วันนี้เราได้รวบรวมประสบการณ์ของคนที่สอบติดมาให้น้องๆ
ได้เป็นแรงบันดาลใจ วิธีการเตรียมตัว
การปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง
คนแรกของที่เราไปสัมภาษณ์มา

ครั้งหนึ่งฉันเคยติดหมอจุฬา
Mint
คณะแพทย์ศาสตร์ปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทำไมมิ้นถึงอยากเป็นหมอ?
ในตอนแรกนั้นเลยเราไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
จนครั้งหนึ่งมิ้นป่วย
แล้วก็ป่วยบ่อยอีกหลายๆครั้ง
พอคุยกับหมอแล้ว เขาแนะนำเรา ดูแลเราอย่างดี
มิ้นก็เลยคิดว่าถ้าเราเป็นแบบนี้ล่ะ
มีโอกาสได้ดูแล รักษาชีวิตคนอื่น
ได้มอบความรู้สึกดีๆให้กับคนถูกรักษา
ก็คงจะดีไม่น้อย

เตรียมตัวอย่างไร
มิ้นรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียนหนัก ไม่ต้องเรียนพิเศษหนักตั้งแต่ม.4 (ก็อยากให้ใช้ชีวิตม.ปลายให้คุ้มค่าเน้อ) แต่เราก็ต้องตั้งใจเรียนในห้อง เก็บความรู้จากอาจารย์และที่เรียนพิเศษให้ครบ
ส่วนตัวมิ้นเตรียมตัวจริงจังตั้งแต่ช่วงขึ้นม.6
ช่วงนี้มิ้นก็ไม่ได้เรียนพิเศษทุกวิชา
มิ้นเลือกวิชาที่มันต้องอ่านเยอะ ใช้ประสบการณ์เยอะ เช่น ฟิสิกส์ 555+
การเลือกเรียนทำให้เรามีเวลาทบทวน
มีเวลาทำโจทย์ จัดการกับตัวเองได้
พอม.6 เทอม1 ก็เรียนพิเศษน้อยลง อ่านหนังสือให้มากขึ้น ทำโจทย์เก็บสะสมไปเรื่อยๆ
ม.6 เทอม 2 มิ้นอยู่กับตัวเอง
ไม่ได้เรียนพิเศษ อ่านหนังสือและทำโจทย์เอง
ส่วนตัวของมิ้นนั้นจะอ่านเป็นบทๆ ทำโจทย์เรื่องนั้นๆไป เราทำแบบนี้สม่ำเสมอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องนอนดึก
ในช่วงใกล้สอบ (เหมือนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง สมองต้องการการพัก555+)
เคยเหนื่อยหรือท้อบางไหม?
ก็มีบางนะ แต่มิ้นคิดว่าคนอื่นก็มีบ้างเหมือนกัน
ยิ่งถ้าเราเห็นคนอื่น เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นยิ่งท้อ
มิ้นเลยดูที่ตัวของเราเอง ทำตัวเองให้ดี พยายามในแบบของตัวเอง เรียกว่าแข่งกับตัวเองมากกว่า
แล้วก็มิ้นคิดว่าถ้าความพยายามมันส่งผลให้เราสอบติด แล้วก็จะมีช่วงหยุดพัก
รออยู่ เป็นเรื่องที่ดีมาก (ฟินอ่ะ)
ช่วงเข้าไปเรียนได้ 2 ปีแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากสอบเข้าแล้ว เราได้รู้ว่า การเรียนมหาลัยหนักกว่าการสอบเข้ามาก
ช่วงปี 1 อาจจะมีวิชาที่เราชอบ
แต่พอขึ้นปี 2 แล้ว มันเริ่มมีความเฉพาะทางไปหมอมาก ละก็เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น
คนที่เข้าหมอตามกระแสนิยม ไม่ได้ชอบหมอจริงๆ แบบช่วงนี้เขาเริ่มจะทรมานและฝืนตัวเอง
แบบยิ่งขึ้นปีสูงๆ หมอก็ต้องเรียนหนักมาก
แต่ถ้าเราชอบหมอจริงๆ
ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ถ้าความเหนื่อยนี้มันเอาไปช่วยคนได้ล่ะ มันรักษาคนได้ ถือเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก

มีอะไรอยากจะฝากถึงน้องๆไหม
หมอนั้นไม่ใช่อาชีพที่รวย
อย่าเข้าเพราะมันเป็นค่านิยม
ตามกระแสสังคม
หมอใช้เวลากว่า 10 ปีถึงได้หมอคุณภาพคนหนึ่ง ถ้าไม่ชอบจริงๆ จะเสียเวลามาก
เราต้องถามตัวเองดูว่าชอบจริงๆมั้ย
เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ดี
หมอเป็นอาชีพที่มีคุณค่า ได้แบ่งปัน ได้ให้ รับรอยยิ้ม
ความรู้สึกดีๆ หลังเรารักษาเขาหายอีกด้วย

Page The Compass
Guide your dream Guide your future
https://www.facebook.com/theCompass4.0/?hc_ref=ARRX4yVkIWTmUByEjCcvgwhSvcB6iJ8CeqAVSy5f4bg8YM2D7_stRst3JbfmBfEDjD0
แชร์ประสบการณ์ติด หมอจุฬา !!!!
ได้เป็นแรงบันดาลใจ วิธีการเตรียมตัว
การปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง
คนแรกของที่เราไปสัมภาษณ์มา
ครั้งหนึ่งฉันเคยติดหมอจุฬา
Mint
คณะแพทย์ศาสตร์ปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทำไมมิ้นถึงอยากเป็นหมอ?
ในตอนแรกนั้นเลยเราไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
จนครั้งหนึ่งมิ้นป่วย
แล้วก็ป่วยบ่อยอีกหลายๆครั้ง
พอคุยกับหมอแล้ว เขาแนะนำเรา ดูแลเราอย่างดี
มิ้นก็เลยคิดว่าถ้าเราเป็นแบบนี้ล่ะ
มีโอกาสได้ดูแล รักษาชีวิตคนอื่น
ได้มอบความรู้สึกดีๆให้กับคนถูกรักษา
ก็คงจะดีไม่น้อย
เตรียมตัวอย่างไร
มิ้นรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียนหนัก ไม่ต้องเรียนพิเศษหนักตั้งแต่ม.4 (ก็อยากให้ใช้ชีวิตม.ปลายให้คุ้มค่าเน้อ) แต่เราก็ต้องตั้งใจเรียนในห้อง เก็บความรู้จากอาจารย์และที่เรียนพิเศษให้ครบ
ส่วนตัวมิ้นเตรียมตัวจริงจังตั้งแต่ช่วงขึ้นม.6
ช่วงนี้มิ้นก็ไม่ได้เรียนพิเศษทุกวิชา
มิ้นเลือกวิชาที่มันต้องอ่านเยอะ ใช้ประสบการณ์เยอะ เช่น ฟิสิกส์ 555+
การเลือกเรียนทำให้เรามีเวลาทบทวน
มีเวลาทำโจทย์ จัดการกับตัวเองได้
พอม.6 เทอม1 ก็เรียนพิเศษน้อยลง อ่านหนังสือให้มากขึ้น ทำโจทย์เก็บสะสมไปเรื่อยๆ
ม.6 เทอม 2 มิ้นอยู่กับตัวเอง
ไม่ได้เรียนพิเศษ อ่านหนังสือและทำโจทย์เอง
ส่วนตัวของมิ้นนั้นจะอ่านเป็นบทๆ ทำโจทย์เรื่องนั้นๆไป เราทำแบบนี้สม่ำเสมอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องนอนดึก
ในช่วงใกล้สอบ (เหมือนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง สมองต้องการการพัก555+)
เคยเหนื่อยหรือท้อบางไหม?
ก็มีบางนะ แต่มิ้นคิดว่าคนอื่นก็มีบ้างเหมือนกัน
ยิ่งถ้าเราเห็นคนอื่น เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นยิ่งท้อ
มิ้นเลยดูที่ตัวของเราเอง ทำตัวเองให้ดี พยายามในแบบของตัวเอง เรียกว่าแข่งกับตัวเองมากกว่า
แล้วก็มิ้นคิดว่าถ้าความพยายามมันส่งผลให้เราสอบติด แล้วก็จะมีช่วงหยุดพัก
รออยู่ เป็นเรื่องที่ดีมาก (ฟินอ่ะ)
ช่วงเข้าไปเรียนได้ 2 ปีแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากสอบเข้าแล้ว เราได้รู้ว่า การเรียนมหาลัยหนักกว่าการสอบเข้ามาก
ช่วงปี 1 อาจจะมีวิชาที่เราชอบ
แต่พอขึ้นปี 2 แล้ว มันเริ่มมีความเฉพาะทางไปหมอมาก ละก็เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น
คนที่เข้าหมอตามกระแสนิยม ไม่ได้ชอบหมอจริงๆ แบบช่วงนี้เขาเริ่มจะทรมานและฝืนตัวเอง
แบบยิ่งขึ้นปีสูงๆ หมอก็ต้องเรียนหนักมาก
แต่ถ้าเราชอบหมอจริงๆ
ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ถ้าความเหนื่อยนี้มันเอาไปช่วยคนได้ล่ะ มันรักษาคนได้ ถือเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก
มีอะไรอยากจะฝากถึงน้องๆไหม
หมอนั้นไม่ใช่อาชีพที่รวย
อย่าเข้าเพราะมันเป็นค่านิยม
ตามกระแสสังคม
หมอใช้เวลากว่า 10 ปีถึงได้หมอคุณภาพคนหนึ่ง ถ้าไม่ชอบจริงๆ จะเสียเวลามาก
เราต้องถามตัวเองดูว่าชอบจริงๆมั้ย
เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ดี
หมอเป็นอาชีพที่มีคุณค่า ได้แบ่งปัน ได้ให้ รับรอยยิ้ม
ความรู้สึกดีๆ หลังเรารักษาเขาหายอีกด้วย
Page The Compass
Guide your dream Guide your future
https://www.facebook.com/theCompass4.0/?hc_ref=ARRX4yVkIWTmUByEjCcvgwhSvcB6iJ8CeqAVSy5f4bg8YM2D7_stRst3JbfmBfEDjD0