ทฤษฎีใหม่ชี้ว่า ความฉลาดในการอ่านเกมได้เปลี่ยนโลกแห่งวงการกีฬาตลอดไป ความฉลาดในการอ่านเกมจึงไม่มีความจำเป็นว่าคุณจะต้องเริ่มอ่านได้มาตั้งแต่เกิด แต่เป็นสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้กับมันได้ สอดคล้องกับบทความที่ชื่อ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” โดยมีผู้ร่วมงานวิจัยและอดีตผู้เล่น NHL อย่าง Nickas Lidstrom เข้ามาร่วมพิสูจน์ครั้งนี้ด้วย
ในการใช้ค่าสถิติทางคณิตศาสตร์นั้น ผู้เล่นแต่ละคนกับทีมแต่ละทีมสามารถเรียนรู้เกมต่างๆก่อนหน้านี้ในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง พวกเขาสามารถคำนวณได้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างไรและด้วยเหตุนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดูดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมรรถภาพทางร่างกาย งานวิจัยนี้ก็สอดคล้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Chalmers กับมหาวิทยาลัย Gothenburg ในบทความที่ชื่อ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” ที่ได้มีการตีพิมพ์ลงในนิตยสาร PLOS ONE
ผู้เขียน Carl Lindberg กับ Jan Lennartsson ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยอาจารย์ที่ Chalmers ได้ทำการศึกษาเรียนรู้สไตล์ผู้เล่น NHL อย่าง Nicklas Lidstrom ในแต่ละเกมพร้อมกับใช้หลักทฤษฎีคณิตศาสตร์ในเกมที่เล่นเป็นทีมกีฬา ในกรณีตัวอย่างของฮอกกี้น้ำแข็งนั้น หลักทฤษฎีก็มีการใช้ในทุกๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเกม ซึ่งก็ช่วยในการทำการประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นมีการใช้หลักความน่าจะเป็นว่า ทีมเจ้าบ้านจะทำคะแนนได้ในครั้งต่อไปโดยทำการคำนวณหักลบกับความน่าจะเป็นที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำคะแนนได้ในครั้งต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสน้อยมากที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำคะแนนได้
พวกเขาได้ทำการประเมินแนวทางการเล่นของ Lidstrom ในประเด็นต่างๆและก็ทำการดูว่าทฤษฎีต่างๆมีการประยุกต์ใช้กับเกมในเวลาเดียวกันได้อย่างไร
เกมกับค่าสถิติทางคณิตศาสตร์
Lidstrom – บางทีผู้เล่นแนวรับที่ดีที่สุดในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนั้น จะต้องรู้ว่า “มีทางเลือกบางอย่าง” ที่ทำให้เขาสามารถป้องกันไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในเขตแดน ผู้เล่นที่ดีแต่ละคนแบบเขานั้น บ่อยครั้งก็ได้รับการชื่นชมว่าพวกเขาอ่านเกมได้ขาด อย่างไรก็ตาม ในบทความ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” Lindberg กับ Lennartsson ก็ได้พยายมที่จะเผยให้เห็นว่า ไม่ใช่เป็นเพราะยีนที่ทำให้ Lidstrom เล่นเกมได้ดีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของหลักสถิติด้วย และเขาก็อยู่กับกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งจนอ่านเกมได้อย่างลึกซึ้ง
Lidstrom ยืนยันว่า ผู้เล่นที่มีความทะเยอทะยานแบบเขานั้น เขามักจะมองหาตำแหน่งที่แปลกใหม่สำหรับเขา เขาจะต้องทำการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆครั้งระหว่างที่เล่นเกม เรียนรู้ว่าจะเลี้ยงลูกยังไง จะจู่โจมตอนไหนและจะส่งลูกเมื่อไร
หาตำแหน่งที่เหมาะสม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
บทความได้อ้างว่า ได้ทำการค้นพบแนวทางการคำนวณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจับความเคลื่อนไหวของผู้เล่นแต่ละคนระหว่างที่เล่นเกมว่า ให้ผลลัพธ์ดีแค่ไหน แนวคิดก็คือเมื่อ Carl Lindberg ได้เริ่มเล่นในตำแหน่งแนวรับของทีมฮอกกี้น้ำแข็งที่มีประสบการณ์ แล้วเขาจะคิดว่าตัวเองจะเป็นผู้เล่นที่ดีหรือไม่? แล้วเขาสามารถใช้ความรู้ด้วยวิชาหลักคณิตศาสตร์กับสถิติเพื่อพัฒนาโอกาสคว้าความสำเร็จในลานน้ำแข็งได้หรือเปล่า? เป้าหมายก็คือ จะต้องประเมินด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการเดินเกมที่ดีที่สุดในทุกๆสถานการณ์ และไม่ใช่ว่า “จะต้องชนะทุกๆสถานการณ์”
หลังจากที่ได้ทำการวิจัยเกมของ Lidstrom แล้ว ก็เป็นที่แน่ชัดสำหรับ Lindberg ว่า Lidstrom ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดเพราะรูปร่างใหญ่ ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนแข็งแรงหรือมีความเร็ว แต่บ่อยครั้งเขาจะได้รับเลือกเป็น “ผู้เล่นที่ดีที่สุด” นั้น ก็เพราะว่าเขาเล่นในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
สถิติกับทฤษฎีเกมในการประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเกม
บทความได้ชี้ว่า Lidstrom ได้วางกฎต่างๆก็คือ เขาจะต้องวิเคราะห์ว่าเขาจะเจอกับการเล่นในสถานการณ์ต่างๆแบบไหน เขาไม่ได้ใช้หลักกูรูหรือทักษะต่างๆอะไร แต่เขาใช้ความรู้ที่ว่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมีจุดอ่อนตรงไหนเพื่อที่จะทำให้เขาได้เปรียบในหลักสถิติ โดยมีการเปรียบเทียบผู้เล่นคนอื่นๆ บ่อยครั้งเขาก็วิเคราะห์ด้วยว่าจะมีโอกาสตีลูกยางมากแค่ไหน มีโอกาสส่งลูกยางและจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกยางตกอยู่ในมือของแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร
นอกจากนั้นแล้วเขาก็ทำการวิเคราะห์แบบ one-against-one situations เนื่องจากเขาอยู่ในแนวรับแถวแรก Lidstrom ปกติแล้วก็จะพยายามสร้างแผนใหม่ให้กับตัวเองและด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสที่ทำให้เขาสามารถรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันรูปแบบ two-against-one situations นั้น บ่อยครั้งเขาก็อาศัยการวางกลยุทธ์แนวรับด้วยว่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมีการวางแผนแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เมื่อผู้เล่นแนวรับตัดสินใจที่จะปล่อยให้ลูกยางไหลไปข้างหน้าเพื่อให้กับผู้เล่นแนวหน้า ทางด้าน Lidstrom ก็ไม่เคยปล่อยให้ลูกยางไหลไปข้างหน้าได้ โดยเขาประเมินว่าวิธีการนี้เป็นจุดแข็งของฝ่ายตรงข้าม
หลักสถิติทางกีฬาจะมุ่งเน้นว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง ในบทความ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” ก็มุ่งเน้นว่าคุณจะทำทีมในอนาคตอย่างไร แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังบทความนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จากการวิจัยหลักสถิติกับการใช้ทฤษฎีเกมในการประยุกต์เกมในสถานการณ์ต่างๆนั้น ในสนามทีมก็มักจะมุ่งเน้นการมองอนาคตที่เกิดขึ้นมากกว่า
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
วางแผนยุทธศาสตร์ทางกีฬาไม่ดีอย่างนั้นหรือ? ความฉลาดในการอ่านเกมสามารถเรียนรู้ได้
ทฤษฎีใหม่ชี้ว่า ความฉลาดในการอ่านเกมได้เปลี่ยนโลกแห่งวงการกีฬาตลอดไป ความฉลาดในการอ่านเกมจึงไม่มีความจำเป็นว่าคุณจะต้องเริ่มอ่านได้มาตั้งแต่เกิด แต่เป็นสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้กับมันได้ สอดคล้องกับบทความที่ชื่อ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” โดยมีผู้ร่วมงานวิจัยและอดีตผู้เล่น NHL อย่าง Nickas Lidstrom เข้ามาร่วมพิสูจน์ครั้งนี้ด้วย
ในการใช้ค่าสถิติทางคณิตศาสตร์นั้น ผู้เล่นแต่ละคนกับทีมแต่ละทีมสามารถเรียนรู้เกมต่างๆก่อนหน้านี้ในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง พวกเขาสามารถคำนวณได้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างไรและด้วยเหตุนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดูดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมรรถภาพทางร่างกาย งานวิจัยนี้ก็สอดคล้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Chalmers กับมหาวิทยาลัย Gothenburg ในบทความที่ชื่อ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” ที่ได้มีการตีพิมพ์ลงในนิตยสาร PLOS ONE
ผู้เขียน Carl Lindberg กับ Jan Lennartsson ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยอาจารย์ที่ Chalmers ได้ทำการศึกษาเรียนรู้สไตล์ผู้เล่น NHL อย่าง Nicklas Lidstrom ในแต่ละเกมพร้อมกับใช้หลักทฤษฎีคณิตศาสตร์ในเกมที่เล่นเป็นทีมกีฬา ในกรณีตัวอย่างของฮอกกี้น้ำแข็งนั้น หลักทฤษฎีก็มีการใช้ในทุกๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเกม ซึ่งก็ช่วยในการทำการประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นมีการใช้หลักความน่าจะเป็นว่า ทีมเจ้าบ้านจะทำคะแนนได้ในครั้งต่อไปโดยทำการคำนวณหักลบกับความน่าจะเป็นที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำคะแนนได้ในครั้งต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสน้อยมากที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำคะแนนได้
พวกเขาได้ทำการประเมินแนวทางการเล่นของ Lidstrom ในประเด็นต่างๆและก็ทำการดูว่าทฤษฎีต่างๆมีการประยุกต์ใช้กับเกมในเวลาเดียวกันได้อย่างไร
เกมกับค่าสถิติทางคณิตศาสตร์
Lidstrom – บางทีผู้เล่นแนวรับที่ดีที่สุดในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนั้น จะต้องรู้ว่า “มีทางเลือกบางอย่าง” ที่ทำให้เขาสามารถป้องกันไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในเขตแดน ผู้เล่นที่ดีแต่ละคนแบบเขานั้น บ่อยครั้งก็ได้รับการชื่นชมว่าพวกเขาอ่านเกมได้ขาด อย่างไรก็ตาม ในบทความ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” Lindberg กับ Lennartsson ก็ได้พยายมที่จะเผยให้เห็นว่า ไม่ใช่เป็นเพราะยีนที่ทำให้ Lidstrom เล่นเกมได้ดีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของหลักสถิติด้วย และเขาก็อยู่กับกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งจนอ่านเกมได้อย่างลึกซึ้ง
Lidstrom ยืนยันว่า ผู้เล่นที่มีความทะเยอทะยานแบบเขานั้น เขามักจะมองหาตำแหน่งที่แปลกใหม่สำหรับเขา เขาจะต้องทำการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆครั้งระหว่างที่เล่นเกม เรียนรู้ว่าจะเลี้ยงลูกยังไง จะจู่โจมตอนไหนและจะส่งลูกเมื่อไร
หาตำแหน่งที่เหมาะสม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
บทความได้อ้างว่า ได้ทำการค้นพบแนวทางการคำนวณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจับความเคลื่อนไหวของผู้เล่นแต่ละคนระหว่างที่เล่นเกมว่า ให้ผลลัพธ์ดีแค่ไหน แนวคิดก็คือเมื่อ Carl Lindberg ได้เริ่มเล่นในตำแหน่งแนวรับของทีมฮอกกี้น้ำแข็งที่มีประสบการณ์ แล้วเขาจะคิดว่าตัวเองจะเป็นผู้เล่นที่ดีหรือไม่? แล้วเขาสามารถใช้ความรู้ด้วยวิชาหลักคณิตศาสตร์กับสถิติเพื่อพัฒนาโอกาสคว้าความสำเร็จในลานน้ำแข็งได้หรือเปล่า? เป้าหมายก็คือ จะต้องประเมินด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการเดินเกมที่ดีที่สุดในทุกๆสถานการณ์ และไม่ใช่ว่า “จะต้องชนะทุกๆสถานการณ์”
หลังจากที่ได้ทำการวิจัยเกมของ Lidstrom แล้ว ก็เป็นที่แน่ชัดสำหรับ Lindberg ว่า Lidstrom ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดเพราะรูปร่างใหญ่ ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนแข็งแรงหรือมีความเร็ว แต่บ่อยครั้งเขาจะได้รับเลือกเป็น “ผู้เล่นที่ดีที่สุด” นั้น ก็เพราะว่าเขาเล่นในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
สถิติกับทฤษฎีเกมในการประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเกม
บทความได้ชี้ว่า Lidstrom ได้วางกฎต่างๆก็คือ เขาจะต้องวิเคราะห์ว่าเขาจะเจอกับการเล่นในสถานการณ์ต่างๆแบบไหน เขาไม่ได้ใช้หลักกูรูหรือทักษะต่างๆอะไร แต่เขาใช้ความรู้ที่ว่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมีจุดอ่อนตรงไหนเพื่อที่จะทำให้เขาได้เปรียบในหลักสถิติ โดยมีการเปรียบเทียบผู้เล่นคนอื่นๆ บ่อยครั้งเขาก็วิเคราะห์ด้วยว่าจะมีโอกาสตีลูกยางมากแค่ไหน มีโอกาสส่งลูกยางและจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกยางตกอยู่ในมือของแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร
นอกจากนั้นแล้วเขาก็ทำการวิเคราะห์แบบ one-against-one situations เนื่องจากเขาอยู่ในแนวรับแถวแรก Lidstrom ปกติแล้วก็จะพยายามสร้างแผนใหม่ให้กับตัวเองและด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสที่ทำให้เขาสามารถรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันรูปแบบ two-against-one situations นั้น บ่อยครั้งเขาก็อาศัยการวางกลยุทธ์แนวรับด้วยว่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมีการวางแผนแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เมื่อผู้เล่นแนวรับตัดสินใจที่จะปล่อยให้ลูกยางไหลไปข้างหน้าเพื่อให้กับผู้เล่นแนวหน้า ทางด้าน Lidstrom ก็ไม่เคยปล่อยให้ลูกยางไหลไปข้างหน้าได้ โดยเขาประเมินว่าวิธีการนี้เป็นจุดแข็งของฝ่ายตรงข้าม
หลักสถิติทางกีฬาจะมุ่งเน้นว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง ในบทความ “ความฉลาดในการอ่านเกมในทีมกีฬาต่างๆ” ก็มุ่งเน้นว่าคุณจะทำทีมในอนาคตอย่างไร แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังบทความนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จากการวิจัยหลักสถิติกับการใช้ทฤษฎีเกมในการประยุกต์เกมในสถานการณ์ต่างๆนั้น ในสนามทีมก็มักจะมุ่งเน้นการมองอนาคตที่เกิดขึ้นมากกว่า
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com