Side by Side (กึ่งรีวิว) Ep.1 : พี่ยิมลายตัวนั้น ... ในวันที่มีเพียง "ครอบครัว" (สปอยด์)

เกิดมาเป็นเด็กพิเศษ ก็ค่อนข้างหนักหนาแล้วนะ ตอนเด็กมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่ตอนโตสิเรื่องน่าหนักใจตามมาเป็นระลอก ทั้งตัวของพี่ยิม น้องโด่ง แม่ตั้ม และ แม่แตง แม่ตั้มกับแม่แตงทั้งคู่เป็นพี่น้อง และ ทั้งคู่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ช่วยกันทำมาหาได้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกชายโทนของทั้งคู่ พี่ยิมเด็กหนุ่มเกิดมาพร้อมอาการออทิสติกถึงจะย่างเข้าสู่วัยรุ่นแล้วพฤติกรรมความเข้าใจต่าง ๆ ก็เท่ากับเด็กหกขวบ คนนี้คือ ลูกชายคนเดียวของแม่ตั้ม ส่วนน้องโด่งเด็กวัยรุ่นท่าทางหัวร้อน ฉุนเฉียวท่าทางไม่ยอมใคร .... คนนี้เป็นลูกชายของแม่แตง

ด้วยการสังเกตของแม่แตงอดีตนักกีฬาแบดมินตันที่พยายามหาทางพัฒนาทักษะลูกชายของพี่สาวเพื่อบำบัดอาการของโรค น้าแตงของพี่ยิมพบว่าพี่ยิมมีความสามารถในการเล่นกีฬาแบดอยู่ในระดับที่ดีมาก มีวินัยในการซ้อม ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่หาได้ในผู้มีอาการออทิสติกบางประเภท แม่แตงจึงได้สนับสนุนสุดตัวให้พี่ยิมเล่นแบดประเภทคู่กับลูกชายของตัวเองคือน้องโด่ง

สถานการณ์ในบ้านที่เป็นมาสำหรับครอบครัวที่มีเด็กพิเศษไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เรื่องที่พี่ยิมควรเข้าใจก็กลับไม่เข้าใจ สิ่งนี้ทำให้ความเอาใจใส่ทั้งหลายมุ่งตรงสู่พี่ยิมมากกว่าเด็กปกติอย่างโด่ง ถึงแม้จะเคยชิน ถึงแม้จะเข้าใจ แต่มันก็อดที่จะรู้สึกอะไรบางอย่างลึก ๆ ไม่ได้ ทำไมจะต้องเป็นเพียงเราที่เข้าใจ น้าแตงเป็นนางฟ้าของพี่ยิม แต่น้าแตงก็เป็นแม่ของโด่งเหมือนกัน แล้วทำไม ?

เมื่อยามเด็ก ... ใต้ความไร้เดียงสา และ พัฒนาการที่ยังไม่ห่างจากกันมาก ความกลมเกลียวและความรู้สึกอย่างเด็ก ยังไม่ทำให้โด่งรู้สึกอะไร แต่เมื่อยามโตขึ้น เป็นวัยรุ่น การทะเลาะเบาะแว้งที่เคยเฉย ๆ หรือ เคยทนได้ หลายครั้งมันกลายเป็นสิ่งน่ารำคาญ หากถึงแม้จะรำคาญโด่งก็ยังอดกลั้นด้วยความเข้าใจ ถึงโรคภัยที่คนเป็นพี่ได้เผชิญ ในความเป็นพี่น้องก็ยังรู้สึกเป็นห่วง และทำหน้าที่ดูแลอย่างที่เคยดูแลมาตลอด ด้วยความเคยชินก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สายใยที่ผูกพันเพราะเติบโตด้วยกันมาก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เด็กวัยคะนองอย่างโด่งยังสามารถที่จะทำใจเอื้อเอ็นดูคนที่เป็นพี่ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ แต่มันจะอีกนานเท่าใดก็สุดรู้

อาการโวยวายเมื่อไม่ได้ดั่งใจ การระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ของพี่ยิมที่รุนแรงขึ้นมาวัย การที่โด่งซึ่งเติบโตเป็นวัยรุ่น เริ่มจะมีโลกส่วนตัว รักพี่ยิมไหมก็รักนะ ห่วงไหมก็ห่วง  แต่เริ่มที่จะคิดแล้วว่าทำไม .... ทุกอย่างจะต้องอยู่ที่พี่ยิมทุกทีไป ทำไมจะต้องเป็นทุกคนที่เข้าใจพี่ยิม เริ่มรู้สึกอายนิด รู้สึกเบื่อที่ต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหา ทำไมอะไร ๆ ต้องสีชมพู ทำไม ทำไม ทำไม และ ทำไม แต่พูดออกไปไม่ได้เพราะ "เข้าใจ" สภาพที่เป็นอยู่นี้ดี แต่นานวันมันก็ยิ่งทนได้ยากเต็มที question mark ตัวโตที่กำลังจะผ่านเข้ามา คือ ทำไมต้องเป็นเรา ?

คนทั้งโลกต้องเข้าใจพี่ยิมเช่นนั้นหรือ ?


ความคิดนี้คือสิ่งที่เป็นตะกอนขุ่นในใจแม่ตั้ม .... แม่ตั้มดูเป็นผู้หญิงแกร่ง ค่อนข้างดุ และ น่าจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการเงินหลัก ๆ ของบ้านเล็ก ๆ ที่มี แม่ตั้ม แม่แตง พี่ยิม และ น้องโด่ง หากน้าแตงเปรียบเหมือนนางฟ้า แม่ตั้มก็คงเป็นนางยักษ์ในสายตาของพี่ยิม ในขณะที่น้าแตงเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูให้พี่ยิมเล่นแบดอย่างที่ถนัด แม่ตั้มกลับเป็นมือคอยฉุดรั้งแล้วถามว่าให้มันเล่นหน้าบ้านก็พอแล้วมั้ง ในขณะที่น้าแตงพูดจาอ่อนหวานค่อยพูดจาและวิ่งมาปลอบเด็กน้อยอย่างยิม แม่ตั้มเสียงเข้มดุใส่และขัดใจพี่ยิมยามอาละวาด

ถามว่าใครผิดใครถูก ... ส่วนตัวคิดว่าไม่มี และอยากจะคิดต่อไปอีกด้วยว่าที่พี่ยิมมีทั้งน้าและทั้งแม่ที่เป็นแบบนี้ ดีกับพี่ยิมมากกว่าที่จะมีใครคนใดคนหนึ่ง น้าแตงผลักดันพรสวรรค์ของพี่ยิมให้เติบโต เอาใจใส่ ปลอบโยน พยายามทำให้พี่ยิมสงบลงอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น แต่มันก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมด น้าก็คือน้า แม่ก็คือแม่ ถึงจะใกล้ชิดกันอย่างไรความรู้สึกก็ไม่เหมือนกัน คิดว่าส่วนที่แม่ตั้มกังวลมากที่สุด คือ พี่ยิมจะอยู่อย่างไรต่อไปในเมื่อโตขึ้นทุกวัน

ถ้ายังอาละวาดอยู่แบบนี้ ใครจะเข้าใจ .... โลกภายนอกไม่ได้มีหน้าที่เข้าใจนะ การเรียนรู้คือน้ำใจแต่เราสั่งให้ใครเข้าใจเราไม่ได้ คนปกติก็ทราบว่ากลไกมันเป็นแบบนี้ คนเป็นแม่มักจะมองรอบด้าน โดยเฉพาะแม่อย่างแม่ตั้มที่เป็นหลักของบ้านก็มองอะไรตามความจริง หากไม่มีแม่ ไม่มีน้าแตง ไม่มีน้องโด่ง พี่ยิมจะอยู่อย่างไร เมื่อต่างคนต้องมีทางไปของตัวเอง พี่ยิมที่เป็นอย่างนี้จะอยู่ได้ไหม ถ้าไม่มีน้าแตงมากอดปลอบ ไม่มีเพลงพี่ยิมลายตัวนั้นของน้องโด่ง ไม่มีแม่ที่จำนำแหวนทองไปซื้อรองเท้าให้ ... จะเกิดอะไรต่อไป

คิดว่าสิ่งนี้คือแรงผลักดันให้แม่ตั้มเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพี่ยิมโดยตลอด จะถูกวิธีหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้แต่อย่างน้อยแม่ตั้มก็พยายามที่จะปลูกฝังธรรมเนียมของสังคมให้กับพี่ยิมได้เข้าใจ ในทางกลับกันน้าแตงมองยิมอย่างรักและสงสารอยากเปิดโลกให้หลาน อยากให้หลานมีความสามารถอะไรติดตัวออกไปบ้าง แต่ความสงสาร และ สถานการณ์ที่ทุกครั้ง .. ตัวเองและลูกชายอย่างโด่งต้องคอยทำให้พี่ยิมสงบลงอาจทำให้น้าแตงไม่ทันคิดถึงว่าการกระทำแบบนี้ไม่สามารถจะดึงให้โลกเข้าใจหลานได้เช่นเดียวกับที่ครอบครัวให้ความเข้าใจ ส่วนแม่ตั้มก็กดดันหลายอย่างจนไม่อาจทำตัวได้ถูกต้องไปเสียทุกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงตอนนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าชีวิตในบ้านหลังน้อย
พี่ยิม น้องโด่ง แม่ตั้ม แม่แตง จะเป็นอย่างไรต่อไป


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่