เรื่องยาวหน่อยนะคับ
ผมเป็นคนหน้าตาปานกลาง แต่มีรูปร่างใหญ่และอ้วนมาก ผมหนัก 160สูง186 ในช่วงสามปีที่แล้ว ผมได้เจอกับน้องคนนึงในเฟสบุ๊ค เค้าเป็น สาวน้อยน่ารัก ยิ้มสวย สดใส เป็นรู้จักของเพื่อนผม ผมตกหลุมรักน้องเค้า ผมทักไปคุย ด้วยความที่เค้าเป็นคนนิสัยดี อัถยาศัยดี เค้าก็ตอบ และคุยกับผมตลอดทุกครั้งที่ผมทักไป พอมีเรื่องอะไรที่เค้าโพสว่ามีปัญหาอะไรก่อตาม ผมจะรีบเข้าไปถามวาาเป็นอะไร เล่าให้พี่ฟังมั้ย ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจำรายละเอียดต่างๆของคนที่ชอบได้ดีมาก เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นิสัยแบบไหน ถ้าเค้าเป็นแบบนี้เราต้องทำยังไงให้เค้าดีขึ้น ในช่วงนั้นผมเริ่มคืดไปไกลเกินกว่าคำว่าที่ปรึกษาหรือพี่น้อง ผมชอบเค้า แล้วผมก้อบอกไป เค้าก้อไม่ว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ ผมจึงต้องหนีออกมาจากสภาวะนั้น โดยการลบเฟส ลบไลน์ไม่ทักเค้าไปอีก แต่ก่อดูเหมือนเค้าไม่ได้สนใจอะไรในการหายไปของเรา แล้วผมก้อไปเจอน้องอีกคน เค้าทำงานอยู่เซเว่นทางผ่านตอนกลับจากที่ทำงาน ซึ่งตอนนั้นบอกได้เลยว่าผมตัดใจจากน้องคนเดิมได้ 100% เต็ม ผมจึงเลือกจะลองความรักดูอีกครั้ง ผมจีบน้องเซเว่นคนนั้น จีบแบบจริงๆจังๆ คุยตลอด รอกลับบ้านพร้อมกัน ถึงแม้งานผมจะเลิก 3ทุ่มแต่เค้าเลิก 5ทุ่ม ผมก้อนั่งรอหน้าร้าน เพื่อให้ได้คุย ได้กลับบ้านทางเดียวกัน ได้ไปส่งเค้าที่บ้านทุกวันเพราะความเป็นห่วง ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำให้ใคร ไปหาพ่อแม่เค้าที่บ้าน โดยตอนนั้นก้อเริ่มมีความคิดไม่ค่อยดี เพราะเค้าไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่ ทีกไปถามอะไรก้อไม่ตอบ ที่ผมโกดมาที่สุดคือ ผมทักไลน์ไปถามว่าจะกินอะไรทำงานเป็นไงบ้าง โดยบอกว่าจะกลับบ้านดึกวันนี้ แต่เค้าไม่อ่านไม่ตอบ พอผมเลิกเร็วกว่าที่คิดไว้ก่อไปหาเค้าที่ร้าน เจอเค้าอ่านโทรสัพแล้วยิ้มหัวเราะกับในนั้น ผมเอามือถือออกมาดู เค้าไม่อ่านข้อความผมด้วยซ้ำ ผมก้อคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอผ่านมาไม่นาน เค้าก้อเริ่มตีตัวออกห่าง เค้าบอกว่าเค้าอึดอัดที่ผมเข้าไปอยู่ ไปบีบเค้ามากเกินไป เค้า ยากทำงานอยากเรียน อยู่กับเพื่อนไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้ ถึงผมจะยอมรับไม่ได้ แต่ก้อคงต้องยอม ผมจึงต้องยอมออกมาจากชีวิตของน้องคนนี้ ในระหว่างที่กำลังจับน้องเซเว่นอยู่นั้น ผมมั่นใจว่าผมตัดใจจากน้องคนเดิมได้แล้ว จึงไม่บล็อค แล้วก้อแอ็ดไปคุย ใหม่ ตอนนั้นดูเหมือนเค้าจะมีปัญหาอะไรผมจำไม่ได้ ผมเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และพี่ชายที่แสนดีเหมือนที่เคยทำมา หลังจากที่ผมเลิกติดต่อกับน้องที่เซเว่น ผมก้อได้คุยกับน้องคนนี้บ่อยขึ้น จนทำให้ความรู้สึกดีๆกลับมา แต่น้องเค้าก้อมีแฟนไปแล้ว ผมเลยเฝ้ามองอยู่ห่างๆ จนวันนึง เค้าถ่ายรปคู่กับแฟนเค้า เราก้อเข้าแซวแบบไม่คิดอะไร แต่แฟนเค้าหึงแรงมาก แรงจนเค้าโพสภาพที่ไม่ดี เป็นภาพที่จะสื่อความหมายว่าเค้าสองคนได้เสียกันแล้ว แต่ในตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวคือ ผมเป็นคนนอก และไม่อยากทำให้น้องต้องเสียใจ ผมชอบรอยยิ้มเค้า ไม่อยากให้เค้าเศร้า ผมจึงออกมาจากเค้าอีกครั้ง พอเวลาผ่านไปสักระยะนึง เค้าก้อแอ็ดเฟสมา บอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว ถึงเราจะดีใจแต่ก้อทำได้เพียงปลอบและบอกให้เค้าคืนดีกัน แต่ในระหว่างที่ได้คุยกันนี้ ไม่รู้เป้นเพราะเหงาหรือความผูกพัน ทำให้ผมรักเค้าแบบไม่ทักรู้ตัว ซึ่งผมก้อรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ หลายปีที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ดี ผมจึงบอกเธอว่าเราควรจบไว้แค่นี้อย่าคุยกันอีกเลย แต่เค้าไม่ยอม เค้าบอกว่าคนรักกันไม่จำเป็นว่าต้องมีความสัมพันแบบแฟนอย่างเดียว ซึ่งผมรับไม่ได้ ในครั้งนี้ถือเป้นครั้งที่สามที่ผมต้องลบต้องบล็อค โดยทุกครั้งที่ผ่านมาผมทำด้วยน้ำตามาตลอด ครั้งนี้ก้อเช่นกัน ผมกล่าวคำลาเธออย่างเลือดเย้น และก้อบล็อค ผมเสียใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านๆมา เพราะผมรู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำแล้ว เร้าจะไม่มีทางได้คุยได้เจอกันอีก ผมเล่าเรื่องนี้ให้คนรอบตัวฟังเค้าบอกว่าผมไม่ดี แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าการเป็นที่ปรึกษาของคนที่เรารักแล้วเค้าปรึกษาเรื่องว่าเค้าชอบคนอื่นมันเจ็บแค่ไหน ผมแค่อยากมาระบายและฟังความคิดเห็นของคนอื่นที่ไม่ใช่คนรอบตัวดูบ้าง
ความจริงใจมันใช้ไม่ได้กับทุกคน???
ผมเป็นคนหน้าตาปานกลาง แต่มีรูปร่างใหญ่และอ้วนมาก ผมหนัก 160สูง186 ในช่วงสามปีที่แล้ว ผมได้เจอกับน้องคนนึงในเฟสบุ๊ค เค้าเป็น สาวน้อยน่ารัก ยิ้มสวย สดใส เป็นรู้จักของเพื่อนผม ผมตกหลุมรักน้องเค้า ผมทักไปคุย ด้วยความที่เค้าเป็นคนนิสัยดี อัถยาศัยดี เค้าก็ตอบ และคุยกับผมตลอดทุกครั้งที่ผมทักไป พอมีเรื่องอะไรที่เค้าโพสว่ามีปัญหาอะไรก่อตาม ผมจะรีบเข้าไปถามวาาเป็นอะไร เล่าให้พี่ฟังมั้ย ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจำรายละเอียดต่างๆของคนที่ชอบได้ดีมาก เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นิสัยแบบไหน ถ้าเค้าเป็นแบบนี้เราต้องทำยังไงให้เค้าดีขึ้น ในช่วงนั้นผมเริ่มคืดไปไกลเกินกว่าคำว่าที่ปรึกษาหรือพี่น้อง ผมชอบเค้า แล้วผมก้อบอกไป เค้าก้อไม่ว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ ผมจึงต้องหนีออกมาจากสภาวะนั้น โดยการลบเฟส ลบไลน์ไม่ทักเค้าไปอีก แต่ก่อดูเหมือนเค้าไม่ได้สนใจอะไรในการหายไปของเรา แล้วผมก้อไปเจอน้องอีกคน เค้าทำงานอยู่เซเว่นทางผ่านตอนกลับจากที่ทำงาน ซึ่งตอนนั้นบอกได้เลยว่าผมตัดใจจากน้องคนเดิมได้ 100% เต็ม ผมจึงเลือกจะลองความรักดูอีกครั้ง ผมจีบน้องเซเว่นคนนั้น จีบแบบจริงๆจังๆ คุยตลอด รอกลับบ้านพร้อมกัน ถึงแม้งานผมจะเลิก 3ทุ่มแต่เค้าเลิก 5ทุ่ม ผมก้อนั่งรอหน้าร้าน เพื่อให้ได้คุย ได้กลับบ้านทางเดียวกัน ได้ไปส่งเค้าที่บ้านทุกวันเพราะความเป็นห่วง ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำให้ใคร ไปหาพ่อแม่เค้าที่บ้าน โดยตอนนั้นก้อเริ่มมีความคิดไม่ค่อยดี เพราะเค้าไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่ ทีกไปถามอะไรก้อไม่ตอบ ที่ผมโกดมาที่สุดคือ ผมทักไลน์ไปถามว่าจะกินอะไรทำงานเป็นไงบ้าง โดยบอกว่าจะกลับบ้านดึกวันนี้ แต่เค้าไม่อ่านไม่ตอบ พอผมเลิกเร็วกว่าที่คิดไว้ก่อไปหาเค้าที่ร้าน เจอเค้าอ่านโทรสัพแล้วยิ้มหัวเราะกับในนั้น ผมเอามือถือออกมาดู เค้าไม่อ่านข้อความผมด้วยซ้ำ ผมก้อคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอผ่านมาไม่นาน เค้าก้อเริ่มตีตัวออกห่าง เค้าบอกว่าเค้าอึดอัดที่ผมเข้าไปอยู่ ไปบีบเค้ามากเกินไป เค้า ยากทำงานอยากเรียน อยู่กับเพื่อนไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้ ถึงผมจะยอมรับไม่ได้ แต่ก้อคงต้องยอม ผมจึงต้องยอมออกมาจากชีวิตของน้องคนนี้ ในระหว่างที่กำลังจับน้องเซเว่นอยู่นั้น ผมมั่นใจว่าผมตัดใจจากน้องคนเดิมได้แล้ว จึงไม่บล็อค แล้วก้อแอ็ดไปคุย ใหม่ ตอนนั้นดูเหมือนเค้าจะมีปัญหาอะไรผมจำไม่ได้ ผมเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และพี่ชายที่แสนดีเหมือนที่เคยทำมา หลังจากที่ผมเลิกติดต่อกับน้องที่เซเว่น ผมก้อได้คุยกับน้องคนนี้บ่อยขึ้น จนทำให้ความรู้สึกดีๆกลับมา แต่น้องเค้าก้อมีแฟนไปแล้ว ผมเลยเฝ้ามองอยู่ห่างๆ จนวันนึง เค้าถ่ายรปคู่กับแฟนเค้า เราก้อเข้าแซวแบบไม่คิดอะไร แต่แฟนเค้าหึงแรงมาก แรงจนเค้าโพสภาพที่ไม่ดี เป็นภาพที่จะสื่อความหมายว่าเค้าสองคนได้เสียกันแล้ว แต่ในตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวคือ ผมเป็นคนนอก และไม่อยากทำให้น้องต้องเสียใจ ผมชอบรอยยิ้มเค้า ไม่อยากให้เค้าเศร้า ผมจึงออกมาจากเค้าอีกครั้ง พอเวลาผ่านไปสักระยะนึง เค้าก้อแอ็ดเฟสมา บอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว ถึงเราจะดีใจแต่ก้อทำได้เพียงปลอบและบอกให้เค้าคืนดีกัน แต่ในระหว่างที่ได้คุยกันนี้ ไม่รู้เป้นเพราะเหงาหรือความผูกพัน ทำให้ผมรักเค้าแบบไม่ทักรู้ตัว ซึ่งผมก้อรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ หลายปีที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ดี ผมจึงบอกเธอว่าเราควรจบไว้แค่นี้อย่าคุยกันอีกเลย แต่เค้าไม่ยอม เค้าบอกว่าคนรักกันไม่จำเป็นว่าต้องมีความสัมพันแบบแฟนอย่างเดียว ซึ่งผมรับไม่ได้ ในครั้งนี้ถือเป้นครั้งที่สามที่ผมต้องลบต้องบล็อค โดยทุกครั้งที่ผ่านมาผมทำด้วยน้ำตามาตลอด ครั้งนี้ก้อเช่นกัน ผมกล่าวคำลาเธออย่างเลือดเย้น และก้อบล็อค ผมเสียใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านๆมา เพราะผมรู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำแล้ว เร้าจะไม่มีทางได้คุยได้เจอกันอีก ผมเล่าเรื่องนี้ให้คนรอบตัวฟังเค้าบอกว่าผมไม่ดี แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าการเป็นที่ปรึกษาของคนที่เรารักแล้วเค้าปรึกษาเรื่องว่าเค้าชอบคนอื่นมันเจ็บแค่ไหน ผมแค่อยากมาระบายและฟังความคิดเห็นของคนอื่นที่ไม่ใช่คนรอบตัวดูบ้าง