ปรึกษาคดีผู้โดยสารรถแท็กซี่เปิดประตูมาชนรถมอเตอร์ไซต์(ปล.ใครหลายคนอาจไม่รู้ว่าขี่รถผิดกฎจราจรอยู่)

หนูจะขอคำปรึกษาเรื่องคดีอุบัติเหตุระหว่างรถมอเตอร์ไซต์กับรถแท็กซี่ค่ะ
เหตุเกิดจากผู้โดยสารรถแท็กซี่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติเปิดประตูรถแท็กซี่ด้านหลังซ้ายในขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่ อยู่เลนซ้ายสุดแต่จอดห่างจากริมฟุตบาท
ซึ่งระยะห่างระหว่างตัวรถกับขอบทางมันมากกว่าระยะ 50 เซนติเมตรอย่างแน่นอน ในขณะที่ผู้โดยสารเปิดประตูออกมารถมอเตอร์ไซต์ที่คุณน้าหนูเป็นคนขี่และหนูเป็นคนซ้อนกำลังแล่นขนาบกับรถแท็กซี่ทางด้านซ้ายของรถแท็กซี่ ทำให้รถมอเตอร์ไซต์ล้ม หนูและน้าบาดเจ็บ ผู้โดยสารรถแท็กซี่ให้ 7,000บาท ส่วนคนขับรถแท็กซี่ขับรถออกไปไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งที่คุณน้าหนูก็ให้คนขับรถแท็กซี่เรียกประกันรถเค้า แต่เค้าไม่เรียกบอกว่ารถผมไม่เป็นไร แล้วก็ขับรถออกไป
คำถามคือ จากกรณีข้างต้น ถ้าสรุปว่า คนขับรถแท็กซี่และคนขี่รถจักรยานประมาทร่วม ถูกต้องหรือไม่ โดยให้เหตุผลดังนี้
คนขับแท็กซี่เป็นฝ่ายประมาท เนื่องจาก ปล่อยให้ผู้โดยสารลงโดยไม่ชิดขอบทาง โดยความเสียหายที่เกิดกับคนขับรถแท็กซี่คือ รถบุบหยุบเข้าไปตรงประตูหลังซ้าย
ส่วนคนขี่รถมอเตอร์ไซต์ประมาทเพราะ
1.    มันไม่ใช่ทางเดินรถตามกฎหมายที่รถมอเตอร์ไซด์จะวิ่งได้ รถมอเตอร์ไซต์ต้องวิ่งในเลนเหมือนรถยนต์ เนื่องจากตามกฏหมาย พ.ร.บ จราจร ระบุว่า ถนน 1 เลน รถวิ่งได้แค่หนึ่งคัน ดังนั้นรถมอเตอร์ไซด์ผิดเพราะไม่มีสิทธิ์วิ่ง
2.    ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ผิดเพราะไปแซงซ้ายรถแท็กซี่ ตามกฎหมายห้ามแซงทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ต้องขี่ตามรถแท็กซี่ ซึ่งถ้าขี่ตามรถแท็กซี่ก็ไม่เกิดเหตุขึ้น (ซึ่งในตอนแรกก็งงมาก ว่ารถเราไปแซงรถแท็กซี่ตอนไหน ถ้าพูดตามกฏหมาย หนึ่งเลนวิ่งได้หนึ่งคัน รถแท็กซี่เค้าก็จอดอยู่ดีๆ เลนรถก็เต็มหมดแล้ว แล้วอยู่ดีๆ คนขี่รถมอเตอร์ไซด์ก็ขี่มาทางซ้ายของรถแท็กซี่ ถือว่าเป็นการแซงซ้าย เพราะแท็กซี่ถือว่าเป็นเจ้าของเลน ฉันจอดของฉันอยู่ดีๆ ถึงแม้ว่าฉันจะเปิดประตูรถออกไปตอนรถติดไฟแดงก็ตาม ฉันก็ไม่ผิดเพราะมันเป็นเลนของฉัน)
ผลของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับหนูและน้า เป็นดังนี้
หนูซึ่งเป็นผู้ซ้อนรถมอเตอร์ไซต์ กระเด้นออกจากรถจนทำให้กระดูกต้นขาซ้ายหักต้องใส่เหล็กในโพรงกระดูก เนื่องจากก้นกระแทกกับพื้นถนน
อาซึ่งเป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์ ได้รับบาดเจ็บดังนี้
1.กระดูกนิ้วก้อยด้านขวาหัก(เกิดจากประตูรถแท็กซี่กระแทก)
2.สะบักด้านซ้ายหัก(เกิดจากรถล้มแล้วสะบักกระแทกกับขอบฟุตบาท)
3.ซี่โครงซ้ายหัก 2 ซี่ (เกิดจากรถล้มแล้วกระแทกพื้นกับขอบฟุตบาท)
4.กระดูกขาซ้ายร้าว ( เกิดจากรถมอเตอร์ไซด์ทับขา)
คำถามคือ ถ้าผลสรุปของคดีคือประมาทร่วม
1. ฝ่ายทางรถแท็กซี่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือค่ะ แค่ในที่เกิดเหตุก็ไม่มีน้ำใจพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเลย ทั้งที่ตนก็สามารถช่วยได้ ขับรถออกไปเลย ส่วนผู้โดยสารจ่ายเงินแล้วก็ไปเลย ทั้งคนขับรถแท็กซี่และผู้โดยสารไม่เคยติดต่อกลับมาเลย แล้วค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ เค้าจะไม่ร่วมรับผิดชอบเลยหรือ
2. รถแท็กซี่สามารถจอดส่งผู้โดยสารขณะจอดติดไฟแดง โดยไม่มีการชิดขอบฟุตบาท ไม่มีการเปิดสัญญาณไฟกระพริบ ไม่มีการแจ้งสัญญาณใดๆเพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้รถคันอื่นทราบจะได้ชะลอหรือหยุดเพื่อที่จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้น
3. คนขับรถแท็กซี่มีความผิดหรือไม่ที่ให้ผู้โดยสารลงรถ ทั้งๆที่ไม่สามารถลงตรงนี้ได้ และอีกประมาณ 60 เมตรเป็นจุดให้รถแท็กซี่จอดส่งผู้โดยสารด้วยความปลอดภัย และถ้าคนขับรถแท็กซี่อ้างว่า สื่อสารไม่ได้ แล้วรับผู้โดยสารชาวต่างชาติมาได้อย่างไรแล้วมาส่งถูกที่ได้อย่างไร ถ้าจะบอกว่า ไม่รู้ว่าผู้โดยสารจะลงรถ แล้วจะไม่ทราบได้อย่างไรเพราะก่อนลงรถต้องจ่ายค่าโดยสารเพราะถ้ายังไม่จ่ายเงินค่าโดยสาร คนขับรถแท็กซี่ต้องลงมาทวงเงินค่าโดยสารแล้ว แสดงว่าทราบ ถึงแม้จะบอกว่า พูดไม่เป็นแต่สามารถใช้ภาษากายได้ ซึ่งเป็นภาษาสากล สามารถทำสัญญาณมือให้ผู้โดยสารทราบว่าตรงนี้ห้ามลง ลงไม่ได้
4. รถแท็กซี่สามารถจะเปิดประตูรถออกมาในขณะที่รถมอเตอร์ไซต์แล่นอยู่ได้โดยไม่มีความผิดเลยหรือ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับรถมอเตอร์ไซต์เลยหรือ เพราะเนื่องจากตามกฏหมายรถแท็กซี่เป็นเจ้าของเลน
5. รถมอเตอร์ไซต์ต้องขับขี่อย่างไรให้ถูกกฏหมาย
    ในช่วงเวลาเร่งด่วนในกรุงเทพ ต้องขี่รถมอเตอร์ไซต์อย่างไร ขี่ซ้ายก็ผิด ขี่ขวาก็ผิด ต้องขี่ตามรถยนต์จริงๆหรือค่ะ
6. สุดท้าย การตัดสินว่าทั้งคนขับรถแท็กซี่และคนขี่รถมอเตอร์ไซต์ประมาทร่วมถูกต้องหรือไม่ค่ะแล้วถ้าตัดสินแบบนี้ฝ่ายรถแท็กซี่ก็ไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับฝ่ายรถมอเตอร์ไซต์เลยหรือค่ะ
             ถ้าถูกต้อง หนูก็จะไม่แย้ง ยอมตามที่ผู้รักษากฎหมายกล่าว เพราะก็ต้องเห็นใจผู้รักษากฎหมายเหมือนกัน หนูก็เชื่อว่าพี่เค้าทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าเกิดจากเป็นการตีความของกฎหมายที่เกิดจากความเข้าใจผิดก็อยากให้แก้ไข เพราะหนูเชื่อว่าอุบัติเหตุแบบนี้ เกิดขึ้นเรื่อยๆ จะได้ใช้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาและเป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องสืบต่อไปค่ะ
             จากเหตุการณ์ที่หนูเล่ามาข้างต้น มีความคิดเห็นประการใดค่ะ ช่วยไขข้อข้องใจให้หนูได้กระแจ้งด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่