[CR] #สายแชะ... ตามหัวใจไปญี่ปุ่น (จากสุวรรณภูมิ สู่โอกินาว่า มุ่งหน้าคิวชู By Peach Air)

กระทู้รีวิว

ความรักเดินทางไปทั่วทุกหนแห่งบนโลก รวมถึงในหัวใจของเรา ตราบเท่าที่เรายังคงเชื่อมั่นในความรัก

สัญญาไว้ในกระทู้รีวิวแนวประจานตน “เมื่อฉันหลงทางในโอกินาว่า” ว่านิลจะรีวิวการเที่ยวคิวชูฉบับเที่ยวด้วยตัวเองไว้นานมากแล้ว แต่ก็ยังหาเวลาว่างไม่ได้เสียที จนกระทั่งทางเว็บพันทิปส่งข้อความหลังไมค์มาชวนให้เขียนรีวิวร่วมสนุกกับ King Power เลยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำตามสัญญาข้อนั้นเสียที ขอขอบคุณทีมงานพันทิปมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

และนั่นคือสิ่งที่ทำให้บังเกิดเป็นรีวิว “ตามหัวใจไปญี่ปุ่น” กระทู้นี้ค่ะ

ก่อนอื่นขอออกตัวว่าตามปกตินิลเองไม่ใช่สายเที่ยว แม้วัยจะล่วงเลยมาจนขึ้นเลข 3 แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก็ยังคงทำหน้าที่ลูกแหง่ติดแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ละวันทำงานเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ที่อยู่ติดบ้านม้าก มาก เพื่อดูแลคุณแม่ที่เริ่มมีอาการอัลไซเมอร์ รวมทั้งเดินเองเกือบจะไม่ได้แล้ว หลังจากที่ท่านอุทิศตัวเองเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดีแม้ต้องอยู่ในสถานะซิงเกิ้ลมัมก็ตาม

แน่นอนว่าด้วยเหตุผลข้อนี้ ทำให้ทุกคนต่างมั่นใจว่า นิลจะต้องมีคานมาเกยอย่างไม่ต้องสงสัย รวมทั้งตัวนิลเองด้วย แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งที่ความรักตามหาเราเจอ อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตก็เปลี่ยนไป จากผู้หญิงขี้ขลาดที่ไม่เคยเดินทางไกลเพียงลำพังตัวคนเดียว วันนี้นิลมีความกล้าเพียงพอที่จะออกเดินทางไปตามหาหัวใจของตัวเองได้แล้ว ถึงแม้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ณ จุดหมายปลายทางข้างหน้ามีคนที่เรารอคอยมาทั้งชีวิตกำลังรอเราอยู่ที่สนามบินก็ตาม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการเดินทางไปญี่ปุ่น นิลเคยเข็นวีลแชร์พาแม่เที่ยวกับบริษัททัวร์ ในแถบคาวากูจิโกะ โตเกียว เกียวโต โอซาก้ามาแล้ว นั่นเป็นการไปเยือนประเทศในฝันครั้งแรกสำหรับนิล ส่วนครั้งที่ 2 ในปีถัดมา นิลก็ได้รางวัลตั๋วเครื่องบินฟรี 2 ที่นั่งจากการตอบคำถามผ่านฟรีแมกกาซีนแนวญี่ปุ่นๆ เล่มหนึ่ง นั่นคือการไปเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 2 รวมไปถึงเป็นการเดินทางไปตามหาหัวใจครั้งแรกของนิล โดยมีพี่สะใภ้ไปเป็นเพื่อนด้วย (มีรีวิวในพันทิปด้วยนะคะ) ทว่าสำหรับครั้งที่ 3 นี้ นี่เป็นการจองตั๋วเดินทางเองครั้งแรกของนิล และข้อผิดพลาดก็บังเกิดตั้งแต่แรกเริ่ม

นิลเลือกเดินทางแบบต่อเครื่องด้วยสายการบินพีชแอร์ ซึ่งพึ่งมาเปิดเส้นทางบินในประเทศไทยระหว่างสุวรรณภูมิ-โอกินาว่า และจองตั๋วจากโอกินาว่าบินต่อไปยังฟุกุโอกะ โดยเป็นการแยกตั๋วซื้อต่างหาก ไม่ใช่การจองตั๋วแบบหลายเส้นทาง ซึ่งถ้าหากเครื่องเกิดการดีเลย์หรือถูกยกเลิกตั้งแต่ต้นทาง นิลจะไม่สามารถขอเงินค่าโดยสารของเที่ยวบินถัดไปคืนได้ เป็นไปตามกฎที่นิลต้องยอมรับ ที่สำคัญคือนิลมีเวลาสำหรับการต่อเครื่องในการเดินทางจากโอกินาว่าไปฟุกุโอกะไปเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไร แต่แล้วสายการบินพีชแอร์ก็ดันมาตอกย้ำความกลัดกลุ้มด้วยข่าวยกเลิกเที่ยวบิน ลอยแพผู้โดยสาร เนื่องจากเครื่องบินขัดข้องเพราะนกเจ้ากรรมทำเหตุ ตามด้วยการดีเลย์นานเกือบ 1 วัน อันเนื่องมาจากเครื่องบินตกหลุมรันเวย์ เวลาในการเดินทางใกล้เข้ามาทุกขณะ ตั๋วเครื่องบินที่นิลจองไม่สามารถขอเงินคืนได้ และนิลไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากไปรอลุ้นเอาวันเดินทาง ยอมรับว่าในตอนนั้นรู้สึกเหมือนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต แต่เพราะคำพูดเตือนสติของคุณแฟน ทำให้ลมหายใจที่ติดๆ ขัดๆ เหมือนจะสิ้นชีวาเพราะเรื่องนี้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้

...ไม่มีใครรู้อนาคตได้ว่ามันจะเป็นยังไง และการมองโลกในแง่ลบก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพียงแต่ขอให้มองเพื่อเตรียมรับมือหากมีสิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นเท่านั้น เป็นการเตรียมพร้อมหากว่ามันจะต้องเกิด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นเสมอไป แล้วหลังจากนั้นก็แค่รอคอยวันเวลาที่จะมาถึงด้วยความสบายใจเท่านั้น


27 เมษายน 2560 ในที่สุดวันเดินทางของนิลก็มาถึง แผนอะไรต่อมิอะไรที่เคยคิดไว้เป็นอันได้พับเก็บไปด้วยความสบายใจ ในเมื่อไม่มีสัญญาณหายนะใดๆ บ่งบอกว่าเครื่องบินลำที่นิลจะต้องเดินทางไปโอกินาว่าจะเกิดอาการดีเลย์หรือถูกยกเลิก ทันทีที่บอร์ดดิ้งพาสอยู่ในมือ นั่นก็เท่ากับว่าสัญญาณการผจญภัยครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นิลเดินลั้นลาเก็บภาพสนามบินสุวรรณภูมิมาจนถึงร้านค้าปลอดภาษีของไทยที่นักเดินทางทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี... King Power


สำหรับนิลถ้าเปรียบ King Power กับความสัมพันธ์ของมนุษย์ ก็คงเทียบเท่ากับเพื่อนคนหนึ่งที่รู้ใจและรู้ในสิ่งที่เราคิดไปเสียทุกเรื่อง ไม่มีอะไรที่เราอยากได้แล้วที่นี่ไม่มี แม้แต่คำแนะนำดีๆ อย่างของฝากยอดฮิตสำหรับลูกเด็กเล็กแดง วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยชรา หรือคำตอบของคำถามที่ไม่น่าเอาไปถามอย่างห้องน้ำสนามบินอยู่ตรงไหน , wifi สนามบินใช้ยังไง รวมไปถึงคำถามเกี่ยวกับการรอขึ้นเครื่อง ทั้งหมดทั้งปวงคือสิ่งที่นิลได้รับจากที่นี่และรู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนที่ชื่อ King Power มาจนถึงทุกวันนี้


และแล้วช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็สิ้นสุดลง นิลไม่ได้เพลิดเพลินไปกับการช้อปและแชะจนลืมว่ามีใครกำลังรอเราอยู่ที่ปลายทาง เครื่องบินของสายการบินพีชแอร์ออกเดินทางตรงตามเวลาในช่วงตี 1 เศษพลอยให้รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอีกเปลาะ และยิ่งเบาใจเมื่อเครื่องทะยานขึ้นฟ้าอย่างไร้ซึ่งปัญหาและอุปสรรค ต่อให้รอบตัวรายล้อมด้วยความมืด มีแค่เพียงแสงไฟของตึกรามบ้านช่องเบื้องล่าง แต่นิลก็ยังรู้สึกอุ่นใจพอที่จะหลับเอาแรงได้โดยหวังว่าตัวเองจะตื่นมาทันเห็นแสงเงินแสงทองที่เริ่มจับขอบฟ้าในเช้าวันใหม่ แน่นอนว่าเป็นเพราะความตั้งใจอันแรงกล้าทำให้นิลได้ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง หลังจากนั้นที่เคยง่วงเหงาหาวนอนก็หายเป็นปลิดทิ้ง นิลนั่งเก็บภาพนอกหน้าต่าง ไปจนกระทั่งเครื่องลงจอดยังสนามบินนาฮะ โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ตรงตามเวลาแบบไม่ขาดไม่เกิน


เป็นช่วง 8 โมงเช้าของวันที่ฟ้าครึ้ม ลมแรง จนต้องเดินห่อตัวลงจากเครื่องทั้งที่สวมเสื้อหนาวอยู่ เพื่อนร่วมเดินทางส่วนใหญ่รอรับกระเป๋า แต่นิลมีเพียงเป้สะพายหลังใบเดียว และสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรวมทั้งศุลกากรมาได้อย่างสบายๆ ซึ่งคงเป็นเพราะพาสปอร์ตที่ผ่านการเดินทางมาญี่ปุ่นแล้วสองครั้งสองคราวสองสนามบิน มีเวลาอีกชั่วโมงกว่าในการล้างหน้า แปรงฟัน และกินมื้อเช้าที่เตรียมมาจากบ้านรองท้อง เพื่อรอขึ้นเครื่องต่อไปยังสนามบินฟุกุโอกะ


ท่านใดที่ประสงค์จะเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ โดยสายการบินพีชแอร์เหมือนกับนิลและเป็นกังวลเรื่องการต่อเครื่อง ขอบอกว่าถ้าเครื่องไม่ดีเลย์เป็นชั่วโมงก็สามารถสบายใจได้อย่างยิ่งยวดค่ะ เนื่องจากเทอร์มินัลของสายการบินต้นทุนต่ำนั้นเล็กมากและแยกตัวออกมาจากเทอร์มินัลใหญ่ของสนามบินนาฮะ รวมทั้งสายการบินพีชแอร์ก็ใช้เคาน์เตอร์เช็คอินร่วมกันทั้งเส้นทางบินในและนอกประเทศแบบคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ที่เด็ดสุดคือ free wifi ของที่นี่นั้นแรงสุดยอด เข้าตำราเล็กพริกขี้หนูทีเดียวเชียว อย่าได้ดูถูก

ส่วนภาพนี้เป็นร้านค้าในเทอร์มินัลแห่งนี้ สามารถขอคืนภาษีได้ค่ะ แต่ถ้าจะอยากได้ของฝากแบบละลานตาเลือกไม่ไหว ต้องไปเทอร์มินัลใหญ่ของสนามบินโดยตรงนะคะ กระเป๋าฉีกชัวร์


เช่นเคยที่การรอต่อเครื่องเป็นไปด้วยใจระทึก แม้ไม่มีวี่แววของการดีเลย์หรือยกเลิกเที่ยวบินให้รับรู้ล่วงหน้า เป็นอย่างนั้นจนผู้โดยสารทั้งหมดขึ้นเครื่องด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยสมกับที่เกือบ 100% ภายในนั้นเป็นคนญี่ปุ่น และหลังจากที่เครื่องทะยานขึ้นฟ้า นิลก็หลับไม่รู้เรื่องไปพักใหญ่ด้วยความอุ่นใจว่าอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมง การรอคอยที่จะได้พบกันของเราสองคนจะสิ้นสุดลงเสียที

เวลาไม่ถึง 1 ปีอาจแสนสั้นสำหรับใครหลายคน แต่กับรักทางไกลแล้ว มันยาวนานมากเสียจนหากใครคนหนึ่งปราศจากซึ่งความมั่นคง ทุกอย่างก็คงเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อวันก่อน จากรอยยิ้มกว้างของเขา นิลรับรู้ได้ถึงความดีใจที่อัดแน่นอยู่เต็มอก และจากรอยยิ้มกว้างของนิล เขาเองก็คงรับรู้ได้ไม่ต่างกัน แม้ไม่ต้องมีคำพูด เราสองคนก็ยังสัมผัสได้ถึงความมั่นคงที่ไม่คลอนแคลนไปตามระยะทางหรือวันเวลา ขอขอบคุณคุณแฟนไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ ที่ยังคงร่วมทุกข์และร่วมสุขมาด้วยกันจนถึงวันนี้ ตอนนี้ ณ เวลานี้ที่กำลังร่างรีวิว และมองดูเขาหลับผ่านวีดีโอคอลไปด้วย

ที่หมายแรกของการเดินทางในครั้งนี้หนีไม่พ้นการหาอะไรรองท้องเป็นมื้อเที่ยง เนื่องจากถึงเวลาที่กระเพาะอาหารของพวกเราจำเป็นต้องย่อยอาหารเลี้ยงร่างกายพอดิบพอดี และเป้าหมายหนึ่งเดียวของเราในเวลานี้ก็คือร้านราเม็งเจ้าประจำของคุณแฟนในโซน Ramen Stadium บนชั้น 5 ของห้างคาแนล ซิตี้ ฮากาตะ ซึ่งนับเป็นโชคดีของเราสองคนมากที่ไปทันได้เห็นน้ำพุเต้นระบำบริเวณลานน้ำพุกลางห้างด้วย ทราบมาว่าจะมีแบบนี้ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ใครผ่านไปก็อย่าลืมไปรอชมกันนะคะ มองจากมุมสูงด้านบนสวยมากๆ

ท่านใดต้องการชมตัวอย่างน้ำพุเต้นระบำ สามารถรับชมได้คลิปที่นิลถ่ายมา ในสปอยล์นี้นะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


หลังจากอิ่มมื้อกลางวันกันแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไปเมืองดาไซฟุ จังหวัดฟุกุโอกะ เพื่อเก็บข้อมูลเขียนนิยายวายย้อนยุคกันที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคิวชู อันเป็นภารกิจแรกของนิล และเป็นจุดประสงค์รองในการเดินทางมาญี่ปุ่นครั้งนี้ ขอบอกว่าทางเดินไปยังตัวอาคารที่จัดแสดง อลังการปานสนามบิน ส่วนภายในโดยมากจะห้ามถ่ายรูป นอกจากนี้ช่วงที่เราไปยังมีโซนที่จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุและสิ่งของอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยด้วยค่ะ





เก็บข้อมูลเรียบร้อยโดยใช้หน่วยความจำในสมอง เราก็เดินเที่ยวกันต่อในอาณาบริเวณอันร่มรื่นของศาลเจ้าดาไซฟุเทนมังกุ ที่อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ชนิดเกือบเป็นรั้วเดียวกัน ศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าเด่นมากในเรื่องอำนวยอวยพรให้สติปัญญาดีและสอบผ่าน แต่เราสองคนก็เชื่อเช่นกันว่าหากผู้ขอพรไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อนแล้วล่ะก็ คงไม่มีเทพเจ้าองค์ไหนทรงเมตตาประทานพรแก่คนขี้เกียจที่วันๆ เอาแต่หวังลมๆ แล้งๆ เป็นแน่ การที่เราได้สิ่งที่ต้องการมาด้วยมือของเราและความพยายามของเราเองนั้น นั่นคือสิ่งที่ควรภาคภูมิใจที่สุดค่ะ แต่ต้องได้มาด้วยวิธีที่สุจริตเท่านั้นนะ





คืนนั้น เราสองคนเข้าพักโรงแรมในซากะเพื่อย่นระยะทางในการเดินทางไปนางาซากิในวันรุ่งขึ้น แต่ทว่านิลก็ก่อเรื่องจนได้ เพราะไม่ได้ปรับเปลี่ยนเวลาในโทรศัพท์มือถือ มิหนำซ้ำยังตั้งเวลาปลุกเป็นเวลาของประเทศไทยอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ตื่นก่อนเพราะแสงแดดแยงตายังเป็นคุณแฟน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้กินข้าวแกงกะหรี่ฟรีของโรงแรมเป็นมื้อเช้า ก่อนจะออกเดินทางด้วยขบวนรถไฟ Limited express Kamome ไปยังนางาซากิ โดยร่วมมือร่วมใจกันหลับตลอดทาง

(่อ่านต่อที่คอมเมนท์นะคะ หนทางยังอีกยาวไกลแท้...)
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง (คิวชู - ฟุกุโอกะ นางาซากิ คิตะคิวชู)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่