วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีที่เราสองคนได้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ
โดยการไปบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลศิริราช และไปบริจาคยาดมให้กับผู้บริจาคโลหิต
เราเดินทางไปที่ ภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด โรงพยาบาลศิริราช ตึก 72 ปี ชั้น 3
พอไปถึงก็กรอกข้อมูลผู้มาบริจาคเลือด โดยครั้งนี้เราไปกันเป็นครั้งที่สอง
มาดูกันค่ะว่าการเตรียมตัวในการบริจาคเลือดทำอย่างไรกันบ้าง
เตรียมพร้อมอย่างไรก่อนบริจาคโลหิต
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต เพื่อมิให้ผู้บริจาคโลหิตอ่อนเพลียมากหลังบริจาคโลหิต ผู้บริจาคโลหิตจึงควรเตรียมตัวดังนี้
• ก่อนบริจาคโลหิต 1–2 วัน ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น เลือดไหลเวียนดี
• งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
• ไม่ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากก่อนบริจาคโลหิต 1 วัน
• รับประทานอาหารก่อนบริจาคโลหิตประมาณ 4 ชั่วโมง
• นอนหลับพักผ่อนเพียงพอประมาณ 6 ชั่วโมง
ซึ่งแต่ละครั้งโรงพยาบาลต้องการโลหิตประมาณ 350–450 ซีซี /คน ซึ่งปริมาณจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้บริจาค และเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับโลหิตที่ปลอดภัย โลหิตที่ได้จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบก่อนนำไปให้ผู้ป่วยคือ ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ซิฟิลิส และตรวจหาไวรัสเอดส์

เราเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีทั้งร่างกายและจิตใจ
มาดูสภาพหลังการบริจาคโลหิต

เมื่อบริจาคเสร็จเรียบร้อย เราก็จะได้วิธีการปฎิบัติตนหลังบริจาคเลือดใบเล็กๆมาให้ดู


นอกจากนี้เรายังได้บริจาคยาดมให้กับผู้มาบริจาคโลหิต


เรื่องราวดีๆของวันนี้


บริจาคโลหิตที่ศิริราชทำอย่างไร
โดยการไปบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลศิริราช และไปบริจาคยาดมให้กับผู้บริจาคโลหิต
เราเดินทางไปที่ ภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด โรงพยาบาลศิริราช ตึก 72 ปี ชั้น 3
พอไปถึงก็กรอกข้อมูลผู้มาบริจาคเลือด โดยครั้งนี้เราไปกันเป็นครั้งที่สอง
มาดูกันค่ะว่าการเตรียมตัวในการบริจาคเลือดทำอย่างไรกันบ้าง
เตรียมพร้อมอย่างไรก่อนบริจาคโลหิต
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต เพื่อมิให้ผู้บริจาคโลหิตอ่อนเพลียมากหลังบริจาคโลหิต ผู้บริจาคโลหิตจึงควรเตรียมตัวดังนี้
• ก่อนบริจาคโลหิต 1–2 วัน ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น เลือดไหลเวียนดี
• งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
• ไม่ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากก่อนบริจาคโลหิต 1 วัน
• รับประทานอาหารก่อนบริจาคโลหิตประมาณ 4 ชั่วโมง
• นอนหลับพักผ่อนเพียงพอประมาณ 6 ชั่วโมง
ซึ่งแต่ละครั้งโรงพยาบาลต้องการโลหิตประมาณ 350–450 ซีซี /คน ซึ่งปริมาณจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้บริจาค และเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับโลหิตที่ปลอดภัย โลหิตที่ได้จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบก่อนนำไปให้ผู้ป่วยคือ ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ซิฟิลิส และตรวจหาไวรัสเอดส์
มาดูสภาพหลังการบริจาคโลหิต