สวัสดีครับ พี่ๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้นะครับผมอยากมาถ่ายทอดประสบการณ์ของผม เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ คือเนื่องจากที่มาเขียนลงพันทิป เพราะว่าเคยฟังรยการผีรายการหนึ่งใน ยูทูป เค้ามีระบบแบบให้โทรไปเล่าเพื่อที่จะให้ผู้อื่นได้รับฟัง คือผมส่งเรื่องนี้ไปนานมากแล้ว ส่งไปหลายรอบก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา จึงนำเรื่องนี่มาลงพันทิปครับ
************************* พี่ๆคนไหนที่คิดว่าเรื่องนี้เป้นเรื่องแต่ง ผมไม่ได้ห้ามให้คุณคิดไม่ได้นะครับ แต่ขอความกรุณาอย่าคอมเม้นต์บั่นทอนจิตใจ เพราะว่าผมค่อนข้างอ่อนไหวกับคอมเม้นต์แรงๆครับ **********************************
**** เขียนไม่รู้เรื่องก้ขออภัยนะครับเพราะผมไม่ค่อยเก่งเรื่องพิมพ์ ****
เริ่มเรื่องเลยละกัน
เหตุการณ์เกิดช่วงปีที่แล้วครับ เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ตอนนี้ ม.6 แล้ว) อยู่รร.ชื่อดังของจังหวัดลพบุรี ตัวผมพักอาศัยกับพี่ชายอยู่สองคน พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดครับ สาเหตุที่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดเพราะเนื่องจากว่า พ่อของผมเนี่ยเคยเป้นทหารครับ แล้วเค้าก็เออลี่ออก ไปทำสวนทำไร่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งผมกับพี่ก็กำลังเรียนอยู่ และไม่อยากย้ายไปเพราะคิดว่าถ้าย้าย คงไม่มีเพื่อน ก็เลยขออยู่ แล้วบ้านที่อยู่ครับ เป้นบ้านแบบห้องแถวไม้ ของนายทหาร บ้านหลังสีครีม มีหน้าต่างและประตูสีฟ้า ผมอยู่ค่ายหนึ่ง ค่ายทหารรั้วสีเหลือง ซึ่งตั้งอยู่ตรงด้านหนึ่งของสี่แยก คนลพบุรีจะรู้จักครับว่าสี่แยกนี้คือสี่แยกอะไร สี่แยกอานันครับ โอเคมาต่อกัน เพราะความที่ผมอยู่ลำพังกับพี่ พี่ชายจะไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะเป้นคนที่มีสังคมเยอะมาก มีเพื่อนฝูง ชอบออกไปทำงานนอกบ้านหรือไปหากินเหล้าเที่ยวเตร่ข้างนอก ซึ่งผมจะอยู่บ้านคนเดียวซะเป้นส่วนใหญ่ เลยทำให้ขี้เหงา ฮ่าๆ เป็นคนชอบออกกำลังกายครับ เพราะว่าถ้าอ้วนไปจะไม่มีคนมอง จะดูไม่ดี แต่ผมเป้นที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง คือมีอาการแปลกๆเกิดขึ้นบ่อยๆครับ
แล้ววันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 5 ธ.ค. 2559 คือวันนั้น ตอนเย็น ไปเล่นฟิตเนส 3 ชั่วโมง แล้วมาต่อวิ่ง อีก คือสำหรับบางคนมันอาจจะดูจิ๊บจ๋อยหรือเว่อวัง แต่เพราะความอยากลดน้ำหนัก ฮ่าๆ ( คือผมเป้นเกย์ครับ ชอบพี่คนนึง เค้าไม่ชอบผมเพราะผมท้วม เลยหักโหมที่จะลดน้ำหนักแบบเอาเป้นเอาตาย ) จำได้ว่าเล่นแบบเหงื่อเต็มทางเดินเลย พอเล่นเสร็จก็กลับบ้าน พอถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่มครับ ก็นั่งเล่นเฟสเล่นไลน์เล่นมือถือ ทำนู่นทำนี่เพลิน จนลืมหุงข้าว เลยคิดว่าเง้อ คงไม่เป้นไรหรอก ( ทั้งๆที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่กินข้าว ) ก็นั่งแชทๆไป เล่นเสร็จก็ไปอาบน้ำ ซักผ้า ตามปกติ วันนี้พี่ชายไปบ้านแฟนเค้าไม่ได้กลับบ้าน ข้างๆห้องก็ไม่อยู่ครับ คือระแวกบ้านเงียบมาก แล้วห้องแถวผม ตรงข้ามจะเป้นบ้านร้าง แล้วบ้านหลังนี้จะเยื้องๆทางขวาหน่อยๆ แต่จะเห็นได้ชัดเลยถ้าก้าวออกมานอกบ้าน ก็ผมนอนอยู่ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง แบบเหมือนลมมันตีขึ้นมา รู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก หัวใจก็เต้นแรง พอจะข่มตานอนก้รู้สึกแบบว่าหัวใจจะหยุดเต้น รู้ว่าหิวมากแต่เพราะความไม่อยากอ้วนเลยทน จนลากยาวไปถึง 4 ทุ่ม ตอนนี้คือไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่กินข้าวคือกูตายแน่ๆ เลยตัดสินใจลงมาจากชั้นสอง คว้ากุญแจรถ กุญแจบ้าน พอออกปุ๊บปิดประตูล็อคกุญแจ สตาร์ทเครื่องเสร็จ มันมีเสียงนึงลอดออกมาดัง
" ตึงๆๆๆๆๆ "
ผมก็อุทานไป " เฮี่ย "
เพราะความตกใจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วต้องบึ่งรถไปหาของกิน ซึ่งแถวนี้ร้านข้าวปิดหมดแล้ว ก้ต้องบึ่งรถไปหาของกินที่เซเว่นครับ ซึ่งเซเว่นที่ใกล้ที่สุด คือเซเว่นที่อยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนที่ผมขับรถออกมา ผมต้องเลี้ยววนอ้อม เพราะประตูค่ายช่องทางที่ 2 ปิด และเมื่อผมวนผมต้องขี่ไปตรงหน้าบ้านร้างหลังนี้ ผมก็ไม่ได้มองอะไร แล้วถนนเส้นนี้ เป้นบ้านร้างที่แบบร้างจริงจัง ทางค่ายยังไม่ได้บูรณะขึ้นมาใหม่ ผมก็ขี่ไปเรื่อยๆ จนถึงประตูทางออกก็แลกบัตร พอแลกบัตรมาปุ๊บก็รีบขี่รถครับ เลี้ยวซ้ายก็จะเป้นสีแยกเลย อถึงแยกเสร็จก็มุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งนี้ทันที เพื่อไปหาข้าวกิน ( มันอาจจะดูตลกนะครับ แต่ไม่ไหวแล้วตริงๆ คือคนกำลังจะตาย ) ตอนที่ขับไปก้รู้สึก จุกที่คอ จุกที่อก เหมือนจะหายใจไม่ออก รู้สึกไม่ดีมากๆ รีบบึ่งเข้ารพ. พอเข้ามาแล้วก้จอดรถ มุ่งหน้าเข้าเซเว่น หยิบๆ ตอนนี้นไม่คิดอะไร หิวมากๆ ส่งข้าวให้เว็บ เปิดแซนวิชกินตอนนั้นเลย ด้านหน้าเซเว่นอะครับจะเป้นป้อมทหารสำหรับเฝ้ารถผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย เป้นรถมอไซค์นะครับ วันนั้นจำได้ว่านาคีตอนจบ เอาข้าวมากินนั่งดูเป้นเพเื่อนทหาร ก็ไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่กินข้าวไปด้วยดูไปด้วยลดความเครียดไปพลางๆ พอนาคีจบก็ไปนั่งแถวๆม้านั่งรพ. ตรงนี้ไม่น่ากลัวนะครับ เพราะว่ามีไฟมีทหารเฝ้าอยู่ ก้นั่งดูอาการว่าโอเครไหม โอเครหรือยัง ก็หยิบดทรศัพท์ออกมาคุยกะเพื่อนเล่นๆ จนคิดว่าเออ กุคงโอเคแล้วล่ะ เลยขี่รถกลับบ้าน ตอนที่เอารถออก แล้วค่อยๆขี่ออกมา พี่ทหารคนนึงที่นั่งดุทีวีด้วย ทักว่า
" เอ้า น้อง ไม่รอพ่อก่อนหรอ "
ผมคิดว่าเค้าอำก็เลยตอบกลับไปว่า " ไม่รออะ "
แล้วตอนพอขี่รถออกมามันต้องอ้อมตึกของโรงบาล ผมก็อ้อม แล้วตอนขี่ เห้นทหารคนนึง ยืนอยู่ข้างหน้า ก็เลยหลบๆ ครั้งแรกก้ไม่คิดอะไร เพราะว่าโรงพยาบาลนี้เป้โรงพยาบาลที่มีค่ายทหารอะครับ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร พอถึงทางออก ก้เลย ขี่ออกมา ดูนาฬิกา ก้ประมาณ น่าจะห้าทุ่มได้มั้ง ก้ขี่รถมา แล้วด้านซ้ายของถนนจะเป้นปั๊มน้ำมันเก่าๆ อยู่ ผมก้มองๆไป ไม่คิดอะไร เห้นทหารคนนึง ยืนนิ่งอยู่ผมก้มองมองจนผ่านไป เค้าสบตาผมด้วย คราวนี้ผมเริ่มรู้สึกกลัวๆ เลยบิดให้มันเร็วขึ้น.
ขออนุญาติมาต่อนะครับ เดี๋ยวไปทำความสะอาดแผลก่อน
เจอดีตอนหิว ( ผี )
************************* พี่ๆคนไหนที่คิดว่าเรื่องนี้เป้นเรื่องแต่ง ผมไม่ได้ห้ามให้คุณคิดไม่ได้นะครับ แต่ขอความกรุณาอย่าคอมเม้นต์บั่นทอนจิตใจ เพราะว่าผมค่อนข้างอ่อนไหวกับคอมเม้นต์แรงๆครับ **********************************
**** เขียนไม่รู้เรื่องก้ขออภัยนะครับเพราะผมไม่ค่อยเก่งเรื่องพิมพ์ ****
เริ่มเรื่องเลยละกัน
เหตุการณ์เกิดช่วงปีที่แล้วครับ เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ตอนนี้ ม.6 แล้ว) อยู่รร.ชื่อดังของจังหวัดลพบุรี ตัวผมพักอาศัยกับพี่ชายอยู่สองคน พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดครับ สาเหตุที่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดเพราะเนื่องจากว่า พ่อของผมเนี่ยเคยเป้นทหารครับ แล้วเค้าก็เออลี่ออก ไปทำสวนทำไร่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งผมกับพี่ก็กำลังเรียนอยู่ และไม่อยากย้ายไปเพราะคิดว่าถ้าย้าย คงไม่มีเพื่อน ก็เลยขออยู่ แล้วบ้านที่อยู่ครับ เป้นบ้านแบบห้องแถวไม้ ของนายทหาร บ้านหลังสีครีม มีหน้าต่างและประตูสีฟ้า ผมอยู่ค่ายหนึ่ง ค่ายทหารรั้วสีเหลือง ซึ่งตั้งอยู่ตรงด้านหนึ่งของสี่แยก คนลพบุรีจะรู้จักครับว่าสี่แยกนี้คือสี่แยกอะไร สี่แยกอานันครับ โอเคมาต่อกัน เพราะความที่ผมอยู่ลำพังกับพี่ พี่ชายจะไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะเป้นคนที่มีสังคมเยอะมาก มีเพื่อนฝูง ชอบออกไปทำงานนอกบ้านหรือไปหากินเหล้าเที่ยวเตร่ข้างนอก ซึ่งผมจะอยู่บ้านคนเดียวซะเป้นส่วนใหญ่ เลยทำให้ขี้เหงา ฮ่าๆ เป็นคนชอบออกกำลังกายครับ เพราะว่าถ้าอ้วนไปจะไม่มีคนมอง จะดูไม่ดี แต่ผมเป้นที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง คือมีอาการแปลกๆเกิดขึ้นบ่อยๆครับ
แล้ววันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 5 ธ.ค. 2559 คือวันนั้น ตอนเย็น ไปเล่นฟิตเนส 3 ชั่วโมง แล้วมาต่อวิ่ง อีก คือสำหรับบางคนมันอาจจะดูจิ๊บจ๋อยหรือเว่อวัง แต่เพราะความอยากลดน้ำหนัก ฮ่าๆ ( คือผมเป้นเกย์ครับ ชอบพี่คนนึง เค้าไม่ชอบผมเพราะผมท้วม เลยหักโหมที่จะลดน้ำหนักแบบเอาเป้นเอาตาย ) จำได้ว่าเล่นแบบเหงื่อเต็มทางเดินเลย พอเล่นเสร็จก็กลับบ้าน พอถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่มครับ ก็นั่งเล่นเฟสเล่นไลน์เล่นมือถือ ทำนู่นทำนี่เพลิน จนลืมหุงข้าว เลยคิดว่าเง้อ คงไม่เป้นไรหรอก ( ทั้งๆที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่กินข้าว ) ก็นั่งแชทๆไป เล่นเสร็จก็ไปอาบน้ำ ซักผ้า ตามปกติ วันนี้พี่ชายไปบ้านแฟนเค้าไม่ได้กลับบ้าน ข้างๆห้องก็ไม่อยู่ครับ คือระแวกบ้านเงียบมาก แล้วห้องแถวผม ตรงข้ามจะเป้นบ้านร้าง แล้วบ้านหลังนี้จะเยื้องๆทางขวาหน่อยๆ แต่จะเห็นได้ชัดเลยถ้าก้าวออกมานอกบ้าน ก็ผมนอนอยู่ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง แบบเหมือนลมมันตีขึ้นมา รู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก หัวใจก็เต้นแรง พอจะข่มตานอนก้รู้สึกแบบว่าหัวใจจะหยุดเต้น รู้ว่าหิวมากแต่เพราะความไม่อยากอ้วนเลยทน จนลากยาวไปถึง 4 ทุ่ม ตอนนี้คือไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่กินข้าวคือกูตายแน่ๆ เลยตัดสินใจลงมาจากชั้นสอง คว้ากุญแจรถ กุญแจบ้าน พอออกปุ๊บปิดประตูล็อคกุญแจ สตาร์ทเครื่องเสร็จ มันมีเสียงนึงลอดออกมาดัง
" ตึงๆๆๆๆๆ "
ผมก็อุทานไป " เฮี่ย "
เพราะความตกใจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วต้องบึ่งรถไปหาของกิน ซึ่งแถวนี้ร้านข้าวปิดหมดแล้ว ก้ต้องบึ่งรถไปหาของกินที่เซเว่นครับ ซึ่งเซเว่นที่ใกล้ที่สุด คือเซเว่นที่อยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนที่ผมขับรถออกมา ผมต้องเลี้ยววนอ้อม เพราะประตูค่ายช่องทางที่ 2 ปิด และเมื่อผมวนผมต้องขี่ไปตรงหน้าบ้านร้างหลังนี้ ผมก็ไม่ได้มองอะไร แล้วถนนเส้นนี้ เป้นบ้านร้างที่แบบร้างจริงจัง ทางค่ายยังไม่ได้บูรณะขึ้นมาใหม่ ผมก็ขี่ไปเรื่อยๆ จนถึงประตูทางออกก็แลกบัตร พอแลกบัตรมาปุ๊บก็รีบขี่รถครับ เลี้ยวซ้ายก็จะเป้นสีแยกเลย อถึงแยกเสร็จก็มุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งนี้ทันที เพื่อไปหาข้าวกิน ( มันอาจจะดูตลกนะครับ แต่ไม่ไหวแล้วตริงๆ คือคนกำลังจะตาย ) ตอนที่ขับไปก้รู้สึก จุกที่คอ จุกที่อก เหมือนจะหายใจไม่ออก รู้สึกไม่ดีมากๆ รีบบึ่งเข้ารพ. พอเข้ามาแล้วก้จอดรถ มุ่งหน้าเข้าเซเว่น หยิบๆ ตอนนี้นไม่คิดอะไร หิวมากๆ ส่งข้าวให้เว็บ เปิดแซนวิชกินตอนนั้นเลย ด้านหน้าเซเว่นอะครับจะเป้นป้อมทหารสำหรับเฝ้ารถผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย เป้นรถมอไซค์นะครับ วันนั้นจำได้ว่านาคีตอนจบ เอาข้าวมากินนั่งดูเป้นเพเื่อนทหาร ก็ไม่รู้จักกันหรอกครับ แต่กินข้าวไปด้วยดูไปด้วยลดความเครียดไปพลางๆ พอนาคีจบก็ไปนั่งแถวๆม้านั่งรพ. ตรงนี้ไม่น่ากลัวนะครับ เพราะว่ามีไฟมีทหารเฝ้าอยู่ ก้นั่งดูอาการว่าโอเครไหม โอเครหรือยัง ก็หยิบดทรศัพท์ออกมาคุยกะเพื่อนเล่นๆ จนคิดว่าเออ กุคงโอเคแล้วล่ะ เลยขี่รถกลับบ้าน ตอนที่เอารถออก แล้วค่อยๆขี่ออกมา พี่ทหารคนนึงที่นั่งดุทีวีด้วย ทักว่า
" เอ้า น้อง ไม่รอพ่อก่อนหรอ "
ผมคิดว่าเค้าอำก็เลยตอบกลับไปว่า " ไม่รออะ "
แล้วตอนพอขี่รถออกมามันต้องอ้อมตึกของโรงบาล ผมก็อ้อม แล้วตอนขี่ เห้นทหารคนนึง ยืนอยู่ข้างหน้า ก็เลยหลบๆ ครั้งแรกก้ไม่คิดอะไร เพราะว่าโรงพยาบาลนี้เป้โรงพยาบาลที่มีค่ายทหารอะครับ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร พอถึงทางออก ก้เลย ขี่ออกมา ดูนาฬิกา ก้ประมาณ น่าจะห้าทุ่มได้มั้ง ก้ขี่รถมา แล้วด้านซ้ายของถนนจะเป้นปั๊มน้ำมันเก่าๆ อยู่ ผมก้มองๆไป ไม่คิดอะไร เห้นทหารคนนึง ยืนนิ่งอยู่ผมก้มองมองจนผ่านไป เค้าสบตาผมด้วย คราวนี้ผมเริ่มรู้สึกกลัวๆ เลยบิดให้มันเร็วขึ้น.
ขออนุญาติมาต่อนะครับ เดี๋ยวไปทำความสะอาดแผลก่อน