แม่เป็นคนไม่ค่อยพูด นอกจากจะสอน และดุ ... ส่วนใหญ่แค่มองก็เงิบแล้ว
ไม่เคยเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง
เมื่อแม่จำความหลังได้แจ่มชัดกว่าปัจจุบัน
ท่านพูดถึงบ้านที่ท่านเคยอยู่ในวัยเด็ก ... บ้านสีลม
จึงไปสัมภาษณ์ พี่สาวคุณแม่ ตอนที่ท่านอายุ 96 ปี
ที่ยังสดใส ความจำดี
คุณป้าท่านเคยได้ลงปกหนังสือนิตยสารฉนับหนึ่ง
คุณตาชื่อจิ้น แซ่ลิ้ม
เคยทำงานบ่อทองที่ อะไรน้า สะพาน ๆ
จำไม่ได้ติดอยู่ที่ริมฝีปากเนี่ย บ้านนอกโน่น ... เราเดาว่าบางสะพาน ...
ไม่ดีจึงย้ายมาอยู่กรุงเทพ ฯ มาทำงานกับหมอเฮส ซึ่งเป็นหมอใหญ่ รพ.บางรัก
คุณตาทำงานแบบหมอ ป้าใช้คำพูดว่า รักษาทั่วไป ผ่าตัดเลื่อนขาเลื่อยแข้ง เกี่ยวปาก เกี่ยวจมูก
ได้ตำแหน่งเป็นรองอำมาตย์โท ขุนพิรุฬแพทย์กิจ
ได้รับพระราขทานนามสกุล มุสิกะลักษณ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
บางรักเป็นท่าจอดเรือ ที่สำคัญของกรุงเทพ ฯ
มีเรือสินค้าจากทั่วโลก มาเทียบท่า
มีฝรั่งที่เดินทางเข้ามาค้าขาย และพำนักอยู่บนถนนสีลม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ได้พระราชทานบ้านหลวง ที่ปากถนนสีลมต่อกับถนนเจริญกรุง
ให้เป็นสถานพยาบาล แก่ชาวฝรั่ง
โดยมีนายแพทย์ทีเฮวาด์ เฮส์ เป็น ผู้อำนวยการในปี พ.ศ. 2432
ชื่อว่า โรงพยาบาลบางรัก
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแพทย์เฮส์
ดำเนินการให้ขยายกิจการเป็นโรงพยาบาลรับรักษาผู้ป่วยทั่วไป
จากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในวันที่ 23 ธันวาคม 2486
โรงพยาบาลบางรักได้รับความเสียหายจากระเบิดเพลิง
คุณหญิงภักดีนรเศรษฐ ( สิน เศรษฐบุตร ) เห็นถึงความ เดือดร้อน ของประชาชน
จึงบริจาคเงินสร้างตึกผู้ป่วย 2 ชั้น 2 หลัง พร้อมด้วยบ้านพัก แพทย์ชั้นเดียว 2 หลัง ขึ้นในบริเวณโรงพยาบาลบางรักเดิม
ทางการจึงตั้งชื่อโรงพยาบาลใหม่ว่า โรงพยาบาลเลิดสิน ตามชื่อของ พระยาภักดีนรเศรษฐ - เลิศ เศรษฐบุตร และ คุณหญิงสิน ภักดีนรเศรษฐ

ภาพจากเวปโรงพยาบาลเลิศสิน
ยายชื่อ ทิม
ตั้งแต่คุณป้าจำความได้ก็อาศัยอยู่ที่ ห้องแถวของกรมพระคลังข้างที่บนถนนสีลม ปากตรอกไก่ มี 7 ห้อง
ห้องสุดท้ายเป็นร้านขายขนมปัง ซึ่งตอนเกิดสงครามกลางเมือง ... ป้าใช้คำว่าคนไทยตีกัน ก่อนญี่ปุ่นขึ้น
ร้านนี้ทำขนมปังส่งท่านบวรเดช
ด้านหลังตึกแถวเป็นที่ว่างที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกบ้านอยู่ได้เป็นเรือนไม้สองชั้น
ครัวของบ้านตั้งทับอยู่บนคลองซอยที่จะไปลงคลองสีลม
แถวหน้าห้องแถว มีเก้าอี้นั่ง มีคนมานั้งกันหัวสลอน
ตื่นมาตี 4 ตี 5 ก็มานั่งนับหัวคน
มีก๊อกประปาสาธารณะอยู่ด้านหน้า ค่ำ ๆ ก็เอาปี๊บมาตี แย่งน้ำกัน
ปวดถ่ายก็ถ่ายกันอยู่แถวริมเขื่อนคลองสีลม
ป้าเรียนอยู่โรงเรียนผดุงดรุณี ถ.ประมวล
ปัจจุบันคือโรงเรียนอัสสัมชันคอนแวนต์สีลม
แม่เรียนที่โรงเรียนป้าจำชื่อไม่ได้ แถวถนนสุรวงศ์
ไปโรงเรียน 7 โมงเช้าเลิก 3 โมงเย็น
ขากลับโรงเรียนชอบเที่ยวเล่นบ้านพระยาพิจารณา
มีท่าน้ำ มีบริเวณ มีสะพานข้ามคลองสีลม กลับบ้าน
ย่านนั้นป้าจำแม่น
จากบ้าน - ถ.สุริยศักดิ์ - ตึกแถว - กรอกเวท - ถ.ประมวล - วัดแขก
- กรอกไมตรี - ป่าช้าแขก - ป่าช้าฝรั่ง - กรอกพระยาพิพัฒน์ - ศาลาแดง
บ้านพระยาพิจารณาฤชามาตย์ (สุหร่าย วัชราภัย) ขุนนางกระทรวงยุติธรรม
เป็นบ้านตึกหลังใหญ่สีเหลืองอยู่ริมคลองสีลม
มีสะพานใหญ่ข้ามไปที่ถนน และมีศาลาท่าน้ำสำหรับนั่งเล่น
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งโรงแรมวิคตอรี โรงแรมสีลมพลาซ่า และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางรัก
ถนนสีลมเป็นถนนที่พ่อค้า และกงสุลต่างประเทศ ขอให้รัฐบาลสร้างถนนเพื่อเป็นที่ขี่ม้าเที่ยวตากอากาศ
โดยได้ดินที่ขุดคลองเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา กับคลองถนนตรง (คลองถนนพระรามสี่) ตัดเป็น ถนนขวาง
โดย เริ่มจากคลองเล็กๆ ข้างวัดสวนพลู ... ถนนข้างโรงแรมแชงการีร่า ...
เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดสวนพลู ไปออกแยกเจริญกรุง
แล้วตัดตรงถึงริมศาลาที่เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) สร้างไว้
ต่อมาฝรั่งมาตั้งกังหันลมวิดน้ำที่ถนนขวาง จึงเรียกถนนสายนี้ว่า ถนนสีลม หรือ Wind Mill Road
และเรียกคลองบางรักว่าคลองสีลม
สมัยรัชกาลที่ 6 เปิดสัมปทานเดินรถรางบนถนนสีลมเป็นครั้งแรก
จากบางรักถึงประตูน้ำ
พ.ศ. 2506 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีมติให้รื้อรางรถรางและถมคลองสีลม

ภาพจากเน็ท
แม่
ป้าว่า เราเหมือนแม่มาก
แม่ตัวเล็ก ดำ เสียงดี จึงถูกขนานนามว่าดำปืนเสียงดี เตี้ยจักกะแหล่น
ส่วน ป้า ... ม้าดีดกะโหลก
เด็ก ๆ ไปเล่นกันที่หลังโรงพยาบาล เล่นกองทรายของเจ๊กพังหมด
เตี้ยจักกะแหล่น กับ ม้าดีดกะโหลก
แม่เสียงเพราะ ชอบร้องเพลง ... เพลงละครแม่บุนนาค เป็นละครร้อง
โรงละครแม่บุนนาค ตั้งอยู่ริมคลองบางลำพูใกล้ธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบัน
พระเอกชื่อแม่บุนนาค (ลืมถามว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย) นางเอกชื่อแม่ประสาน
ศรีนวลเป็นนางรอง แม่บุญเลื่อนตัวโกง
เล่นเรื่อง สาวเครือฟ้า เครือณรงค์
เวทียกพื้นขึ้น นั่งม้ายาว แพงหน่อยเป็นเก้าอี้ อยู่บางลำพู เล่น 2 ทุ่มถึง 2 ยาม
อ้าว! แล้วป้าไปยังไง
ป้าปีนออกทางหน้าต่างเอาผ้าโยนไปมีคนคอยรับ
ไปกับคนทำกับข้าว ขากลับเจ๊เปิดประตูรับ
แม่เขาเรียบร้อย เขาไม่ไปหรอก ... แต่แม่ร้องเพลงเนาะ
ค่ารถเจ๊ก 10-20 ตัง
เจ๊คือลูกสาวคนเล็กของคุณยายใหญ่ ... คุณป้าเจียร
รูปแม่กับคุณป้าเจียร
เมื่อก่อนหุงข้าวไงคะ ?
สมัยเราใช้ทันใช้หม้อหุงอลูมิเนียม สุกแล้วใช้ไม้สอดที่หูหม้อ ขัดฝาไว้ เทน้ำ แล้วดง
สมัยป้า ใช้หม้อต้มข้าวสุกแล้วยกใส่เสวียน ขัดหูเสวียนเพื่อรัดฝา เทน้ำ แล้วดง

ภาพจากเน็ท
คุณตาทำกับข้าวเก่งใช่ไหมคะ ?
ทำไม่เป็นหรอก
เห็นเขียนตำราอาหารให้แม่
ไปลอกเขามา แอบจดมาเวลาเจ้าของเผลอก็มี
ป้าเสียดาย ทำหาย แต่ของคุณแม่ยังอยู่
หลังคุณตาเกษียณ ได้บำนาญเดือนละ 45 บาท
หน้าบ้านคุณป้าเจียร พี่สาวทำงานเย็บผ้า
ด้านหลังเป็นบ้านมีลูกหลานมาอาศัยอยู่กัน เพื่อเรียนหนังสือที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ลูกหลานเป็นลูกของน้องสาวคุณตา ซึ่งมีครอบครัวอยู่ปัตตานี ... คุณยายเอื้อน
และคุณยายอุ่น ... ขายของอยู่นราธิวาส
แม่เคยพูดเรื่องไฟไหม้ แถวบ้าน
ป้าเล่าว่ามีไฟไหม้ห้องแถว ที่ซอยสุรศักดิ์ ตั้งแต่ไฟลเบรงเก้น ถึงบ้านพอดี
มีคนโบกธงกันไฟที่ตีนสะพาน ด้บเพลิงว่ายายคนนี้บ้า
ไฟก็ไม่มาจริงๆ เป็นธงสามเหลี่ยม
ต่อมาแม่ไปอยู่กับคุณอาเอื้อน... น้องสาวคุณตา ที่นราธิวาส
เมื่อป้าโตก็ไปขายผ้าลาย ซื้อเป็นกุลี 1 กุลี = 20 ผืน ขายกางเกงแพร ปัตตานี
ลงที่สถานีรถไฟโคกโพธิ์ ค่ารถไฟ 16 บาท
พอสามีคุณยายเสีย แม่ก็กลับมาอยู่กรุงเทพกับป้าเจียร
ไปเรียนตัดเสื้อ มาเป็นครูสอนตัดเสื้อที่วัดสุทัศน์
ไปเรียนปักดิ้นที่ซิงเกอร์
การเดินทาง
เดินส่วนใหญ่ โดยรถราง
รถเจ๊กเวลาข้ามสะพานกษัตริย์ศึกสนุก เพราะตูดโด่ง กดไม่ลงก็หงายหลัง
รถรางผ่านหน้าบ้านถนนสีลม ราคา 1 สตางค์ ตีตั๋วต่อ 1/2 สตางค์
มีรถราง จากเจริญกรุงไปถนนตก ไปท่าเตียน
ถนนตกไปสีลม ลงศาลาแดง รพ.จุฬา หมดที่ประตูน้ำ
ท่าเตียนไปบางลำพูมีหลายสาย
ชอบไปบางลำพูหน้าวัดบวร ลงที่ แยกเอส. เอ. บี.
ช็อปปิ้งที่
ห้าง ไวท์อะเวย์ ของเยอะ ... ภายหลังห้างไทยนิยมซื้อกิจการ
หน้าวัดบวร บางลำพู
บอร์เนียวอยู่ถนนตก
จากศาลาแดงไปปากน้ำมีรถไฟ
ไปศิริราช นั่งรถรางไปลงหลักเมือง ข้ามฟากไปศิริราช
เอส.เอ.บี.
อยู่ที่แยกถนนเจริญกรุงตัด กับถนนวรจักร และถนนจักรวรรดิ
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ของฝรั่งชาติเบลเยียม
S. A. B. ย่อมาจาก Société Anonyme Belge pour le Commerce et l'Industrie au Siam
แปลว่า
บริษัทเบลเยียมเพื่อการพาณิชย์และการอุตสาหกรรมในสยาม จำกัด(มหาชน)
ปัจจุบันคือ หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า
ป้า
วันแรกที่เรือบินเข้า วันที่ 8 ธันวา เห็นเขาสาดลูกปืนกลใส่ สนุกดูไฟแลบ
ปี 2485 น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ
เกิดสงคราม ป้าไปอยู่ปากน้ำ พระปะแดงซึ่งเป็นสวนส้ม
คุณตาโดนลูกปืนกลที่ยิงมาจากเครื่องบิน รักษาที่โรงพยาบาลจุฬา
ตอนหลังคุณตามาอยู่กับลูกชายคนโต คือคุณพระสท้านไตรภพ ต้นสกุลสะท้านไตรภพ
ที่บ้านหล่ายต้า จ.ลำปาง และเสียชีวิตที่ลำปาง
ลูกของคุณตากับคุณยายทิม
ตอนที่ไปสัมภาษณ์คุณป้าก็เหลือสองศรีพี่น้อง
ตอนนี้ เหลือเพียงคุณแม่
จึงอยากจดบันทึกเรื่องราวในอดีตไว้
บ้านสีลมของแม่
แม่เป็นคนไม่ค่อยพูด นอกจากจะสอน และดุ ... ส่วนใหญ่แค่มองก็เงิบแล้ว
ไม่เคยเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง
เมื่อแม่จำความหลังได้แจ่มชัดกว่าปัจจุบัน
ท่านพูดถึงบ้านที่ท่านเคยอยู่ในวัยเด็ก ... บ้านสีลม
จึงไปสัมภาษณ์ พี่สาวคุณแม่ ตอนที่ท่านอายุ 96 ปี
ที่ยังสดใส ความจำดี
คุณป้าท่านเคยได้ลงปกหนังสือนิตยสารฉนับหนึ่ง
คุณตาชื่อจิ้น แซ่ลิ้ม
เคยทำงานบ่อทองที่ อะไรน้า สะพาน ๆ
จำไม่ได้ติดอยู่ที่ริมฝีปากเนี่ย บ้านนอกโน่น ... เราเดาว่าบางสะพาน ...
ไม่ดีจึงย้ายมาอยู่กรุงเทพ ฯ มาทำงานกับหมอเฮส ซึ่งเป็นหมอใหญ่ รพ.บางรัก
คุณตาทำงานแบบหมอ ป้าใช้คำพูดว่า รักษาทั่วไป ผ่าตัดเลื่อนขาเลื่อยแข้ง เกี่ยวปาก เกี่ยวจมูก
ได้ตำแหน่งเป็นรองอำมาตย์โท ขุนพิรุฬแพทย์กิจ
ได้รับพระราขทานนามสกุล มุสิกะลักษณ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
บางรักเป็นท่าจอดเรือ ที่สำคัญของกรุงเทพ ฯ
มีเรือสินค้าจากทั่วโลก มาเทียบท่า
มีฝรั่งที่เดินทางเข้ามาค้าขาย และพำนักอยู่บนถนนสีลม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ได้พระราชทานบ้านหลวง ที่ปากถนนสีลมต่อกับถนนเจริญกรุง
ให้เป็นสถานพยาบาล แก่ชาวฝรั่ง
โดยมีนายแพทย์ทีเฮวาด์ เฮส์ เป็น ผู้อำนวยการในปี พ.ศ. 2432
ชื่อว่า โรงพยาบาลบางรัก
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแพทย์เฮส์
ดำเนินการให้ขยายกิจการเป็นโรงพยาบาลรับรักษาผู้ป่วยทั่วไป
จากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในวันที่ 23 ธันวาคม 2486
โรงพยาบาลบางรักได้รับความเสียหายจากระเบิดเพลิง
คุณหญิงภักดีนรเศรษฐ ( สิน เศรษฐบุตร ) เห็นถึงความ เดือดร้อน ของประชาชน
จึงบริจาคเงินสร้างตึกผู้ป่วย 2 ชั้น 2 หลัง พร้อมด้วยบ้านพัก แพทย์ชั้นเดียว 2 หลัง ขึ้นในบริเวณโรงพยาบาลบางรักเดิม
ทางการจึงตั้งชื่อโรงพยาบาลใหม่ว่า โรงพยาบาลเลิดสิน ตามชื่อของ พระยาภักดีนรเศรษฐ - เลิศ เศรษฐบุตร และ คุณหญิงสิน ภักดีนรเศรษฐ
ภาพจากเวปโรงพยาบาลเลิศสิน
ยายชื่อ ทิม
ตั้งแต่คุณป้าจำความได้ก็อาศัยอยู่ที่ ห้องแถวของกรมพระคลังข้างที่บนถนนสีลม ปากตรอกไก่ มี 7 ห้อง
ห้องสุดท้ายเป็นร้านขายขนมปัง ซึ่งตอนเกิดสงครามกลางเมือง ... ป้าใช้คำว่าคนไทยตีกัน ก่อนญี่ปุ่นขึ้น
ร้านนี้ทำขนมปังส่งท่านบวรเดช
ด้านหลังตึกแถวเป็นที่ว่างที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกบ้านอยู่ได้เป็นเรือนไม้สองชั้น
ครัวของบ้านตั้งทับอยู่บนคลองซอยที่จะไปลงคลองสีลม
แถวหน้าห้องแถว มีเก้าอี้นั่ง มีคนมานั้งกันหัวสลอน
ตื่นมาตี 4 ตี 5 ก็มานั่งนับหัวคน
มีก๊อกประปาสาธารณะอยู่ด้านหน้า ค่ำ ๆ ก็เอาปี๊บมาตี แย่งน้ำกัน
ปวดถ่ายก็ถ่ายกันอยู่แถวริมเขื่อนคลองสีลม
ป้าเรียนอยู่โรงเรียนผดุงดรุณี ถ.ประมวล
ปัจจุบันคือโรงเรียนอัสสัมชันคอนแวนต์สีลม
แม่เรียนที่โรงเรียนป้าจำชื่อไม่ได้ แถวถนนสุรวงศ์
ไปโรงเรียน 7 โมงเช้าเลิก 3 โมงเย็น
ขากลับโรงเรียนชอบเที่ยวเล่นบ้านพระยาพิจารณา
มีท่าน้ำ มีบริเวณ มีสะพานข้ามคลองสีลม กลับบ้าน
ย่านนั้นป้าจำแม่น
จากบ้าน - ถ.สุริยศักดิ์ - ตึกแถว - กรอกเวท - ถ.ประมวล - วัดแขก
- กรอกไมตรี - ป่าช้าแขก - ป่าช้าฝรั่ง - กรอกพระยาพิพัฒน์ - ศาลาแดง
บ้านพระยาพิจารณาฤชามาตย์ (สุหร่าย วัชราภัย) ขุนนางกระทรวงยุติธรรม
เป็นบ้านตึกหลังใหญ่สีเหลืองอยู่ริมคลองสีลม
มีสะพานใหญ่ข้ามไปที่ถนน และมีศาลาท่าน้ำสำหรับนั่งเล่น
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งโรงแรมวิคตอรี โรงแรมสีลมพลาซ่า และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางรัก
ถนนสีลมเป็นถนนที่พ่อค้า และกงสุลต่างประเทศ ขอให้รัฐบาลสร้างถนนเพื่อเป็นที่ขี่ม้าเที่ยวตากอากาศ
โดยได้ดินที่ขุดคลองเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา กับคลองถนนตรง (คลองถนนพระรามสี่) ตัดเป็น ถนนขวาง
โดย เริ่มจากคลองเล็กๆ ข้างวัดสวนพลู ... ถนนข้างโรงแรมแชงการีร่า ...
เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดสวนพลู ไปออกแยกเจริญกรุง
แล้วตัดตรงถึงริมศาลาที่เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) สร้างไว้
ต่อมาฝรั่งมาตั้งกังหันลมวิดน้ำที่ถนนขวาง จึงเรียกถนนสายนี้ว่า ถนนสีลม หรือ Wind Mill Road
และเรียกคลองบางรักว่าคลองสีลม
สมัยรัชกาลที่ 6 เปิดสัมปทานเดินรถรางบนถนนสีลมเป็นครั้งแรก
จากบางรักถึงประตูน้ำ
พ.ศ. 2506 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีมติให้รื้อรางรถรางและถมคลองสีลม
ภาพจากเน็ท
แม่
ป้าว่า เราเหมือนแม่มาก
แม่ตัวเล็ก ดำ เสียงดี จึงถูกขนานนามว่าดำปืนเสียงดี เตี้ยจักกะแหล่น
ส่วน ป้า ... ม้าดีดกะโหลก
เด็ก ๆ ไปเล่นกันที่หลังโรงพยาบาล เล่นกองทรายของเจ๊กพังหมด
เตี้ยจักกะแหล่น กับ ม้าดีดกะโหลก
แม่เสียงเพราะ ชอบร้องเพลง ... เพลงละครแม่บุนนาค เป็นละครร้อง
โรงละครแม่บุนนาค ตั้งอยู่ริมคลองบางลำพูใกล้ธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบัน
พระเอกชื่อแม่บุนนาค (ลืมถามว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย) นางเอกชื่อแม่ประสาน
ศรีนวลเป็นนางรอง แม่บุญเลื่อนตัวโกง
เล่นเรื่อง สาวเครือฟ้า เครือณรงค์
เวทียกพื้นขึ้น นั่งม้ายาว แพงหน่อยเป็นเก้าอี้ อยู่บางลำพู เล่น 2 ทุ่มถึง 2 ยาม
อ้าว! แล้วป้าไปยังไง
ป้าปีนออกทางหน้าต่างเอาผ้าโยนไปมีคนคอยรับ
ไปกับคนทำกับข้าว ขากลับเจ๊เปิดประตูรับ
แม่เขาเรียบร้อย เขาไม่ไปหรอก ... แต่แม่ร้องเพลงเนาะ
ค่ารถเจ๊ก 10-20 ตัง
เจ๊คือลูกสาวคนเล็กของคุณยายใหญ่ ... คุณป้าเจียร
รูปแม่กับคุณป้าเจียร
เมื่อก่อนหุงข้าวไงคะ ?
สมัยเราใช้ทันใช้หม้อหุงอลูมิเนียม สุกแล้วใช้ไม้สอดที่หูหม้อ ขัดฝาไว้ เทน้ำ แล้วดง
สมัยป้า ใช้หม้อต้มข้าวสุกแล้วยกใส่เสวียน ขัดหูเสวียนเพื่อรัดฝา เทน้ำ แล้วดง
ภาพจากเน็ท
คุณตาทำกับข้าวเก่งใช่ไหมคะ ?
ทำไม่เป็นหรอก
เห็นเขียนตำราอาหารให้แม่
ไปลอกเขามา แอบจดมาเวลาเจ้าของเผลอก็มี
ป้าเสียดาย ทำหาย แต่ของคุณแม่ยังอยู่
หลังคุณตาเกษียณ ได้บำนาญเดือนละ 45 บาท
หน้าบ้านคุณป้าเจียร พี่สาวทำงานเย็บผ้า
ด้านหลังเป็นบ้านมีลูกหลานมาอาศัยอยู่กัน เพื่อเรียนหนังสือที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ลูกหลานเป็นลูกของน้องสาวคุณตา ซึ่งมีครอบครัวอยู่ปัตตานี ... คุณยายเอื้อน
และคุณยายอุ่น ... ขายของอยู่นราธิวาส
แม่เคยพูดเรื่องไฟไหม้ แถวบ้าน
ป้าเล่าว่ามีไฟไหม้ห้องแถว ที่ซอยสุรศักดิ์ ตั้งแต่ไฟลเบรงเก้น ถึงบ้านพอดี
มีคนโบกธงกันไฟที่ตีนสะพาน ด้บเพลิงว่ายายคนนี้บ้า
ไฟก็ไม่มาจริงๆ เป็นธงสามเหลี่ยม
ต่อมาแม่ไปอยู่กับคุณอาเอื้อน... น้องสาวคุณตา ที่นราธิวาส
เมื่อป้าโตก็ไปขายผ้าลาย ซื้อเป็นกุลี 1 กุลี = 20 ผืน ขายกางเกงแพร ปัตตานี
ลงที่สถานีรถไฟโคกโพธิ์ ค่ารถไฟ 16 บาท
พอสามีคุณยายเสีย แม่ก็กลับมาอยู่กรุงเทพกับป้าเจียร
ไปเรียนตัดเสื้อ มาเป็นครูสอนตัดเสื้อที่วัดสุทัศน์
ไปเรียนปักดิ้นที่ซิงเกอร์
การเดินทาง
เดินส่วนใหญ่ โดยรถราง
รถเจ๊กเวลาข้ามสะพานกษัตริย์ศึกสนุก เพราะตูดโด่ง กดไม่ลงก็หงายหลัง
รถรางผ่านหน้าบ้านถนนสีลม ราคา 1 สตางค์ ตีตั๋วต่อ 1/2 สตางค์
มีรถราง จากเจริญกรุงไปถนนตก ไปท่าเตียน
ถนนตกไปสีลม ลงศาลาแดง รพ.จุฬา หมดที่ประตูน้ำ
ท่าเตียนไปบางลำพูมีหลายสาย
ชอบไปบางลำพูหน้าวัดบวร ลงที่ แยกเอส. เอ. บี.
ช็อปปิ้งที่
ห้าง ไวท์อะเวย์ ของเยอะ ... ภายหลังห้างไทยนิยมซื้อกิจการ
หน้าวัดบวร บางลำพู
บอร์เนียวอยู่ถนนตก
จากศาลาแดงไปปากน้ำมีรถไฟ
ไปศิริราช นั่งรถรางไปลงหลักเมือง ข้ามฟากไปศิริราช
เอส.เอ.บี.
อยู่ที่แยกถนนเจริญกรุงตัด กับถนนวรจักร และถนนจักรวรรดิ
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ของฝรั่งชาติเบลเยียม
S. A. B. ย่อมาจาก Société Anonyme Belge pour le Commerce et l'Industrie au Siam
แปลว่า
บริษัทเบลเยียมเพื่อการพาณิชย์และการอุตสาหกรรมในสยาม จำกัด(มหาชน)
ปัจจุบันคือ หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า
ป้า
วันแรกที่เรือบินเข้า วันที่ 8 ธันวา เห็นเขาสาดลูกปืนกลใส่ สนุกดูไฟแลบ
ปี 2485 น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ
เกิดสงคราม ป้าไปอยู่ปากน้ำ พระปะแดงซึ่งเป็นสวนส้ม
คุณตาโดนลูกปืนกลที่ยิงมาจากเครื่องบิน รักษาที่โรงพยาบาลจุฬา
ตอนหลังคุณตามาอยู่กับลูกชายคนโต คือคุณพระสท้านไตรภพ ต้นสกุลสะท้านไตรภพ
ที่บ้านหล่ายต้า จ.ลำปาง และเสียชีวิตที่ลำปาง
ลูกของคุณตากับคุณยายทิม
ตอนที่ไปสัมภาษณ์คุณป้าก็เหลือสองศรีพี่น้อง
ตอนนี้ เหลือเพียงคุณแม่
จึงอยากจดบันทึกเรื่องราวในอดีตไว้