สวัสดีครับ ผมชื่อฟลุคครับ เป็นเจ้าของ R15 2017 ตัวล่าสุด


ผมเคยรีวิวเจ้า R15 ตัวเก่า 2013 ไว้ด้วยตั้งแต่ตอนเปิดตัวใหม่ ๆ
ลิงค์ครับ
https://pantip.com/topic/32290510
R15 ตัวเก่า ใช้มาคุ้มมาก ชีวิตสนุกเลยครับ ทั้งดราม่ารถช้า ดราม่าเทียบสเปกกับคู่แข่ง ดราม่ากันเอง ดราม่าขี่แล้วตึงหน้า 55

แต่กระทู้นี้เรามาว่ากันที่เจ้า All New R15 (ใครเป็นคนตั้งชื่อฟะ เหมือนกระบะ isuzu รุ่น All New เลยให้ตาย)

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกนะครับ เผลอแปปเดียว 3 ปีเข้าไปแล้วกับเจ้า YZF-R15 ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
รุ่นใหม่นี้ช่วงแรก ๆ ของการเปิดตัว เหมือนยามาฮ่าจะรู้ตัวนะครับว่าเคยพลาดเรื่องส่งมอบไม่ทันในรุ่นที่แล้ว มารุ่นนี้ไม่เปิดให้จองเลยครับ
ไม่มีข่าวเลยด้วยซ้ำว่าจะส่งมอบรถได้เมื่อไหร่ คงจะป้องกันคนที่รอกระหายจะขี่เจ้า ALL NEW YZF-R15 ตัวใหม่นี้ คือรอให้พร้อมแล้ว ตูมขายเลยทีเดียวจะได้ไม่ดราม่าเน๊อะ

และเจ้าค้นนี้ของผม กับ YZF-R15 ตัวใหม่ผมว่ามันมีอะไรเด็ด ๆ ที่ซ่อนไว้อยู่พอสมควรเลย

ย้ำนะครับ รีวิวนี้ผมแค่จะมาบอกเล่าเปรียบเทียบกับเจ้าตัวเก่าเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะไปเปรียบเทียบคู่แข่งนะครับ

ก่อนอื่นมีคนถามผมมาเยอะมากว่า ทำไมไม่อัพซีซี ขี่ทำไม 150 แล้วคันเก่าไปไหน


โจทย์ของผมคราวนี้มีดังนี้ครับ
- รถคันเก่า วิ่งมา 35,000 โล เคยล้มมาแล้ว ถ้าซ่อมก็ใช้เงินพอสมควร เครื่องเริ่มหลวม
- คงไม่ได้ไปทริปไหนไกล ๆ แน่นอน ไม่ชอบเข้าสังคม ส่วนตัวขี้เกียจเอาใจคนอื่น
- ไม่เอา naked ชอบ sports
- มอง ๆ พวกเริ่มต้น cc ไม่เยอะเพราะขี่ง่าย ไม่เหนื่อย ขี้เกียจซ่อมบำรุงเยอะ ค่าดูแลรักษา
- สำคัญคือไม่รวย ทำงานกินเงินเดือนธรรมดา จบครับ 1000cc ฝันไปก่อน 555

ก็เลยเป็นที่มาของเจ้า ALL NEW YZF-R15 คันนี้ครับ

วันแรกก็เอาไปลองเลยครับ

คือฟิลลิ่งที่สัมผัสได้เลยครับ มันหล่อกว่าเดิมมากครับ สิ่งดีดีที่เพิ่มจากตัวเดิมมาเลยคือ
-โช้คหัวกลับ USD
-จานเบรคใหญ่ขึ้น
-ล้อหน้าและหลังรวมถึงขนาดยางที่ใหญ่ขึ้น
-ถังน้ำมันที่ดูใหญ่และกระชับขามาก ๆ
-จอแสดงข้อมูล แบบ Full LED มีครบทั้ง วัดรอบ ไฟบอกเกียร์ นาฬิกา ระยะทาง อัตราการกินน้ำมัน เฉลี่ยการกินน้ำมัน
-การขับขี่ที่ยังคงความเป็นสปอร์ตได้ดีกว่ารุ่นพี่ และ ดีกว่าเดิม
-เครื่องยนต์ที่อัพเกรดมาแล้ว และ ได้ลองแล้วคือ ดีขึ้นกว่าเดิมในทุก ๆ ด้าน
-สลิปเปอร์คลัช

*ภาพเรือนไมล์เครดิต yamaha thailand*


ท่านั่ง ผมว่ามันโน้มตัวลงกว่าเดิม พูดง่าย ๆ มันหมอบกว่าเดิม
พักเท้าก็อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ถังน้ำมันก็ใหญ่กว่าเดิม ตรงนี้ได้เปรียบเรื่องการจัดท่านั่งซึ่งทำได้ดีกว่าเดิมมาก
ด้วยความที่ผมตัวสูง 183 คันเก่าผมเวลานั่งแล้ว จะดูโย่ง ๆ ไปหน่อยไม่เหมาะกับรถ
แต่กับคันใหม่ รูปลักษณ์ของรถที่คันใหญ่ขึ้น ทำให้ผมนั่งแล้วดูสมส่วนกว่าเดิม


การควบคุมและอัตราเร่ง ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ความประหยัดผมยังไม่ได้จับ
การเลี้ยวรถหนักขึ้นแต่เข้าโค้งเบสิค ๆ ได้มั่นใจกว่าเดิม กันสะเทือนเฟิรม์ขึ้นมาก
การพลิกรถในช่วงรถติด ทำได้ดีแต่เมื่อเทียบกับตัวเดิม R15 รุ่นเก่าจะเบากว่า

อุปกรณ์ที่ใส่มาให้ถือว่าสมราคา ไม่ว่าจะเป็น โช้คหัวกลับ usd ไมล์ดิจิตอล มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์แล้ว
ไม่เข้าเกียร์ 7 อีกต่อไป สลิปเปอร์คลัช สิ่งเหล่านี้ทำให้ เจ้า R15 ใหม่คันนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ยางไม่ค่อยเกาะถนนเท่าไหร่ เข้าใจว่ายางติดรถ ยังไงก็เน้นทนไว้ก่อน ผมก็เลยไปเปลี่ยนยางมาแล้ว
เป็น IRC-IZS หน้า 100/80 หลัง 140/70

การเข้าโค้ง ดีขึ้นเกาะถนนกว่ายางเดิม นุ่มแต่หนึบ ดีกว่าตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด
แต่การสะเทือนจะสู้ยางติดรถที่นุ่มกว่าไม่ได้ เข้าใจว่ามันน่าจะเป็นเพราะยางมันสปอร์ต

โอเคครับ เรามาเหลาการขับขี่กันเมื่อเทียบกับตัวเก่านะครับ

ความรู้สึกแรกหลังจากกดเกียร์ 1 แล้วรถเริ่มค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป
รู้สึกได้เลยครับ ว่ารถมีเรี่ยวแรงมากกว่า R15 เดิมที่ใช้อยู่อย่างเหลือเชื่อ พอออกถนนใหญ่ไปเท่านั้นแหละ บิดเป็นมา บิดเป็นมา ลักษณะคือมีแรงบิดต่อเนื่องดีอย่างมาก ท็อปสปีดยังไม่ได้ลอง แต่จากที่บิดดูเหมือนรอบเครื่องจะไหลได้ยาวกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ R15 เก่า
การออกตัว เจ้า R15 ตัวใหม่อาจจะออกตัวได้ดีกว่า รุ่นเดิม การต่างเนื่องของกำลังรถ เกียร์ และคลัชที่นิ่มมือมาก ๆ มันทำให้การขับขี่เจ้า R15 ตัวใหม่นี้ สนุก และ ฟิลกู้ดกว่าเดิมอย่างยิ่งครับ ยิ่งช่วยปลาย ๆ ของเครื่องที่เจ้า VVA มันทำงาน ถือว่าทำให้รอบไม่ตก เครื่องมีกำลังต่อเนื่องไม่ห้อยละครับ เอาใจไปครับ

สำหรับระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้คหัวกลับ USD คือดีเลิศครับ เพราะผมเคยใช้ R15 เก่าในชีวิตประจำวันทุกวัน ดังนั้นการจับความรู้สึกรถเพื่อเปรียบเทียบ จะแม่นมากเมื่อเทียบกันกับตัวใหม่ คือมันดีกว่าเดิมมาก ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการซับแรงสะเทือน การเข้าโค้ง การขับขี่ทั่วไป

การสั่นสะเทือนของรถ โช้คหลัง นุ่ม หนึบ กว่า R15 เดิม ตั้งแต่ที่ความเร็วต่ำไปจนความเร็วสูงเลยครับ โช้คอัพหน้าและหลังนี่มันทั้งเกาะและนุ่มนวลกว่าที่คิดไว้มาก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหนึบด้วยนะครับ เจ้า R15 เดิมจะแข็งและสะเทือนกว่าที่ความเร็วต่ำ แต่ในความเร็วสูง ผมว่าแน่นอนครับว่า R15 ใหม่นิ่งกว่าครับ

การมุด ซิกแซก เวลารถติด ทำได้ดีมากครับ กับเจ้า R15 ทั้งเก่าและใหม่ ผมต้องไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากในการแทรก มุด เปลี่ยนเลน และสิ่งที่ผมชอบมากคือที่กระจกมองหลังมันพับได้เหมือน R3 แล้วครับ สะดวกดี มุมมองก็ไม่เลว ปรับง่าย ไม่ต้องหันหัวไปด้านหลังไปมองช่วย อีกต่อไป อันนี้ได้คะแนนเต็ม ๆ ไปเลย

ถ้าเทียบกับขนาดยางที่ใหญ่ขึ้น และ โช้คหน้าใหญ่ขึ้น แต่ผมไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างว่ามันจะหนักขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดครับ ขี่ R15 เดิมเบา ๆ ยังไง เจ้าตัวใหม่นี่ก็เบา พลิกง่าย ไม่ต่างกัน แค่มันจะหน่วง ๆ หน่อย ยามาฮ่าทำรถเซตรถมาดีจริง ๆ ครับ

สุดท้ายนี้ จะบอกว่า โดยรวมแล้ว Yamaha ยามาฮ่าทำการบ้านมาดีมาก ไม่น่าเชื่อว่า รถคันไม่ถึงแสน แต่จะขี่สนุกได้ขนาดนี้ โดยรวมแล้ว ผมเพลิดเพลินมาก ๆ เมื่ออยู่บนหลังรถ ขี่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่อยากกลับ 555+ รถขี่สนุก แรงสั่งได้ แรงบิดดี โช้คนุ่มหนึบ นี่ซื้อไปแทบไม่ต้องทำไรเพิ่มละครับ 555+


ข้อเสียกันบ้าง
เครื่องยังมีเสียงอันดังเหมือนเดิม ผมชินแล้วละ ตัวเก่าก็ดังแต่ก็วิ่งดีไม่ได้มีปัญหาอะไร
ปัญหาการประกอบรถ ที่ยังไม่น่าไว้ใจเท่าการประกอบของไทย
วัสุดพลาสติกดูไม่ค่อยมีคุณภาพเป็นรอยง่ายไปหน่อย
วิ่งเร็ว ๆ เหมือนเสียงลมมันหอนมาจากคอนโซลหน้า
เวลาอยู่กับที่ดับเครื่องขยับแฮนด์ซ้ายความมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เดี๋ยวจะลองให้ที่ศูนย์ดูให้

ตอนนี้ยังบอกข้อเสียอะไรไม่ได้มากครับ นอกจากมันขี่ดี๊ดีเพลินสนุกจนลืมเวลาจริง ๆ


สวิสต์ที่ด้านซ้าย จะมีไฟสูงต่ำ ไฟขอทาง pass มาให้
สวิสต์ที่ด้านขวา จะมีไฟฉุกเฉิน on-off run มาให้ คือ ทำให้มาหมดไม่ต้องเพิ่มอะไรอีกแล้วดีมากเลย


จัดมุมหล่อ ๆ หน้าดุ ๆ ไปอีกภาพครับ ^^

สุดท้ายแล้ว พอครบ 500 กม.แรก ผมไม่รอเข้าศูนย์ จัดการเปลี่ยน นมค. yamalube เลย
สังเกตุว่า รถผมยังไม่ค่อยได้อัด ท็อปสปีดคืออะไรไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือ นมค.เริ่มดำแล้ว 55



ขอบคุณยามาฮ่านะครับ ที่ทำรถดีดีออกมา เจ้าตัวนี้ มันคือสิ่งที่ขาดไปของ v2
พอมาเป็น v3 คือจัดเต็มทุกอย่างที่มีมาให้จริง ๆ ทำให้ผม สนุก และ มีความสุข กับการขับขี่ R15 คันนี้

สรุปครับ
เป็นสปอร์ตไบค์ระดับเริ่มต้นที่เหมาะมากกับสายซิ่ง สายหมอบ สายสนาม
เพราะ เครื่องยนต์ใหม่ ที่ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ทั้งรอบกลาง ปลาย และต้น
เมื่อก่อน r15 ใส่เกียร์ 6 นี่แทบเร่งไม่ขึ้น แต่ตัวนี้ไม่ครับ ที่เกียร์ 6 ถ้าอยู่ในความเร็วที่ 70
คุณสามารถกดคันเร่งส่งให้รถพุ่งทะยานออกไปได้โดยไม่ห้อยครับ
ท็อปสปีดดูจะไม่ไกลเกินความสามารถนักถ้าเทียบกับตัวเก่า
เก็บลมได้ดี หมอบ การควบคุม ฉับไว และ ดีขึ้นกว่าเดิมครับ
แต่ด้วยความที่ใส่ยางมาใหญ่ ทำให้อาจจะเทอะทะไปสำหรับบางคน แต่ส่วนใหญ่
ผมว่าชอบกันแน่นอน เพราะ รถถ้าจอดเทียบกับ R3 คันเท่ากันเลย


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ ติชมได้เพราะไม่ได้เป็นคนรีวิวมืออาชีพ บางอย่างอาจจะตกหล่นไป
ถ้าสนใจสอบถามข้อมูลกันมาได้ครับ จะค่อย ๆ ทยอยตอบให้ครับ แนะนำและติชมได้นะครับ
สำหรับกระทู้นี้อาจจะไม่ได้ละเอียดอะไรมาก
แต่จะเข้ามาตอบทุก ๆ คห.ครับ และจะพยายามมาอัพเดตข้อมูลนะครับ



ก่อนจากกัน ผมมีภาพรุ่นพี่ของ R15 ตั้งแต่ตัว v1 - v3 มาฝากครับ
แล้วเจอกันใหม่ ถ้ามีข้อบกพร่องหรือเจออะไรเพิ่มเติมนะครับ