เก้าอี้ทำงาน MUJI สีขาวตัวนี้มาอยู่กับเราได้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ มันเป็นเก้าอี้ทำงานที่นั่งสบายมากๆ ไม่เปลืองพื้นที่ ระบบล้อลื่นปรื๊ด ไถไปไถมาในห้องได้เพลิน หน้าตาก็น่ารักแบบ MUJI เขาออกแบบ มันทำหน้าที่ของมันด้วยดีมาตลอด แต่พอปลายๆ ปีที่แล้วก็เริ่มมีอาการ "ผ้าบุใต้ที่นั่งเปื่อย"
ช่วงแรกเราก็คิดว่า เอ๊ะ ผงดำๆ ที่พื้นนี่มาจากไหนกันนะ อาจจะติดจากรองเท้าที่เราต้องเอาเข้ามาในห้องเพราะเราอยู่คอนโด ที่ห้ามจอดรองเท้าข้างนอกไม่งั้นจะโดนล้ออย่างแรง ไปๆ มาๆ จาก "ผง" ก็เริ่มขยายตัวเป็น "แผ่น" เป็นชิ้นดำๆ ร่วงลงมา เราก็สืบไปจนหาต้นตอเจอก็คือผ้าบุที่มีลักษณะเหมือนเยื่อกระดาษที่ปิดระหว่างผ้าหุ้มเบาะและไม้ใต้เก้าอี้ เริ่มเป็นรูโบ๋
เราก็ลองเอานิ้วจิ้มตรงรูนั้นดู ปรากฎว่า "มันลามมมมม" ร่วงกราวลงมา เราเลยหยุดแล้วคิดว่าถ้าจิ้มไปเรื่อยๆ หมดแน่ MUJI ตัวเก่งของฉัน ก็เลยติดต่อไปทางสำนักงาน MUJI ในประเทศไทย ว่ามันซ่อมได้ไหม เพราะอย่างที่บอกเราชอบเก้าอี้ตัวนี้มาก และตอนซื้อมาค่าตัวนางก็แพงพอดู ก็ได้คำตอบกลับมาว่า "ต้องนำไปร้านซ่อมเบาะทั่วๆ ไปให้เขาซ่อมให้ เพราะสินค้าหมดประกันแล้ว" เราก็ซื้อมาหลายปีแล้วอ่ะเนอะ เรื่องประกันมันก็หมดไปนานแล้วแหละ แค่ติดต่อไปเผื่อว่าจะได้ซ่อมได้สวยๆ เหมือนรถยนต์ที่ชนแล้วซ่อมห้าง
จากนั้นมา เราก็เริ่มทำใจได้ว่า MUJI หนอ ซื้อมาแพง แต่วันนึง MUJI ก็ต้องพัง แต่เอาน่ายังไงมันก็ยังนั่งได้ เราก็อยู่กับมันแบบใช้กวาดฝุ่นผงดำๆ เอาทุกวัน ถือเป็นการทำความสะอาดห้องไปในตัว จนกระทั่ง...
เมื่อเช้าวันนี้ แผ่นบุมันร่วงลงมาชิ้นใหญ่มาก แล้วเราดันไถล้อทับ เกิดโศกนาฏกรรมบนพื้นห้อง ดำเป็นปื้น เราก็คิดว่าวันนี้แหละที่จะต้องพานางไปร้านทำเบาะ
เราจึงเริ่มยกนางออกมาจากจุดประจำการ พบว่านางตัวหนักมากกกก เราจินตนาการตัวเองพานางยกลงไปข้างล่าง อุ้มขึ้นรถ พาไปร้านซ่อม อุ้มขึ้น และอุ้มลงอีกหลายรอบ ดูไม่น่าจะเป็นมิตรกับหลังของเรา
จึงได้ตัดสินใจแก้ปัญหาให้นางแบบชั่วคราวไปก่อน คือกระทุ้ง จิ้ม ปัด ขูด แผ่นดำๆ ออกมาให้หมด ผลที่ได้ก็อย่างในภาพเลยจ้า
ผลที่ได้ก็เป็นแบบนี้
และนี่คือผงดำๆ ที่ทำให้เราขยันกวาดห้องในช่วงปีที่ผ่านมา หวังว่าเราคงจบกันแต่เพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ก็อยากให้เพื่อนๆ ที่จะซื้อสินค้าที่ประกอบด้วยวัสดุคล้ายแผ่นบุเก้าอี้ของเรา อาจจะต้องระวังเรื่องอายุการใช้งานด้วย
มิฉะนั้น คุณอาจจะต้องกวาดห้องทุกวันแบบเรา!!!!
เรื่องเศร้าๆ ระหว่างเราและเก้าอี้ MUJI
ช่วงแรกเราก็คิดว่า เอ๊ะ ผงดำๆ ที่พื้นนี่มาจากไหนกันนะ อาจจะติดจากรองเท้าที่เราต้องเอาเข้ามาในห้องเพราะเราอยู่คอนโด ที่ห้ามจอดรองเท้าข้างนอกไม่งั้นจะโดนล้ออย่างแรง ไปๆ มาๆ จาก "ผง" ก็เริ่มขยายตัวเป็น "แผ่น" เป็นชิ้นดำๆ ร่วงลงมา เราก็สืบไปจนหาต้นตอเจอก็คือผ้าบุที่มีลักษณะเหมือนเยื่อกระดาษที่ปิดระหว่างผ้าหุ้มเบาะและไม้ใต้เก้าอี้ เริ่มเป็นรูโบ๋
เราก็ลองเอานิ้วจิ้มตรงรูนั้นดู ปรากฎว่า "มันลามมมมม" ร่วงกราวลงมา เราเลยหยุดแล้วคิดว่าถ้าจิ้มไปเรื่อยๆ หมดแน่ MUJI ตัวเก่งของฉัน ก็เลยติดต่อไปทางสำนักงาน MUJI ในประเทศไทย ว่ามันซ่อมได้ไหม เพราะอย่างที่บอกเราชอบเก้าอี้ตัวนี้มาก และตอนซื้อมาค่าตัวนางก็แพงพอดู ก็ได้คำตอบกลับมาว่า "ต้องนำไปร้านซ่อมเบาะทั่วๆ ไปให้เขาซ่อมให้ เพราะสินค้าหมดประกันแล้ว" เราก็ซื้อมาหลายปีแล้วอ่ะเนอะ เรื่องประกันมันก็หมดไปนานแล้วแหละ แค่ติดต่อไปเผื่อว่าจะได้ซ่อมได้สวยๆ เหมือนรถยนต์ที่ชนแล้วซ่อมห้าง
จากนั้นมา เราก็เริ่มทำใจได้ว่า MUJI หนอ ซื้อมาแพง แต่วันนึง MUJI ก็ต้องพัง แต่เอาน่ายังไงมันก็ยังนั่งได้ เราก็อยู่กับมันแบบใช้กวาดฝุ่นผงดำๆ เอาทุกวัน ถือเป็นการทำความสะอาดห้องไปในตัว จนกระทั่ง...
เมื่อเช้าวันนี้ แผ่นบุมันร่วงลงมาชิ้นใหญ่มาก แล้วเราดันไถล้อทับ เกิดโศกนาฏกรรมบนพื้นห้อง ดำเป็นปื้น เราก็คิดว่าวันนี้แหละที่จะต้องพานางไปร้านทำเบาะ
เราจึงเริ่มยกนางออกมาจากจุดประจำการ พบว่านางตัวหนักมากกกก เราจินตนาการตัวเองพานางยกลงไปข้างล่าง อุ้มขึ้นรถ พาไปร้านซ่อม อุ้มขึ้น และอุ้มลงอีกหลายรอบ ดูไม่น่าจะเป็นมิตรกับหลังของเรา
จึงได้ตัดสินใจแก้ปัญหาให้นางแบบชั่วคราวไปก่อน คือกระทุ้ง จิ้ม ปัด ขูด แผ่นดำๆ ออกมาให้หมด ผลที่ได้ก็อย่างในภาพเลยจ้า
ผลที่ได้ก็เป็นแบบนี้
และนี่คือผงดำๆ ที่ทำให้เราขยันกวาดห้องในช่วงปีที่ผ่านมา หวังว่าเราคงจบกันแต่เพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ก็อยากให้เพื่อนๆ ที่จะซื้อสินค้าที่ประกอบด้วยวัสดุคล้ายแผ่นบุเก้าอี้ของเรา อาจจะต้องระวังเรื่องอายุการใช้งานด้วย
มิฉะนั้น คุณอาจจะต้องกวาดห้องทุกวันแบบเรา!!!!