เป็นกระทู้แรกที่ลงรูปใด้
ขอ ออกตัวก่อนคับว่า เป็นแนวทางในการเที่ยว ญี่ปุ่นแบบ มึนๆ งง หลงบ้างไม่หลงบ้าง
เดินทาง 30 มิย - 5 กค การเดินทางครั้งนี้โชคดีมาก *เดี๋ยวเล่าให้ฟังว่าโชคดีอะไรบ้าง* มีเหตุการ ระทึกขวัญตั่งแต่สนามบินดอนเมือง
ผมกับผู้ร่วมเดินทาง มีแค่ 2 คน ผมอยู่ต่างจังหวัดเลยนัดกันที่ดอนเมืองไม่เกิน 21.00 น
ถึงเวลานัดก็อะเคจัดของเอามารวมเป็นใบเดียว เช็กไปเช็กมา อ้าว เอาแล้วไง ม่าม่า ลืมเอามา *ไปมาหลายที่ ม่าม่านี้ห้ามขาดกระเป๋า*
วิ่งไปซื้อหน้าดอนเมือง
ผมเอากระเป๋าไปโหลด(หนังสือเดินทางมีอายุเหลือแค่4เดือน เช็กอินออนไลน์ไม่ใด้) ต่อคิว ยาวไปๆ ผู้ร่วมเดินทางเช็กออนไลน์มาแล้วเดินตัวปลิวไป
ในที่สุดผมก็ใด้เช็กอิน แต่ๆๆๆๆๆพนักงาน ถามผมว่าเช็กอินไม่ใด้ โดนยกเลิก พี่เคยติด ตม ไหม มีหนังสือเดินทางกี่เล่ม ผมบอกมี2เล่ม อีกเล่มหมดอายุแล้ว
เลยบอกเช็กใหม่อีกที แต่ไม่ผ่าน จนพนักงานวิ่งข้ามช่องไปหา ซุป แล้ววิ่งกลับมาบอกเข้าใจผิด ผ่านมาใด้โดยละม่อม
เดินมาถึงหน้าเกจ ผมยื่นหนังสือเดินทางผ่านเข้าไปใด้อย่างสบาย แต่*ผู้ร่วมเดินทางโดนถามว่าไม่ใด้เช็กอิน ผมบอกเช็กอินออนไลน์แล้วนี้ บอกต้องขอลงข้อมูลก่อน ซักครู่ก็ผ่าน นั่งรอๆๆๆ และแล้วก็มีประกาศมาว่าขอเชิญผู้ร่วมเดินทางที่เคาเตอร์อีกครั้ง ผมเลยเดินไปด้วย และถามว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดเหตุการเดียวกัน 55555555*เอาเขาไปนะพี่หางแดง*ในใบเช็กอินออนไลน์ จะมีรูปว่าไม่มีกระเป๋าโหลดเดินเข้าใด้เลย พร้อมกับยื่นให้ดู พนักงานพากัน งง แต่ก็ผ่านไปใด้

ขึ้นเครื่องใด้แล้ว เย้ๆ จากนั้น ภาพก็ตัดไป ตื่นอีกที

การเดินทางเข้า TOKYO


โดยบัตรเบ่ง*ซื้อมา 10000 เยน เราต้องใช้ให้คุ้มกว่าที่ซื้อ*
รีบไปโรงแรมชื่อ hotel new tochigiya ราคาไม่แพงจองพร้อมตั๋ว(เพื่อเก็บกระเป๋า ดีกว่าฝากตามที่ฝากไว้2วัน)
ฝากเช็กอิน จากนั่นรีบนั่งรถไฟไป คาวากุชิโกะ
ก่อนขึ้นรถไฟที่ Shinjuku เริ่มหิวและอยากลองกินเบ็นโต็ะ*เพื่อเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่น แต่ที่ไทยห้ามกินบนรถไฟฟ้า*


ต้องไปลงที่ OSUKI แต่ ด้วยความที่ง่วง คงไม่ต้องเดา นั่งเลยคับ
ไปลงไหนไม่รู้ ตื่นมารีบมองหาป้ายใหไว เสียเวลาไป 2 ชม
และในที่สุดเราก็มาถึงจนใด้OSUKI


ถึง kawagichiko วิ่งเข้า ที่สอบถามการท่องเที่ยว ยื่นกระดาษให้ พี่สาวบริการดีมากโทร ให้โรงแรมมมารับ
โรงแรมชื่อ อิจิฟุจิไซ จองไปราคา 5พัน กว่าบาท 2คืนพร้อม อาหารเช้า *แถมบริการรับส่ง*
ขึ้นรถมาลุงคนขับ บอก ทูไนซ์ อานามิ !!!!! คือขนมเหรอ ลุง

ถึงที่พักพากันเข้าห้อง เสียงดังปังๆๆ แล้วเงียบไป ชะโงกออกไปดูทางหน้าต่างคนเริ่มชี้มือ *คนไทยอย่าเราจะรอ อะไร ขอเผือก*
ลงมาเจอคุณป้าเจ้าของ ที่พักยื่นใบปลิวว่าเทศการ ลาเวนเดอร์ *ฟลุกมาก*

อดสงสัยไม่ใด้ว่าเสียงอะไร ป้าบอก fireworks รีบถามว่าตรงไหน ป้าบอก kawaguchiko
ผมรีบออกมาแต่มองรอบตัว ไม่มีอะไรเลย สงสัยหมด เดินไป ล็อวสัน หาไรกินดีกว่า ซื้อขนม น้ำ แต่เอ๋ คนมันเยอะจัง ต่อแถวๆจ่ายเงินเดินออกมา โอ็ว10นาที คนมาจากไหน รับสิคับหาที่นั่ง ขอเป็นญี่ปุ่นมุงบ้าง*ใครๆก็บอกว่าพลุญี่ปุ่นสวย*
นั่งไปกินไป มาแล้ว





จนพลุจบลงคนแยกย้าย



กลับที่พักมาจะอาบน้ำ โอ้ว โดเรม่อน โนบิตะ ชิซูกะ ใจแอ้น ห้องน้ำรวม
แต่ หรูเริด อะ ถามป้าเจ้าของที่พักใด้ความว่าอาบใด้แช่ใด้ ล็อกห้องใด้ *ที่พักราคา5พันออนเซนในตัว*

ขออนุญาติถ่ายรูปแล้วคับผม วันที่1 จบลงแล้ว
มาต่อกันเพื่อไม่ให้เสียเวลา วันที่2 เทศการลาเวนเดอร์ แบบ สายถีบๆๆ
ตื่นมามีสะพรึง *ตั่งแต่เมื่อวานละ*
เจอเต็มตาเลย ฟูจิซัง

รีบสิคับกรัวจะอายหลบหน้า


*ห้องที่พักติดสุสานนะคับ ดึกมาไม่มีใครรบกวนแน่นอน*


ตามมาด้วยอาหารฝีมือคุณป้า อย่างละนิดอย่างละหน่อยเหมือนจะไม่พอกินแต่ อร่อยมาก
เดินจากที่พักมาไม่เกิน50เมตรเช่าจ้กรยาน 2คัน 3000เยน คืนก่อน 5โมงเย็น
พร้อมแล้ว ลุย ปั่นมาเจอเลย จอดสิ รอ อะไร ขอ ดมสิ กลิ่นลาเวนเดอร์ ของจิงกับแบบกระป๋องมันต่างกันไหม



1ชม ผ่านไปออกจากที่พักไม่ถึง 1 กม







ยาวๆๆๆๆๆไปเจอสายแว้น ตัวจิง *ที่ประเทศไทยมี มูลนิธิ ทำงานคงเหนื่อย)


แวะอีกแล้ว จะเที่ยงแล้วนะ

ในที่สุดก็ถึงจนใด้






ขณะที่กำลังถ่ายภาพอยู่นั่น ใด้ยินเสียง1 ดังขึ้น ว่า

*พี่ค่ะ ถ่ายรูปให้หน่อยค่ะ*

ผมรีบหันไปพร้อมกับขอถ่ายภาพให้น้องเขา จำใด้ว่าน่าจะ 2 ภาพ ด้วยความอยากเผือก เลยถามว่าน้องมายังไงมากับใคร
ชื่อเสียงเรียงนาม อะไร ใด้ความว่า ชื่อ จู เป็นคน นราธิวาส มาคนเดียว เรียน ที่ไหนไม่ใด้ถาม นั่งบัสมาจากโตเกียว พักแถว อาซากุสะ เลยจะชวนน้องเขาเที่ยวพรุ่งนี้ น้องบอกไปโตเกียวดิสนี้ (ผมขอผ่านเพราะไปมาแล้ว)จากนั่นก็แยกย้าย ผมเดินมาหาผู้ร่วมเดินทางของผมเล่าเหตุการให้ฟัง ผู้ร่วมเหตุการไม่เชื่อว่า ผู้หญิงคนเดียวจะมาเที่ยว เนี้ยนะ ผมเลยชวนกัน ไปตามหาน้อง จู หลังจากกินไอติมหมด เดินๆไปซะกครู่ เจอน้องเขานั่งอยู่ริมทะเลสาบ ปรับกล้องเลยเดินเข้าไปทัก ถามว่าไปไหนอย่างไง ขอไลน์ไว้โดยผู้ร่วมเดินทางของผม ซิ่งเพศเดียวกัน

*ผมยอมใจน้องเขาจิงๆใจกล้ามากมาเที่ยวคนเดียวน่าจะ5-6 วัน* จากนั่นแยกย้าย (ถ้าน้องมาอ่าน พูดคุยใด้นะ พี่ สาย สบายๆ คุยใด้เพื่อโอกาศหน้าใด้เที่ยวด้วยกัน)
แวะซื้อของฝาก นิดหน่อย
จุดหมายต่อไปกระเช้าลอยฟ้า ปั่นยาวแบบไม่พักเพราะแดดร้อนมาก
ที่นี้ดีคับ ตู้ขายตั๋วมีภาษาไทยด้วย ถ้ารับเงินไทย ด้วยจะดีมาก

ดูพี่เขาโค้งจนรถออก

ลงมาหิว ปั่น ต่อ หาซื้อไรกินเย็นนี้



นั่งกินข้างทะเลสาบ อาหารไม่กี่บาทแต่วิว หลักล้าน แบตหมด เจอกัน พรุ่งนี้ ราตรีสวัส
วันที่3 วันที่4 มีฮากว่านี้แน่นอน
เที่ยวไปบ่นไป ใน Japan 6วัน4คืน
ขอ ออกตัวก่อนคับว่า เป็นแนวทางในการเที่ยว ญี่ปุ่นแบบ มึนๆ งง หลงบ้างไม่หลงบ้าง
เดินทาง 30 มิย - 5 กค การเดินทางครั้งนี้โชคดีมาก *เดี๋ยวเล่าให้ฟังว่าโชคดีอะไรบ้าง* มีเหตุการ ระทึกขวัญตั่งแต่สนามบินดอนเมือง
ผมกับผู้ร่วมเดินทาง มีแค่ 2 คน ผมอยู่ต่างจังหวัดเลยนัดกันที่ดอนเมืองไม่เกิน 21.00 น
ถึงเวลานัดก็อะเคจัดของเอามารวมเป็นใบเดียว เช็กไปเช็กมา อ้าว เอาแล้วไง ม่าม่า ลืมเอามา *ไปมาหลายที่ ม่าม่านี้ห้ามขาดกระเป๋า*
วิ่งไปซื้อหน้าดอนเมือง
ผมเอากระเป๋าไปโหลด(หนังสือเดินทางมีอายุเหลือแค่4เดือน เช็กอินออนไลน์ไม่ใด้) ต่อคิว ยาวไปๆ ผู้ร่วมเดินทางเช็กออนไลน์มาแล้วเดินตัวปลิวไป
ในที่สุดผมก็ใด้เช็กอิน แต่ๆๆๆๆๆพนักงาน ถามผมว่าเช็กอินไม่ใด้ โดนยกเลิก พี่เคยติด ตม ไหม มีหนังสือเดินทางกี่เล่ม ผมบอกมี2เล่ม อีกเล่มหมดอายุแล้ว
เลยบอกเช็กใหม่อีกที แต่ไม่ผ่าน จนพนักงานวิ่งข้ามช่องไปหา ซุป แล้ววิ่งกลับมาบอกเข้าใจผิด ผ่านมาใด้โดยละม่อม
เดินมาถึงหน้าเกจ ผมยื่นหนังสือเดินทางผ่านเข้าไปใด้อย่างสบาย แต่*ผู้ร่วมเดินทางโดนถามว่าไม่ใด้เช็กอิน ผมบอกเช็กอินออนไลน์แล้วนี้ บอกต้องขอลงข้อมูลก่อน ซักครู่ก็ผ่าน นั่งรอๆๆๆ และแล้วก็มีประกาศมาว่าขอเชิญผู้ร่วมเดินทางที่เคาเตอร์อีกครั้ง ผมเลยเดินไปด้วย และถามว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดเหตุการเดียวกัน 55555555*เอาเขาไปนะพี่หางแดง*ในใบเช็กอินออนไลน์ จะมีรูปว่าไม่มีกระเป๋าโหลดเดินเข้าใด้เลย พร้อมกับยื่นให้ดู พนักงานพากัน งง แต่ก็ผ่านไปใด้
รีบไปโรงแรมชื่อ hotel new tochigiya ราคาไม่แพงจองพร้อมตั๋ว(เพื่อเก็บกระเป๋า ดีกว่าฝากตามที่ฝากไว้2วัน)
ฝากเช็กอิน จากนั่นรีบนั่งรถไฟไป คาวากุชิโกะ
ก่อนขึ้นรถไฟที่ Shinjuku เริ่มหิวและอยากลองกินเบ็นโต็ะ*เพื่อเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่น แต่ที่ไทยห้ามกินบนรถไฟฟ้า*
ไปลงไหนไม่รู้ ตื่นมารีบมองหาป้ายใหไว เสียเวลาไป 2 ชม
และในที่สุดเราก็มาถึงจนใด้OSUKI
โรงแรมชื่อ อิจิฟุจิไซ จองไปราคา 5พัน กว่าบาท 2คืนพร้อม อาหารเช้า *แถมบริการรับส่ง*
ขึ้นรถมาลุงคนขับ บอก ทูไนซ์ อานามิ !!!!! คือขนมเหรอ ลุง
ลงมาเจอคุณป้าเจ้าของ ที่พักยื่นใบปลิวว่าเทศการ ลาเวนเดอร์ *ฟลุกมาก*
อดสงสัยไม่ใด้ว่าเสียงอะไร ป้าบอก fireworks รีบถามว่าตรงไหน ป้าบอก kawaguchiko
ผมรีบออกมาแต่มองรอบตัว ไม่มีอะไรเลย สงสัยหมด เดินไป ล็อวสัน หาไรกินดีกว่า ซื้อขนม น้ำ แต่เอ๋ คนมันเยอะจัง ต่อแถวๆจ่ายเงินเดินออกมา โอ็ว10นาที คนมาจากไหน รับสิคับหาที่นั่ง ขอเป็นญี่ปุ่นมุงบ้าง*ใครๆก็บอกว่าพลุญี่ปุ่นสวย*
นั่งไปกินไป มาแล้ว
จนพลุจบลงคนแยกย้าย
กลับที่พักมาจะอาบน้ำ โอ้ว โดเรม่อน โนบิตะ ชิซูกะ ใจแอ้น ห้องน้ำรวม
แต่ หรูเริด อะ ถามป้าเจ้าของที่พักใด้ความว่าอาบใด้แช่ใด้ ล็อกห้องใด้ *ที่พักราคา5พันออนเซนในตัว*
มาต่อกันเพื่อไม่ให้เสียเวลา วันที่2 เทศการลาเวนเดอร์ แบบ สายถีบๆๆ
ตื่นมามีสะพรึง *ตั่งแต่เมื่อวานละ*
เจอเต็มตาเลย ฟูจิซัง
รีบสิคับกรัวจะอายหลบหน้า
*ห้องที่พักติดสุสานนะคับ ดึกมาไม่มีใครรบกวนแน่นอน*
เดินจากที่พักมาไม่เกิน50เมตรเช่าจ้กรยาน 2คัน 3000เยน คืนก่อน 5โมงเย็น
พร้อมแล้ว ลุย ปั่นมาเจอเลย จอดสิ รอ อะไร ขอ ดมสิ กลิ่นลาเวนเดอร์ ของจิงกับแบบกระป๋องมันต่างกันไหม
1ชม ผ่านไปออกจากที่พักไม่ถึง 1 กม
ยาวๆๆๆๆๆไปเจอสายแว้น ตัวจิง *ที่ประเทศไทยมี มูลนิธิ ทำงานคงเหนื่อย)
แวะอีกแล้ว จะเที่ยงแล้วนะ
ในที่สุดก็ถึงจนใด้
ขณะที่กำลังถ่ายภาพอยู่นั่น ใด้ยินเสียง1 ดังขึ้น ว่า
ผมรีบหันไปพร้อมกับขอถ่ายภาพให้น้องเขา จำใด้ว่าน่าจะ 2 ภาพ ด้วยความอยากเผือก เลยถามว่าน้องมายังไงมากับใคร
ชื่อเสียงเรียงนาม อะไร ใด้ความว่า ชื่อ จู เป็นคน นราธิวาส มาคนเดียว เรียน ที่ไหนไม่ใด้ถาม นั่งบัสมาจากโตเกียว พักแถว อาซากุสะ เลยจะชวนน้องเขาเที่ยวพรุ่งนี้ น้องบอกไปโตเกียวดิสนี้ (ผมขอผ่านเพราะไปมาแล้ว)จากนั่นก็แยกย้าย ผมเดินมาหาผู้ร่วมเดินทางของผมเล่าเหตุการให้ฟัง ผู้ร่วมเหตุการไม่เชื่อว่า ผู้หญิงคนเดียวจะมาเที่ยว เนี้ยนะ ผมเลยชวนกัน ไปตามหาน้อง จู หลังจากกินไอติมหมด เดินๆไปซะกครู่ เจอน้องเขานั่งอยู่ริมทะเลสาบ ปรับกล้องเลยเดินเข้าไปทัก ถามว่าไปไหนอย่างไง ขอไลน์ไว้โดยผู้ร่วมเดินทางของผม ซิ่งเพศเดียวกัน
แวะซื้อของฝาก นิดหน่อย
จุดหมายต่อไปกระเช้าลอยฟ้า ปั่นยาวแบบไม่พักเพราะแดดร้อนมาก
ที่นี้ดีคับ ตู้ขายตั๋วมีภาษาไทยด้วย ถ้ารับเงินไทย ด้วยจะดีมาก
วันที่3 วันที่4 มีฮากว่านี้แน่นอน