นักเรียนนายสิบ ด้วยความพยายาม

คงมีน้องๆอีกไม่น้อย ที่ตั้งความหวังที่จะเข้ารับราชการในกองทัพ ด้วยเป็นความหวังของครอบครัวบ้าง ด้วยความชอบบ้าง
และอาจจะเจอกับความสมหวังบ้างหรือผิดหวังบ้างก็มี วันนี้ผมจะขอมาเล่าประสบการณ์ในฐานะเป็นพี่ชาย ของนักเรียนนายสิบทหารบก ที่มาจากครอบครัวจนๆที่อยู่บ้านนอก เผื่อว่าที่ผมถ่ายทอดนี้จะเป็นกำลังใจให้น้องๆหรือคนที่อยากจะเข้ามาเป็นนักเรียนเหล่า  หากเขียนผิดพลาดไปใช้คำผิดไป เขียนไม่ค่อยดี ก็ต้องขออภัยด้วยน่ะครับ มาเริ่มกันเลย....
ครอบครัวผมเป็นครอบครัวบ้านนอก จะถือว่ายากจนหรือป่าวก็ไม่รู้  แต่รู้ว่า  พ่อแม่ ไม่มี สมบัติอะไรเลย แม้แต่บ้านก็ยังต้องเช่าเขาอยู่ มีแค่พอกินไปวันๆ แต่ก็ไม่ได้ร็สึกว่าจะยากอะไรมากหรืออาจจะเพราะว่าเคยชินก็ไม่รู้ได้  ครอบครัวเรามีกันอยู่ 4 คน คือ  พ่อ แม่ ตัวผมเอง  และน้องชาย  น้องชายเป็นคนที่ชอบทหารมาตั้งแต่เด็กๆครับ พออายุเข้าเกณฑ์ที่จะสอบได้ น้องชายก็เข้าสอบหมด  ตั้งแต่ เข้าสอบเป็นอาสาสมัครของกองพันจู่โจม และอื่นๆอีกแต่ก็สอบไม่ติด  พอถึงอายุเกณฑ์ทหาร น้องชายผมก็สมัครเป็นทหารเกณฑ์ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดน ซึ่งตอนนั้นเอาตรงๆเลย คนที่บ้านไม่เป็นอันหลับอันนอน ด้วยความเป็นห่วงน้อง ตอนแรกน้องเป็นทหารแค่ปีเดียว ตามที่ตั้งใจนั้น น้องตั้งใจว่าจะสอบนักเรียนนายสิบให้ได้ พยายามหาหนังสือมาอ่าน ฟิตร่างกาย ทำทุกอย่าง เท่าที่จะทำได้ ใครบอกเจ้าพ่อนั้น เจ้าแม่นี้ ดี ศักดิ์สิทธิ์ เอาหมดครับ บนไปเรื่อย หนังสือน้องก็อ่านบ้างไม่ได้อ่านบ้างเพราะต้องทำหน้าที่ แต่ก็ทำเต็มความพยายาม  แต่พอเอาเข้าจริง กลายเป็นว่า สอบไม่ติด กินแห้วเหมือนหลายๆๆครั้งที่ผ่านมา พูดจริงๆว่า ผิดหวังครับ ไม่ใช่แค่ตัวน้องเอง แต่ผิดหวังทั้งครอบครัว ลองคิดดูว่า ครอบครัวที่ไม่มีอะไรเลย พ่อแม่ตั้งความหวังลูกชาย อยากให้มีงานทำเพื่อดูแลตัวเองได้ แต่พอไม่ได้ เอาจริงก็เซ็งตามๆกัน เมื่อสอบนายสิบไม่ติด น้องชายเลยสมัครเป็นพลทหาร ปี 2 ต่อ อยู่ที่ยะลาต่ออีก 1 ปี(ด้วยความชอบและก็ต้องส่งเงินให้ พ่อแม่)  ระหว่างนั้นผมเองก็คุยกับน้องตลอดเรื่องการวางแผนที่จะสอบนักเรียนนายสิบ อีกรอบ  ให้น้องถามทางกองร้อยว่ามีโควต้าหรือป่าว รู้จักใครพอช่วยได้มั๊ย คำตอบคือ มีครับ แต่......   โควต้าก็อย่างที่รู้ครับเขาเอาเด็กคัดกันดีแล้วจริงๆ..... คนช่วยไม่ต้องพูดถึงเลย น้องรู้จักหมดแหละครับ ตั้งแต่จ่า ยัน พลเอก  แต่เขาไม่รู้จักเราเลย5555+  ไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงินซื้อ สิ่งที่มีอย่างเดียวคือความพยายาม รอบนี้น้องบอกว่า ถ้าสอบไม่ได้อีกก็จะกลับบ้านหางานทำแล้ว พูดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ฟังแล้วสะอึกครับ เพราะน้ำเสียงมันเป็นน้ำเสียงที่หมดหวังจริงๆ ผมฟังแล้วยังน้ำตาจะไหล
.
.
รอบนี้จะเพิ่มความพยายาม ใส่ทุกอย่างที่มีลงไปให้เกินร้อย  ว่ากันจริงๆครับน้องชายผมเรียนจบ  กศน. มา ความรู้เรื่อง วิทย์ คณิต อังกฤษ น้อยเหลือเกิน ผมคิดว่าสู้ใครไม่ได้แน่นอนครับ แต่ก็ให้กำลังใจน้องน่ะครับพยายามบอกตลอดว่าให้คิดว่าสู้เพื่อใครทำเพื่อใคร ถึงความรู้จะน้อยแต่เชื่อว่าน้องจะสามารถพัฒนาตัวเองให้ทันคนอื่นได้ ผมหาหนังสือส่งไปให้น้องอ่านที่ค่ายน่ะครับ น้องก็อ่านน่ะครับ โดยอ่านก่อนนอน พอตื่นเช้า ก็จะตื่นก่อนใครเพื่อนเพื่ออ่านหนังสือ แต่เอาจริงๆอ่านไม่รู้เรื่อง5555+
แต่สิ่งที่ผมยอมรับเลยก็คือ ถึงน้องจะไม่รู้เรื่องเพราะไม่เคยได้เรียนจริงๆจังๆ แต่น้องชายผม พยายามที่จะหาความรู้ด้วยการเปิดดูยูทูปบ้าง  หาในเน็ตบ้าง เช่น วิชาคณิตที่น้องจะไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็ใช้วิธีหาดูคลิปที่เขามาสอนในยูทูปบ้าง หาวิธีคิดในเวปอื่นๆบ้าง แล้วฝึกทำ จนพอเข้าใจได้บ้าง ไม่ถึงขั้นเก่งน่ะ แต่น้องผมทำอย่างนี้ ทุกวัน เกือบปี จนถึงวันที่ทาง ทบ. เปิดรับสมัคร น้องก็สมัคร จนวันที่ถึงเวลาขึ้นมาสอบ ผมอยู่ที่ กทม. ก็คอยบอกคอยแนะนำเรื่องการเดินทางบ้างเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง คอยรับน้องที่ หมอชิตบ้าง หัวลำโพงบ้าง  ฯลฯ คือผมจะคอยสนับสนุนทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้น้องสะดวกที่สุด  รอบนี้ ไม่มีการภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย ไม่บนเจ้าพ่อเจ้าแม่ ใดๆๆทั้งสิ้น  อย่างเดียวที่ทำคือพยายามอ่านหนังสือและทำความเข้าใจ มีพ่อแม่และผม เป็นกำลังใจให้น้องตลอด มีตัวน้องเองเป็นที่พึ่ง  ไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ไม่พึ่งพาเส้นสาย
ใช้แค่พลังใจของตัวเองและครอบครัว พอสอบเสร็จก็ตีรถกลับไปทำหน้าที่ที่สามจังหวัดต่อ จนวันที่ผลสอบรอบแรกออก สิ่งที่หวังก็เป็นจริงครับ น้องสอบผ่าน มีชื่อเข้าสอบรอบสอง ผลก็คือ ยิ่งกว่าถูกหวย ครับ ดีใจ จนไม่รู้จะดีใจยังไง มันสุดๆๆจริงๆ แต่หลังจากนี้ไป ก็เล่นเอาแทบแย่เหมือนกัน
พอน้องมีชื่อเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบภาควิชาการ น้องก็ต้องขึ้นมารายงานตัวที่ ยศ.ทบ.  มาส่งเอกสารบ้าง คือหลายรอบมาก ที่บอกว่าแทบแย่นี่ก็คือ การเดินทางมันต้องมีค่าใช้จ่าย แล้วน้องต้องส่งเงินที่ให้ที่บ้านด้วย แล้วลองคิดดูครับว่าเงินเดือนทหารเนี้ยมันมากมายขนาดไหน555+ เอาตรงๆเลย เล่นทำเอาผมกับน้องนี่ มีต้องกินมาม่าคนละห่อ แถมน้องไม่มีค่ารถกลับ ใต้อีก แต่ ใจครับ ใจเท่านั้นที่จะทำให้ผ่านไปได้ น้องผมใช้วิธีโบกรถสิบล้อกลับบ้าง นั่งรถไฟฟรีบ้างก็มีแล้วแต่เวลาว่าจะทันกันมั๊ย เล่นเอาหนื่อยครับ ...
พอกลับไปน้องก็ต้องฟิตร่างกาย เพื่อสอบพละ แต่ไม่มีปัญหาครับพอทำได้อยู่แล้วเพียงแต่ทำให้ร่างกายฟิตขึ้นแค่นั้นเอง
สุดท้ายพอสอบเสร็จ ปรากฎว่าน้องก็สอบผ่านอีก นี่แหละครับ ความฟินจึงบังเกิด มันสบายใจ เบา โล่ง จนบอกไม่ถูก  คือทุกอย่างที่พยายามมา ความหวังที่แบกไว้ ตอนนี้ มันเจอทาง เจอที่ๆ สามารถวางมันได้แล้ว 555+  จริงๆครับ ถึงแม้ว่าทุกอย่างมันจะยากครับ และเรื่องจริงๆมันยากกว่าที่เล่ามา แต่ก็ทำมันได้ครับ เพราะ อะไรหลายๆอย่าง เราหล่อเลี้ยงมันด้วยความหวัง ความฝัน และทำมันไปด้วยความตั้งใจ ใส่ทุกๆอย่างลงไป  การภาวนาร้องขอจากใคร มันไม่ได้ผลครับ มันต้องเริ่มจากตัวเราเอง  ตอนนี้น้องชายผม ได้เป็นนักเรียนนายสิบ อย่างที่ตั้งใจแล้วเชื่อว่ามีอนาคตที่พอจะคาดหวังได้ระดับนึง ถึงแม้ว่า มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก แต่สำหรับครอบครัวผมแล้ว มันยิ่งใหญ่ครับ *-*    
ผมเขียนเล่าเรื่องนี้ขึ้น ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างใด เพียงแค่อยากให้มีคนอ่านแล้วได้เกิดกำลังใจ  อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกๆครับ ที่มีความฝัน มีความหวังอะไรก็ตามแต่ อย่าทิ้งมันครับ ถึงแม้มันจะยาก ลำบาก ขนาดไหน จงใส่มันให้เกิน ร้อย เอาทุกๆอย่างที่มีหล่อเลี้ยงและทำมันครับ แล้วมันจะเป็นจริงได้ในซักวัน
อย่าท้อ อย่าถอยครับ  อย่ามัวน้อยใจในสิ่งที่กำลังเป็น  ให้เปลี่ยนมันเป็นพลังเพื่อจะก้าวเดินไปข้างหน้า รักตัวเอง รักครอบครัว  และรักดี เชื่อว่าสิ่งดีๆจะเกิดมีขึ้นแน่นอน สู้ๆครับ
.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่