เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 4 ปีมาแล้ว ที่ ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ยักษ์หลับจากอิตาลีได้ห่างหายไปจากเวทียุโรป
หากจะลองนับหนสุดท้ายที่เจ้ายุโรป 7 สมัย ได้ชูถ้วยในรายการนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปสมัย “ผีกาก้า” เมื่อฤดูกาล 2006-07 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-1
สาเหตุหลักที่ทำให้ มิลาน ตกต่ำ เกิดจากการประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่องชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายต้องขายดาวดังในทีมเพื่อนำเงินมาพยุงไม่ให้สโมสรล้มละลาย เมื่อเสียผู้เล่นหลักทุกซีซั่น ย่อมกระทบต่อผลงานในลีก หลุดท็อปโฟร์ไม่ได้ไปเตะบอลถ้วย ก็ขาดรายได้มหาศาลในที่สุด
จนกระทั่ง หลี่ หย่งหง นักธุรกิจชาวจีน ผู้หอบเงินกว่า 740 ล้านยูโร เข้าเจรจาซื้อ เอซี มิลาน ได้สำเร็จในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นั่งแท่นขึ้นเป็นประธานทีมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์เกรียงไกรทีมหนึ่งของโลก
หลี่ หย่งหง วัย 48 ปี นักธุรกิจ และนักลงทุน เกิดและเติบโตในจีนแผ่นดินใหญ่ จากรายงานของสื่อการเงินชื่อดัง ปัจจุบัน หลี่ ครอบครองสินทรัพย์จำนวนกว่า 500 ล้านยูโร
โดยมีรายได้หลักมาจากการลงทุนในบริษัทขนส่ง และเหมืองแร่ รวมไปถึง อสังหาริมทรัพย์สูง 48 ชั้นที่กำลังก่อสร้างในกวางโจว เชื่อว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีมูลค่าสูงถึง1 พันล้านยูโร เลยทีเดียว
แล้ว มิลาน จะเดินต่อทางไหน? เป็นคำถามที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ท่านประธานผู้นี้จะเข้ามาฟื้นฟูทีมจริงหรือไม่? เมื่อต้องล้างหนี้มหาศาลกว่า 200 ล้านยูโร ทันทีตามข้อตกลงซื้อขายสโมสร มิลาน จะเหลืองบประมาณพอสำหรับซื้อตัวนักเตะในยุคที่ราคาสูงลิบลิ่ว จนน่าใจหาย หรือไม่? หรือท่านประธานเพียงจะหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เมืองจีน? เมื่อปูมหลังของท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอล หรือสายกีฬาใดๆมาก่อนเลย
ความไม่แน่นอนในทิศทางทีม สร้างความวิตกกังวลให้บรรดาแฟนบอลปีศาจแดงดำ ความกดดันยังส่งผลไปถึงเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่ มิลาน บุกไปพ่ายทีมรองบ่อน กายารี่ จบฤดูกาลที่อันดับ 6 แต้มห่างอันดับ 3 โควต้าแชมป์เปี้ยนส์ลีกถึง 23 คะแนน!!!
หากจะตัดเกรดวัดผลงานของทีมชุดนี้ ก็คงต้องให้ตกอย่างไม่คิดมาก มิลาน ดีไม่พอและยังไม่พร้อมจะท้าชนคู่แข่งในเซเรีย อา อย่าง ยูเวนตุส โรม่า หรือ นาโปลี
เป็นเหตุให้ มาร์โก ฟาสโซเน่ ประธานซีอีโอ และ มัสซิโม มิราเบลลี่ ผู้อำนวยการสโมสร จำเป็นต้องผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ ด้วยการคว้า
มัตเตโอ มูซัคคิโอ จาก บีญาเรอัล
แฟรงค์ เคสซี่ จาก อตาลันต้า
ริคาร์โด โรดริเกวซ จาก โวล์ฟสบวร์ก สามตัวรวดตั้งแต่ไก่โห่ สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลอย่างไม่ทันตั้งตัว
ปีศาจแดงดำยุคพญามังกร ยังคงเดินหน้าเรียกเสียงฮือฮา เสริมทีมแบบไม่หายใจหายคอ จนเพื่อนร่วมเมือง งูใหญ่ อินเตอร์ ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ด้วย
อังเดร ซิลวา จาก เอฟซี ปอร์โต้
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู จาก เลเวอร์คูเซ่น
อังเดร คอนติ จาก อตาลันต้า
ฟาบิโอ บอรินี่ ยืมตัวจาก ซันเดอร์แลนด์ อีกสี่ตัว อารมณ์เหมายกเข่งยังไงยังงั้น
แถมยังเคลียร์ปัญหาเรื่องต่อสัญญากับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารอนาคตไกลได้สำเร็จ ทำให้ขุมกำลังของ มิลาน ในตอนนี้สามารถตั้งเป้าลุ้นตั๋วไปแชมป์เปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าได้อย่างเต็มตัว
ยังไม่พอ!!! บอร์ดบริหารชุดใหม่ไฟแรง ยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะนำ มิลาน กลับมาไล่ล่าความสำเร็จ ด้วยการบรรลุสัญญาคว้าตัว
เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ หนึ่งในแผงหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้จาก ยูเวนตุส คู่ปรับตลอดกาล นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง พ่วงด้วย
ลูคัส บิเกลีย จากต้นสังกัด ลาซิโอ มาเพิ่มอีกแพ็คคู่ โอ้โหจะโหดไปไหน
ณ ปัจจุบัน เอซี มิลาน สร้างประวัติศาสตร์เซ็นนักเตะใหม่เข้ารังมาแล้วทั้งสิ้น 9 คน ใช้งบประมาณไปมากถึง 157 ล้านยูโร!!! ในช่วงเวลาเพียง 3 เดือนเศษ เปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ตกเป็นกระแสที่ถูกจับตามองในอิตาลี แถมยังไม่หยุดช็อปปิ้ง จนกว่าตลาดนักเตะจะวายด้วยซ้ำ
ยังไม่นับโครงการต่อไปของ มิลาน ที่กำลังจะตีตลาดแดนมังกร และผลประโยชน์ที่จะได้จำนวนมหาศาล
ต้องยกนิ้วให้ท่านประธาน หลี่ และทีมงานบอร์ดบริหารชุดใหม่ ที่ประกาศศักดา เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา
ยักษ์หลับตนนี้กำลังใกล้จะตื่นเต็มที
ที่มา TingSanam
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=154336838450079&id=149944208889342
มิลาน ยักษ์หลับ ที่ใกล้จะตื่นเต็มที
หากจะลองนับหนสุดท้ายที่เจ้ายุโรป 7 สมัย ได้ชูถ้วยในรายการนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปสมัย “ผีกาก้า” เมื่อฤดูกาล 2006-07 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-1
สาเหตุหลักที่ทำให้ มิลาน ตกต่ำ เกิดจากการประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่องชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายต้องขายดาวดังในทีมเพื่อนำเงินมาพยุงไม่ให้สโมสรล้มละลาย เมื่อเสียผู้เล่นหลักทุกซีซั่น ย่อมกระทบต่อผลงานในลีก หลุดท็อปโฟร์ไม่ได้ไปเตะบอลถ้วย ก็ขาดรายได้มหาศาลในที่สุด
จนกระทั่ง หลี่ หย่งหง นักธุรกิจชาวจีน ผู้หอบเงินกว่า 740 ล้านยูโร เข้าเจรจาซื้อ เอซี มิลาน ได้สำเร็จในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นั่งแท่นขึ้นเป็นประธานทีมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์เกรียงไกรทีมหนึ่งของโลก
หลี่ หย่งหง วัย 48 ปี นักธุรกิจ และนักลงทุน เกิดและเติบโตในจีนแผ่นดินใหญ่ จากรายงานของสื่อการเงินชื่อดัง ปัจจุบัน หลี่ ครอบครองสินทรัพย์จำนวนกว่า 500 ล้านยูโร
โดยมีรายได้หลักมาจากการลงทุนในบริษัทขนส่ง และเหมืองแร่ รวมไปถึง อสังหาริมทรัพย์สูง 48 ชั้นที่กำลังก่อสร้างในกวางโจว เชื่อว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีมูลค่าสูงถึง1 พันล้านยูโร เลยทีเดียว
แล้ว มิลาน จะเดินต่อทางไหน? เป็นคำถามที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ท่านประธานผู้นี้จะเข้ามาฟื้นฟูทีมจริงหรือไม่? เมื่อต้องล้างหนี้มหาศาลกว่า 200 ล้านยูโร ทันทีตามข้อตกลงซื้อขายสโมสร มิลาน จะเหลืองบประมาณพอสำหรับซื้อตัวนักเตะในยุคที่ราคาสูงลิบลิ่ว จนน่าใจหาย หรือไม่? หรือท่านประธานเพียงจะหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เมืองจีน? เมื่อปูมหลังของท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอล หรือสายกีฬาใดๆมาก่อนเลย
ความไม่แน่นอนในทิศทางทีม สร้างความวิตกกังวลให้บรรดาแฟนบอลปีศาจแดงดำ ความกดดันยังส่งผลไปถึงเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่ มิลาน บุกไปพ่ายทีมรองบ่อน กายารี่ จบฤดูกาลที่อันดับ 6 แต้มห่างอันดับ 3 โควต้าแชมป์เปี้ยนส์ลีกถึง 23 คะแนน!!!
หากจะตัดเกรดวัดผลงานของทีมชุดนี้ ก็คงต้องให้ตกอย่างไม่คิดมาก มิลาน ดีไม่พอและยังไม่พร้อมจะท้าชนคู่แข่งในเซเรีย อา อย่าง ยูเวนตุส โรม่า หรือ นาโปลี
เป็นเหตุให้ มาร์โก ฟาสโซเน่ ประธานซีอีโอ และ มัสซิโม มิราเบลลี่ ผู้อำนวยการสโมสร จำเป็นต้องผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ ด้วยการคว้า
มัตเตโอ มูซัคคิโอ จาก บีญาเรอัล
แฟรงค์ เคสซี่ จาก อตาลันต้า
ริคาร์โด โรดริเกวซ จาก โวล์ฟสบวร์ก สามตัวรวดตั้งแต่ไก่โห่ สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลอย่างไม่ทันตั้งตัว
ปีศาจแดงดำยุคพญามังกร ยังคงเดินหน้าเรียกเสียงฮือฮา เสริมทีมแบบไม่หายใจหายคอ จนเพื่อนร่วมเมือง งูใหญ่ อินเตอร์ ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ด้วย
อังเดร ซิลวา จาก เอฟซี ปอร์โต้
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู จาก เลเวอร์คูเซ่น
อังเดร คอนติ จาก อตาลันต้า
ฟาบิโอ บอรินี่ ยืมตัวจาก ซันเดอร์แลนด์ อีกสี่ตัว อารมณ์เหมายกเข่งยังไงยังงั้น
แถมยังเคลียร์ปัญหาเรื่องต่อสัญญากับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารอนาคตไกลได้สำเร็จ ทำให้ขุมกำลังของ มิลาน ในตอนนี้สามารถตั้งเป้าลุ้นตั๋วไปแชมป์เปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าได้อย่างเต็มตัว
ยังไม่พอ!!! บอร์ดบริหารชุดใหม่ไฟแรง ยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะนำ มิลาน กลับมาไล่ล่าความสำเร็จ ด้วยการบรรลุสัญญาคว้าตัว
เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ หนึ่งในแผงหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้จาก ยูเวนตุส คู่ปรับตลอดกาล นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง พ่วงด้วย
ลูคัส บิเกลีย จากต้นสังกัด ลาซิโอ มาเพิ่มอีกแพ็คคู่ โอ้โหจะโหดไปไหน
ณ ปัจจุบัน เอซี มิลาน สร้างประวัติศาสตร์เซ็นนักเตะใหม่เข้ารังมาแล้วทั้งสิ้น 9 คน ใช้งบประมาณไปมากถึง 157 ล้านยูโร!!! ในช่วงเวลาเพียง 3 เดือนเศษ เปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ตกเป็นกระแสที่ถูกจับตามองในอิตาลี แถมยังไม่หยุดช็อปปิ้ง จนกว่าตลาดนักเตะจะวายด้วยซ้ำ
ยังไม่นับโครงการต่อไปของ มิลาน ที่กำลังจะตีตลาดแดนมังกร และผลประโยชน์ที่จะได้จำนวนมหาศาล
ต้องยกนิ้วให้ท่านประธาน หลี่ และทีมงานบอร์ดบริหารชุดใหม่ ที่ประกาศศักดา เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา
ยักษ์หลับตนนี้กำลังใกล้จะตื่นเต็มที
ที่มา TingSanam
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=154336838450079&id=149944208889342