ใครๆต่างทราบกันดีแล้วว่า การไปเที่ยวภูป่าเปาะ จุดชมวิวฟูจิเมืองเลยนั้น ต้องไปในช่วงฤดูหนาว เพราะนอกจากจะได้ชมทะเลหมอกที่ห่มล้อมรอบภูหอ หรือภูเขาฟูจิ แล้วนั้น ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่น ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ดอกบัวตองที่บานสพรั่งสวยงาม แต่วันนี้แอดมินจะขอนำเสนอการท่องเที่ยวภูป่าเปาะในช่วงปลายฤดูร้อน ต้นฤดูฝน (ปกติเขาไปแต่ปลายฝนต้นหนาวไง แต่เราไม่ใช่แบบนั้น 55555) เพราะเราตั้งคำถามในใจค่ะว่า "ไปตอนนี้...ไปดูอะไร?" แล้วเราจะไปหาคำตอบค่ะว่า จะมีอะไรที่แตกต่างไปบ้าง

ภูป่าเปาะ จุดชมวิวฟูจิเมืองเลย ตั้งอยู่ที่ บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย
พิกัด 17.038289, 101.711488

หากเดินทางจากอำเภอเมืองเลย ระยะทางจากอำเภอเมืองเลย ไปยังภูป่าเปาะ อำเภอหนองหิน ระยะทางประมาณ 69 กิโลเมตร โดยทีมงานโกทูเลยเริ่มออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ใช้เส้นทางหมายเลข 201 เมื่อถึงอำเภอหนองหิน เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 3029 (ก่อนถึงสำนักงานเทศบาลตำบลหนองหิน) จากนั้นไปตามเส้นทางอีกประมาณ 21.3 กิโลเมตร จะพบกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ด้านซ้ายมือ

ในการขึ้นไปยังภูป่าเปาะนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อรถทางการเกษตรของชาวบ้าน หรือที่เรียกกันว่า รถอีแต๊กค่ะ เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน จึงห้ามนำรถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นไปยังภูป่าเปาะนะคะ อัตราค่าบริการก็จะตกอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท ค่ะ แล้วตอนนี้เราก็มาลุ้นกันค่ะว่า ฝนจะตกหรือไม่ เพราะเหมือนตั้งเค้ามาแล้ว แอดมินก็คิดในแง่ดีไว้ก่อน ว่าอาจจะได้ภาพที่แตกต่างแต่สวยงามก็ได้

ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยค่าา!!  ความรู้สึกแอดมินก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้นั่งรถอีแต๊กค่ะ รถอีแต๊กของศูนย์บริการท่องเที่ยวภูป่าเปาะจะค่อนข้างดีเลย มีที่นั่งนุ่มๆ และหลังคาด้วยเพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวนั่นเองค่ะ และพี่โชเฟอร์ของเราก็จะพาเราไปยังจุดชมวิวต่างๆจนถึงตอนเราจะกลับ พร้อมกับคอยแนะนำจุดต่างๆค่ะ หรือจะเรียกได้ว่าพานำเที่ยวนั่นเอง (คือดีมากก ใส่ใจทุกรายละเอียดดีค่ะ)

และแล้วก็ถึงแล้วค่าาา จุดชมวิวภูป่าเปาะจุดที่ 1 จะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นฟูจิเมืองเลย ได้ชัดเจน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวาจะสามารถเข้าไปเก็บภาพสวยๆได้ไม่เกิน 10 ท่านค่ะ เนื่องจากพื้นที่ไม่กว้างนัก และฝั่งด้านซ้าย จะเป็นลานที่กว้างขวางกว่า ด้านนอกจะมีศาลาเล็กๆ ให้ได้นั่งพักค่ะ ทีมงานโกทูเลยดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ในจุดที่ 1 นานพอสมควรค่ะ พร้อมกับบรรเลงเพลงฟินๆกันไป จากนั้นก็ไปต่อยังจุดที่ 2 ค่า

จุดชมวิวภูป่าเปาะจุดที่ 2 จะเป็นจุดเซลฟี่ซะส่วนใหญ่ค่ะ มีชิงช้า มีป้ายภูป่าเปาะสีสันสวยงาม มองออกไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย จะเห็นอ่างเก็บน้ำ น้ำเลย สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ  และอีกด้านของวิวฟูจินั้น จะเป็นภูเขา ที่ชาวบ้านเรียกว่า ผานางนอน เนื่องจากมีลักษณะเหมือนผู้หญิงกำลังนอนอยู่นั่นเองค่ะ และถัดออกไปเป็นภูเขาที่เหมือนกับผู้ชายกำลังนอนกอดพุงอยู่ค่ะ

จุดชมวิวภูป่าเปาะจุดที่ 3 ในจุดนี้นั้น เราจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของสวนหินผางามค่ะ และเป็นจุดพักรถเพื่อที่จะเดินเท้าไปยังจุดที่ 4 อีกประมาณ 250 เมตรค่ะ ซึ่งในการเดินทางไปยังจุดที่ 4 หรือที่เรียกกันว่า พาโนราม่า 360 องศา นั้น ทางทีมงานโกทูเลยไม่ทราบมาก่อนเลยค่ะว่าต้องลงเดินด้วย ไม่ได้เตรียมแรง เตรียมร่างกายมาก่อนเลย 55555 (ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าด้วย T^T) พอบอกว่า 250 เมตร เหมือนจะไม่ไกล แต่เล่นเอาหอบแฮ่กๆ ไปตามๆกันค่ะ เสียเหงื่อไปเยอะ เหมือนเป็นการออกกำลังกาย (มองแง่ดีมากกก 5555)

ในที่สุด เราก็มาถึงจุดที่ 4 แล้วค่าาา จุดนี้เราจะสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน แต่อาจจะมีต้นไม้ ต้นหญ้า บดบังเล็กน้อย แต่ก็มีความสวยงามในตัวของมันค่ะ ในช่วงที่เราเก็บภาพบนจุดที่ 4 นั้น ก้อนเมฆได้เคลื่อนมารวมกันที่บนยอดภูเขาพอดี เลยดูคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิที่กำลังปะทุอยู่ นับว่าโชคดีมากๆค่ะ มันสวยงามมากจริงๆ

หลังจากนั้นทีมงานโกทูเลยก็กลับไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อรับประทานอาหารกันค่ะ เนื่องจากหมดแรงกัน ขานี้สั่นผับๆๆ 55555 ทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะมีร้านค้า และร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ และเมื่อรับประทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นแอดมินก็ได้ไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับที่พักภูป่าเปาะ ที่ใกล้เคียง ซึ่งก็ได้ทราบข้อมูลมาว่า ทางชุมชนนั้นมีโฮมสเตย์ที่ได้รับมาตรฐาน 3 ปัจจัยหลัก (สะดวก สะอาด ปลอดภัย) 5-6 หลัก แต่ทั้งหมดราวๆ 20 หลังได้ค่ะ หากมีคณะทัวร์มาก็สามารถจัดแจงไปยังบ้านต่างๆ หลังละ 7-10 ท่าน โดยประมาณ และหากรับประทานอาหารที่โฮมสเตย์ก็จะตกอยู่ที่ท่านละ 350 บาท (ส่วนใหญ่กลับมาร่วมรับประทานอาหารกันที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวค่ะ) และกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ เลี้ยงพาแลง พร้อมกับกิจกรรมการแสดงต่างๆของชุมชน เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินหากได้มาพักยังโฮมสเตย์นั่นเองค่ะ

บอกได้เลยว่า กิจกรรมต่างๆที่ทางชุมชนนั้นจัดให้ ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่มีไมตรีจิต กลุ่มจิตอาสาของน้องๆที่พานำเที่ยว กลุ่มโชเฟอร์รถอีแต๊กที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดี และที่ประทับใจนั้นก็คือ ขอยกให้กับกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ เลี้ยงพาแลง การแสดงก่อนจะไปยังโฮมสเตย์นั้น เป็นอะไรที่อบอุ่นมากๆค่ะ เป็นการใส่ใจจากชุมชนเพื่อความประทับใจของนักท่องเที่ยว หากใครที่ต้องการไปท่องเที่ยวแล้วยังไม่มีที่พัก ก็ขอแนะนำให้ใช้บริการโฮมสเตย์ของทางชุมชนเลยค่ะ

ในการมาเยือนภูป่าเปาะครั้งนี้ สิ่งที่ได้กลับไปก็ คือ มิตรภาพของการเดินทางค่ะ เนื่องจากช่วงที่ทีมงานไปนั้น เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ก็พอมีบ้างประปราย ทำให้มีโอกาสได้พูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ในระหว่างที่ชมวิวทิวทัศน์ร่วมกัน มีแลกเปลี่ยนกันเก็บภาพบรรยากาศ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความอบอุ่นของเจ้าหน้าที่ กลุ่มรถอีแต๊ก หรือชุมชนที่นี่ ที่ให้การต้อนรับ และดูแลเราเป็นอย่างดีค่ะ บอกได้เลยว่า มาฤดูไหน ความอบอุ่นก็เหมือนเดิม ถึงจะไม่ใช่ช่วงไฮท์ซีซั่นแต่ก็บริการได้ประทับใจ มีไมตรีจิตค่ะ บอกได้เลยว่า ทีมงานโกทูเลยจะกลับมาอีกแน่นอนค่ะ

บทความรีวิวโดย แอดมินไก่น้อย_โกทูเลย
อ่านบทความและชมรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.gotoloei.com/เที่ยวเลย/727939/ชมฟูจิที่ภูป่าเปาะเที่ยวได้ทุกฤดู