สวัสดีค่ะทุกคน 5555555555 ก่อนอื่นเลยเราต้องขอเเนะนำตัวเอง


เรามังกี้โกโก หรือแปลตรงๆ ก็ลิงไปไป ไปเที่ยวกันเถอะ <3 ชื่อจริงๆ ของเรา ชื่อก้อย เป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
การเดินทางถือกล้องออกไปในที่ที่ไม่เคยไป เป็นอะไรที่ที่ทำให้เรารู้สึกดีมาก เหมือนเป็นการเปิดโลกแคบๆ ของเราให้กว้างขึ้น
ยิ่งได้ออกไป backpack โบกรถขึ้นเขาลงเขาเเล้ว ยิ่งชอบใจใหญ่ 5555
และนี่เป็นกระทู้เเรกของเราที่เขียนลงพันทิป ถ้าผิดผลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
เข้าสู่หน้าฝนปลายๆ เเล้ว เหมือนเป็นกิจกรรมทุกปีที่เราจะต้องพาตัวเอง backpack ออกไปเที่ยวในหน้านี้ เราชอบกลิ่นฝนยามที่มันตกกระทบลงพื้นดิน เราชอบอารมณ์ชื่นๆ ในใจ เวลานั่งมองฝน ยิ่งฝนกับป่าเเล้ว เรายิ่งชอบหนัก ความรู้สึกมันเหมือนเรากำลังถูกดูดเข้าไปต้องมนต์อะไรซักอย่าง ความเขียว ความเย็น ความหมอกที่กระทบภูเขา ทุกอย่างมันลงตัวมากๆ
และในปีนี้ เราได้มีโอกาสได้ทำมิชชั่นกับทาง Canon เขาได้ส่งเลนส์ EF-M 55-200 mm มาให้เราลองใช้ เป็นเลนส์ซูมเทเล ที่สามารถถ่ายป่า ถ่ายวิว ถ่ายสัตว์ตัวเล็กตัวใหญ่ได้ดีเลยทีเดียว
คิดอยู่นานเลยว่าจะไปไหนดี? ดูไปดูมา สุดท้ายก็มาสรุปว่าจะไป…..ดูทะเลหมอกที่พะเนินทุ่ง พอเริ่มหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าพะเนินทุ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็มีสถานที่เที่ยวมากมายให้เราไป แผน backpack ของเราในทริปนี้ เราจะนอนเต้นท์ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหนึ่งคืน เเล้ว ไปนอนเต้นท์ที่พะเนินทุ่งอีกหนึ่งคืน ระหว่างทาง เราจะแวะไปชมผีเสื้อที่เเคมป์บ้านกร่าง และ เดินป่าไปดูน้ำตกทอทิพย์ (ขอบอกไว้ก่อน การเดินป่าไปน้ำตกครั้งนี้เป็นจุดพีค เเละสนุกที่สุดของการเดินทางครั้งนี้เลยค่ะ) รวมเเล้วการเดินทางทริปนี้ เราจะไปกัน 3 วัน 2 คืน เฮ่!! โดยเราลองสรุปเป็นแผนคราวๆ ดังรู้ข้างล่างนี้ค่ะ
พอคิดได้เเล้วอยากจะไปไหน เราก็ได้ชวนน้องที่สนิทและเพื่อนไปด้วยหนึ่งคน โดยบอกว่าจะไปแก่งกระจาน จะไปดูหมอกฝนที่พะเนินทุ่งนะ
น้องและเพื่อน ก็โอเคตอบตกลงเรามา ปรากฎว่าถึงวันจะไปจริงๆ เรามีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ รวมเราด้วยทั้งหมดถึง 6 คน แบบงงๆ 5555555 นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปแก่งกระจาน - พะเนินทุ่ง ของคนที่ไม่เคยเดินทางไปไหนด้วยกันเลย 6 คนค่ะ
ในส่วนของการเดินทาง เราจะเดินทางโดยนั่งรถตู้ไปลงที่ บิ๊กซี จ.เพชรบุรี และต่อรถตู้ไปยังอุทยานฯ ความพีคอยู่ที่วันที่เดินทาง...เราได้นัดทุกคนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประมาณ 10 เช้า และทุกคนมาตรงเวลามาก แต่แต่แต่ !! จากการสอบถามพี่พี่เเถวนั้นเเล้ว รถตู้ทั้งหมดที่ลงใต้ได้ย้ายไปที่ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่เเล้วค่ะ นั่นนนนนนนน!! เริ่มต้นทริป ก็เอาซะหลงแล้ว และที่สำคัญเราพาทุกคนหลงตั้งเเต่เริ่มทริปค่ะทุกคน
คนที่ไม่เคยเดินทางร่วมกัน กำลังหลงทางไปด้วยกัน 55555555 พอได้สติเราก็ได้นั้งรถเมล์สาย 539 ฝั่ง รพ.ราชวิถี เพื่อเดินทางกันต่อไปที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ จัดการตีตั๋วรถตู้ กระโดดขึ้นรถ และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของพวกเรา ระหว่างทางที่นั่งมาก็พูดคุยกันตามประสาคนพึ่งเคยเจอกันค่ะ

นั่งไปแป๊ปๆ ต่อรถอีกหน่อย บ่ายๆ เราก็เดินทางมาถึงที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วินาทีแรกที่เปิดประตูลงมาจากรถ คือ ร้อน และ ร้อนมากค่ะ ร้อนแบบ พระอาทิตย์ต้องโกรธใครมาแน่ๆเลย 5555555555555
เเต่อากาศก็ไม่เป็นอุปสรรค์ มาถึงทั้งทีร้อนก็ร้อนเถอะ พวกเรา 6 คนจัดการติดต่อเรื่องเต็นท์ที่จะนอนในคืนนี้ เเละก็รถที่จะไปพะเนินทุ่งในพรุ่งนี้ พี่ๆ ที่ศูนย์นักท่องเที่ยวที่อุทยานฯ ก็ใจดีมากๆ ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ทั้งนี้มีปัญหาอะไรในการเดินทาง ในการท่องเที่ยวสามารถติดต่อพี่พี่ได้ตลอดเลยนะคะ
จัดการเรื่องเต็นท์เสร็จเเล้ว ก็ได้เวลาไปหาอะไรกินกัน ที่อุทยานจะมีร้านอาหารค่ะ เวลาปกติถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวก็จะปิดราวๆ 4 โมงเย็น เราก็ซื้อข้าวไว้ตุนเพื่อนที่จะกินในตอนเย็น กินข้าวเสร็จนั่งๆ คุยๆ กันไป พระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดิน ก็เลยชวนกันไปเดินเล่นบริเวณอุทยาน พร้อมกับถ่ายรูป ชมวิวและบรรยากาศที่นั่น


จากจุดที่เรากางเต็นท์ เราสามารถมองวิวที่เขื่อนได้แบบ 230 องศาเลยทีเดียว ยิ่งในช่วงที่เราไปไม่ค่อยมีคนมาพัก มาเที่ยว บรรยากาศ ก็จะเงียบๆ สงบ เรา 6 คน เหมือนคนที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ระหว่างทางที่เดินชม ก็จะมีเสียงแบบ โหววว ดูนั่นสิ โหววว ตรงนู้นๆ สวยมากกกกกกกกกกกกกกก นั่นนก นั่นเรือ โน่นพระอาทิตย์ สะพาน หญ้า แมว สุนัข และอีกมากมาย
เราได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ชมกันด้วย
ด้วยความที่เป็นเลนล์ระยะ 55-200mm ทำให้เราสามารถซูมถ่ายอะไรก็ได้จากระยะไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือที่เเล่นไปแล่นมาที่เขื่อน นกที่บินไปบินมา หรือจะถ่ายภูเขาที่สลับสับซ้อนที่อยู่หลังเขื่อน ก็สามารถถ่ายได้อย่างคมชัด เป็นความฟินมากๆ สำหรับเรา
ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินเราก็เลยให้พี่บิว พี่นึงในทริปมาลองยืนถ่ายย้อนเเสงดู
ก็ได้ฟีลที่ดีไปอีกแบบ
ความงามของท้องฟ้าในยามที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ตกดิน ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนสีท้องฟ้าอมส้มในวันนั้นเลย
ค่ะ



เดินถ่ายอะไรไปเรื่อยเปื่อย พวกเราก็กลับมานั้งดูวิว บริเวณเต๊นท์ของพวกเรา แปลกมาก ช่วงเวลาทุ่มนึงของที่นี่ เรายังสามารถมองเห็นวิวภูเขา วิวเขื่อนได้ชัดมาก พูดง่ายๆ คือที่นี่ ค่อนข้างมืดช้ามากๆ

พอถึงช่วงเปลี่ยนเวรของพระอาทิตย์กับพระจันทร์ จากท้องฟ้าสดใสก็เริ่มมีหมู่ดวงดาวขึ้นมาให้เห็น พวกเราก็ได้นั่งกินข้าวที่ซื้อไว้เมื่อตอนสี่โมง
ตอนนี้มีเรื่องพีคอีกเช่นเคย ด้วยความที่บริเวณนั้นมีสุนัขค่อนข้างเยอะประมาณ 7-8 ตัวค่ะ บางทีถ้าวางอาหารทิ้งไว้นอกเต้นท์ เผลอๆ น้องสุนัขเค้าก็แอบขโมยไปกิน น้องในทริปเราโดนเเย่งขนมปังไป 55555555 ตอนนั้นก็นั้งหาว่าตัวไหนเอาไป ขำขำกันไปค่ะ
กินข้าวเสร็จก็พากันไป อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำที่นี้ดีมากค่ะ สะอาด สะดวก .... คืนนี้พวกเราจะมานอนดูดาวกัน
><
ช่วงประมาณ 4 ทุ่ม เป็นครั้งเเรกของเรา ที่มีโอกาสได้เห็นดาวเยอะมากๆ ไปเที่ยวมาหลายครั้งไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย อารมณ์เหมือนเรานอนอยู่ในโดมดาวอย่างไงอย่างงั้น บริเวณเต็นท์ที่เรานอน มืดพอจะทำให้แสงสว่างจากดาวดวงส่องประกาย สวยงามน่ามอง
และ... เป็นครั้งเเรกที่เราได้เห็นทางช้างเผือกแบบเต็มสองตา คือสามารถมองได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ เป็นกลุ่มฝุ่นที่สวยงามมาก แอบเก็บภาพมาให้ชมกันด้วย

))

เราที่ไม่เคยถ่ายดาวมาก่อน ก็ได้พี่พีช พี่ในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันสอนให้
ตอนนั้นช่วงประมาณเที่ยงคืนค่ะ กลางคืนอากาศที่เริ่มหนาวๆ เย็นๆ พวกเรา 6 คนก็เอาที่ปูเต็นท์ออกมาปูข้างนอก แหงนหน้านอนดูดาวด้วยกัน พร้อมกับคุยเรื่องทั่วไปตั้งเเต่ต้นกำหนดดาว จนถึงเรื่องตัวตนของแต่ละคน เรียกได้ว่าวันนี้เราสนิทกันขึ้นอย่างรวดเร็ว คืนนี้มีดาวเป็นเพื่อนกัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
DAY 2
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่เราจะเดินทางไปพะเนินทุ่ง การเดินทางอาศัยการเหมารถขึ้นไปค่ะ พี่อุทยานที่ติดต่อเรื่องให้เรา โดยได้นัดกับคุณลุงคนขับไว้
ตอนประมาณ 11 โมง
หมายเหตุ :
การขึ้นลงเขาพะเนินทุ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง
ขาขึ้นจากแคมป์บ้านกร่าง เวลา 5.30 - 7.30 น. และ 13.00 - 15.00 น.
และ ขาลงจากแคมป์พะเนินทุ่ง เวลา 09.00-10.00 น. และ 16.00-17.00 น.
ออกจากอุทยานตอน 11 และขึ้นพะเนินทุ่ง ช่วงบ่ายสามโมงค่ะ
ก่อนที่คุณลุงขับรถจะมา เราก็ไปกินข้าว พร้อมกับเดินเล่นที่อุทยานไปเรื่อยค่ะ
บางคนในกลุ่มก็ไปถ่ายรูป นั่งดูวิว แล้วก็มีน้องในกลุ่มก็หยิบกระดาษมาวาดรูปเล่นไปพลางๆ
ก็มีค่ะ

จากหน้าอุทยาน จะสามารถถ่ายจุดที่พวกเรากางเต้นท์ได้ด้วย

ช่วงกำลังเดินไปกินข้าว

น้องปีโป้ ><

บริเวณเขื่อน

จะเห็นว่าร่มรื่นมาก ๆ



ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำแห้ง เราสามารถเดินลงไปเล่นที่ ริมเขื่อนได้

[SR] ฝนเผลอเเล้วเจอกัน…ตาม Monkey เข้าป่าตามหาเขียวสดชื่นกับเลนส์เผลอ #แก่งกระจาน #พะเนินทุ่ง
เรามังกี้โกโก หรือแปลตรงๆ ก็ลิงไปไป ไปเที่ยวกันเถอะ <3 ชื่อจริงๆ ของเรา ชื่อก้อย เป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
การเดินทางถือกล้องออกไปในที่ที่ไม่เคยไป เป็นอะไรที่ที่ทำให้เรารู้สึกดีมาก เหมือนเป็นการเปิดโลกแคบๆ ของเราให้กว้างขึ้น
ยิ่งได้ออกไป backpack โบกรถขึ้นเขาลงเขาเเล้ว ยิ่งชอบใจใหญ่ 5555
และนี่เป็นกระทู้เเรกของเราที่เขียนลงพันทิป ถ้าผิดผลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
เข้าสู่หน้าฝนปลายๆ เเล้ว เหมือนเป็นกิจกรรมทุกปีที่เราจะต้องพาตัวเอง backpack ออกไปเที่ยวในหน้านี้ เราชอบกลิ่นฝนยามที่มันตกกระทบลงพื้นดิน เราชอบอารมณ์ชื่นๆ ในใจ เวลานั่งมองฝน ยิ่งฝนกับป่าเเล้ว เรายิ่งชอบหนัก ความรู้สึกมันเหมือนเรากำลังถูกดูดเข้าไปต้องมนต์อะไรซักอย่าง ความเขียว ความเย็น ความหมอกที่กระทบภูเขา ทุกอย่างมันลงตัวมากๆ
และในปีนี้ เราได้มีโอกาสได้ทำมิชชั่นกับทาง Canon เขาได้ส่งเลนส์ EF-M 55-200 mm มาให้เราลองใช้ เป็นเลนส์ซูมเทเล ที่สามารถถ่ายป่า ถ่ายวิว ถ่ายสัตว์ตัวเล็กตัวใหญ่ได้ดีเลยทีเดียว
คิดอยู่นานเลยว่าจะไปไหนดี? ดูไปดูมา สุดท้ายก็มาสรุปว่าจะไป…..ดูทะเลหมอกที่พะเนินทุ่ง พอเริ่มหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าพะเนินทุ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็มีสถานที่เที่ยวมากมายให้เราไป แผน backpack ของเราในทริปนี้ เราจะนอนเต้นท์ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหนึ่งคืน เเล้ว ไปนอนเต้นท์ที่พะเนินทุ่งอีกหนึ่งคืน ระหว่างทาง เราจะแวะไปชมผีเสื้อที่เเคมป์บ้านกร่าง และ เดินป่าไปดูน้ำตกทอทิพย์ (ขอบอกไว้ก่อน การเดินป่าไปน้ำตกครั้งนี้เป็นจุดพีค เเละสนุกที่สุดของการเดินทางครั้งนี้เลยค่ะ) รวมเเล้วการเดินทางทริปนี้ เราจะไปกัน 3 วัน 2 คืน เฮ่!! โดยเราลองสรุปเป็นแผนคราวๆ ดังรู้ข้างล่างนี้ค่ะ
พอคิดได้เเล้วอยากจะไปไหน เราก็ได้ชวนน้องที่สนิทและเพื่อนไปด้วยหนึ่งคน โดยบอกว่าจะไปแก่งกระจาน จะไปดูหมอกฝนที่พะเนินทุ่งนะ
น้องและเพื่อน ก็โอเคตอบตกลงเรามา ปรากฎว่าถึงวันจะไปจริงๆ เรามีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ รวมเราด้วยทั้งหมดถึง 6 คน แบบงงๆ 5555555 นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปแก่งกระจาน - พะเนินทุ่ง ของคนที่ไม่เคยเดินทางไปไหนด้วยกันเลย 6 คนค่ะ
ในส่วนของการเดินทาง เราจะเดินทางโดยนั่งรถตู้ไปลงที่ บิ๊กซี จ.เพชรบุรี และต่อรถตู้ไปยังอุทยานฯ ความพีคอยู่ที่วันที่เดินทาง...เราได้นัดทุกคนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประมาณ 10 เช้า และทุกคนมาตรงเวลามาก แต่แต่แต่ !! จากการสอบถามพี่พี่เเถวนั้นเเล้ว รถตู้ทั้งหมดที่ลงใต้ได้ย้ายไปที่ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่เเล้วค่ะ นั่นนนนนนนน!! เริ่มต้นทริป ก็เอาซะหลงแล้ว และที่สำคัญเราพาทุกคนหลงตั้งเเต่เริ่มทริปค่ะทุกคน
คนที่ไม่เคยเดินทางร่วมกัน กำลังหลงทางไปด้วยกัน 55555555 พอได้สติเราก็ได้นั้งรถเมล์สาย 539 ฝั่ง รพ.ราชวิถี เพื่อเดินทางกันต่อไปที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ จัดการตีตั๋วรถตู้ กระโดดขึ้นรถ และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของพวกเรา ระหว่างทางที่นั่งมาก็พูดคุยกันตามประสาคนพึ่งเคยเจอกันค่ะ
นั่งไปแป๊ปๆ ต่อรถอีกหน่อย บ่ายๆ เราก็เดินทางมาถึงที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วินาทีแรกที่เปิดประตูลงมาจากรถ คือ ร้อน และ ร้อนมากค่ะ ร้อนแบบ พระอาทิตย์ต้องโกรธใครมาแน่ๆเลย 5555555555555
เเต่อากาศก็ไม่เป็นอุปสรรค์ มาถึงทั้งทีร้อนก็ร้อนเถอะ พวกเรา 6 คนจัดการติดต่อเรื่องเต็นท์ที่จะนอนในคืนนี้ เเละก็รถที่จะไปพะเนินทุ่งในพรุ่งนี้ พี่ๆ ที่ศูนย์นักท่องเที่ยวที่อุทยานฯ ก็ใจดีมากๆ ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ทั้งนี้มีปัญหาอะไรในการเดินทาง ในการท่องเที่ยวสามารถติดต่อพี่พี่ได้ตลอดเลยนะคะ
จัดการเรื่องเต็นท์เสร็จเเล้ว ก็ได้เวลาไปหาอะไรกินกัน ที่อุทยานจะมีร้านอาหารค่ะ เวลาปกติถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวก็จะปิดราวๆ 4 โมงเย็น เราก็ซื้อข้าวไว้ตุนเพื่อนที่จะกินในตอนเย็น กินข้าวเสร็จนั่งๆ คุยๆ กันไป พระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดิน ก็เลยชวนกันไปเดินเล่นบริเวณอุทยาน พร้อมกับถ่ายรูป ชมวิวและบรรยากาศที่นั่น
จากจุดที่เรากางเต็นท์ เราสามารถมองวิวที่เขื่อนได้แบบ 230 องศาเลยทีเดียว ยิ่งในช่วงที่เราไปไม่ค่อยมีคนมาพัก มาเที่ยว บรรยากาศ ก็จะเงียบๆ สงบ เรา 6 คน เหมือนคนที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ระหว่างทางที่เดินชม ก็จะมีเสียงแบบ โหววว ดูนั่นสิ โหววว ตรงนู้นๆ สวยมากกกกกกกกกกกกกกก นั่นนก นั่นเรือ โน่นพระอาทิตย์ สะพาน หญ้า แมว สุนัข และอีกมากมาย
เราได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ชมกันด้วย
รูปนี้เราถ่ายลงมาจากบนสะพานเเขวน วิวที่สะพานเเขวนเมื่อมองลงมา จะเห็นเป็นเวิ้งน้ำกว้างๆ ของเขื่อน
พระอาทิตย์กำลังเริ่มตกดินเเล้ว เหมือนวันนี้กำลังจะหมดลง พวกเรา 6 คนกำลังซึมซับบรรยากาศแห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน
ด้วยความที่เป็นเลนล์ระยะ 55-200mm ทำให้เราสามารถซูมถ่ายอะไรก็ได้จากระยะไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือที่เเล่นไปแล่นมาที่เขื่อน นกที่บินไปบินมา หรือจะถ่ายภูเขาที่สลับสับซ้อนที่อยู่หลังเขื่อน ก็สามารถถ่ายได้อย่างคมชัด เป็นความฟินมากๆ สำหรับเรา
ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินเราก็เลยให้พี่บิว พี่นึงในทริปมาลองยืนถ่ายย้อนเเสงดู ก็ได้ฟีลที่ดีไปอีกแบบ
ความงามของท้องฟ้าในยามที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ตกดิน ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนสีท้องฟ้าอมส้มในวันนั้นเลย ค่ะ
เดินถ่ายอะไรไปเรื่อยเปื่อย พวกเราก็กลับมานั้งดูวิว บริเวณเต๊นท์ของพวกเรา แปลกมาก ช่วงเวลาทุ่มนึงของที่นี่ เรายังสามารถมองเห็นวิวภูเขา วิวเขื่อนได้ชัดมาก พูดง่ายๆ คือที่นี่ ค่อนข้างมืดช้ามากๆ
พอถึงช่วงเปลี่ยนเวรของพระอาทิตย์กับพระจันทร์ จากท้องฟ้าสดใสก็เริ่มมีหมู่ดวงดาวขึ้นมาให้เห็น พวกเราก็ได้นั่งกินข้าวที่ซื้อไว้เมื่อตอนสี่โมง
ตอนนี้มีเรื่องพีคอีกเช่นเคย ด้วยความที่บริเวณนั้นมีสุนัขค่อนข้างเยอะประมาณ 7-8 ตัวค่ะ บางทีถ้าวางอาหารทิ้งไว้นอกเต้นท์ เผลอๆ น้องสุนัขเค้าก็แอบขโมยไปกิน น้องในทริปเราโดนเเย่งขนมปังไป 55555555 ตอนนั้นก็นั้งหาว่าตัวไหนเอาไป ขำขำกันไปค่ะ
กินข้าวเสร็จก็พากันไป อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำที่นี้ดีมากค่ะ สะอาด สะดวก .... คืนนี้พวกเราจะมานอนดูดาวกัน ><
ช่วงประมาณ 4 ทุ่ม เป็นครั้งเเรกของเรา ที่มีโอกาสได้เห็นดาวเยอะมากๆ ไปเที่ยวมาหลายครั้งไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย อารมณ์เหมือนเรานอนอยู่ในโดมดาวอย่างไงอย่างงั้น บริเวณเต็นท์ที่เรานอน มืดพอจะทำให้แสงสว่างจากดาวดวงส่องประกาย สวยงามน่ามอง
และ... เป็นครั้งเเรกที่เราได้เห็นทางช้างเผือกแบบเต็มสองตา คือสามารถมองได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ เป็นกลุ่มฝุ่นที่สวยงามมาก แอบเก็บภาพมาให้ชมกันด้วย
ตอนนั้นช่วงประมาณเที่ยงคืนค่ะ กลางคืนอากาศที่เริ่มหนาวๆ เย็นๆ พวกเรา 6 คนก็เอาที่ปูเต็นท์ออกมาปูข้างนอก แหงนหน้านอนดูดาวด้วยกัน พร้อมกับคุยเรื่องทั่วไปตั้งเเต่ต้นกำหนดดาว จนถึงเรื่องตัวตนของแต่ละคน เรียกได้ว่าวันนี้เราสนิทกันขึ้นอย่างรวดเร็ว คืนนี้มีดาวเป็นเพื่อนกัน
DAY 2
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่เราจะเดินทางไปพะเนินทุ่ง การเดินทางอาศัยการเหมารถขึ้นไปค่ะ พี่อุทยานที่ติดต่อเรื่องให้เรา โดยได้นัดกับคุณลุงคนขับไว้
ตอนประมาณ 11 โมง
หมายเหตุ : การขึ้นลงเขาพะเนินทุ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง
ขาขึ้นจากแคมป์บ้านกร่าง เวลา 5.30 - 7.30 น. และ 13.00 - 15.00 น.
และ ขาลงจากแคมป์พะเนินทุ่ง เวลา 09.00-10.00 น. และ 16.00-17.00 น.
ออกจากอุทยานตอน 11 และขึ้นพะเนินทุ่ง ช่วงบ่ายสามโมงค่ะ
ก่อนที่คุณลุงขับรถจะมา เราก็ไปกินข้าว พร้อมกับเดินเล่นที่อุทยานไปเรื่อยค่ะ
บางคนในกลุ่มก็ไปถ่ายรูป นั่งดูวิว แล้วก็มีน้องในกลุ่มก็หยิบกระดาษมาวาดรูปเล่นไปพลางๆ ก็มีค่ะ
จากหน้าอุทยาน จะสามารถถ่ายจุดที่พวกเรากางเต้นท์ได้ด้วย
ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำแห้ง เราสามารถเดินลงไปเล่นที่ ริมเขื่อนได้
โควต้าตัวอักษรหมดเเล้ว เดียวเราไปต่อที่คอมเม้นนะคะ ><
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น