รีวิว : War for the Planet of The Apes
มนุษย์หรือวานร ที่จะเป็นฝ่ายอยู่รอด...
[ **No Spoil 100% ]

ปิดฉากไตรภาคได้อย่างสวยงาม
ถือเป็นหนัง Franchise ในดวงใจเรื่องนึง
สำหรับหนังตระกูล Planet of The Apes
ตั้งแต่ภาค Rise (2011) และ Dawn (2014)
จนมาในภาคนี้ War for the Planet of Apes

ต้องบอกว่าแอบคาดหวังไว้พอสมควร
ว่าจะเป็นการจบไตรภาคที่สวยงาม
และหนังก็ทำไม่ทำให้ผิดหวัง..

จุดเด่นคือภาคนี้ ขอยกให้ซีนดราม่าทั้งหลาย
หนังไม่ได้เน้นคำพูดบิ๊วอะไรมากมาย
แต่การถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสีหน้าท่าทาง
โดยเฉพาะในส่วนของแววตา ทำได้อย่างดีเยี่ยม

มันเป็นดราม่าของคำว่า "ครอบครัว"
และเส้นบางๆระหว่างความเป็น "มนุษย์" และ "สัตว์"
ว่าสุดท้ายแล้ว คน หรือว่า วานร ที่มีความเป็นมนุษย์
ที่หมายถึง #มนุษยธรรม มากกว่ากัน..

หนังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ ของ "ซีซาร์"
ตัวเอกของหนัง ถึงความเป็นสลัด #ไม่ใช่!!  
ตั้งแต่ความเป็น "สัตว์" สู่ความเป็น "มนุษย์"
ซึ่งในตอนแรกเหมือน #ลิงโลกสวย
ที่พึ่งเกิดมาได้ไม่นาน ยังอ่อนต่อโลก
ยังไม่ได้รู้จักจิตใจด้านมืดของมนุษย์มากนัก

และต่อมาซีซาร์และผองเพื่อนก็ได้เรียนรู้มากขึ้น
"ซีซาร์" ได้เรียนรู้ความแตกต่างของมนุษย์
ทั้งจิตใจ อารมณ์ ความคิด และเหตุจูงใจต่างๆ
ได้เห็นความแตกต่างของคนแต่ละประเภท
ทำให้ซีซาร์เติบโตขึ้นไปอีกขั้น



หนังดำเนินเรื่องดี และชวนให้ติดตามตลอด
ในส่วนตัวนั้น เรื่องบทหนังไม่มีจุดไหนไม่ชอบ
ทุกการตัดสินใจทุกอย่างทีเหตุผลมารองรับ
หนังยาว 2 ชั่วโมงกว่าแต่ไม่มีช่วงไหน
ที่ผมละสายตาจากหนังได้เลย

แอบชอบการที่หนังมีตลกแทรกมาขำๆ
แบบไม่คิดว่าหนังโทนนี้จะใส่มาได้ 5555+
ซึ่งทำออกมาได้น่ารัก และไม่ขัดอารมณ์เลย

อีกจุดที่ชอบคือ นักแสดงเด็กผู้หญิง
แสดงได้ดีมาก แววตาของเธอบ่งบอกอารมณ์
แสดงความรู้สึกได้ดีสุดๆ #น่ารัก
ส่วน "แอนดี้ เซอร์คิส" ผู้รับบทเป็นซีซาร์
นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังคงความเป็นสุดยอด
นักแสดงแบบ Motion Capture ไว้ได้ไม่มีตก

ในส่วนของความสวยงามของภาพนั้น..
ก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม เอฟเฟคต่างๆ
ฉากบู๊ ฉากระเบิด คู่ควรกับดูในจอยักษ์

จุดเดียวของหนังเลยไม่ชอบคือ #ชื่อหนัง
ไม่ชอบตรงที่ใส่คำว่า WAR ลงไป
เพราะมันทำให้หลายคนคาดหวังบทบู๊เยอะ
คิดว่าจะได้เจอสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์
บู๊ล้างผลาญ ให้สูญพันธ์กันไปข้าง
แต่ซีนแอคชั่นถือว่ามีน้อยมากๆ สำหรับคำว่า WAR

ก็ฝากไว้สำหรับใครที่หวังว่าจะไปดูฉากบู๊เยอะๆ
ว่าหนังภาคนี้เน้นดราม่า เน้นแนวคิดมากกว่า
ถ้าชอบดูแต่ฉากบู๊ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับท่าน..

แล้ว.. ถ้าไม่เคยดูภาค 1 กับ 2 จะดูรู้เรื่องไหม ?
รู้เรื่องครับ ไม่เคยดูภาคอื่นก็เข้าใจได้สบายๆ
หนังมีเล่าประวัติความเป็นมาแบบคร่าวๆ
เป็นตัวหนังสือให้ในตอนต้นเรื่องนิดหน่อย
แต่อาจจะไม่อินในความสัมพันธ์กับตัวละคร
ทั้งที่ยังอยู่ และตายไปแล้วในภาคก่อนๆ

สรุป.. ชอบมากๆๆ เป็นคนชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว
ชอบหนังที่เล่นดราม่าจากสีหน้าแววตา
ชอบหนังที่แฝงแนวคิดและปรัชาญา
ชอบทุกอย่างในหนังภาคนี้เลยจริงๆ

.
.
.

#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#อนึ่งรสนิยมการดูหนังเป็นเรื่องส่วนบุคคล
#หนังโปรดของผมอาจไม่ใช่โปรดของคุณ