เปิดกล่อง Apple iPad Pro 10.5 ปี 2017 จาก Apple Store
วันนี้เราจะมีรีวิวการสั่งสินค้าจาก Apple Store และเปิดกล่องรีวิวสินค้าแบบคร่าวๆ
เริ่มจากเข้าไปที่
https://www.apple.com/th/
จากนั้นจิ้มไปที่ iPad รุ่นที่เราต้องการได้เลย
สำหรับวันนี้ตัวที่จขกท สนใจคือ
iPad Pro 10.5 Wifi+Cellular ขนาด 512GB กับ Apple pencil ค่ะ
จากนั้นกดใส่สินค้าลงในถุง เลยยยยย
นี่คือรายการในถุงที่ซื้อทั้งหมด
สังเกตได้ว่าตัวสินค้า iPad Pro ต้องรอถึง 2-3 สัปดาห์กันเลยทีเดียว
ไหนๆๆ กดดูวันส่งมอบสินค้าซิ โอ้ววนานใช้ได้
แต่ไม่เป็นไร เค้ารอได้ อิอิ
จากนั้นกดดำเนินการต่อ ใส่ที่ชื่อที่อยู่สำหรับส่ง
จากนั้นกดชำระเงิน
ในครั้งนี้ จขกท เลือกการชำระเงินโดยตัดผ่านบัตรเดบิต รวมเป็นยอด 43600 บาท
กรอกเลขบัตรเคดิตให้เรียบร้อย และที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
จากนั้นจะขึ้นหน้าสรุปข้อมูลที่เรากรอกไป ตรวจเช็คให้ดี เดี๋ยวไปส่งผิดบ้านไม่รู้ด้วยล่ะ อิอิ
จากนั้นกดคำสั่งซื้อ
จากนั้น จะมีอีเมลล์ส่งหาเราตามอีเมลล์ที่ระบุไว้ในตอนแรก
จากนั้นนำหมายเลขการสั่งซื้อ (ที่ระบุไว้ด้านบนขวาของอีเมลล์) เข้าไปเช็คในเว็บ
จะพบหมายเลขติดตามพัสดุ 2 หมายเลข
ซึ่งก็คือของ iPad และ pencil แยกกล่องกันมาและส่งมาโดย UPS
ซึ่งชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขาน
แต่ที่หน้าแปลกใจคือ
ในตอนแรก ทาง Apple ได้ระบุไว้ว่า จะสามารถทำการส่งสินค้า iPad ในช่วงระหว่างวันที่ 2–9 สิงหาคม 2560
แต่พอมาเช็คดูอีกทีพบว่าสามารถส่งมอบได้ในวันที่ 19 กรกฏาคม ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมมาก
จากนั้นเรา ลองกดเข้าไปดูความเคลื่อนไหวจากเลข tracking ที่ได้ดู
จะพบว่าสินค้าได้เตรียมส่งออกจาก สิงค์โปร์ในช่วงเย็น ซึ่งเร็วมากๆๆ
เพราะตอนที่จขกท สั่งสินค้า คือช่วงเวลาตอนเที่ยงวัน
พอช่วงตี3 ลองเข้ามาเช็ค เอ้ยสินค้ามาถึงจีนแล้วรึ ไวเฟร่ออ
พอช่วงเที่ยงของวันที่19 กรกฏาคม
ได้รับเบอร์โทรศัพท์จากชายแปลกเสียง อิอิ รู้เลยใครโทรมา
คนส่งของ : ใช่คุณ….รึป่าวครับ เอาสินค้ามาส่งครับ
เรา : ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่สะดวกรับสินค้า ขอรับเป็นช่วง 18.00 ได้ไหมคะ
คนส่งของ : ไม่ได้ครับ ผมมีของต้องส่งอีกเยอะ
เรา : หร๊ะะะ....แบบนี้ก็ได้หราาา (คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกเสียง กลัว iPad ไม่ปลอดภัย 5555)
คนส่งของ : งั้นขออนุญาต ฝากของไว้กับ รปภ นะครับ
เรา : ตอบตกลงแบบ งงๆ
------ วางสาย ------
ซึ่งเรารู้สึกไม่ค่อยโอเค กับการส่งของของ UPS กากมาก
ถึงแม้สินค้าที่ได้รับจะไม่มีตำหนิก็เถอะ แต่บริการแย่อะ
"ตามใจคนส่ง...ไม่ตามใจคนรับ" แต่งานเค้าคงเยอะมั้ง (พยายามคิดในแง่ดี 55555)
ถ้าเทียบกับ DHL (ครั้งก่อนที่เคยสั่ง iPhone) ดีกว่าหลายขุม
แต่ช่างเหอะ มาเปิดสินค้ากันดีกว่า ไหนๆของก็มาแล้ว
กล่องภายนอกก็มาในสภาพที่ดี ไม่มีรอยบุบ ใดๆ สินค้าทั้งสองกล่องถูกมัดรวมมาด้วยกัน
จากนั้น เรามาเริ่มแกะ กล่องใหญ่ก่อนละกันน
แอ่นแอ้นนนน....
เปิดออกมาเป็น iPad สภาพข้างในห่อด้วยพาสติกไม่มีรอยแกะหรือฉีกขาดใดๆ
เช็ควันเดือนปีที่ผลิต โอโห สินค้าพึ่งผลิตมาใหม่ๆสดๆร้อนๆ
ไหนๆๆ เปิดกล่องใหญ่แล้ว มาเปิดกล่องเล็กบ้างซิ
สินค้าผลิตเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง
ไหนนน ถ่ายรูปรวมกันหน่อยย...
จากนั้นเรามาเปิดกล่องสินค้าข้างในกัน...
iPad สีชมพูของเค้า จากการตรวจสอบสภาพเฟอร์เฟคไม่มีตำหนิที่ตำแหน่งใดๆ
ข้างใน มีที่ชาร์ต ขนาด 5 W และสาย USB เหมือนๆเคย
ไหนๆ ลองเปิดกล่อง Apple pencil ดูบ้าง
ข้างในมี ปากกา + หัวปากกาสำรอง + Adapter สำหรับชาร์ต
ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกินน 555555
ไหนๆลองเขียนดูหน่อยสิ
ลายมือกากใช้ได้ เอ้ยย ไม่ใช่แล้ววว
ปากกาเขียนดีมาก ลื่นน ได้ feel เหมือนเขียนปากกาจริง
รู้สึกไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปเลย
เอาเป็นว่าขอจบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
[CR] เปิดกล่อง Apple iPad Pro 10.5 ปี 2017 จาก Apple Store
วันนี้เราจะมีรีวิวการสั่งสินค้าจาก Apple Store และเปิดกล่องรีวิวสินค้าแบบคร่าวๆ
เริ่มจากเข้าไปที่ https://www.apple.com/th/
จากนั้นจิ้มไปที่ iPad รุ่นที่เราต้องการได้เลย
สำหรับวันนี้ตัวที่จขกท สนใจคือ
iPad Pro 10.5 Wifi+Cellular ขนาด 512GB กับ Apple pencil ค่ะ
จากนั้นกดใส่สินค้าลงในถุง เลยยยยย
นี่คือรายการในถุงที่ซื้อทั้งหมด
สังเกตได้ว่าตัวสินค้า iPad Pro ต้องรอถึง 2-3 สัปดาห์กันเลยทีเดียว
ไหนๆๆ กดดูวันส่งมอบสินค้าซิ โอ้ววนานใช้ได้
แต่ไม่เป็นไร เค้ารอได้ อิอิ
จากนั้นกดดำเนินการต่อ ใส่ที่ชื่อที่อยู่สำหรับส่ง
จากนั้นกดชำระเงิน
ในครั้งนี้ จขกท เลือกการชำระเงินโดยตัดผ่านบัตรเดบิต รวมเป็นยอด 43600 บาท
กรอกเลขบัตรเคดิตให้เรียบร้อย และที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
จากนั้นจะขึ้นหน้าสรุปข้อมูลที่เรากรอกไป ตรวจเช็คให้ดี เดี๋ยวไปส่งผิดบ้านไม่รู้ด้วยล่ะ อิอิ
จากนั้นกดคำสั่งซื้อ
จากนั้น จะมีอีเมลล์ส่งหาเราตามอีเมลล์ที่ระบุไว้ในตอนแรก
จากนั้นนำหมายเลขการสั่งซื้อ (ที่ระบุไว้ด้านบนขวาของอีเมลล์) เข้าไปเช็คในเว็บ
จะพบหมายเลขติดตามพัสดุ 2 หมายเลข
ซึ่งก็คือของ iPad และ pencil แยกกล่องกันมาและส่งมาโดย UPS
แต่ที่หน้าแปลกใจคือ
ในตอนแรก ทาง Apple ได้ระบุไว้ว่า จะสามารถทำการส่งสินค้า iPad ในช่วงระหว่างวันที่ 2–9 สิงหาคม 2560
แต่พอมาเช็คดูอีกทีพบว่าสามารถส่งมอบได้ในวันที่ 19 กรกฏาคม ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมมาก
จากนั้นเรา ลองกดเข้าไปดูความเคลื่อนไหวจากเลข tracking ที่ได้ดู
จะพบว่าสินค้าได้เตรียมส่งออกจาก สิงค์โปร์ในช่วงเย็น ซึ่งเร็วมากๆๆ
เพราะตอนที่จขกท สั่งสินค้า คือช่วงเวลาตอนเที่ยงวัน
พอช่วงตี3 ลองเข้ามาเช็ค เอ้ยสินค้ามาถึงจีนแล้วรึ ไวเฟร่ออ
พอช่วงเที่ยงของวันที่19 กรกฏาคม
ได้รับเบอร์โทรศัพท์จากชายแปลกเสียง อิอิ รู้เลยใครโทรมา
คนส่งของ : ใช่คุณ….รึป่าวครับ เอาสินค้ามาส่งครับ
เรา : ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่สะดวกรับสินค้า ขอรับเป็นช่วง 18.00 ได้ไหมคะ
คนส่งของ : ไม่ได้ครับ ผมมีของต้องส่งอีกเยอะ
เรา : หร๊ะะะ....แบบนี้ก็ได้หราาา (คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกเสียง กลัว iPad ไม่ปลอดภัย 5555)
คนส่งของ : งั้นขออนุญาต ฝากของไว้กับ รปภ นะครับ
เรา : ตอบตกลงแบบ งงๆ
------ วางสาย ------
ซึ่งเรารู้สึกไม่ค่อยโอเค กับการส่งของของ UPS กากมาก
ถึงแม้สินค้าที่ได้รับจะไม่มีตำหนิก็เถอะ แต่บริการแย่อะ
"ตามใจคนส่ง...ไม่ตามใจคนรับ" แต่งานเค้าคงเยอะมั้ง (พยายามคิดในแง่ดี 55555)
ถ้าเทียบกับ DHL (ครั้งก่อนที่เคยสั่ง iPhone) ดีกว่าหลายขุม
แต่ช่างเหอะ มาเปิดสินค้ากันดีกว่า ไหนๆของก็มาแล้ว
กล่องภายนอกก็มาในสภาพที่ดี ไม่มีรอยบุบ ใดๆ สินค้าทั้งสองกล่องถูกมัดรวมมาด้วยกัน
จากนั้น เรามาเริ่มแกะ กล่องใหญ่ก่อนละกันน
แอ่นแอ้นนนน....
เปิดออกมาเป็น iPad สภาพข้างในห่อด้วยพาสติกไม่มีรอยแกะหรือฉีกขาดใดๆ
เช็ควันเดือนปีที่ผลิต โอโห สินค้าพึ่งผลิตมาใหม่ๆสดๆร้อนๆ
ไหนๆๆ เปิดกล่องใหญ่แล้ว มาเปิดกล่องเล็กบ้างซิ
สินค้าผลิตเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง
ไหนนน ถ่ายรูปรวมกันหน่อยย...
จากนั้นเรามาเปิดกล่องสินค้าข้างในกัน...
iPad สีชมพูของเค้า จากการตรวจสอบสภาพเฟอร์เฟคไม่มีตำหนิที่ตำแหน่งใดๆ
ข้างใน มีที่ชาร์ต ขนาด 5 W และสาย USB เหมือนๆเคย
ไหนๆ ลองเปิดกล่อง Apple pencil ดูบ้าง
ข้างในมี ปากกา + หัวปากกาสำรอง + Adapter สำหรับชาร์ต
ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกินน 555555
ไหนๆลองเขียนดูหน่อยสิ
ลายมือกากใช้ได้ เอ้ยย ไม่ใช่แล้ววว
ปากกาเขียนดีมาก ลื่นน ได้ feel เหมือนเขียนปากกาจริง
รู้สึกไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปเลย
เอาเป็นว่าขอจบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ