สัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา เดือนกรกฎาคม 2017

สวัสดีค่ะ เราเพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม และได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่าอเมริกา 10 ปี ทางไปรษณีย์เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมค่ะ ีใจสุด ๆ ส่วนตัวไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษอะไรมาก พอฟังออกและตอบโต้ได้บ้าง ทำให้ค่อนข้างกังวนว่าจะผ่านมั๊ย จะได้มั๊ย เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเพื่อน ๆ ที่ไม่ค่อยเก่งภาษาได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างค่ะ ^^
ก่อนอื่นเลย เรามีแพลนจะไปเที่ยวอเมริกากับที่บ้าน แต่เอ เค้ามีวีซ่ากันหมดแล้วนิ เหลือแต่เราคนเดียว เอาวะลองดู หลังจากกรอก DS160 (เรากรอกเองนะคะ ค่อย ๆ กรอกแนะนำว่าข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับงานตรงหน้าที่ความรับผิดชอบ กรอกให้ละเอียดเลยนะคะ) และทำตามขั้นตอนที่กำหนด เราเลือกวันที่
6 เวลาสัมภาษณ์รอบแรกเลยค่ะ  7 โมงเช้า ไม่อยากรอลุ้นนานเดี๋ยวหัวใจวาย 555  แล้ววันสัมภาษณ์ก็มาถึง เราไปถึงสถานฑูตประมาณ 6.10 น. ค่ะ โหคนต่อแถวยาวแล้ว ก็ยืนต่อแถวรอไปเรื่อยๆ จน 6.30 น. ก็มีเจ้าหน้าที่มาเช็คชื่อค่ะ ขอดูพาสปอร์ตตัวจริงกับใบ Confirmation DS160 ค่ะ ผ่านจุดตรวจที่ด้านนอก สแกน ฝากมือถือกับบัตรประชาชน เค้าจะให้เลขที่ฝากของใส่สายข้อมือมาค่ะ แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน พอเข้าไปถึงก็มีจุดเก้าอี้ให้นั่งรอค่ะ เป็นแบบด้านนอกไม่มีแอร์ และมีห้องปิดประตูไว้มีหลายห้องเลยค่ะ ก็จะนั่งรอกันตรงนี้ทั้งหมดค่ะ รอบที่เราไปรอ มีคนที่สัมภาษณ์รอบบ่ายโมงมารอแล้วอ่ะ หลังจากนั้น

จุดที่ 1
มีเจ้าหน้าที่ประกาศไมค์เรียกคนที่มีคิวสัมภาษณ์รอบแรก 7 โมง เค้าจะเอาเอกสาร 2 อย่างคือ พาสปอร์ตตัวจริงกับใบ Confirmation DS160 ใส่แฟ้มใสและติดเลขพัสดุให้เราจดเอาไว้นะคะ แล้วเดินเข้าไปในห้องติดแอร์ทางขวามือค่ะ พอเข้าไปถึงก็มีช่อง ๆ เล็กๆ กระจกกั้นแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่มาเลยค่ะนั่งรอไปก่อน

จุดที่ 2
ประมาณเจ็ดโมงหน่อยๆ ก็มีเจ้าหน้าที่เป็น ผญ ค่ะ 3 คน มาประจำที่ นั่งช่องละคน เราก็ไปยืนต่อแถว (พอถึงคิวก็ไหว้และยิ้มสยามใส่ก่อนเลยค่ะ 555) แล้วก็ยื่นแฟ้มใสอันนั้นเข้าไปในช่องค่ะ เค้าก็จะถามว่า
ถาม ไปไหน    
ตอบ ไปซานฟรานค่ะ
ถาม ไปทำอะไร    
ตอบ ไปเที่ยวค่ะ
ถาม ไปกับใคร
ตอบ ไปกับครอบครัวค่ะ
ถาม ไปกี่วัน    
ตอบ 10 วันค่ะ
แล้วเค้าก็ให้เราสแกนนิ้ว คืนแฟ้มใสให้ ความตื่นเต้นใกล้เข้ามาแล้วค่ะ เค้าให้ไปยืนต่อแถวรอสัมภาษณ์กับท่านกงสุล เราเป็นคนที่ 5 ค่ะ ยืนรอไปสูดหายใจลึก ๆ ไป

จุดที่ 3
รอได้ประมาณ 5 นาที มูลี่ก็ค่อย ๆ เปิดค่ะ เปิด 3 ช่องนะคะ ช่อง 1 และช่อง 2 เป็งกงสุลฝรั่งผิวขาวผู้หญิงค่ะ ช่อง 3 เป็นฝรั่งผิวขาวผู้ชาย คนต่อแถว 3 คนก่อนหน้าก็เดินไปเข้าคนละช่อง สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษหมดเลยทุกคน เราก็ยืนรอลุ้นว่าใครจะเสร็จก่อน จะว่างช่องไหนนะ ผ่านไปแค่สองนาที ช่องที่ 1 วีซ่าไม่ผ่านค่ะ เอาละสิใจเริ่มไม่ดีละค่ะ คนที่ 4 ก็ไปช่อง 1 พอถึงคิวเรา ช่อง 3 เสร็จพอดี เราก็เป็นคิวถัดไปไปยืนหน้าช่อง 3 ยกมือไหว้กล่าวสวัสดีค่ะ  ยื่นแฟ้มใสให้ท่าน

ถาม Hi, How are  you?
ตอบ I'm fine thank you.

ถาม Where do you want to go?
ตอบ San Francisco ka
(เหมือนที่เราบอกไว้ตอนแรกว่าไม่ค่อยมั่นใจในภาษาของตัวเองเท่าไหร่ แล้วคุยผ่านกระจกกั้นกลัวสื่อสารผิดพลาด เลยตัดสินใจพูดกับทางกงสุลว่า "ขอตอบเป็นภาษาไทยได้มั๊ยคะ" ท่านใจดีมากค่ะ ตอบกลับมาว่า ด้ายคร๊าบ ด้ายคร๊าบ ท่านเลยถามกลับมาเป็นภาษาไทยด้วยเลยค่ะ  ^^)

ถาม คุณไปทำอะไร
ตอบ ไปเที่ยวค่ะ

ถาม คุณจะไปกี่วัน
ตอบ 10 วันค่ะ

ถาม คุณไปกับใคร
ตอบ กับพี่สาว กับบลา บลา บลา ทุกคนมีวีซ่าและเคยเดินทางไปเที่ยวอเมริกาและกลับกันมาหมดแล้วค่ะ พร้อมหยิบเอกสารสำเนาหน้าวีซ่าของครอบครัวที่เตรียมมาให้ท่าน แต่ท่านบอกไม่เป็นไรไม่ต้อง

ถาม เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
ตอบ ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊าค่ะ

ถาม ทำงานอะไร
ตอบ พนักงานขายคอนโดค่ะ

ถาม เงินเดือนเท่าไหร่
ตอบ ประมาณ 35,000 บาทค่ะ

ถาม มีสเตจเม้นมามั๊ย ขอดูหน่อย
ตอบ มีค่ะ  แล้วเราก็ยื่นเอกสารให้ท่านดู
(ระหว่างที่ท่านเอานิ้วไล่ๆ ดู เราก็พูดใส่ไมโครโฟนไปว่า เงินเดือนที่แจ้งไม่รวมค่าคอมมิชชั่นนะคะ มีเอกสารเสียภาษีค่าคอมของปีที่แล้ว เรากำลังจะยื่น ภงด ให้ท่านดู ท่านบอกไม่ต้อง ไม่เป็นไร)

ท่านคืนสเตจเม้นมา แล้วก็หยิบพาสปอร์ตดูเสร็จเก็บพาสปอร์ตใส่แฟ้มใสเงยหน้าแล้วพูดว่ายินดีด้วย ทางเราจะจัดส่งพาสปอร์ตให้คุณทางไปรษณีย์ เราก็ยกมือไหว้ท่านแล้วเดินออกมาค่ะ (ในใจแทบอยากกระโดดเลยค่ะ) มัวแต่ตื่นเต้นดีใจ รู้ตัวอีกทีเดินมาถึงสถานีบีทีเอสเพลินจิตละค่ะ 555

เราเตรียมเอกสารส่วนตัวไปเยอะมากค่ะ
  ที่ได้ใช้
-สเตจเม้น
  ที่ไม่ได้ใช้
-หนังสือรับรองการทำงาน,นามบัตร
-สำเนาหน้าวีซ่าอเมริกาของคนในครอบครัว
-เอกสารยื่นภาษีของปีที่แล้วพร้อมใบเสร็จรับเงินที่จ่ายภาษีเพิ่ม
-เอกสารผ่อนชำระรถยนต์
-เอกสารสัญญากู้ซื้อบ้าน
-แพลนท่องเที่ยว

คำแนะนำ
ที่ชารต์แบต,หูฟัง,พาวเวอร์แบงค์,ไอแพต,เป้,กระเป๋าใบใหญ่,น้ำดื่ม ไม่อนุญาตให้เอาเข้าด้านในนะคะ ถ้ามีเด็กไปด้วยกนมสามารถเอาเข้าไปได้ค่ะ 1 ขวด ถ้าจำเป็นต้องพกไปจริง ๆ ต้องเอาไปฝากไว้กับร้านข้างนอกค่ะเสียเงินด้วย

จบแล้วค่ะกับประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลบ้างนะคะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่