3-4 ปีที่ผ่านมา เคยเห็นและได้ยินเรื่องของ Michaela DePrince มาบ้างแบบผ่านๆ แต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาดูรายการ Sunday Night with Megyn Kelly | NBC ตอนที่ Kate Snow คุยกับ Michaela DePrince
เรื่องราวชีวิตของเธอฟังดูน่าสนใจมาก พ่อของเธอตายในสงครามกลางเมือง ต่อมาไม่นานแม่ของเธอตายจากโรคและการขาดอาหาร อายุ 3 ปีถูกทอดทิ้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และ ถูกเรียกว่า devil’s child (ลูกของปิศาจ) ถูกล้อเลียนต่างๆ เพราะ เธอเป็นโรค vitiligo ทำให้มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นรอยด่างทั่วตัว คนที่นั่นเชื่อว่าเป็นคำสาป
ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ มีการจัดอับดับ ให้หมายเลยเด็ก จาก 1-27 เรียงตามลำดับของการได้รับความชอบหรือความเอ็นดู หรือ ความแปลกของเด็กในความคิดของคนที่นั่น ไมเคลา ได้หมายเลข 27 คือ เด็กที่ไม่มีคนชอบมากที่สุด เธอมีเพื่อนสนิท ที่บังเอิญชื่อเหมือนกันในขณะนั้น (Mabinty) คือหมายเลข 26 เพราะเธอถนัดซ้าย (คนที่นั่นไม่ชอบ) เด็กที่ได้หมายเลข 1 จะได้กินอาหารก่อนหรือตักกินก่อน ได้เลือกเสื้อผ้าก่อน เป็นต้น
วันหนึ่ง มีลมพัดนิตยสาร มาตกอยู่ที่นอกรั้ว ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และ ไมเคลา ไปพบมันเข้า
เธอฝันอยากเป็นอย่างผู้หญิงบนหน้าปกนิตยสารนั้น เพราะผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุข และ เธออยากมีความสุข เธอเอาไปให้คุณครูคนโปรดดู ต่อมาเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น พวกกบฏเข้ามาในสถานกำพร้า แล้วพนันกันว่าเด็กในท้องของ คุณครูคนโปรดของ ไมเคลา เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกนั้นผ่าท้องคุณครูดู และ ไมเคลา พยายามเข้าไปช่วยครู เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่ม เลยผ่าท้อง ไมเคลา ด้วย machete (ดาบสั้น) แต่โชคดีที่ night watchman (ยามหรือคนดูแลตอนกลางคืน) ช่วยขอร้องให้ไว้ชีวิต เธอเล่าว่า ตอนที่ถูกแทง เธอรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง และ อยากตายมาก ไม่เห็นว่ายังมีอะไรดีๆในชีวิตอยู่อีก
ต่อมาได้มีคนอเมริกันมารับเด็กทุกคนไปอุปการะ เด็กๆที่จะมีคนมาได้รับ จะได้รับ family book (สมุดรูปภาพครอบครัว) แม้แต่เพื่อนคนเดียวของเธอ (หมายเลข 26) ก็ได้รับ แต่ไม่มีใครจะรับหมายเลข 27 เธอจึงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ family book
Charles และ Elaine DePrince เคยรับเด็กผู้ชายอเมริกัน 3 คนมาเลี้ยงแต่พวกเขาตายจากโรค เอดส์ เพราะได้รับเลือดมีเชื้อ อีเลน บอกว่า อยากรับเด็กจากแถบประเทศทำสงครามจากแอฟริกา เพราะลูกชายที่ชื่อ ไมเคิล ชอบแอฟริกา พวกเขาทำเรื่องผ่านเอเจนซี่ วันหนึ่งเอเจนซี่ โทรศัพท์มาถามเพื่อความมั่นใจ ว่าจะรับเด็กคนไหน เพราะมีสองคนที่ชื่อ Mabinty และสถานกำพร้าบอกเตือน อีเลน ว่ามี 12 ครอบครัวปฏิเสธจะรับหมายเลข 27 เพราะเรื่องผิวด่าง แต่ อีเลน บอกว่าไม่เป็นไร พวกเขาจะรับเด็กอายุ 4 ขวบ ทั้งสองคนมาอุปการะ (หลังจากต่อสู้กับเอดส์ของลูกชายมาแล้ว เค้าไม่มีปัญหากับรอยด่างของผิว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากการไปหาอ่านเพิ่มเติม - Michaela Mabinty DePrince (ชื่อตอนเกิดคือ Mabinty Bangura) เกิดที่ Sierra Leone ช่วงสงครามกลางเมือง (The Sierra Leone Civil War 1991–2002) ที่มีฝ่ายหนึ่งคือ the Revolutionary United Front (RUF) ซึ่งได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจาก Charles Taylor's National Patriotic Front of Liberia (NPFL) เข้ามาแทรกแซง Sierra Leone เพื่อขับไล่ the Joseph Momoh government มาจากสาเหตุหลักคือ เพชร
Michaela DePrince เริ่มมีชื่อเสียงจาก documentary ชื่อ First Position 2011 การติดตามเรื่องราวของ ballet dancers สำหรับการเตรียมตัวแข่งขัน the Youth America Grand Prix นอกจากนี้เธอเคยทำงานกับบริษัท Dance Theatre of Harlem โดยเป็นนักเต้นที่อายุน้อยที่สุดที่บริษัทนี้เคยจ้าง ออกรายการ dancing with the stars ร่วมงานกับ Beyonce ปัจจุบัน อาศัยอยู่ที่เนเธอแลนด์ เป็น soloist ของ the Dutch National Ballet
https://en.wikipedia.org/wiki/Michaela_DePrince
First Position preview
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
TEDxAmsterdam 2014
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หวังว่าเรื่องของ ไมเคลา จะสร้างแรงบันดาลใจ กับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ ที่กำลังรู้สึกว่า สิ้นหวัง ในชีวิตค่ะ
โชคชะตา ของ Michaela DePrince - from ‘devil’s child’ to star ballerina
เรื่องราวชีวิตของเธอฟังดูน่าสนใจมาก พ่อของเธอตายในสงครามกลางเมือง ต่อมาไม่นานแม่ของเธอตายจากโรคและการขาดอาหาร อายุ 3 ปีถูกทอดทิ้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และ ถูกเรียกว่า devil’s child (ลูกของปิศาจ) ถูกล้อเลียนต่างๆ เพราะ เธอเป็นโรค vitiligo ทำให้มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นรอยด่างทั่วตัว คนที่นั่นเชื่อว่าเป็นคำสาป
ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ มีการจัดอับดับ ให้หมายเลยเด็ก จาก 1-27 เรียงตามลำดับของการได้รับความชอบหรือความเอ็นดู หรือ ความแปลกของเด็กในความคิดของคนที่นั่น ไมเคลา ได้หมายเลข 27 คือ เด็กที่ไม่มีคนชอบมากที่สุด เธอมีเพื่อนสนิท ที่บังเอิญชื่อเหมือนกันในขณะนั้น (Mabinty) คือหมายเลข 26 เพราะเธอถนัดซ้าย (คนที่นั่นไม่ชอบ) เด็กที่ได้หมายเลข 1 จะได้กินอาหารก่อนหรือตักกินก่อน ได้เลือกเสื้อผ้าก่อน เป็นต้น
วันหนึ่ง มีลมพัดนิตยสาร มาตกอยู่ที่นอกรั้ว ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และ ไมเคลา ไปพบมันเข้า
เธอฝันอยากเป็นอย่างผู้หญิงบนหน้าปกนิตยสารนั้น เพราะผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุข และ เธออยากมีความสุข เธอเอาไปให้คุณครูคนโปรดดู ต่อมาเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น พวกกบฏเข้ามาในสถานกำพร้า แล้วพนันกันว่าเด็กในท้องของ คุณครูคนโปรดของ ไมเคลา เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกนั้นผ่าท้องคุณครูดู และ ไมเคลา พยายามเข้าไปช่วยครู เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่ม เลยผ่าท้อง ไมเคลา ด้วย machete (ดาบสั้น) แต่โชคดีที่ night watchman (ยามหรือคนดูแลตอนกลางคืน) ช่วยขอร้องให้ไว้ชีวิต เธอเล่าว่า ตอนที่ถูกแทง เธอรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง และ อยากตายมาก ไม่เห็นว่ายังมีอะไรดีๆในชีวิตอยู่อีก
ต่อมาได้มีคนอเมริกันมารับเด็กทุกคนไปอุปการะ เด็กๆที่จะมีคนมาได้รับ จะได้รับ family book (สมุดรูปภาพครอบครัว) แม้แต่เพื่อนคนเดียวของเธอ (หมายเลข 26) ก็ได้รับ แต่ไม่มีใครจะรับหมายเลข 27 เธอจึงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ family book
Charles และ Elaine DePrince เคยรับเด็กผู้ชายอเมริกัน 3 คนมาเลี้ยงแต่พวกเขาตายจากโรค เอดส์ เพราะได้รับเลือดมีเชื้อ อีเลน บอกว่า อยากรับเด็กจากแถบประเทศทำสงครามจากแอฟริกา เพราะลูกชายที่ชื่อ ไมเคิล ชอบแอฟริกา พวกเขาทำเรื่องผ่านเอเจนซี่ วันหนึ่งเอเจนซี่ โทรศัพท์มาถามเพื่อความมั่นใจ ว่าจะรับเด็กคนไหน เพราะมีสองคนที่ชื่อ Mabinty และสถานกำพร้าบอกเตือน อีเลน ว่ามี 12 ครอบครัวปฏิเสธจะรับหมายเลข 27 เพราะเรื่องผิวด่าง แต่ อีเลน บอกว่าไม่เป็นไร พวกเขาจะรับเด็กอายุ 4 ขวบ ทั้งสองคนมาอุปการะ (หลังจากต่อสู้กับเอดส์ของลูกชายมาแล้ว เค้าไม่มีปัญหากับรอยด่างของผิว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
First Position preview
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
TEDxAmsterdam 2014
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หวังว่าเรื่องของ ไมเคลา จะสร้างแรงบันดาลใจ กับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ ที่กำลังรู้สึกว่า สิ้นหวัง ในชีวิตค่ะ