื่องจากส่วนกลางหรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกไม่ทราบ เราเลยเล่าเรื่องที่เจ้าหน้าที่ scb The Mall โทรมาให้ฟัง….เจ้าหน้าที่ scb อำเภอบอกว่า ยังไงก็ต้องเซ็น เพราะเรื่องมาถึงแล้ว ให้มาเซ็นชื่อเดี๋ยวเค้าจะโทรคุยกับ scb The Mall เอง เราเลยเซ็นให้มันจบๆ ไป เพราะไม่อยากเรื่องมาก อีกอย่างเงินที่จะค้ำเพิ่มเราก็จ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว (เจ้าหน้าที่บริการสุภาพดีโดยมารยาท แต่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ว่าเราเรื่องมาก)
ความไม่เข้าใจของเราคือ : ในเมื่อให้เราเลือกว่าจะเอาบัตร up2me หรือ จะเพิ่มวงเงินค้ำ พอเราเลือกแล้ว ทำไมให้เราไปเซ็นสัญญาอีก ไม่ประสานสื่อสื่อสารกันภายใน หรือแจ้งให้เราทราบและเข้าใจว่าเราควรทำอะไร (เช่น แจ้งเราว่าให้เซ็นก่อน แล้วค่อยทำเรื่องยกเลิกตาม ให้เป็นไปตามขั้นตอน หรือ ฯลฯ)
@สรุป เราเลยเซ็นสัญญา แล้วให้ scb อำเภอ ทำเรื่องยกเลิก fix ค้ำต่อเลย ไม่อยากยุ่งยากอีก ซึ่งหมายความว่า บัตร family plus คงถูกยกเลิกไป ส่วนบัตร up2me ก็รอว่าเป็นการอนุมัติแบบปกติ หรือ รวมใน fix ค้ำ จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้แค่นั้น ตอนนี้เฉยๆ แล้ว ทั้งๆ ที่ตอนแรกอยากได้บัตรมาก เราเป็นลูกค้าไม่ใช้เจ้าหน้าที่ใน scb หรือฝ่ายบัตรเครดิต ไม่อาจรู้ขั้นตอนภายในได้ การสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ไม่ใช่ให้ลูกค้าสอบถามทางโน้นทีทางนี้ทีว่าจะเอายังไง