สวัสดีครับ เรามีประสบการณ์wwoofสุดระทึกมาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกัน ก่อนอื่นเลยขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้จะบอกว่าไม่ควรมาwwoof ตัวเราเองและน้องๆคนไทยที่เจอกันที่บ้านhost ก็ยังคงจะหาที่wwoofกันต่อไป เพียงแต่เรื่องนี้อาจจะช่วยให้คนที่ไปwwoofคนอื่นๆได้เตรียมใจ เตรียมรับมือได้ เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นเดียวกับที่เราเจอมา เรื่องมีอยู่ว่า
เราได้ไปwwoofในที่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เป็นเวลา8 วัน ซึ่งไปถึงเราเพิ่งรู้ว่า host เป็นVegan (ไม่กินเนื้อสัตว์ นมและไข่ รวมถึงไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์) สาย Raw food(เน้นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน) แต่เรื่องraw food ไม่ได้เคร่งมากเท่าไหร่ คือมีของต้ม ผัด ทอด บ้าง แต่ก็มีผักสดทุกมื้อ โดยที่มีwwoofer เป็นน้องคนไทย2คน และคนญี่ปุ่น1คน(คนญี่ปุ่นขอเรียกว่า คุณ ร.) ซึ่งน้องคนไทย2คน เพิ่งมาก่อนเรา1วัน และเพิ่งทราบตอนจะมาถึง ว่าhost เป็น vegan ส่วนคุณ ร. รู้อยู่แล้ว และเจ้าตัวก็เป็น veganด้วย คนไทย3คน จึงต้องยอมรับชะตากรรมกินผักทุกมื้อแบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน


คุณ ร. เป็นผู้หญิงญี่ปุ่น อายุ39 มาจากจังหวัด อิบาระกิ ทำงานในเรียวกัง ที่เธอหันมาเป็น vegan เพราะว่าเธอเป็นมะเร็ง เชื่อว่าการกินอาหารแบบvegan จะทำให้มะเร็งของเธอไม่ลุกลาม(ปล.เจ้าของกระทู้เลเวลภาษาญี่ปุ่นระดับN3เท่านั้น จึงอาจจะไม่ได้แปลได้ตรงเป๊ะหรืออาจจะมีเข้าใจผิดบ้าง)คุณ ร. จบช่วงwwoofแล้ว แต่จ่ายเงินเข้าคอร์สเรียนทำอาหาร raw food vegan กับโฮสผู้หญิงต่อ(ทั้งโฮสผู้หญิงและผู้ชายจบจากสถาบันสอนทำอาหาร raw food โฮสหญิงมาเป็นครูสอนทำอาหารraw foodในหมู่บ้านส่วนโฮสผู้ชายทำเกษตรกรรมต่อจากพ่อ) และช่วยทำงานบ้านแลกกับการพักฟรี
3วันแรก คุณ ร. ปกติดี เป็นคนยิ้มแย้ม ร่าเริง บุคลิกดูเป็นเด็ก แต่ขยันทำงาน อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องทำงานตลอดเวลา คุณ ร. กับ โฮสผู้หญิงดูสนิทกันมาก เหมือนคุณ ร. เป็นลูกรักของโฮสผู้หญิง คุณ ร. เคยคุยกับเราไว้ว่า วันที่4 ซึ่งเป็นวันหยุด(ซึ่งจะไปทำหรือไปกินอะไรก็ได้) ไปกินอุด้งผักในเมืองกัน(วันที่ให้กินอะไรก็ได้ คิดว่าคนไทยสายเนื้อ3คนจะไปกินอุด้งผักเรอะ! มันไม่ใช่แล้ววว!!)
พอถึงวันหยุด(วันที่4) พวกเราเหล่าคนไทย ตั้งใจจะไปกินบุฟเฟ่เนื้อย่าง จึงไม่ได้ชวนคุณ ร. ที่เป็นvegan(อันนี้ยอมรับว่าพวกเราผิดเต็มๆ) หลังจากไปกินบุฟเฟ่เนื้อย่างจนจุใจ+เที่ยวทั้งวันกลับมา คุณ ร. มีท่าทีเปลี่ยนไป ปกติเวลาเข้าบ้าน คนในบ้านจะทักทายว่า โอคาเอริ(ยินดีต้อนรับกลับบ้าน) แต่นี่เงียบกริบ นั่งเล่นมือถือ ไม่มองเลย
ตอนทำอาหารโฮสผู้หญิง สอนให้เราทำอาหาร เพราะวันก่อนเราทำอาหารให้คนทั้งบ้านกินโฮสทั้งสอง จึงรู้ว่าเราชอบทำอาหาร และโฮสผู้หญิงอยากสอน ซึ่งเมนูคือมะระผัดไข่(ใช้เต้าหู้ทำเป็นไข่) ขณะที่ทำมีจังหวะหนึ่งที่เราผละออกจากกระทะ ไปทำอย่างอื่น คุณ ร. เข้ามาเสียบแทนทันที แล้วโฮสผู้หญิงก็ บอกคุณ ร. ว่า ไม่ต้องทำ ให้เราทำคนเดียว คุณ ร. มีสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง หลังจากนั้น ช่วงเก็บกวาดครัว เราต้องการเก็บของตรงที่คุณร. ยืนล้างจานอยู่ เราบอกคุณร.ว่า
"ขอโทษนะคับ"
คุณ ร. เงียบ เหมือนไม่ได้ยิน
"ขอโทษนะคับ" (ครั้งที่2)
คุณร.เงียบ
"ขอโทษนะคับ" (ครั้งที่3)
คุณ ร. ยังคงเงียบ
เราจึงสะกิดขาคุณ ร. และบอกขอโทษนะคับ จากนั้นเราก็โดนคุณ ร. ตะคอกใส่ว่า "อย่าเร่ง!!"
หลังจากนั้น คุณ ร. ทำอะไรเสียงดังตึงตังตลอดเวลา ไม่บูดตลอด และมีอาการพูดคนเดียว(ปกติเค้าพูดคนเดียวบ้างอยู่แล้วแต่เป็นแบบยิ้มแย้ม แต่ช่วงพูดคนเดียวแบบหน้าโรคจิตๆ) มีอยู่ครั้งนึงคุณ ร. เล่นกับลูกของโฮส (อายุ6เดือน) คุณ ร. ยิ้มอยู่ แล้วมาสบตากับเราพอดี เรายิ้มและผงกหัวให้ คุณร.เปลี่ยนสีหน้าเป็นหน้าบูดและจ้องเราเหมือนจะอาฆาตมาก น้องๆคนไทยคนอื่นก็โดนเช่นกัน เช่น น้องกำลังแปรงฟันอยู่ คุณ ร. หอบเสื้อผ้ามาจะอาบน้ำ พอเห็นน้องแปรงฟัน ก็ทำเสียง(เจ๊อะ!!) ดังมากและวางของกระแทก วันนั้น คุณร. พูดกับเราแค่ครั้งเดียวคือ ไปบอกน้องผู้หญิงให้ด้วย ว่าอย่าฉีดสเปรย์ในห้อง มันเหม็น(น้องผู้หญิงพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย)
เช้าวันต่อมา(วันที่5) คุณร. ไม่ยอมทำอะไรเลย จนโฮสผู้หญิงเอ่ยปากว่าคุณร.ว่า วันนี้ไม่ใช่วันหยุดนะ ให้ช่วยทำงานด้วย คุณร.ไม่ตอบ และเดินตึงตังขึ้นห้องไป ไม่ยอมกินข้าวเช้าด้วย หลังจากเราไปทำงานเสร็จกลับมา คุณร.ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาและทำอะไรตึงตัง ถึงเวลาข้าวเย็น คุณร.ไม่ยอมลงมากิน แต่ตอนที่กินกันอยู่คุณร. เดินตึงตังลงมา โฮสผู้หญิงจึงชวนกินข้าว คุณร.ตอบสั้นๆห้วน หน้านิ่งๆ ไม่มองหน้าใครว่า "ไม่กิน" จากนั้นโฮสผู้หญิงเตือนว่า ให้ช่วยเดินเบาๆหน่อย สิ่งที่คุณร.ตอบกลับคือ พรุ่งนี้จะกลับ ไม่เอาแล้ว ไม่เรียนแล้ว จะขอเงินค่าเรียนคืน บลาๆๆ ช่วงที่พูดกับโฮสนั้น คุณร. มีบุคลิกที่ค่อนข้างน่ากลัว(ว่าง่ายๆคือดูจิตไม่ปกติเอามากๆ) ระหว่างที่คุณร.คุยกับโฮส เรามองคุณ ร. เพราะจะฟังที่เค้าพูด คุณร. หันมาถามเราแบบท่าทางหาเรื่องมาก ว่ามีอะไร โฮสผู้หญิง จึงรีบพูดว่า เราแค่เป็นห่วง จากนั้น คุณร.ก้เดินตึงตังขึ้นห้องพร้อมกับพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่น่าขนลุก จากนั้นโฮสผู้หญิงรีบพิมข้อความเป็นภาษาอังกฤษให้เราอ่านว่า "คุณร.มีอาการป่วยทางจิตอย่างมาก และจะกลับพรุ่งนี้เช้า"
หลังจากเก็บกวาดครัวผู้หญิง ได้บอกกับน้องผู้หญิงว่า ถ้ากลัวให้ออกมานอนห้องข้างล่างหรือโซฟาข้างล่างก็ได้(ปกติต้องนอนกับคุณร.2คนในห้องนอนผู้หญิง) แต่น้องกลัวมาก ขอนอนกับเราและน้องผู้ชายแทน ซึ่งโฮสก็ยินดี(เรานอนตรงที่ว่างๆใกล้บันไดชั้น2ซึ่งเหมือนเป็นชั้นลอย) โฮสผู้ชาย เดินไปเปิดห้องผู้หญิงและบอกคุณร.ว่า เนื่องจากตั้งแต่พรุ่งนัพวกเราจะต้องตื่นตี4ไปทำงาน(ก่อนหน้านี้ตื่น6โมง) เลยจะให้น้องย้ายมานอนข้างนอก จะได้ไม่รบกวนเค้า คุณร.ไม่มองหน้าโฮส มีแต่เล่นโทรศัพท์ อืมๆ(น้องผู้หญิงบอกว่าตอนนั้นคุณร.ดูน่ากลัวมาก) จากนั้นเราก็ช่วยย้ายของ จู่ๆคุณร.ก็ลุกออกจากห้อง และเดินลงไปบอกโฮสผู้หญิงว่าจะกลับเลยตอนนี้ กลับแท๊กซี่ก็ได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกแท๊กซี่ให้ขึ้นมารับบนเขาตอน3ทุ่ม โฮสผู้หญิงจึงปฎิเสธ จากนั้นคุณร.ก็เดินออกไปนอกบ้าน เราก็จัดที่นอนกันต่อ แต่เนื่องจากที่เรานอนกันเป็นที่เปิด กลัวว่า คุณร.อาจจะมาทำร้ายพวกเราตอนนอนหลับ แต่ก็ป้องกันอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่เอากระเป๋ากับถุง7-11ไปขวางทางเดิน(อย่างน้อยก็อาจจะได้ยินเสียงถ้าเค้าเข้ามา) หลังจากนั้น โฮสผู้ชายออกไปตามคุณร.กลับมา เพราะดึกๆจะไม่ให้ออกไปข้างนอก เพราะมันรบกวนเพื่อนบ้าน หลังจากนอนกันไปซักพัก คุณร.ที่กลับเข้าห้องมาแล้ว เดินออกมาลงข้างล่าง ทั้งหมด2ครั้ง ครั้งแรกเดินไปส่วนที่เป็นครัว ครั้งที่2เดินออกไปนอกบ้านเลย ซึ่งหลังจากเดินขึ้น-ลงครั้งแรก เราลงไปดูตรงครัว เพราะตรงนั้นมีมีดอยู่ และก็พบว่า มีดหายไป1เล่ม!! และเป็นเล่มที่ใหญ่ที่สุดด้วย!!(มีรูป)

(คือยาวมาก แล้วเป็นมีดที่ตีแบบเดียวกับดาบญี่ปุ่น ทำฮามอนด้วย คมกรีบ แทงข้างหลังทะลุออกข้างหน้าแน่นอน)
หลังจากนั้นเราก็คิดอยู่ว่าจะบอกน้องๆดีมั้ย เพราะน้องผู้หญิงกลัวมาก สุดท้ายเราก็ตัดสินใจบอก ให้รู้เรื่องไว้ แล้วช่วยๆกันดีกว่า พอบอกไป น้องร้องไห้เลย เสียขวัญมาก หลังจากนั้นก็นอนกัน เรานอนไม่ค่อยหลับจนได้ยินเสียงที่คุณร.ลงไปรอบที่2และกลับขึ้นมา หลังจากนั้นหลังตี2เราก็หลับไป แต่น้องผู้หญิงนอนไม่หลับทั้งคืน



แชร์ประสบการณ์wwoof คืนผวา กับมีดที่หายไป!!
เราได้ไปwwoofในที่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เป็นเวลา8 วัน ซึ่งไปถึงเราเพิ่งรู้ว่า host เป็นVegan (ไม่กินเนื้อสัตว์ นมและไข่ รวมถึงไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์) สาย Raw food(เน้นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน) แต่เรื่องraw food ไม่ได้เคร่งมากเท่าไหร่ คือมีของต้ม ผัด ทอด บ้าง แต่ก็มีผักสดทุกมื้อ โดยที่มีwwoofer เป็นน้องคนไทย2คน และคนญี่ปุ่น1คน(คนญี่ปุ่นขอเรียกว่า คุณ ร.) ซึ่งน้องคนไทย2คน เพิ่งมาก่อนเรา1วัน และเพิ่งทราบตอนจะมาถึง ว่าhost เป็น vegan ส่วนคุณ ร. รู้อยู่แล้ว และเจ้าตัวก็เป็น veganด้วย คนไทย3คน จึงต้องยอมรับชะตากรรมกินผักทุกมื้อแบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน
คุณ ร. เป็นผู้หญิงญี่ปุ่น อายุ39 มาจากจังหวัด อิบาระกิ ทำงานในเรียวกัง ที่เธอหันมาเป็น vegan เพราะว่าเธอเป็นมะเร็ง เชื่อว่าการกินอาหารแบบvegan จะทำให้มะเร็งของเธอไม่ลุกลาม(ปล.เจ้าของกระทู้เลเวลภาษาญี่ปุ่นระดับN3เท่านั้น จึงอาจจะไม่ได้แปลได้ตรงเป๊ะหรืออาจจะมีเข้าใจผิดบ้าง)คุณ ร. จบช่วงwwoofแล้ว แต่จ่ายเงินเข้าคอร์สเรียนทำอาหาร raw food vegan กับโฮสผู้หญิงต่อ(ทั้งโฮสผู้หญิงและผู้ชายจบจากสถาบันสอนทำอาหาร raw food โฮสหญิงมาเป็นครูสอนทำอาหารraw foodในหมู่บ้านส่วนโฮสผู้ชายทำเกษตรกรรมต่อจากพ่อ) และช่วยทำงานบ้านแลกกับการพักฟรี
3วันแรก คุณ ร. ปกติดี เป็นคนยิ้มแย้ม ร่าเริง บุคลิกดูเป็นเด็ก แต่ขยันทำงาน อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องทำงานตลอดเวลา คุณ ร. กับ โฮสผู้หญิงดูสนิทกันมาก เหมือนคุณ ร. เป็นลูกรักของโฮสผู้หญิง คุณ ร. เคยคุยกับเราไว้ว่า วันที่4 ซึ่งเป็นวันหยุด(ซึ่งจะไปทำหรือไปกินอะไรก็ได้) ไปกินอุด้งผักในเมืองกัน(วันที่ให้กินอะไรก็ได้ คิดว่าคนไทยสายเนื้อ3คนจะไปกินอุด้งผักเรอะ! มันไม่ใช่แล้ววว!!)
พอถึงวันหยุด(วันที่4) พวกเราเหล่าคนไทย ตั้งใจจะไปกินบุฟเฟ่เนื้อย่าง จึงไม่ได้ชวนคุณ ร. ที่เป็นvegan(อันนี้ยอมรับว่าพวกเราผิดเต็มๆ) หลังจากไปกินบุฟเฟ่เนื้อย่างจนจุใจ+เที่ยวทั้งวันกลับมา คุณ ร. มีท่าทีเปลี่ยนไป ปกติเวลาเข้าบ้าน คนในบ้านจะทักทายว่า โอคาเอริ(ยินดีต้อนรับกลับบ้าน) แต่นี่เงียบกริบ นั่งเล่นมือถือ ไม่มองเลย
ตอนทำอาหารโฮสผู้หญิง สอนให้เราทำอาหาร เพราะวันก่อนเราทำอาหารให้คนทั้งบ้านกินโฮสทั้งสอง จึงรู้ว่าเราชอบทำอาหาร และโฮสผู้หญิงอยากสอน ซึ่งเมนูคือมะระผัดไข่(ใช้เต้าหู้ทำเป็นไข่) ขณะที่ทำมีจังหวะหนึ่งที่เราผละออกจากกระทะ ไปทำอย่างอื่น คุณ ร. เข้ามาเสียบแทนทันที แล้วโฮสผู้หญิงก็ บอกคุณ ร. ว่า ไม่ต้องทำ ให้เราทำคนเดียว คุณ ร. มีสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง หลังจากนั้น ช่วงเก็บกวาดครัว เราต้องการเก็บของตรงที่คุณร. ยืนล้างจานอยู่ เราบอกคุณร.ว่า
"ขอโทษนะคับ"
คุณ ร. เงียบ เหมือนไม่ได้ยิน
"ขอโทษนะคับ" (ครั้งที่2)
คุณร.เงียบ
"ขอโทษนะคับ" (ครั้งที่3)
คุณ ร. ยังคงเงียบ
เราจึงสะกิดขาคุณ ร. และบอกขอโทษนะคับ จากนั้นเราก็โดนคุณ ร. ตะคอกใส่ว่า "อย่าเร่ง!!"
หลังจากนั้น คุณ ร. ทำอะไรเสียงดังตึงตังตลอดเวลา ไม่บูดตลอด และมีอาการพูดคนเดียว(ปกติเค้าพูดคนเดียวบ้างอยู่แล้วแต่เป็นแบบยิ้มแย้ม แต่ช่วงพูดคนเดียวแบบหน้าโรคจิตๆ) มีอยู่ครั้งนึงคุณ ร. เล่นกับลูกของโฮส (อายุ6เดือน) คุณ ร. ยิ้มอยู่ แล้วมาสบตากับเราพอดี เรายิ้มและผงกหัวให้ คุณร.เปลี่ยนสีหน้าเป็นหน้าบูดและจ้องเราเหมือนจะอาฆาตมาก น้องๆคนไทยคนอื่นก็โดนเช่นกัน เช่น น้องกำลังแปรงฟันอยู่ คุณ ร. หอบเสื้อผ้ามาจะอาบน้ำ พอเห็นน้องแปรงฟัน ก็ทำเสียง(เจ๊อะ!!) ดังมากและวางของกระแทก วันนั้น คุณร. พูดกับเราแค่ครั้งเดียวคือ ไปบอกน้องผู้หญิงให้ด้วย ว่าอย่าฉีดสเปรย์ในห้อง มันเหม็น(น้องผู้หญิงพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย)
เช้าวันต่อมา(วันที่5) คุณร. ไม่ยอมทำอะไรเลย จนโฮสผู้หญิงเอ่ยปากว่าคุณร.ว่า วันนี้ไม่ใช่วันหยุดนะ ให้ช่วยทำงานด้วย คุณร.ไม่ตอบ และเดินตึงตังขึ้นห้องไป ไม่ยอมกินข้าวเช้าด้วย หลังจากเราไปทำงานเสร็จกลับมา คุณร.ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาและทำอะไรตึงตัง ถึงเวลาข้าวเย็น คุณร.ไม่ยอมลงมากิน แต่ตอนที่กินกันอยู่คุณร. เดินตึงตังลงมา โฮสผู้หญิงจึงชวนกินข้าว คุณร.ตอบสั้นๆห้วน หน้านิ่งๆ ไม่มองหน้าใครว่า "ไม่กิน" จากนั้นโฮสผู้หญิงเตือนว่า ให้ช่วยเดินเบาๆหน่อย สิ่งที่คุณร.ตอบกลับคือ พรุ่งนี้จะกลับ ไม่เอาแล้ว ไม่เรียนแล้ว จะขอเงินค่าเรียนคืน บลาๆๆ ช่วงที่พูดกับโฮสนั้น คุณร. มีบุคลิกที่ค่อนข้างน่ากลัว(ว่าง่ายๆคือดูจิตไม่ปกติเอามากๆ) ระหว่างที่คุณร.คุยกับโฮส เรามองคุณ ร. เพราะจะฟังที่เค้าพูด คุณร. หันมาถามเราแบบท่าทางหาเรื่องมาก ว่ามีอะไร โฮสผู้หญิง จึงรีบพูดว่า เราแค่เป็นห่วง จากนั้น คุณร.ก้เดินตึงตังขึ้นห้องพร้อมกับพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่น่าขนลุก จากนั้นโฮสผู้หญิงรีบพิมข้อความเป็นภาษาอังกฤษให้เราอ่านว่า "คุณร.มีอาการป่วยทางจิตอย่างมาก และจะกลับพรุ่งนี้เช้า"
หลังจากเก็บกวาดครัวผู้หญิง ได้บอกกับน้องผู้หญิงว่า ถ้ากลัวให้ออกมานอนห้องข้างล่างหรือโซฟาข้างล่างก็ได้(ปกติต้องนอนกับคุณร.2คนในห้องนอนผู้หญิง) แต่น้องกลัวมาก ขอนอนกับเราและน้องผู้ชายแทน ซึ่งโฮสก็ยินดี(เรานอนตรงที่ว่างๆใกล้บันไดชั้น2ซึ่งเหมือนเป็นชั้นลอย) โฮสผู้ชาย เดินไปเปิดห้องผู้หญิงและบอกคุณร.ว่า เนื่องจากตั้งแต่พรุ่งนัพวกเราจะต้องตื่นตี4ไปทำงาน(ก่อนหน้านี้ตื่น6โมง) เลยจะให้น้องย้ายมานอนข้างนอก จะได้ไม่รบกวนเค้า คุณร.ไม่มองหน้าโฮส มีแต่เล่นโทรศัพท์ อืมๆ(น้องผู้หญิงบอกว่าตอนนั้นคุณร.ดูน่ากลัวมาก) จากนั้นเราก็ช่วยย้ายของ จู่ๆคุณร.ก็ลุกออกจากห้อง และเดินลงไปบอกโฮสผู้หญิงว่าจะกลับเลยตอนนี้ กลับแท๊กซี่ก็ได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกแท๊กซี่ให้ขึ้นมารับบนเขาตอน3ทุ่ม โฮสผู้หญิงจึงปฎิเสธ จากนั้นคุณร.ก็เดินออกไปนอกบ้าน เราก็จัดที่นอนกันต่อ แต่เนื่องจากที่เรานอนกันเป็นที่เปิด กลัวว่า คุณร.อาจจะมาทำร้ายพวกเราตอนนอนหลับ แต่ก็ป้องกันอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่เอากระเป๋ากับถุง7-11ไปขวางทางเดิน(อย่างน้อยก็อาจจะได้ยินเสียงถ้าเค้าเข้ามา) หลังจากนั้น โฮสผู้ชายออกไปตามคุณร.กลับมา เพราะดึกๆจะไม่ให้ออกไปข้างนอก เพราะมันรบกวนเพื่อนบ้าน หลังจากนอนกันไปซักพัก คุณร.ที่กลับเข้าห้องมาแล้ว เดินออกมาลงข้างล่าง ทั้งหมด2ครั้ง ครั้งแรกเดินไปส่วนที่เป็นครัว ครั้งที่2เดินออกไปนอกบ้านเลย ซึ่งหลังจากเดินขึ้น-ลงครั้งแรก เราลงไปดูตรงครัว เพราะตรงนั้นมีมีดอยู่ และก็พบว่า มีดหายไป1เล่ม!! และเป็นเล่มที่ใหญ่ที่สุดด้วย!!(มีรูป)
(คือยาวมาก แล้วเป็นมีดที่ตีแบบเดียวกับดาบญี่ปุ่น ทำฮามอนด้วย คมกรีบ แทงข้างหลังทะลุออกข้างหน้าแน่นอน)
หลังจากนั้นเราก็คิดอยู่ว่าจะบอกน้องๆดีมั้ย เพราะน้องผู้หญิงกลัวมาก สุดท้ายเราก็ตัดสินใจบอก ให้รู้เรื่องไว้ แล้วช่วยๆกันดีกว่า พอบอกไป น้องร้องไห้เลย เสียขวัญมาก หลังจากนั้นก็นอนกัน เรานอนไม่ค่อยหลับจนได้ยินเสียงที่คุณร.ลงไปรอบที่2และกลับขึ้นมา หลังจากนั้นหลังตี2เราก็หลับไป แต่น้องผู้หญิงนอนไม่หลับทั้งคืน