สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ ตั้งใจจะมารีวิวนานแล้วแต่พึ่งวางเขียน(ฮา)

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่หนีที่บ้านไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวค่ะ ที่ผ่านมาอยากไปญี่ปุ่นมาตลอดเพราะเป็นสาวเบียวโอตาคุเบาๆ มีความฝันว่าอยากไปญี่ปุ่น(คนเดียว)มาตั้งแต่อายุ11 จนตอนนี้อายุ 24 ปีบริบูรณ์ค่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นเพราะมีข้อจำกัดเรื่องของเงินและความชอบที่ต่างกับคนอื่น(จะไปกับญาติก็ไม่ชอบ ไม่อยากไปกับทัวร์และพอไปกับญาติเราจะติ่งไม่ได้ค่ะ) เราเลยเลือกที่จะไปคนเดียวค่ะ ซึ่งกว่าจะขอที่บ้านได้ก็ใช้เวลานานพอสมควรแต่เพราะโตและทำงานหาเงินเองได้แล้วที่บ้านเลยปล่อย โดยการเดินทางของเรานั้น เราจองตั๋วของScoot ค่ะ ตอนนั้นรุ่นพี่ที่ทำงานส่งลิ้งค์มาให้ เราก็จองเลยค่ะ

กำหนดของเราคือไปวันที่ 12 พฤษภาคม และกลับในวันที่ 20 ขาไปเราลงที่ Kansai และกลับที่ Narita ค่ะ ค่าตั๋วไปกลับ3,949 บาท/เที่ยวค่ะ แต่รวมโน่นนี่ที่เราเพิ่มด้วยราคาเลยสุทธิที่ 11,062 บาทค่ะ ซึ่งในแผนการเดินทางของเราคือพักที่โอซาก้าก่อน2คืน แล้วค่อยไปเมืองอื่นค่ะ

และนี่คือนกยักษ์ที่เราโดยสารไป ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเราเอ๋อมากในวันที่เดินทางเพราะไปคนเดียวตั้งแต่ออกจากบ้านเลย แล้วพิธีกรรมการเชคอิน โหลดกระเป๋าเราไม่เคยทำเองเลยล่าสุดที่ไปต่างประเทศก็ประมาณ5ปีมาแล้วด้วย ลืมหมดแล้วว่าต้องทำยังไง ไปงมๆถามคนแถวนั้นเอา เครื่องออกไวกว่าในกำหนดนิดนึงค่ะและไม่ดีเลย์เลย กับตันขับเครื่องนิ่มมากตอนเครื่องลงก็ไม่กระแทก แต่เราก็กลัวเพราะขึ้นเครื่องคนเดียวไม่มีเพื่อน(แต่โลกกลมเจอเพื่อนสมัยม.ปลายด้วย55) เราก็ถึงสนามบินคันไซตอน17:00 ตามเวลาของญี่ปุ่นตามกำหนดการ

ที่สนามบินคันไซไม่ต้องรอกระเป๋าเลยค่ะ ไวมากออกมาจากตม.ก็มารับกระเป๋าเดินทางต่อได้เลย ในส่วนของตม.เราผ่านมาง่ายๆปกติ เพราะในพาสปอร์ตเคยไปฮ่องกงมาก่อนแล้ว แต่คราวนี้ฉายเดี่ยวจริงๆก็แอบหวั่นว่าจะไม่ผ่านตม.เหมือนกันค่ะ แต่เพราะพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้างก็โอะฮาโย สวัสดีเจ้าหน้าที่ไปอย่างร่าเริง555

จากนั้นเราก็จะไปที่พักกันในส่วนของที่พัก เราใช้บริการของ booking.comค่ะ ทางจะมาขึ้นรถไฟนั้นก็คือเดินมาชั้นชั้น2ก็จะมีทางเชื่อมหน้าตาประมาณนี้ อันนี้ถ่ายตอนแบกของภาพเลยมึดๆนิดนึง พอเลยทางเชื่อมไปก็จะเจอกับโซนขายตั๋วค่ะ มีทั้งshinkansen /JR /Subway เลือกได้ตามใจค่ะ เราพักที่สถานี Sinimamiya ค่ะเลยเลือกใช้บริการรถสาย Nankai-Kuko Line

โดยการเดินทางทั้งหมดของเรา เราเลือกใช้บริการอินเตอร์เนตของ Sim2fly เพราะราคาคุ้มได้ 8 วันเนต4GB และไม่แพง ราคาแค่ 399 เอง เนตดีใช้ได้ค่ะเพราะเราไลฟ์เฟสทุกวันไม่สะดุดติดขัดอะไร เหมาะสำหรับการใช้งานคนเดียว

หน้าตาตั๋วก็จะเป็นกระดาษเหมือนกระดาษการ์ดแข็งๆเคลือบด้านเลย เราไม่ได้ซื้อพาสในวันแรกค่ะเพราะมีเวลาน้อยไม่คุ้ม เรานั่งรถไฟประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถึงsinimamiyaค่ะ ลงมาจากสถานีก็จะเจอทางม้าลายข้าม4แยกสวยงาม แต่ฝั่งตรงข้ามน่ากลัวเพราะเป็นที่พักของ homeless คนไร้บ้านนอนเยอะ เราเดินหลงไปค่ะT^T เอ๋อมาก เราถึงที่พักประมาณ 1ทุ่มค่ะ ก็จะเห็นวิวสวยงามแบบนี้จากที่พัก

เราพักที่ Hotel Zipang ค่ะ โดยส่วนตัวไปมาแล้วไม่แนะนำให้สาวๆที่ไปคนเดียวพักค่ะ เรานี่แอบกลัว แม้จะมีแยกชั้นระหว่างชายหญิงแต่ก็ค่อนข้างมึดและไม่สะดวกเรื่องของห้องน้ำค่ะ
จากนั้นเราก็ชอปต่อที่ Dontonburi เลยค่ะ โดยนั่งรถไฟจาก Shinimamiya มาลงที่ Namba Station ซึ่งตอนนั้นเราก็เงิบเดินวนไปมาเพราะหาทางออกไม่ได้ค่ะ55 ต้องขอขอบคุณgoogle mapมากทีทำให้เรารอดชีวิตมา
เดินทางถ่ายรูปหาขนมกินไปเรื่อยจนในที่สุดเราก็มาจบที่ร้านปูร้านดังตรงข้างๆแม่น้ำเลยค่ะ


พอทานอิ่ม ถ่ายรูปเล่นจนพอใจเราก็กลับที่พักค่ะ
วันที่2 :: 13 พฤษภาคม 2560
วันนี้เราตื่นค่อนข้างเช้าค่ะ และเฟล55 เพราะฝนตกห้องน้ำของที่พักเต็ม กว่าจะได้ออกจากที่พักก็นานจนเซ็งค่ะ แผนที่วางไว้เสียหมดแต่เราก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ
วันนี้เราเดินทางโดยใช้พาสพิเศษค่ะ เป็นการซื้อตั๋วเที่ยว Kaiyukan Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของคันไซ โดยตั๋วนี้จะเป็นแพคที่สามารถนั่งรถไฟได้เกือบทุกสายเลยค่ะ มียกเว้นบางสายแต่เราจำไม่ได้ละ สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยจ้า
http://www.kaiyukan.com/language/thai/ บัตรสวยงามเอากลับบ้านได้เครื่องไม่ดูดไปเก็บ 55

แต่ก่อนไปดูปลานีน้อยสายแดรกแบบเราฝนตกยังไงก็ลุยค่ะ ฝ่าฝนไปกิน
Eddo Sushi ชื่อดัง โดยการนั่งรถไฟมาลงที่Namba ก่อนที่จะเปลี่ยนสายรถไฟมาที่
Tamagawa Station ค่ะ เดินฝ่าฝนไลฟ์เฟสร้องเพลงให้เพื่อนดูประมาณ 7นาทีก็ถึงค่ะ แต่ตอนนั้นฝนรังแกเราตกหนักมากเราเปียกไปครึ่งตัว T^T มาถึงก็รอคิวอีกประมาณเกือบชั่วโมงแหนะเพราะคนเยอะและเรามาสาย ;;^;; แต่พอได้กินเท่านั้น โคตรอร่อย!! อร่อยมากจนเราร้องไห้ค่ะ น้ำตาไหล(´°̥̥̥̥ω°̥̥̥̥`) เกิดมาไม่เคยกินซูชิอร่อยขนาดนี้ และบางอย่างเราไม่เคยทานเลยด้วยเเต่ได้มาทานที่นี่สั่งมา2เซต 10คำอิ่มมากเพราะคำใหญ่สุดๆ เราได้นั่งหน้าเคาท์เตอร์พอดี กินไปชมเชฟไปค่ะ ข้างๆที่นั่งด้วยกันเป็นคู่รักชาวไทยหมดเลยมีเราเป็นเด็กน้อยหอยสังข์นั่งกินอยู่คนเดียว งอแงคิดถึงแฟนเลยตอนนั้น

น่ากินมั้ยล่ะ หึๆ อร่อยโฮก
ทานเสร็จเราก็เดินทางมาต่อที่
Kaiyukan ค่ะ โดยมาลงที่สถานี
Osakako ค่ะ อันนี้จะเดินทางง่ายค่ะเดินตามคนมา55 ระหว่างทางเดินก็จะเห็นชิงช้าสวรรค์ Tempozan ค่ะ

แต่ด้วยความที่วันนั้นฟาครึ้มทั้งวันท้องฟ้าเลยหม่นๆ เราใช้เวลาอยู่ในอคอเรียมค่อนข้างนานค่ะเพราะมัวแต่คุยกับแมวน้ำ55

พี่ฉลามวาฬที่น่ารัก น่ากัดมากค่ะ

บางทีก็สงสัยว่าพี่กวิ้นเค้ายืมทำอะไรกัน

แมงกะพรุนที่นี่สวยงามและมีเยอะมากค่ะ
เอาใจคนรักแมวน้ำและสิงโตทะเล น้องแอ๋ว





จบจาก kaiyukan เราก็มาขึ้นชิงช้าสวรรค์ต่อค่ะ

สำหรับการขึ้นชิงช้าสวรรค์ถ้าใครมีบัตร JCB หรือkaiyukan pass แบบที่เราใช้อยู่จะมีส่วนลดในการขึ้นชิงช้าค่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นการขึ้นชิงช้าสวรรค์ครั้งแรกของเราด้วย ตอนแรกขึ้นไปก็ไลฟ์คุยกับเพื่อนสนุกสนาน สักพักกลัวค่ะ55 เนื่องจากวันนั้นฝนตกลมแรงกระเช้าแอบสั่นเรานี่เลิกไลฟ์เฟสบุค โทรหาเพื่อนแล้ว...ร้องไห้555 กรี๊ดๆใส่เพื่อนเลย คือมันกลัวอะสูงและนั่งคนเดียวด้วย แต่พอลงมาก็ยิ้มแย้มทำหน้าสวยใส่พนักงานค่ะจะให้เค้ารู้ว่าเรากลัวไม่ด๊ายยย พอลงมาเราก็ชอปปิ้งในนั้นแปบนึงค่ะ เค้าจะมีร้านค้าเหมือนห้างเล็กๆอยู่ จากนั้นเราก็รีบวาร์ปไปที่ปราสาทโอซาก้าค่ะเพราะมีความฝันอยากไปมาตั้งแต่เด็กๆ ฮือ ในที่สุดก็ได้ไปค่ะ ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นด้วยค่ะ โดยเรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Morinomiya Station ค่ะ พอมาถึงก็เดินนิดนึงนะคะ่านสวนสาธารณะ บางคนจะเดินอ้อมหรือเดินตัดมาเลยก็ได้ค่ะ พอมาถึงก็ปราสาท บอกก่อนเลยว่านกกาเยอะมาก

เราได้ขึ้นไปบนปราสาทด้วยค่ะโดยสารลิฟท์ไปชั้นบนสุดและค่อยๆเดินลงมา ภายในก็มีประวัติศาสตร์ต่างๆค่ะ ซึ่งเราก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างเลยไม่สนใจ55 บางส่วนก็ห้ามถ่ายรูปค่ะ พอลงมาชั้น5เห็นอันนี้อดถ่ายมาไม่ได้ พอเห็นแล้วเพลงอิคคิวซังก็ดังขึ้นมาในหัวเลย555

และด้วยความที่อยากมาแต่เด็กเลยไปงอแงให้คนแถวนั้นถ่ายรูปให้ค่ะ

ขากลับเราเดินตัดสวนสาธารณะค่ะตอนนั้นมีการแสดงอะไรสักอย่างด้วย เป็นวงผู้ชายร้องเพลงเพราะมากแต่เราไม่ได้เข้าไปฟังด้านในงาน บรรยากาศรอบๆก็มีคนมาออกกำลังมากมายค่ะ เป็นภาพที่อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง แต่ก่อนอื่นไทยเราคงต้องปรับทัศนีย์ภาพด่วน อย่างน้อยๆก็ปลูกต้นไม่ให้เยอะกว่านี้


น้องแมวในสวนมีคุณลุงมานั่งให้อาหาร เป็นภาพที่อบอุ่นมากค่ะ จริงๆถ่ายรูปมาแต่ไกลมากเลยเบลออย่างรุนแรง
จากนั้นเราก็เดินทางมาชอปปิ้งที่Dontonburi อีกครั้งค่ะเพราะเมื่อวานกินและถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้ชอปอะไรเลย แต่คราวนี้เราเดินเข้ามาอีกทางของถนนค่ะ ก็จะได้ภาพสตรีทแบบที่ไม่เหมือนเมื่อวาน



พอชอปปิ้งเสร็จเราก็กลับที่พักมาเคลียธุระส่วนตัวค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางไปอีกเมืองแล้ว โดยทริปโปซาก้านี้เราไม่ได้มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษค่ะ เลยเลือกเที่ยวเพียงแค่นี้ ต่อไปจะไปนาราและเกียวโตค่ะ ดูต่อในคอมเม้นนะคะ
[CR] 8คืน9วัน4เมือง ไปญี่ปุ่นครั้งแรกและไปคนเดียว ฉบับนีน้อยไซส์พกพา
จากนั้นเราก็ชอปต่อที่ Dontonburi เลยค่ะ โดยนั่งรถไฟจาก Shinimamiya มาลงที่ Namba Station ซึ่งตอนนั้นเราก็เงิบเดินวนไปมาเพราะหาทางออกไม่ได้ค่ะ55 ต้องขอขอบคุณgoogle mapมากทีทำให้เรารอดชีวิตมา
เดินทางถ่ายรูปหาขนมกินไปเรื่อยจนในที่สุดเราก็มาจบที่ร้านปูร้านดังตรงข้างๆแม่น้ำเลยค่ะ
วันที่2 :: 13 พฤษภาคม 2560
วันนี้เราตื่นค่อนข้างเช้าค่ะ และเฟล55 เพราะฝนตกห้องน้ำของที่พักเต็ม กว่าจะได้ออกจากที่พักก็นานจนเซ็งค่ะ แผนที่วางไว้เสียหมดแต่เราก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ
วันนี้เราเดินทางโดยใช้พาสพิเศษค่ะ เป็นการซื้อตั๋วเที่ยว Kaiyukan Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของคันไซ โดยตั๋วนี้จะเป็นแพคที่สามารถนั่งรถไฟได้เกือบทุกสายเลยค่ะ มียกเว้นบางสายแต่เราจำไม่ได้ละ สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยจ้า http://www.kaiyukan.com/language/thai/ บัตรสวยงามเอากลับบ้านได้เครื่องไม่ดูดไปเก็บ 55
แต่ก่อนไปดูปลานีน้อยสายแดรกแบบเราฝนตกยังไงก็ลุยค่ะ ฝ่าฝนไปกิน Eddo Sushi ชื่อดัง โดยการนั่งรถไฟมาลงที่Namba ก่อนที่จะเปลี่ยนสายรถไฟมาที่Tamagawa Station ค่ะ เดินฝ่าฝนไลฟ์เฟสร้องเพลงให้เพื่อนดูประมาณ 7นาทีก็ถึงค่ะ แต่ตอนนั้นฝนรังแกเราตกหนักมากเราเปียกไปครึ่งตัว T^T มาถึงก็รอคิวอีกประมาณเกือบชั่วโมงแหนะเพราะคนเยอะและเรามาสาย ;;^;; แต่พอได้กินเท่านั้น โคตรอร่อย!! อร่อยมากจนเราร้องไห้ค่ะ น้ำตาไหล(´°̥̥̥̥ω°̥̥̥̥`) เกิดมาไม่เคยกินซูชิอร่อยขนาดนี้ และบางอย่างเราไม่เคยทานเลยด้วยเเต่ได้มาทานที่นี่สั่งมา2เซต 10คำอิ่มมากเพราะคำใหญ่สุดๆ เราได้นั่งหน้าเคาท์เตอร์พอดี กินไปชมเชฟไปค่ะ ข้างๆที่นั่งด้วยกันเป็นคู่รักชาวไทยหมดเลยมีเราเป็นเด็กน้อยหอยสังข์นั่งกินอยู่คนเดียว งอแงคิดถึงแฟนเลยตอนนั้น
ทานเสร็จเราก็เดินทางมาต่อที่ Kaiyukan ค่ะ โดยมาลงที่สถานี Osakako ค่ะ อันนี้จะเดินทางง่ายค่ะเดินตามคนมา55 ระหว่างทางเดินก็จะเห็นชิงช้าสวรรค์ Tempozan ค่ะ
เอาใจคนรักแมวน้ำและสิงโตทะเล น้องแอ๋ว
เราได้ขึ้นไปบนปราสาทด้วยค่ะโดยสารลิฟท์ไปชั้นบนสุดและค่อยๆเดินลงมา ภายในก็มีประวัติศาสตร์ต่างๆค่ะ ซึ่งเราก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างเลยไม่สนใจ55 บางส่วนก็ห้ามถ่ายรูปค่ะ พอลงมาชั้น5เห็นอันนี้อดถ่ายมาไม่ได้ พอเห็นแล้วเพลงอิคคิวซังก็ดังขึ้นมาในหัวเลย555
จากนั้นเราก็เดินทางมาชอปปิ้งที่Dontonburi อีกครั้งค่ะเพราะเมื่อวานกินและถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้ชอปอะไรเลย แต่คราวนี้เราเดินเข้ามาอีกทางของถนนค่ะ ก็จะได้ภาพสตรีทแบบที่ไม่เหมือนเมื่อวาน