ว่าด้วย นายพรานป่า กับหมา และชาวสวนยางกับรัฐบาล

นายพรานป่า กับหมา

นานมาแล้วมีนายพรานคนหนึ่งชื่อว่าโกกะ  แกชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ พอ ๆ กับท่านที่ชอบดื่มไวน์แทนน้ำเปล่า ทุกวันแกจะต้องออกจากบ้านตั้งแต่

เช้าตรู่มุ่งสู่ป่าพร้อมด้วยสมุนคู่ใจอีกหลายตัว หมู่สุนัข 4-5 ชีวิตคือหมู่มิตรของแก มันเป็นบริวารที่ไว้ใจได้มากกว่ามนุษย์ แกคิดเห็นอย่างนั้น จึงเลี้ยงไว้

อย่างไม่เสียดายข้าวสุก  เมื่อแกชี้ไปที่วัตถุ หรือคนใด สุนัขเหล่านั้นก็จะกรูรุมเข้าไปทำร้ายกัดวัตถุหรือบุคคลผู้นั้นอย่างกระหายเลือด


วันหนึ่ง แกก็ออกจากบ้านพร้อมกับหมู่สุนัขเช่นเคย ทุกตัวต่างเริงร่าที่จะได้สังหารเหยื่อในป่า นายพรานโกกะเองก็มีอาวุธครบมือ ทั้งมีด ปืนผาหน้าไหม้ สะ

พ่ายกันจนไหล่ลู่มุ่งสู่ป่าอย่างเริงร่าใจ


พอออกถึงประตูหมู่บ้านเท่านั้น ตาแกถึงกับอารมณ์เสีย เมื่อพบกับภิกษุรูปหนึ่งกำลังบิณฑบาต " ชิชะ วันนี้ท่าจะดวงไม่ดีแน่แท้ เจอคนที่เป็นเสนียดยิ้ม

แต่เช้าเลย .."  แกบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ ก่อนบึ่งเดินไปอย่างอารมณ์เสีย

วันนั้น ด้วยเหตุอะไรไม่ทราบได้ จะเป็นเพราะเป็นวันประชุมสภาของหมู่สัตว์ หรือวันปฏิวัติของหมู่กวาง หรือจะเป็นวันว่าง ๆ ของหมู่นก  ก็ไม่อาจทราบได้  

ปรากฏว่าในป่าใหญ่ไม่มีแม้สัตว์ใดเผ่นผ่าน แม้กระทั่งนกกระจาบเล็ก ๆ ซึ่งเมื่อวันก่อนต่างร้องระงมไปทั่วทั้งป่า มาวันนี้กลับไม่มาแม้สักตัวเดียว  ฝูงกวางที่

มักลงมากินน้ำที่ริมบึง มาวันนี้ต้องเหตุไรจึง ไม่พึงมีแม้สักตัว ..!!


ตาพรานป่าแกหันหน้าไปมองสมุน พวกมันเองก็คงหงุดหงิดไม่แพ้กัน บางตัวทำท่าทางหงุดหงิด เหมือนปลาสลิดถูกไฟลวก .. ทุกตัวน้ำลายไหลเยิ้มมา

จนถึงพื้นด้วยความกระหายเลือด!

"ต้องเป็นเพราะพระเมื่อเช้าแน่ๆๆ มันเป็นตัวเสนียดแท้ ๆ ทำให้เราไม่ได้อะไรเลยแม้สักตัวเดียว .."  พรานป่าคิดพลางสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเข้า

พอดีเป็นความโชคร้ายของภิกษุนักบิณฑบาตที่บังอาจมาเจอนายพรานป่าเข้าถึง 2 ครั้ง

"อ่า  เจอแล้วตัวเสนียดยิ้ม วันนี้ไม่ได้ฆ่าแก กูไม่หายเจ็บใจแน่ ๆ " พูดพลางชี้นิ้วสั่งให้สมุนทั้งหลายเข้าทำร้ายอย่าได้เกรง

สุนัขทั้งหมดต่างกรูหน้าเข้าหาภิกษุรูปนั้นด้วยความกระหาย

ภิกษุผู้น่าสงสาร เห็นสุนัขกรูเข้ามาเช่นนั้น ก็ทิ้งบาตรวิ่งหนี เหลือบไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งเข้าก็รีบปีนป่ายหนีตายอย่างเวทนา ต้นไม้ไม่สูงนักท่านยืนอยู่บนกิ่ง

ไม้ พวกสุนัขเหล่านั้นก็ต่างกระโดดเพื่อจะกัดท่านให้ได้ทีเดียว แต่ก็ไม่อาจกระโดดถึงได้

นายพรานโกกะเห็นดังนั้น ก็ถือหอกเดินดุ่ม ๆ เข้ามา แล้วใช้ปลายหอกอันแหลมคมทิ่มไปที่ฝ่าเท้าของภิกษุรูปนั้นเต็มแรง  ท่านร้องด้วยความเจ็บ พอเท้า

ข้างขวาถูกแทงก็ยกขึ้น ยืนด้วยขาข้างเดียวบนกิ่งไม้ พออีกข้างถูกแทงก็ยกอีกข้าง แล้วยืนด้วยขาอีกข้างอย่างเจ็บปวด   จนเท้าทั้งสองชุ่มไปด้วยเลือด

จากฝ่าเท้า  ท่านทนเจ็บไม่ไหว จีวรที่ห่มก็หลุดไหลลงมาคลุมตัวนายพรานโกกะอย่างไม่เจตนา  ฝ่ายฝูงมาเข้าใจว่าภายใต้จีวรนั้นเป็นภิกษุจึงกรูเข้าไป

ภายในจีวรกัดกินนายพรานโกกะอย่างกระหาย จนสุดท้ายเหลือแต่กระ ดูก โอ้ ..อนิจจา

ภิกษุหนุ่มที่อยู่บนต้นไม้เห็นเหตุการณ์อันโหดร้ายตรงหน้า จึงคว้ากิ่งไม้แห้งเขวี้ยงใส่หมานั้นไป  พวกมันหันมามองภิกษุบนต้นไม้ แล้วเหลียวกลับไปดูเศษ

กระดูกก็รู้ทันทีว่า ตนได้ฆ่าเจ้าของเสียแล้ว จึงรีบวิ่งหนีเข้าป่าไป

ภิกษุรูปนั้น ตะเกียกตะกายลงจากต้นไม้อย่างทุลักทุเล โซซัดโซเซหอบร่างอันอิดโรยกลับวัด ท่ามกลางความสนใจของพระเณรในวัดกันทั่วหน้า ท่าน

เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดากราบทูลเรื่องทั้งหมด แล้วทูลถามว่า  " ข้าพระองค์เกรงว่าจะบาปหนักที่นายพรานโกกะตาย "

"ดูก่อนภิกษุ บาปย่อมมีแก่คนที่ทำบาป ส่วนตัวเธอเองไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร บาปย่อมไม่มีแก่เธอหรอ เพราะว่าเปรียบเหมือนมือใครที่ไม่มีแผล เขาก็

สามารถที่จะจับยาพิษได้ ฉันใด คนที่จิตใจไม่มีบาป ไม่มีอกุศล ก็ย่อมไม่ได้บาป ฉันนั้นเหมือนกัน

ที่มา...http://www.thammasatu.net/forum/index.php?topic=13699.0

................................

ให้พรานป่าเป็นชาวสวนยาง พระเป็นรัฐบาล หมาเป็น 5 เสือยางพาราไทย

อดีตมันบอกว่าชาวสวนยางรบไม่เคยชนะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่