กึกๆ ๆ ๆ ๆ เดินฝีเท้ากำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาจากความมืดมิดในระยะห่างที่พอจะได้ยินเสียงลงน้ำหนักของรองเท้าแบบยุทธวิธี ที่ผู้ที่กำลังเดินมาตั้งใจลงน้ำหนักให้รู้สึกตัวได้
"นพ ส่งสัญญานเสียง" พันตรีพลเทพ กระซิบแจ้งลูกน้องให้ส่งรหัสเสียงตามที่ตกลงกันไว้ในทีม
"มนตรา!!"
"มหาศิวะ"
รหัสสัญญานเสียงทั้งสองฝ่ายถูกต้องตรงกัน ฝ่ายสองหนุ่มที่คอยอยู่จึงลดการเฝ้าระวังตัวลงมาอยู่ในระดับปกติ และคลายการกำมีดสั้นในมือที่กำไว้
"พวกคุณทำได้ดีมาก ผมพร้อมแล้วที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับทุกคน" พลเอกเทพขจรกล่าว
"ท่านนายพลครับ ต่อจากนี้เราทั้งสี่คนพร้อมแล้วครับที่จะปกป้องท่านด้วยชีวิต" พันตรีพลเทพให้คำมั่นด้วยความเข้มแข็ง
"ที่ผ่านมา...เรามอบภารกิจให้พวกคุณ จากตัวชี้วัดของหลายๆทีมที่เคยปฏิบัติงาน หลายครั้งภารกิจที่ทีมคุณได้รับ..แทบจะเป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมเชื่อมาเสมอว่าพวกคุณจะต้องทำสำเร็จ พวกคุณคือมืออาชีพที่ดีที่สุดที่เรามี ผมเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ"
"แต่ครั้งนี้ ผมยอมรับว่ามันเป็นภารกิจที่อันตรายยิ่งยวดตั้งแต่ที่เคยมีมา บันทึกโบราณที่เราได้รับมาจากการจับกุมพ่อค้าโบราณวัตถุเถื่อนข้ามชาติ กล่าวถึงพลังอำนาจของมหาเวทย์จากโบราณกาลที่กำลังปกป้องบางสิ่งที่เป็นเป้าหมายของเราที่อยู่ปลายทาง โดยชั้นความลับแล้ว ก่อนหน้านี้ผมไม่สามารถบอกพวกคุณได้ว่าเรากำลังจะไปค้นหาสิ่งใด...แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า เราห้าคนคือหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น ผมจึงไม่ควรมีความลับต่อพวกคุณ"
"ท่านนายพลครับ ผมขอเสนอว่าท่านไม่จำเป็นต้องแจ้งความลับทั้งหมดแก่พวกเราเลยครับ อย่างไรด้วยหน้าที่ พวกเราทั้งสี่คนยินดีถวายชีวิตเป็นราชพลี และด้วยความกตัญญูที่ท่านนายพลดูแลพวกเราเสมอมา ไม่ว่าต้องบุกไปต้นน้ำคงคาหรือลุยขึ้นยอดเขาไกรลาส พวกเราพร้อมเสมอที่จะอยู่เคียงข้างท่าน" พันตรีพลเทพกล่าวด้วยแววตากล้าแข็ง น้ำเสียงเข้มข้นจริงใจสมเป็นชายชาติทหาร
พลเอกขจรเทพ ยิ้มด้วยใบหน้าที่เมตตา พร้อมยื่นมือไปจับมือของทั้งสี่มาเขย่าทีละคน
"เพราะแบบนี้แหละ ครั้งนี้ผมถึงทอดทิ้งพวกคุณไปไม่ได้ ด้วยวัยผมก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว แต่ผมไม่ยอมให้ชีวิตที่เหลือในวัยชราหมดไปกับการเกษียนแล้วออกไปเลี้ยงหลานหรือตีกอล์ฟไปวันๆแน่นอน ผมเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจมาทั้งปี เพื่อภารกิจนี้ผมขอทุ่มทุกสิ่งที่ผมสะสมไว้ทั้งหมดเพื่อบรรลุงานนี้ให้ได้ ชะรอยพวกเราคงเวียนว่ายตามกันมาหลายภพชาติ เป็นมิตรแท้ที่ไม่เคยห่างหายจากกัน ไม่ว่าบุญทำหรือกรรมแต่งให้พวกเราต้องมาร่วมเป็นร่วมตาย ผมไม่มีสิ่งใดจะปกปิดพวกคุณ....." นายพลขจรเทพกล่าวแล้วนิ่งไปหลายวินาที
"เรากำลังไปที่แท่นบูชาอาวุธของมหาเทพแห่งการทำลายล้าง"
พระแสงจอมนาง ตอนที่ 5 "ผนึกศาสตรา 2" by สมัญตาชีวบุตร
"นพ ส่งสัญญานเสียง" พันตรีพลเทพ กระซิบแจ้งลูกน้องให้ส่งรหัสเสียงตามที่ตกลงกันไว้ในทีม
"มนตรา!!"
"มหาศิวะ"
รหัสสัญญานเสียงทั้งสองฝ่ายถูกต้องตรงกัน ฝ่ายสองหนุ่มที่คอยอยู่จึงลดการเฝ้าระวังตัวลงมาอยู่ในระดับปกติ และคลายการกำมีดสั้นในมือที่กำไว้
"พวกคุณทำได้ดีมาก ผมพร้อมแล้วที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับทุกคน" พลเอกเทพขจรกล่าว
"ท่านนายพลครับ ต่อจากนี้เราทั้งสี่คนพร้อมแล้วครับที่จะปกป้องท่านด้วยชีวิต" พันตรีพลเทพให้คำมั่นด้วยความเข้มแข็ง
"ที่ผ่านมา...เรามอบภารกิจให้พวกคุณ จากตัวชี้วัดของหลายๆทีมที่เคยปฏิบัติงาน หลายครั้งภารกิจที่ทีมคุณได้รับ..แทบจะเป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมเชื่อมาเสมอว่าพวกคุณจะต้องทำสำเร็จ พวกคุณคือมืออาชีพที่ดีที่สุดที่เรามี ผมเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ"
"แต่ครั้งนี้ ผมยอมรับว่ามันเป็นภารกิจที่อันตรายยิ่งยวดตั้งแต่ที่เคยมีมา บันทึกโบราณที่เราได้รับมาจากการจับกุมพ่อค้าโบราณวัตถุเถื่อนข้ามชาติ กล่าวถึงพลังอำนาจของมหาเวทย์จากโบราณกาลที่กำลังปกป้องบางสิ่งที่เป็นเป้าหมายของเราที่อยู่ปลายทาง โดยชั้นความลับแล้ว ก่อนหน้านี้ผมไม่สามารถบอกพวกคุณได้ว่าเรากำลังจะไปค้นหาสิ่งใด...แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า เราห้าคนคือหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น ผมจึงไม่ควรมีความลับต่อพวกคุณ"
"ท่านนายพลครับ ผมขอเสนอว่าท่านไม่จำเป็นต้องแจ้งความลับทั้งหมดแก่พวกเราเลยครับ อย่างไรด้วยหน้าที่ พวกเราทั้งสี่คนยินดีถวายชีวิตเป็นราชพลี และด้วยความกตัญญูที่ท่านนายพลดูแลพวกเราเสมอมา ไม่ว่าต้องบุกไปต้นน้ำคงคาหรือลุยขึ้นยอดเขาไกรลาส พวกเราพร้อมเสมอที่จะอยู่เคียงข้างท่าน" พันตรีพลเทพกล่าวด้วยแววตากล้าแข็ง น้ำเสียงเข้มข้นจริงใจสมเป็นชายชาติทหาร
พลเอกขจรเทพ ยิ้มด้วยใบหน้าที่เมตตา พร้อมยื่นมือไปจับมือของทั้งสี่มาเขย่าทีละคน
"เพราะแบบนี้แหละ ครั้งนี้ผมถึงทอดทิ้งพวกคุณไปไม่ได้ ด้วยวัยผมก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว แต่ผมไม่ยอมให้ชีวิตที่เหลือในวัยชราหมดไปกับการเกษียนแล้วออกไปเลี้ยงหลานหรือตีกอล์ฟไปวันๆแน่นอน ผมเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจมาทั้งปี เพื่อภารกิจนี้ผมขอทุ่มทุกสิ่งที่ผมสะสมไว้ทั้งหมดเพื่อบรรลุงานนี้ให้ได้ ชะรอยพวกเราคงเวียนว่ายตามกันมาหลายภพชาติ เป็นมิตรแท้ที่ไม่เคยห่างหายจากกัน ไม่ว่าบุญทำหรือกรรมแต่งให้พวกเราต้องมาร่วมเป็นร่วมตาย ผมไม่มีสิ่งใดจะปกปิดพวกคุณ....." นายพลขจรเทพกล่าวแล้วนิ่งไปหลายวินาที
"เรากำลังไปที่แท่นบูชาอาวุธของมหาเทพแห่งการทำลายล้าง"