สอบติดมหาลัย ขอรถพ่อ

สรุปได้เเล้วคับ ยังไม่เอาครับ อาจจะลออีกซัก2-3ปี
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
บ้านรวย มีเงินเก็บหลายสิบล้าน พ่อมีอาชีพมั่นคงเงินเดือนสูง ก็ว่ากันไป

แต่เป็นผม(ผช) ... ไม่ขอครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ฐานะปานกลาง แค่หาเงินมาจ่ายค่าเทอมคุณ ค่าใช้จ่ายในบ้าน คุณก็น่าจะคิดเองได้นะว่ามันหนักแค่ไหน จะไปเพิ่มภาระให้กับพ่อแม่คุณอีกเหรอ บ้านคนอื่นนี่ไม่มีเงิน ต้องไปทำงานหาเงินเรียนเองนะ แถมข้ออ้างว่าคนอื่นเขายังมีรถเลยนี่มันโคตรจะความคิดเด็กจริงๆ

คนที่ทำงานหาเงินซื้อเอง จะรู้สึกถึงความลำบากเลยกว่าจะผ่อนหมด แทบกระอัก
ความคิดเห็นที่ 22
ผมเป็นพ่อ  ที่ลูกกำลังจะจบมหาวิทยาลัย
ตอนลูกผมสอบเข้าได้ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยสภาพที่ตั้งมหาวิทยาลัย  ต้องมีรถ
ผมซื้อ มอเตอร์ไซค์ให้ครับ เป็นยามาฮานูโวอิลิแกนซ์
จนลูกเรียนปีสี่  ผมเห็นว่าโตพอแล้ว
ผมจึงให้รถยนต์เก๋งที่บ้านเอาไว้ใช้
ฐานะครอบครัวปานกลาง
ลูกผมเรียนแพทย์
เหตุผลคือปีสี่เริ่มมีการขึ้นเวรกลางคืน
ความคิดเห็นที่ 11
คุณสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้...พ่อแม่ดีใจ แต่มันก็ดีสำหรับตัวคุณเอง ยังไงๆ ภาระในการส่งเสียให้คุณเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังเป็นพ่อแม่คุณ ไม่คิดบ้างว่าตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ พ่อแม่คุณส่งเสียเลี้ยงดูคุณมาตลอด จนระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งก็นับว่าคุณเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายๆ บ้าน ลูกที่โตขนาดนี้ต้องดิ้นรนทำงานพิเศษเพื่อส่งตัวเองเรียน บางกรณีไม่ใช่เพราะที่บ้านส่งไม่ไหว แต่เพราะเจ้าตัวคิดได้ เห็นแล้วว่าเป็นภาระพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก นี่ก็โตพอจะดิ้นรนหาเงินเรียนเองได้แล้ว ไม่อยากเป็นภาระให้พ่อแม่อีกต่อไป ก็ไปดิ้นรนหางานพิเศษทำ

ลองคิดดูดีๆ ครับ จวบจนตอนนี้ภาระทุกอย่างในการให้คุณได้กิน ได้อยู่ ได้เรียน พ่อแม่หามาให้ทุกอย่าง กะแค่คุณเข้ามหาวิทยาลัยได้ พ่อแม่คุณต้องดีใจขนาดเอาภาระเรื่องรถมาเพิ่มเพื่อคุณอีก ลองคิดให้มากๆ ครับ รถคันนึง ขนาดคนเรียนจบมหาวิทยาลัย ทำงานแล้ว รถคันนึงยังเป็นภาระที่หนักพอสมควร ไหนจะค่ารถ ไหนจะค่าน้ำมัน ไหนจะค่าดูแลรักษา ประกัน แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุอีกล่ะ ฯลฯ

หวังว่าการศึกษามาถึงระดับจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะช่วยให้คุณคิดได้นะครับ ว่าอะไรควรไม่ควร

โชคดีกับการตัดสินใจของคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่