3 มหาอำนาจแห่งลีกอังกฤษยุคปัจจุบัน (อ่านเพลินๆครับผม )

เกริ่นก่อนเลยว่า กระทู้นี้เขียนขึ้นถึงบทวิเคราะห์ลีกอังกฤษในความคิดของผม  ผู้อ่านท่านได้ไม่ชอบอ่านบทวิเคราะห์หรือทัศนคติ
ทฤษฏีสมคบคิดก็ข้ามก้ได้ครับไม่ว่ากัน สามารถวิพากวิจารย์ได้เลยครับแต่อย่าด่าแรง ^^ ผมเพิ่งหัดเขียน
   โดย 3 มหาอำนาจที่ผมยกมาจำแนกจาก  1. อำนาจทางการเงิน  2.การซื้อตัวนักเตะในทุกๆฤดูกาลที่ผ่านมา
   3.การดึงดูดยอดโค้ชเข้าสู่ทีม 4.ความพร้อมต่างๆในการล่าแชมป์ไปประดับสโมสรครับผม
                     พรีเมียร์ ลีกอังกฤษในยุคปัจจุบันได้เดินทางมาถึงยุคที่อุดมไปด้วย  มีกุนซือระดับต้นๆของโลกประดับบารมี
         เป๊ปผู้เสก 6 แชมป์ ให้บาเซโลน่าในปีเดียว(นับทุกถ้วย)                                                                          >>>แมนฯซิตี้
         โจเซ มูริณโญ่ ผู้เขียนประวัติศาสต์ให้ ปอร์โต้ เชลซ๊ อินเตอร์ มาดริด และล่าสุดแมนยู                                     >>>แมนฯยู
         อาเซน เวนเกอร์  กุณซือผู้ที่รังสรรค์ปีทอง แชมป์ไร้พ่าย ให้อาเซน่อล                                                         >>>อาเซน่อล
         เจเกน คล็อป  ผู้สร้างแชมป์ให้ดอทมุน และสามรถปลดแอกบาเยินลงได้                                                      >>>ลิเวอร์พูล
         มาริโอ โปเชตติโน่ กุณซือหนุ่ม ยกระดับทีมอย่างสเปอร์ให้มีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง รองแชมป์ฤดูกาลล่าสุด         >>> สเปอร์
         อันโตนิโอ คอนเต้  กุณซืออิตาลี่ จอมแท็กติก 3-4-3 พิฆาตโลกเมื่อฤดูกาลล่าสุด                                           >>>เชลซี

จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ลีกอังกฤษจะไม่ได้มีทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นลีกที่มีการต่อสู้แย่งชิงชัยชนะดุเดือดที่สุดในโลก(ในความคิดของผม) บางคนอาจบอกว่า ฤดูกาลที่แล้วน่าเบื่อเชลซีนำม้วนเดียวจบตั้งแต่ได้เป็นจ่าฝูง ไม่เหมือน บาซ่า มาดริด ที่ แย่งแชมป์ลุ้นกันสนุกจนนัดสุดท้าย  ต้องอย่าลืมนะครับว่า บาซ่ามาดริด 2 ทีมนั่นเขาดีที่สุดในโลก  ที่ลุ้นหน่ะไม่ได้ลุ้นไม่ชนะ แต่จะลุ้นว่าจะเสมอหรือยิงประตูเยอะพอมั้ยด้วยซ้ำ ซึ่งมันแตกต่างจากลีกอังกฤษ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ใหนคุณก็พร้อมจะแพ้ หากวันนั้นสตาร์พายในทีมเกิดโชว์ฟอร์มไม่ออก กุนซืออีกฝั่งจับทางได้ เหตุผล108 บราๆ    นั่นแหละครับคือเสน่ห์ของพรีเมียร์ ลีกที่มีมนต์เสน่ห์และมีค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดที่นับวันยิ่งแพงบ้าเลือดขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งในวันนี้ผมจะมาพูดถึง ตามหัวข้อเลยครับ 3 มหาอำนาจของพรีเมียร์ในยุคปัจจุบัน  โดย 3 ทีมที่ผมยกมาอาจไม่โดนใจแฟนบอลทีมไหนต้องขออภัยด้วย แต่ผมวิเคราะห์จาก การคว้าแชมป์ ฐานอำนาจทางการเงิน การเสริมตัวนักเตะทุกฤดูกาล ตลอด 10 ปีล่าสุด  และอัตราการเติมโตของสโมสรในอนาคต ในการวิเคราะห์ของผมให้ดังนี้ครับ
        เสือตัวที่ 1   < แมนฯยู >
เสือตัวแรก แมนฯยูทีมที่มีพร้อมทั้ง ประวัติศาสตร์ ฐานแฟนบอล อำนาจทางการเงิน และแรงดึงดูในการดึงนักเตะดังๆจากทั่วโลก แมนยูในก่อนหน้านี้ในยุกของป๋า แมนยูผูกขาดแชมป์ มาได้อย่างยาวนานและใช้เงินในตลาดนักเตะได้อย่างคุ้มค่ามากๆ ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าทุกวันนี้ป๋ายังคุมต่อ พวกเขาจะยังคงเป็นทีมทีผูกขาดแชมป์ได้ไม่ยากเย็นเพียงแต่ยุคเปลี่ยนถ่าย โค้ชที่เข้ามาอาจยังไม่สามารถตอบโจทย์ให้กับแมนยูได้ ซึ่งในความคิดผมคือที่ป๋าวางมือถือเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ในความคิดคือไม่ใช่เพราะผมเชียร์เชลซี แต่มาจากการที่ผมสังเกตการซื้อของป๋าจะเป็นตัวที่ มันตอบโจทย์การคว้าแชป เพียงแต่นักเตะคนนั้นอาจไม่ได้เป็นสตาร์ที่โลกต้องตกใจมากๆ ซึ่งเมื่อยุคใหม่มาถึง แมนยูลงทุกตลาดนักเตะทำให้ผมได้อึ้งกับการซื้อตัวของแมนยูคือมันดีมากๆในความคิดของผมที่แมนยูดึงสตาร์ต่างๆเข้าสู่ทีม เพราะแฟนบอลส่วนใหญ่บางคนมีนะครับที่เชียร์สโมสรเพราะติดตามนักเตะคนนั้น ยิ่งทำให้แมนยูสมัยก่อนกับสมัยนี้แตกต่างกันตรง สมัยก่อนมีประสิทธิภาพในการคว้าแชมจากมันสมองของป๋า กับยุคสมัยนี้ ที่มีนักเตะฝีเท้าระดับโลกถูกดึงเข้าสโมสรมากมาย และพร้อมสำหรับการล่าแชมป์ในทุกรายการ ทำให้ภาพลักษณ์ของแมนยูในความคิดของผมดีกว่าสมัยป๋าตรงที่ในทีมมีนักเตะชื่อดังอยู่เพียบนี่แหละครับ อีกทั้งโค้ชที่เข้ามาอย่างน้ามูแล้วนั้น หากมูต้องการใคร มีประโยคตลกที่คนชอบกันคือ “แค่บอกเอ็ด”ทัพปีศาจก็พร้อมทุ่มค่าตัวมหาศาลให้แน่นอน ดังนั้นแล้ว เสือตัวนี้พร้อมแล้วในการกลับมาทวงบัลลังค์แชมป์ของตัวเองกลับคืนสู่โรงละครแห่งความฝัน  
        เสือตัวที่ 2 <  แมนฯซิตี้  >>
ทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ตลอด 8 ปีหลังสุดมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีฐานอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในลีกย์(นับจากมูลค่าทรัพย์สินของชีค) กลายเป็นทีมที่ไม่ว่าตอนจบฤดูกาลยังไง พอเปิดฤดูกาลใหม่ก็ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 นอนมาตลอด เนื่องจากตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่ชีคเข้ามาเทคโอเวอร์ แมนซิตี้กลายเป้นทีมที่น่ากลัวที่สุดอันดับต้นๆของลีก จากการดูดนักเตะระดับท็อปของลีกต่างเข้าสู่ทีมมากมายและเช่นเดียวกันกับแมนยู แมนซิตี้ตอนนี้ในทีมเต็มไปด้วยสตาร์คับคั่ง ซึ่งมันช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสโมสรและการันตี้ว่า ทุกฤดูกาลแมนซิตี้พร้อมทุ่มเงินเพื่อดึงนักเตะชื่อกระฉ่อนมาสร้างแชมป์ให้กับทีมเพื่อที่จะสู้แย่งแชมป์กับลีกที่โหดหินที่สุดของโลก และยิ่งตอนนี้โค้ชที่เขามาคุมทีมคือ เป๊บกุนซือเทวดา ที่ถูกยกให้เป็นกุนซืออันดับ 1 ของโลกแล้วนั้น แมนซิตี้ตอนนี้เลยกลายเป็นเสืออีกตัวที่ พล้อมจะแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า ในแมนเชสเตอร์ยังมีอีกทีมถึงแม้จะไม่ใช่ทีมที่มีแฟนบอลเยอะเท่าคนอื่นเขาแต่จะแสดงสักยภาพของทีมที่มีทั้งสตาร์ดังของโลกและกุนซือระดับเวิลคราส พร้อมจะล่าทุกแชมป์ไปกับ 2 มหาอำนาจที่เหลือเช่นกัน เพื่อเสริมสร้างฐานแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผมยังเชื่อว่าเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ศึกแมนเชสเตอร์อาจจะมีแฟนบอลทั่วโลกเปิดดูพร้อมกันเทียบเท่าแดงเดือดเลยก็ได้ครับ เสือตัวนี้พร้อมออกมาแสดงเขี้ยวเล็บของตัวเองแล้วแน่นอน

        เสือตัวที่ 3 <  เชลซี  >
เสือตัวสุดท้าย ใน 3 มหาอำนาจลูกหนังอังกฤษยุคปัจจุบัน เชลซีตัวแทนทีมเดียวจากมหานครลอนดอนที่ถูกยกมาสู้กับ 2 มหาอำนาจจากเมืองแมนเชสเตอร์ ตลอดระยะเวลา 10ปีหลังสุดตั้งแต่ เสี่ยหมีเข้ามาเทคโอเวอร์ ทีมที่มีพัฒนาการไปข้างหน้าอันดับต้นๆของลีกค์คือเชลซี เนื่องจากพวกเขามีทั้ง ฐานแฟนบอล อำนาจทางการเงิน อิทธิพลในการดึงดูดนักเตะที่ยกมาจากการปาดหน้าฉกตัวชาวบ้านเขา เชลซีเป็นเสือตัวสุดท้ายที่แสดงออกซึ่งความกระหายในการต้องการแชมป์ในทุกฤดูกาลเพราะทีมนี้ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มีคำว่ามือเปล่า วัดจากจำนวนโค้ชที่โดนเด้งออก ถึงแม้ฤดูกาลที่แล้วเขาจะสร้างประวัติศาสตร์ให้สโมสรได้ยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ถ้าคุณไม่ดีพอ เสี่ยหมีผู้กระหายถ้วยแชมป์มาประดับตู้โชว์เพิ่มบารมีตัวเองก็พร้อมจะเตะออกจากทีมและหาคนที่ดีกว่า ซึ่งบางคนคงคิดว่าวิธีการนี้มันแย่เพราะคุณไม่ให้โอกาสเขาได้แก้ตัว แต่อย่างที่ผมกล่าวมาละครับ ทีมนี้ถูกสร้างมาเพื่อไม่ให้มีคำว่ามือเปล่า วัดจากบรรดาโค้ชที่ถูกเตะออกกับจำนวนแชมป์ที่ได้มา คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ นี่จึงเป็นแนวทางในการสร้างทีมของเสี่ยหมี ซึ่งนอกจากจะการันตีแชมป์ 1 รายการเกือบทุกปีแล้วนั้น ฐานการเงิน และอิทธิพลที่มีต่อตลาดนักเตะ ชื่อเสี่ยหมีไม่ได้มาเพราะหยิบฉลากแน่นอน เพราะเมื่อภายในทีมอุดมไปด้วยศักยภาพในการไล่ล่าแชมป์ปีต่างๆ นักเตะก็ทำใจยากที่จะปฏิเสธได้ ซึ่งเชลซีตอนนี้ก็เพิ่งสถาปนาตัวเองเป็นแชมป์พรีเมียหนที่ 2 ในรอบสามปี ภายใต้การสร้างทีมของ ค็อนเต้ กุณซือจอมโวยวาย ผู้นำเข้า 3-4-3 พิฆาตโลกให้ได้เห็นกันว่า กุณซือมากแท็กติกคนนึงของโลกได้ถูกนำเข้าสู่เวทีพรีเมีย ลีกค์ และภายในทีมก็พร้อมอุดช่องโหว่ด้วยนักเตะฝีเท้าพระกาฬตามความต้องการของคอนเต้ เสือตัวสุดท้ายจึงพร้อมไล่ล่าแชมป์แบบเต็มอัตราศึก

      3 มหาอำนาจที่ผมกล่าวมาคือทีมที่ยกระดับความมันส์ของเวทีพรีเมียร์ให้น่าดูชม เพราะคุณลองคิดดูนะครับ ว่า ถ้าคุณมองลาลีก้า คุณจะรอแค่ เอลกลาซิโก้ ส่วนถ้ามองกัลป์โซ่คุณจะมอง ยูเว่-เอซี แต่นี่พรีเมียจัดนักเตะระดับท็อปของโลกให้มาอยู่รวมกัน และพร้อมฟัดแสดงสักยภาพให้ได้เห็นกันไปเลยว่าใครของจริง รวมทั้ง ลิเวอร์พูล อาเซน่อล สเปอร์ เอฟเวอร์ตันด้วย ไม่ใช่ว่าผมไม่เลือกเพราะไม่มีสิทธิคว้าแชมป์ครับ แน่นอนมีแน่นอนเพราะเลสเตอร์ก็แสดงปาฏิหารร์ให้เห็นแล้ว แต่ปัจจัยด้านอื่นๆมันไม่เอื่ออำนวยให้เข้ามาอยู่ใน 3 มหาอำนาจที่ผมกล่าวมาในความคิดของผมแค่นั้นเองครับ ใช่ครับ ผอาจยกมาแค่ทีมที่มันรวย แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปละครับ เป็นคุณคุณจะเลือกดูใคร หากรู้ว่า บาซ่า-บิลเบา  กับ แมนยู-แมนซิ หรือทีมใหนก้ได้ในกลุ่มท็อป 6 เพราะพรีเมียร์ ลีก  ทีมเยอะกว่า และสโมสรที่มีดาวดังคับคั่งพร้อมล่าแชมป์ได้ตลอด ครับผมเลยคิดว่าที่ยกมาเข้าข่ายที่สุดแล้ว
ไม่ถูกใจใครขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ
  Prot0Gust
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่