สวัสดีนะคะทุกคน กระทู้แรกของเรา ใช้ความกล้ามากที่จะเปิดเผยตรงนี้ เราอายุ 27 ปีแล้ว
เราชอบเพื่อนร่วมห้องเราคนนึงตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถ้านับรวมแล้วปัจจุบัน 13 ปี ใกล้จะ 14 ปีแล้วแหละค่ะ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เฮ้ยย ไม่แอบชอบใครบ้างเลยหรอ ?
ไม่เลยสักนิด เราไปเรียนต่างประเทศมา 4 ปี เราก็เอาแต่เรียนจนจบกลับมาทำงานที่ประเทศไทยได้ระยะหนึ่ง
เพื่อนๆ สมัยมัธยมปลายก็จะโพสต์เรื่องงานแต่งงาน งานบวช ลงในกลุ่มเฉพาะของห้องเราในเฟซบุ๊ค
เราก็มาตามไล่ดูข่าวคราวของเพื่อน เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยออนเฟสช่วงเรียนเท่าไหร่นักจึงไม่ค่อยทราบข่าวของเพื่อน
ทุกครั้งที่เลื่อนได้แต่ภาวนาว่าอย่ามีรูปงานแต่งของคนที่ตัวเองชอบเลย แล้วมันก็ไม่มีจริง 5555+ แอบมีความใจชื้นนิดๆ
จากนั้นเพื่อนๆก็ย้ายมาคุยในแชทเฟซแทน มหกรรมความวุ่นวายแอดเฟซกันสนุกสนาน
มีแค่เขาคนเดียวที่เราไม่ได้แอดไป..... จนเขาแอดมาเอง
เราก็ทักทายสารทุกข์สุขดิบกันปกติเหมือนเพื่อนทั่วไป
เราไม่ได้คุยกันบ่อย เขามักจะส่งเป็นสติกเกอร์มาซะมากกว่าคำพูด
เราก็เข้าใจเขานะ เพราะเขาทำอาชีพที่ยุ่งและเวลาน้อย
แต่การที่เขาตอบด้วยสติกเกอร์มาตลอดทำให้เราชินกับการคุยด้วยสติกเกอร์กับเขาเหมือนกัน
เพราะการที่เราแชทที่ยาวนาน 6 เดือน(ด้วยสติกเกอร์)นั้น
ทำให้เรารวบรวมความกล้าในการบอกชอบครั้งนี้มาก
ซึ่งมันก็ใช้เวลานานพอสมควร บอกชอบเขาไปแล้ว
เขาก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร ตอบแค่สติกเกอร์กลับมา ถามว่าอึดอัดไหม เขาบอกว่าไม่
และยังตอบแชทด้วยสติกเกอร์กับเราเหมือนเดิม
แต่ตัวเราเองนี่แหละเขินและอายมากที่เราไปบอกก่อน แต่การที่บอกไปนั้นมันทำให้ความรู้สึกที่อยู่มา 13 ปีนั้นอ่ะ
โล่งใจแบบบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่เราตอบคำถามตัวเองไม่ได้ก็คือ
เขาคิดยังไงกับเรา ?
เราควรหยุด หรือไปต่อดี ? เพราะถ้าจะหยุดก็น่าจะไหว แต่จะให้ไปคงเป็นแบบนี้ไปตลอดแน่ๆ ...
ชอบคนคนนึงมานานมาก แล้วสารภาพรักไปแล้วเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาไม่ตอบอะไร แต่คุยต่อ แสดงว่ายังไงคะ?
ไม่เลยสักนิด เราไปเรียนต่างประเทศมา 4 ปี เราก็เอาแต่เรียนจนจบกลับมาทำงานที่ประเทศไทยได้ระยะหนึ่ง
เพื่อนๆ สมัยมัธยมปลายก็จะโพสต์เรื่องงานแต่งงาน งานบวช ลงในกลุ่มเฉพาะของห้องเราในเฟซบุ๊ค
เราก็มาตามไล่ดูข่าวคราวของเพื่อน เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยออนเฟสช่วงเรียนเท่าไหร่นักจึงไม่ค่อยทราบข่าวของเพื่อน
ทุกครั้งที่เลื่อนได้แต่ภาวนาว่าอย่ามีรูปงานแต่งของคนที่ตัวเองชอบเลย แล้วมันก็ไม่มีจริง 5555+ แอบมีความใจชื้นนิดๆ
จากนั้นเพื่อนๆก็ย้ายมาคุยในแชทเฟซแทน มหกรรมความวุ่นวายแอดเฟซกันสนุกสนาน
มีแค่เขาคนเดียวที่เราไม่ได้แอดไป..... จนเขาแอดมาเอง
เราก็ทักทายสารทุกข์สุขดิบกันปกติเหมือนเพื่อนทั่วไป
เราไม่ได้คุยกันบ่อย เขามักจะส่งเป็นสติกเกอร์มาซะมากกว่าคำพูด
เราก็เข้าใจเขานะ เพราะเขาทำอาชีพที่ยุ่งและเวลาน้อย
แต่การที่เขาตอบด้วยสติกเกอร์มาตลอดทำให้เราชินกับการคุยด้วยสติกเกอร์กับเขาเหมือนกัน
เพราะการที่เราแชทที่ยาวนาน 6 เดือน(ด้วยสติกเกอร์)นั้น
ทำให้เรารวบรวมความกล้าในการบอกชอบครั้งนี้มาก
ซึ่งมันก็ใช้เวลานานพอสมควร บอกชอบเขาไปแล้ว
เขาก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร ตอบแค่สติกเกอร์กลับมา ถามว่าอึดอัดไหม เขาบอกว่าไม่
และยังตอบแชทด้วยสติกเกอร์กับเราเหมือนเดิม
แต่ตัวเราเองนี่แหละเขินและอายมากที่เราไปบอกก่อน แต่การที่บอกไปนั้นมันทำให้ความรู้สึกที่อยู่มา 13 ปีนั้นอ่ะ
โล่งใจแบบบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่เราตอบคำถามตัวเองไม่ได้ก็คือ
เขาคิดยังไงกับเรา ?
เราควรหยุด หรือไปต่อดี ? เพราะถ้าจะหยุดก็น่าจะไหว แต่จะให้ไปคงเป็นแบบนี้ไปตลอดแน่ๆ ...