ความเอยความรัก ตอนที่หนึ่ง
ตรงหน้านุ่นขณะนี้คือชีวิน เด็กหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีเมื่อสิบห้าปีก่อน เรารู้จักกันในงานฝึกอบรมงานหนึ่ง ซึ่งมีระยะเวลาอบรมนานถึงสามเดือน มันนานพอที่จะทำให้คนในสถานที่ฝึกอบรมแห่งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงได้รู้จักคุ้นเคยกันดี นุ่นอาวุโสกว่าใครเพื่อนในวัยสามสิบสามปี จึงถูกน้องๆ ในห้องอบรมอุปโลกย์ให้เป็นหัวหน้าแก๊งค์"ซ่าจนหยดสุดท้าย" ในวัยขนาดนั้นนอกจากนุ่นแล้ว น้องๆ อายุต่ำกว่าสามสิบปีทั้งสิ้น
ยังจำได้ดีว่าพอเลิกจากอบรม พวกเราก็มักรวมกลุ่มกันประมาณสักสิบกว่าคน ตั้งวงสรวลเสเฮฮากันเป็นประจำ
"ไอ้วินเหล้าหมดแล้วออกไปซื้อให้หน่อยดิ เอาเบียร์ขวดเขียวมาเผื่อพี่ด้วยนะ"
นุ่นซึ่งเป็นเจ้าแม่หัวหน้าแก๊งค์ ร้องเรียกหนุ่มรุ่นน้องที่ชอบพอเหมือนน้องชายให้ช่วยบริการสาวๆ ในกลุ่ม สมาชิกแก๊งค์เรามีผู้ชายอยู่สองพระหน่อเท่านั้นเอง คือชีวินกับทับทอง ชีวินรูปร่างหน้าตาดี คมเข้มและสูงใหญ่ล่ำสัน ส่วนทับทองผอมบางดูเก้งก้าง สวมแว่นสายตาสั้นหนาเตอะ
"ได้เลยเจ๊...แต่ไหนตังค์ค่าจ้างอ่ะ" แบมือรอรับเงินพร้อมทำท่ายียวน
"วอนมือไหมล่ะแก...ค่าจ้างไร ฉันให้แกลอกข้อสอบตอน พรี เทสต์ วันนี้ไง ยังไม่เอาตังค์แกสักบาท รีบไปรีบมานะ เดี๋ยวขาดตอน" ค้อนเขา แล้วรีบไล่ให้ไปเร็วๆ หนุ่มน้อยทำหน้าทะเล้นใส่
"ฝากไว้ก่อนก็ได้ แล้วค่อยทบต้นทบดอกทีหลัง...นะเจ๊"
ตอนนั้นนุ่นไม่ได้ใส่ใจคำพูดแบบนั้นของเขาสักนิด คิดว่าแค่พูดเล่นๆ ตามประสาเด็กแก่นแก้ว
แต่ต่อมาอีกสิบห้าปีถึงได้รู้ว่าเขาพูดจริง เขารอคอยทบต้นทบดอกเอากับนุ่น แต่สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ตังค์ค่าจ้างคอยบริการนุ่นตลอดระยะเวลาสามเดือนที่รู้จักกันนั่น ทว่ามันคือ
"ผมทบต้นทบดอกรักพี่มานานตั้งสิบห้าปี พี่จ่ายให้ผมได้บ้างหรือยังครับ แม้ไม่ได้ทั้งหมดขอแค่เศษเสี้ยวที่พี่ให้ได้ก็ยังดี"
อะไรนะ! แรกที่ได้ฟังแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ต้องนั่งตกตะลึงไปหลายวินาที ช้อนที่กำลังตักอาหารใส่ปากถึงกับพลัดหล่นจากมือ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ นุ่นเพิ่งได้รับสายเรียกเข้าจากผู้ชายคนหนึ่งในวันนั้น วันที่พอเขาบอกชื่อถึงได้รู้ว่าคือชีวิน เขาย้ายมาประจำการอยู่ที่จังหวัดของนุ่นได้หลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งติดต่อมาหา หลังทักทายกันทางโทรศัพท์เสร็จ ด้วยความดีใจที่ไม่ได้เจอกันมานานมากๆ หลังเลิกงานนุ่นจึงนัดเลี้ยงต้อนรับเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชีวินในวัยสี่สิบดูสง่าภูมิฐาน สมกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น
"ไอ้วิน" นุ่นซึ่งนั่งรออยู่ก่อนอุทานเรียกชื่อ เราสองคนโผเข้าจับมือกัน ใจนึกอยากลูบหลังไหล่น้องชายคนที่สนิทคุ้นเคยกันมากคนนี้ เพราะเขาเป็นคนมีนิสัยดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อนฝูงเสมอ ในสมัยก่อนนุ่นมักกอดคอหนุ่มน้อยเล่นบ่อยๆ แต่ในตอนนี้ด้วยวัยวุฒฺิและคุณวุฒิ เราทั้งสองจึงไม่ได้ทำแบบนั้นอีกแล้ว
ระหว่างนั่งทานอาหารด้วยกันและคุยกันไป เราต่างรื้อฟื้นความหลังสมัยก่อนมาผลัดกันเล่า แล้วพากันหัวเราะเอิ้กอ้าก เรื่องราวในตอนนั้นมีแต่เรื่องน่าขำขัน ขุดคุ้ยขึ้นมาเล่าแล้วมันช่างตลกสิ้นดี
ทว่าหลังจากเบียร์หมดไปหลายขวด สายตาของชีวินที่มองมามันเริ่มดูแปลกๆ ไม่ใช่สายตาสดใสของ"ไอ้วิน" เด็กหนุ่มคนที่วิ่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์มาบริการนุ่นคนนั้นอีกต่อไป แต่มันดูลุ่มลึก มาดหมายและมีแวววิบวับอยู่ข้างในนั้นอย่างประหลาด มันทำให้นุ่นรู้สึกผิดสังเกต จวบจนกระทั่งเขาเอ่ยปากอย่างที่บอกข้างต้น....
"ผมมีบางอย่างอยากสารภาพ ผมหลงรักพี่มานานถึงสิบห้าปี พยายามหาทางย้ายมาทำงานที่นี่ตลอด จนตอนนี้ผมมีบ้านพักอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง ห่างจากบ้านพี่ไม่ถึงห้ากิโล"
รู้ตัวทันทีว่าเรื่องยุ่งยากในชีวิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว....
จบตอน.
ความเอยความรัก ตอนที่หนึ่ง
ความเอยความรัก ตอนที่หนึ่ง
ตรงหน้านุ่นขณะนี้คือชีวิน เด็กหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีเมื่อสิบห้าปีก่อน เรารู้จักกันในงานฝึกอบรมงานหนึ่ง ซึ่งมีระยะเวลาอบรมนานถึงสามเดือน มันนานพอที่จะทำให้คนในสถานที่ฝึกอบรมแห่งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงได้รู้จักคุ้นเคยกันดี นุ่นอาวุโสกว่าใครเพื่อนในวัยสามสิบสามปี จึงถูกน้องๆ ในห้องอบรมอุปโลกย์ให้เป็นหัวหน้าแก๊งค์"ซ่าจนหยดสุดท้าย" ในวัยขนาดนั้นนอกจากนุ่นแล้ว น้องๆ อายุต่ำกว่าสามสิบปีทั้งสิ้น
ยังจำได้ดีว่าพอเลิกจากอบรม พวกเราก็มักรวมกลุ่มกันประมาณสักสิบกว่าคน ตั้งวงสรวลเสเฮฮากันเป็นประจำ
"ไอ้วินเหล้าหมดแล้วออกไปซื้อให้หน่อยดิ เอาเบียร์ขวดเขียวมาเผื่อพี่ด้วยนะ"
นุ่นซึ่งเป็นเจ้าแม่หัวหน้าแก๊งค์ ร้องเรียกหนุ่มรุ่นน้องที่ชอบพอเหมือนน้องชายให้ช่วยบริการสาวๆ ในกลุ่ม สมาชิกแก๊งค์เรามีผู้ชายอยู่สองพระหน่อเท่านั้นเอง คือชีวินกับทับทอง ชีวินรูปร่างหน้าตาดี คมเข้มและสูงใหญ่ล่ำสัน ส่วนทับทองผอมบางดูเก้งก้าง สวมแว่นสายตาสั้นหนาเตอะ
"ได้เลยเจ๊...แต่ไหนตังค์ค่าจ้างอ่ะ" แบมือรอรับเงินพร้อมทำท่ายียวน
"วอนมือไหมล่ะแก...ค่าจ้างไร ฉันให้แกลอกข้อสอบตอน พรี เทสต์ วันนี้ไง ยังไม่เอาตังค์แกสักบาท รีบไปรีบมานะ เดี๋ยวขาดตอน" ค้อนเขา แล้วรีบไล่ให้ไปเร็วๆ หนุ่มน้อยทำหน้าทะเล้นใส่
"ฝากไว้ก่อนก็ได้ แล้วค่อยทบต้นทบดอกทีหลัง...นะเจ๊"
ตอนนั้นนุ่นไม่ได้ใส่ใจคำพูดแบบนั้นของเขาสักนิด คิดว่าแค่พูดเล่นๆ ตามประสาเด็กแก่นแก้ว
แต่ต่อมาอีกสิบห้าปีถึงได้รู้ว่าเขาพูดจริง เขารอคอยทบต้นทบดอกเอากับนุ่น แต่สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ตังค์ค่าจ้างคอยบริการนุ่นตลอดระยะเวลาสามเดือนที่รู้จักกันนั่น ทว่ามันคือ
"ผมทบต้นทบดอกรักพี่มานานตั้งสิบห้าปี พี่จ่ายให้ผมได้บ้างหรือยังครับ แม้ไม่ได้ทั้งหมดขอแค่เศษเสี้ยวที่พี่ให้ได้ก็ยังดี"
อะไรนะ! แรกที่ได้ฟังแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ต้องนั่งตกตะลึงไปหลายวินาที ช้อนที่กำลังตักอาหารใส่ปากถึงกับพลัดหล่นจากมือ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ นุ่นเพิ่งได้รับสายเรียกเข้าจากผู้ชายคนหนึ่งในวันนั้น วันที่พอเขาบอกชื่อถึงได้รู้ว่าคือชีวิน เขาย้ายมาประจำการอยู่ที่จังหวัดของนุ่นได้หลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งติดต่อมาหา หลังทักทายกันทางโทรศัพท์เสร็จ ด้วยความดีใจที่ไม่ได้เจอกันมานานมากๆ หลังเลิกงานนุ่นจึงนัดเลี้ยงต้อนรับเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชีวินในวัยสี่สิบดูสง่าภูมิฐาน สมกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น
"ไอ้วิน" นุ่นซึ่งนั่งรออยู่ก่อนอุทานเรียกชื่อ เราสองคนโผเข้าจับมือกัน ใจนึกอยากลูบหลังไหล่น้องชายคนที่สนิทคุ้นเคยกันมากคนนี้ เพราะเขาเป็นคนมีนิสัยดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อนฝูงเสมอ ในสมัยก่อนนุ่นมักกอดคอหนุ่มน้อยเล่นบ่อยๆ แต่ในตอนนี้ด้วยวัยวุฒฺิและคุณวุฒิ เราทั้งสองจึงไม่ได้ทำแบบนั้นอีกแล้ว
ระหว่างนั่งทานอาหารด้วยกันและคุยกันไป เราต่างรื้อฟื้นความหลังสมัยก่อนมาผลัดกันเล่า แล้วพากันหัวเราะเอิ้กอ้าก เรื่องราวในตอนนั้นมีแต่เรื่องน่าขำขัน ขุดคุ้ยขึ้นมาเล่าแล้วมันช่างตลกสิ้นดี
ทว่าหลังจากเบียร์หมดไปหลายขวด สายตาของชีวินที่มองมามันเริ่มดูแปลกๆ ไม่ใช่สายตาสดใสของ"ไอ้วิน" เด็กหนุ่มคนที่วิ่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์มาบริการนุ่นคนนั้นอีกต่อไป แต่มันดูลุ่มลึก มาดหมายและมีแวววิบวับอยู่ข้างในนั้นอย่างประหลาด มันทำให้นุ่นรู้สึกผิดสังเกต จวบจนกระทั่งเขาเอ่ยปากอย่างที่บอกข้างต้น....
"ผมมีบางอย่างอยากสารภาพ ผมหลงรักพี่มานานถึงสิบห้าปี พยายามหาทางย้ายมาทำงานที่นี่ตลอด จนตอนนี้ผมมีบ้านพักอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง ห่างจากบ้านพี่ไม่ถึงห้ากิโล"
รู้ตัวทันทีว่าเรื่องยุ่งยากในชีวิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว....
จบตอน.