อายุ 24 ยังต้องใช้เงินพ่อแม่มาจัดงานแต่ง ถือเป็น ผช ที่น่ารังเกียจไหมครับ

แจ้งลบแล้วครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
นี่คุณ คุณเคยทำอะไรเองโดยไม่ใช้เส้นสายของพ่อแม่บ้างมั้ยถามจริง ภูมิใจเหรอถามหน่อย

คุณถูกเลี้ยงมาแบบพ่อแม่ประทานให้เกินไปจนขาดศักยภาพในการพัฒนาตัวเอง พึ่งแต่บารมีพ่อแม่แต่ไม่คิดที่จะทำอะไรเอง

งานผู้ใหญ่ก็ฝากให้ จะแต่งเมียพ่อแม่ก็ออกให้ สินสอดเรือนหอก็เงินพ่อแม่

ที่จริงถ้าวิเคราะห์โดยรวมแล้วก็โทษใครไม่ได้นะนอกจากพ่อแม่คุณเองที่หล่อหลอมคุณมาให้เป็นแบบนี้

พ่อแม่ที่ดีควรให้ลูกฝึกพัฒนาตัวเองไม่ใช่ว่าลูกอยากได้อะไรก็ประเคนลูกเดียว ลูกจะทำงานยังใช้บารมีตัวเองฝากกันเข้าไปอีก เอื้อประโยชน์กันเองสุดท้ายก็อาจกลายเป็นปัญหาคอร์รัปชั่นเหมือนที่เห็นๆกันทุกวันนี้

คุณยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวเพราะคุณยังเป็นเด็กที่ยังไม่โต

ถามหน่อยถ้าคุณมีลูกคุณจะเป็นสายประเคนและใช้เส้นสายแบบพ่อคุณมั้ย มันแฟร์เหรอ คุณมีอะไรที่หามาเองบ้างมั้ย

พ่อคุณพูดถูกตอนที่เค้าพูดว่า "guเลี้ยงmungดีเกินไป" เหมือนพึ่งสำนึกผิดหรือเสียใจแบบไรๆที่เลี้ยงคุณมาแบบนี้

คำถามที่ทิ้งท้ายไว้มันก็บอกวุฒิภาวะคุณดีนะว่าคุณยังเด็กและยังไม่เข้าใจโลกมาก

คุณแค่กลัว....กลัวเหมือนเด็กขี้แยคนหนึ่ง คุณคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรเลยแต่คุณมีมากกว่าคนทั่วไป แต่เพราะคุณไม่เคยทำอะไรให้ตัวคุณภูมิใจมันก็เลยทำให้คุณมีความรู้สึกไม่มั่นคงในใจเอง

เลื่อนงานแต่งงานไปก่อน อธิบายให้แฟนเข้าใจว่าไม่อยากพึ่งเงินพ่อแม่อย่างเดียวอยากเก็บเงินแต่งเองมากกว่า หางานโดยใช้ศักยภาพของตัวเอง มุ่งเป้าเก็บเงิน ใช้จ่ายอย่างรอบคอบ อายุยังน้อยยังต้องเจอคนอีกมากมาย
ความคิดเห็นที่ 2
แทนที่จะถามว่าน่ารังเกียจไหม ไม่เคยมีความคิดเลยเหรอครับ ที่จะถามว่าผมต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง .... เป็น ผช ละมานั่งโทษแต่ตัวเอง มันดูไม่ได้เลยครับ .... ต้นทุนชีวิตคุณน่าจะดีกว่าคนอื่นซะอีก คุณพ่อมีคอนเนคชั่นน่าจะเยอะพอตัว

ปล แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าเป็นโรคซึมเศร้า แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ครับ คุณมองโลก negative มากจนผิดปกติครับ คนทั่วไปไม่เป็นขนาดคุณครับ คุณอาจจะโดนอะไรมาเยอะจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง แนะนำให้ลองรีวิวตัวเองดูครับ ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ต้องปรับอะไรยังไงบ้าง ถ้าคุณไม่ชอบตัวตนที่เป็นอยู่ตอนนี้นะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
อายุ 24 ถ้ายังไม่มีอะไรเลยไม่ควรแต่งค่ะ
แต่งเพื่ออะไรคะลำบากพ่อแม่เปล่าๆ
แต่งสักตอน 30 ก็ไม่สายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
คำถามสุดท้ายนี่ถามมาจากอะไรคะ
เห็นว่าตัวเองเป็นภาระ?

การแต่งงานสำหรับคุณคืออะไรคะ
แล้วคุณแต่งเพราะอะไร

คุณดูเหมือนจะปล่อยให้คนรอบข้างมีอิทธิพลในชีวิตมากจนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
คุณพร้อมจะดูแลเจ้าสาวของคุณมั๊ยเนี่ย

ถ้าการแสดงออกของพ่อแม่คุณทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าลงไป
ลองมองอีกด้านนึงดูนะคะ ว่าถ้าคุณไม่มีค่าแล้ว ท่านจะทำสิ่งเหล่านี้ให้คุณทำไม
จะซื้อบ้านให้ทำไม จะให้คุณมาอยู่ใกล้ๆทำไม ไปอยู่ไกลๆให้พ้นหูพ้นตาไม่ดีกว่าเหรอ
จะฝากงานให้ทำไม ออกค่าแต่งงานให้ทำไม เอาเงินไปแต่งบ้านไม่ดีกว่าเหรอ

จริงๆท่านเป็นห่วงคุณนะ และคงอยากจะกระตุ้นให้คุณเห็นถึงความสำคัญในการบริหารจัดการเงินทอง เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตคู่ คุณกำลังจะมีภรรยาแล้ว และสถิติการหย่าร้าง มาจากเรื่องเงินเป็นลำดับต้นๆ แต่วิธีการพูดของท่าน อาจจะไม่ถูกใจคุณ มันอาจจะออกไปทางตำหนิติเตียน ไม่ให้เกียรติคุณ แต่มองให้เห็นความรักความปรารถนาดีของท่านเถอะนะ

และถ้าคุณไม่ชอบวิธีการพูดของท่าน คุณก็สื่อสารให้ท่านทราบได้อย่างสุภาพและแสดงความเคารพ ว่าท่านพูดมาแบบนี้ ทำให้คุณรู้สึกยังไง คุณชอบให้ท่านสื่อสารแบบไหนกับคุณมากกว่า

คุณมีคนที่รักคุณอยู่รายรอบ คุณจะตายไปทำไมคะ
ไม่คิดบ้างเหรอว่าจะมีคนหัวใจสลายกี่คน

มองให้เห็นคุณค่าของตัวเองและคิดดูแลคนรอบข้างให้ดีน่าจะดีกับทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างนะคะ ชีวิตคุณน่ะ น่าอิจฉาจะตาย อย่ามัวไปจมอยู่กับความรู้สึกลบๆเลย
เครียดๆก็พูดคุยกับคนอื่นบ้างค่ะ เปิดมุมมองใหม่ๆ หาวิธีสื่อสารใหม่ๆ
ปรึกษาแพทย์ก็ได้ สนทนาธรรมบ้างก็ได้ มีทางออกเยอะแยะค่ะ

แต่งแล้วก็คุมกำเนิดดีๆก่อน
เอาเงินมาคืนพ่อ ทำสัญญาเงินกู้เลยก็ได้ ดอกเบี้ยแล้วแต่ท่านพิจารณา
เคลียร์เรื่องนี้จบค่อยไป step อื่นต่อ
บ้านจะขอผ่อนกะท่านก็ได้
มีวิธีแสดงความรับผิดชอบเยอะแยะถ้าจะทำ ไม่เห็นต้องไปฉีกหน้าเจ้าสาวเลย

ถามใจคุณดีๆก่อนดีกว่า ว่าคุณยังไงกันแน่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่