
ภาพเก่าอายุ 80 ปีอาจจะใช่ Amelia Earhart Credit: National Archives
ภาพขาวดำเพิ่งจะถูกค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ Marshall Islands
อาจจะไขเรื่องลึกลับถึงการหายตัวไปของ Amelia Earhart
แต่ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่าเป็นภาพของเธอในรูปถ่ายดังกล่าว
ภาพขาวดำที่ถ่ายไว้ถึง 80 ปีแล้วแสดงว่า
Amelia Earhart กับ Fred Noonan
ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนจำนวนหนึ่งที่ท่าเรือ
บนเกาะ Jaluit Atoll หนึ่งใน Marshall Islands ในปี 1937
ตามรายงานโทรทัศร์ช่องนักวิจัยประวัติศาสตร์ NBC ได้รายงานวันที่ 6 กรกฏาคม
นักวิจัยได้ตั้งข้อสังเกตว่า Amelia Earhart
อาจจะถูกทหารญี่ปุ่นจับกุมควบคุมตัวไว้
เพราะมีการตั้งฐานทัพญี่ปุ่นไว้ที่นั่น
อย่างไรก็ตาม Live Science ได้ติดต่อสอบถามผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน
ต่างบอกว่าขอเวลาเรียนรู้และศึกษาภาพถ่ายนี้ก่อน
และตรวจสอบประวัติที่มาที่ไปเรื่องนี้ก่อน
จะสรุปผลว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผลถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์หรือไม่
" ภาพถ่ายใหม่รูปนี้สร้างความตื่นเต้นได้อย่างมาก
ผมกำลังรอคอยว่าเรื่องนี้จะได้รับการยอมรับ
เพราะเราสามารถเห็นว่าพวกเขาทำอะไรและทำอย่างไรกับภาพนี้ "
Richard Jantz ผู้อำนวยการกิติคุณ Forensic Anthropology Center
ที่ University of Tennessee เขต Knoxville
ผู้กำลังศึกษาเกี่ยวกับการหายตัวไปของ Earhart
ให้สัมภาษณ์กับ Live Science
แต่ผู้เชี่ยวชาญรายอื่นตั้งข้อสงสัยเช่นกัน
" สิ่งที่สร้างความลังเลใจให้กับผมคือ
ภาพถ่ายด้านข้าง ไม่ใช่ภาพถ่ายตรงเต็มหน้า
ภาพถ่ายด้านหน้าจะจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการเปรียบเทียบภาพได้เป็นอย่างดี "
Ann Ross ผู้อำนวยการ Forensic Sciences Institute ที่ North Carolina State University
ให้สัมภาษณ์กับ Live Science ผ่านทาง email
Amelia Earhart ทำสถิติหลายครั้งในด้านความเร็วและระยะทางในช่วงปี 1930
รวมทั้งเธอมีชื่อเสียงอย่างมากในการบินข้านมหาสมุทร Atlantic ในปี 1932
เธอเป็นสตรีคนแรกที่มีความสามารถในด้านนี้
แต่การหายตัวไปของเธอในการผจญภัยครั้งสุดท้าย
เป้าหมายคือ การเป็นสตรีคนแรกที่บินรอบโลก
สร้างความสนใจอย่างยิ่งให้กับสาธารณะชนและนักวิทยาศาสตร์
Amelia Earhart กับ Fred Noonan วางแผนบินระยะทาง 29,000 ไมล์ (46,000 กิโลเมตร)
ตามเส้นทางรอบเส้นศูนย์สูตรโดยเริ่มต้นจากเมือง Miami ในวันที่ 1 มิถุนายน 1937
หลังจากบินได้เพียง 29 วัน เครื่องบินของเธอที่มีชื่อเรียกว่า Electra
ต้องลงจอดที่ Lae ประเทศ New Guinea ในมหาสมุทร Pacific
ทั้งคู่วางแผนว่าจะบินไปที่ Howland Island
แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายอาจจะเป็นสาเหตุอย่างหนึ่ง
ที่รบกวนคลื่นวิทยุและแผนที่ที่ไม่ถูกต้อง
ทำให้ทั้งคู่ต่างหลงทาง เสียงวิทยุครั้งสุดท้ายของทั้งคู่
ได้ยินในวันที่ 2 กรกฏาคม 1937
สหรัฐอเมริการประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้วในวันที่ 5 มกราคม 1939
แต่ก็ยังไม่มีใครค้นพบซากศพของเธอ
ภาพที่ถูกค้นพบใหม่นี้มีขนาด 8X10 นิ้ว(20X25 เซ็นติเมตร)
ภาพระบุปี 1937 และรายงานว่าภาพนี้ถ่ายโดยสายลับสหรัฐ
ขณะที่กำลังสอดแนมกองทัพญี่ปุ่นใน Marshall Islands
นักวิจัยช่องประวัติศาตร์ ให้สัมภาษณ์กับ NBC
นักวิจัยประวัติศาสตร์ได้ค้นพบภาพนี้ในไฟล์ภาพข้อมูลแห่งชาติ U.S. National Archives file
Shawn Henry อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร FBI จะบรรยายการค้นพบเรื่องนี้
เป็นเวลา 2 ชั่วโมงในรายการประวัติศาสตร์พิเศษ -
Amelia Earhart: The Lost Evidence ออกอากาศตอน 2 ทุ่มที่ CDT Sunday (9 กรกฏาคม)
" ในภาพจะเห็นสตรีตัดผมสั้นที่ดูเหมือนกับ Earhart กำลังนั่งอยู่บนท่าเรื่อ
เธอสวมกางเกงแบบที่ Earhart ชอบสวมใส่เป็นประจำ
และขนาดรูปร่างของเธอก็สอดคล้องกับภาพถ่ายต่าง ๆ ของ Earhart "
Shawn Henry ให้สัมภาษณ์กับ NBC
" ที่ใกล้ ๆ กันนั้นก็ดูเหมือนจะเป็น Noonan
(เขามีจมูกโด่งที่ดูโดดเด่นกับหัวเถิกแต่ในรูปทรงผมแทบบังใบหน้า)
ยืนอยู่ถัดไปจากกลุ่มชาวบ้าน "
Ken Gibson ผู้เชี่ยวชาญด้านการจดจำใบหน้าให้สัมภาษณ์กับ NBC

วงกลมสีเหลืองที่แยกกันระบุว่าเป็น Amelia Earhart กับ Fred Noonan Credit: National Archives
" การวิเคราะห์ครั้งนี้เปิดกว้างมากในการตีความ
ภาพของ Noonan ดูมืดมากและคงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเลย
และเธอไม่แน่ใจเช่นกันว่า การตัดทรงผมสั้น ๆ ของสตรีช่วงนั้นเป็นเช่นใด
อย่างไรก็ตามถ้าในภาพเป็น Earhart
ก็ดูเหมือนว่าท่าทางเธอไม่ได้ถูกจับเป็นตัวประกันแต่อย่างใด
ฉันอยากจะพูดว่า ภาพนี้ไม่น่าเชื่อถือ หรือระบุได้ชัดเจน "
Ann Ross ให้สัมภาษณ์ว่า
ทางด้านขวามือของภาพนี้
Koshu เรือญี่ปุ่นดูเหมือนบรรทุกเครื่องบินบนลำเรือ
นักวิเคราะห์ภาพถ่ายประมาณการว่ายาวราว 38 ฟุต (11.5 เมตร)
เที่ยบเท่ากับความยาว Electra เครื่องบินของ Earhart
และภาพดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่าไม่มีการตกแต่งแต่อย่างใด
ตามรายงานข่าวของ NBC
ถ้าบุคคลในภาพเป็น Earhart กับ Noonan จริง
บางทีทั้งคู่อาจจะรอดตายด้วยการลงจอดบน Marshall Islands
ตามตำนานชาวเกาะที่เคยบอกเล่าเรื่องนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นที่จดจำไว้มีในรูปแสตมป์ที่ระลึกของ
Republic of the Marshall Islands ในปี 1987
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของเที่ยวบินครั้งสุดท้ายของเธอ
ตามรายงานข่าวของ NBC
" เราเชื่อว่าเรือ Koshu พาเธอไปที่เกาะ Saipan
[ใน Mariana Islands ราว 1,800 ไมล์/3,000 กิโลเมตร
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Marshall Islands]
และเธอเสียชีวิตที่นั่นภายใต้การควบคุมตัวของญี่ปุ่น "
Gary Tarpinian ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตช่องประวัติศาตร์พิเศษ ให้สัมภาษณ์กับ NBC

วงกลมสีเหลืองคล้ายกับ Electra เครื่องบินของ Amelia Earhart Credit: National Archives
เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐรับรู้หรือไม่ว่าใครเป็นใครในภาพนี้
ทีมข่าวได้ไปที่ญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูลจาก กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงกลาโหม และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
แต่ทั้งสามหน่วยงานบอกว่าไม่มีรายงานเรื่องนี้
เรื่องที่ Earhart อยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น
ซึ่งบางทีอาจเป็นไปได้ที่ข้อมูลดังกล่าวสูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
มีแนวคิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ระหว่างเที่ยวบินสุดท้ายของ Earhart
กลุ่มเพื่อการฟื้นฟูอากาศยานประวัติศาสตร์นานาชาติ (TIGHAR)
The International Group for Historic Aircraft Recovery
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งอยู่ที่เมือง Pennsylvania
มีแนวคิดว่าเครื่องบินของ Earhart กับ Noonan
น้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะหมดและได้ลงจอดบนเกาะ Gardner (ปัจจุบันคือ Nikumaroro)
ระยะทางประมาณ 400 ไมล์ทางตอนใต้ใต้ของเกาะ Howland
คือ สถานที่ทั้งคู่ตายหลังจากเครื่องบินอับปาง

Ric Gillespie ไม่เชื่อว่าภาพนี้คือ Earhart กับ Noonan
Ric Gillespie นักเขียนเรื่อง Finding Amelia
และผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ TIGHAR
บอกอย่างมั่นใจกับ BBC ว่า
" ภาพนี้ที่ชาวบ้านเชื่อกัน ผมค่อนข้างประหลาดใจ
ผมหมายความว่า โอ้ พระเจ้า
ดูที่ภาพนี่ซิ ... ลองใช้หัวสมองตรองดูก่อน
มันไม่ได้ระบุวันที่ พวกเขาคิดว่าอยู่ในช่วงปี 1937
โอเค ถ้ามันเป็นวันที่ 1 กรกฏาคม 1937
(เสียงเรียกทางวิทยุครั้งสุดท้าย 2 กรกฏาคม 1937)
มันก็ไม่ใช่ Amelia เพราะเธอยังไม่ขึ้นบินเลย
ถ้ามันเป็นช่วงปี 1935 หรือ 1938 ยิ่งไม่ใช่เธอเลย....
ภาพนี้ดูเหมือนว่าแอบถ่ายจากช่องหน้าต่างแคบ ๆ
ภายในช่วงสองสามวันตอนที่เธอหายตัวไป
ถ้าภาพมาจากหน่วยสืบราชการลับกองทัพเรือ
Office of Naval Intelligence ก็เป็นเรื่องธรรมดามาก
สหรัฐต้องการภาพถ่ายพวกกองทัพเรือญี่ปุ่นอยู่แล้ว
และภาพนี้บอกอะไรบ้างละ ... Jaluit Atoll - Jaluit Island
มันไม่ได้บ่งบอกเลยว่า Earhart ถูกญี่ปุ่นควบคุมตัว
ถ้าในภาพ Earhart ถูกญี่ปุ่นควบคุมตัว ไหนละญี่ปุ่น
ไม่มีทหารสักคนในภาพ ไม่มีใครแต่งเครื่องแบบทหารในภาพนี้สักคนเลย
ภาพคนที่ว่าเป็น Earhart ควรเป็นสตรีผิวขาว
แต่ผมเธอยาวมากกว่าน่าจะเป็นของ Earhart
เรามีภาพถ่ายจำนวนมากของ Earhart
ก่อนที่เธอจะออกบิน และผมของเธอสั้นกว่าภาพนี้มาก
ส่วนภาพผู้ชายที่ระบุว่าเป็น Noonan ไม่น่าจะใช่
เพราะสีเสื้อผิดไป ชายในภาพสวมเสื้อสีขาว
แต่ Noonan สวมเสื้อกางเกงสีดำเป็นประจำ
และ Amelia จะไม่ใช้เสื้อผ้าแบบนี้ในตอนบิน
หรือว่าคนญี่ปุ่นมอบเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับเธอ
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างผิดความเป็นจริง "

เกาะ Nikumaroro ไม่มีคนอยู่อาศัยในตอนที่ Earhart นำเครื่องบินลงจอดที่นี่
เกาะ Nikumaroro ที่คาดว่าเครื่องบิน Earhart ลงจอดที่นั่น
เคยมีคนพบเศษชิ้นส่วนกระดูกที่เกาะแห่งนี่ในปี 1940
ตอนแรกคาดว่าจะเป็นของเธอ แต่แพทย์ระบุว่าเป็นของผู้ชาย
Ric Gillespie ยังได้พาทีมงานสำรวจ 11 คนไปที่นี่
เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับชะตากรรมของ Earhart
เกาะแห่งนี้ยังไม่มีใครมาอยู่ในตอนที่ Earhart ลงจอดที่นั่น
ทีมงานได้ค้นพบกล่องเครื่องสำอางค์สตรีในช่วงปี 1930
ที่เป็นที่ยอดนิยมของสตรีสหรัฐ
พบครีมบำรุงผิว
และเศษเสื้อแจ็กแก็ตแบบใช้ซิป
" จุดที่มีเสียงวิทยุเรียกจากเครื่องบินของ Earhart หลังจากเครื่องบินตก
มีการเรียก คืนแล้วคืนเล่า
(ในช่วงกลางคืนที่นั่น แต่จะเป็นช่วงเวลากลางวันของสหรัฐ)
คาดว่าเครื่องบินน่าจะอยู่บนบก
เพราะถ้าอยู่ในน้ำ วิทยุน่าจะเปียกน้ำและใช้การไม่ได้
หลังจาก 6 คืนผ่านไปสัญญาณวิทยุก็ขาดหายไป
(ในยุคนั้นยังไม่มีระบบดาวเทียม/GPS
วิทยุรับส่งคลื่น SW รับส่งได้ไกลแต่ไม่ค่อยชัด)
เราคิดว่าเครื่องบินน่าจะลงจอดบนแนวโขดหินปะการังรอบเกาะ
ซึ่งเป็นที่แบนราบ แห้งตอนน้ำลง และมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงตลอดเวลา
ในคืนที่ 6 เครื่องบินก็ถูกกวาดลงทะเลไปในที่สุดด้วยกระแสน้ำ
และตอนที่เครื่องบินจากกองเรือรบไปบินค้นหาอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เครื่องบินก็จมหายไปแล้ว ทั้งคู่อาจจมหายไปในท้องทะเลเพราะกระแสน้ำก็ได้
ทำให้เรื่องลึกลับของคนทั้งสองยังรอการพิสูจน์อยู่ " Ric Gillespie

มีดพับแบบของใช้ประจำตัว Earhart

Ric Gillespie กับทีมงานค้นหาบนเกาะ Nikumaroro ที่เชื่อว่าเครื่องบิน Earhart ตกลงที่นี่
ทีมงานกลุ่มนี้ได้ร่วมมือกับ National Geographic
กำลังพาสุนัขนิติวิทยาศาสตร์ไปที่ Nikumaroro
เพื่อสูดดมหากระดูกของมนุษย์/นำมาตรวจสอบว่ากระดูกดังกล่าว
จะตรงกับ Earhart กับ Noonan หรือไม่ ตามข้อสันนิษฐานดังกล่าวนี้

ระยะทางระหว่าง Jaluit Atoll สถานที่ถ่ายภาพนี้ กับ Howland Island ที่ซึ่งคาดว่าเครื่องบิน Amelia Earhart ลงจอดที่นั่น
แต่นักวิจัยบางคนคาดว่า Amelia Earhart ลงจอดที่ Nikumaroro ที่มา Google Maps
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/kwoygv
https://goo.gl/6aGvBq
https://goo.gl/3oqeu5

Earhart กับ Noonan ใน Natal ที่ Brazil เดือนมิถุนายน 1937
Topical Press Agency/Getty Images

ข้อมูลเพิ่มเติม
https://goo.gl/zBK6QA
ภาพถ่ายขาวดำที่มีเงื่อนงำว่า Amelia Earhart รอดตายจากเครื่องบินตก
ภาพเก่าอายุ 80 ปีอาจจะใช่ Amelia Earhart Credit: National Archives
ภาพขาวดำเพิ่งจะถูกค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ Marshall Islands
อาจจะไขเรื่องลึกลับถึงการหายตัวไปของ Amelia Earhart
แต่ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่าเป็นภาพของเธอในรูปถ่ายดังกล่าว
ภาพขาวดำที่ถ่ายไว้ถึง 80 ปีแล้วแสดงว่า
Amelia Earhart กับ Fred Noonan
ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนจำนวนหนึ่งที่ท่าเรือ
บนเกาะ Jaluit Atoll หนึ่งใน Marshall Islands ในปี 1937
ตามรายงานโทรทัศร์ช่องนักวิจัยประวัติศาสตร์ NBC ได้รายงานวันที่ 6 กรกฏาคม
นักวิจัยได้ตั้งข้อสังเกตว่า Amelia Earhart
อาจจะถูกทหารญี่ปุ่นจับกุมควบคุมตัวไว้
เพราะมีการตั้งฐานทัพญี่ปุ่นไว้ที่นั่น
อย่างไรก็ตาม Live Science ได้ติดต่อสอบถามผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน
ต่างบอกว่าขอเวลาเรียนรู้และศึกษาภาพถ่ายนี้ก่อน
และตรวจสอบประวัติที่มาที่ไปเรื่องนี้ก่อน
จะสรุปผลว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผลถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์หรือไม่
" ภาพถ่ายใหม่รูปนี้สร้างความตื่นเต้นได้อย่างมาก
ผมกำลังรอคอยว่าเรื่องนี้จะได้รับการยอมรับ
เพราะเราสามารถเห็นว่าพวกเขาทำอะไรและทำอย่างไรกับภาพนี้ "
Richard Jantz ผู้อำนวยการกิติคุณ Forensic Anthropology Center
ที่ University of Tennessee เขต Knoxville
ผู้กำลังศึกษาเกี่ยวกับการหายตัวไปของ Earhart
ให้สัมภาษณ์กับ Live Science
แต่ผู้เชี่ยวชาญรายอื่นตั้งข้อสงสัยเช่นกัน
" สิ่งที่สร้างความลังเลใจให้กับผมคือ
ภาพถ่ายด้านข้าง ไม่ใช่ภาพถ่ายตรงเต็มหน้า
ภาพถ่ายด้านหน้าจะจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการเปรียบเทียบภาพได้เป็นอย่างดี "
Ann Ross ผู้อำนวยการ Forensic Sciences Institute ที่ North Carolina State University
ให้สัมภาษณ์กับ Live Science ผ่านทาง email
Amelia Earhart ทำสถิติหลายครั้งในด้านความเร็วและระยะทางในช่วงปี 1930
รวมทั้งเธอมีชื่อเสียงอย่างมากในการบินข้านมหาสมุทร Atlantic ในปี 1932
เธอเป็นสตรีคนแรกที่มีความสามารถในด้านนี้
แต่การหายตัวไปของเธอในการผจญภัยครั้งสุดท้าย
เป้าหมายคือ การเป็นสตรีคนแรกที่บินรอบโลก
สร้างความสนใจอย่างยิ่งให้กับสาธารณะชนและนักวิทยาศาสตร์
Amelia Earhart กับ Fred Noonan วางแผนบินระยะทาง 29,000 ไมล์ (46,000 กิโลเมตร)
ตามเส้นทางรอบเส้นศูนย์สูตรโดยเริ่มต้นจากเมือง Miami ในวันที่ 1 มิถุนายน 1937
หลังจากบินได้เพียง 29 วัน เครื่องบินของเธอที่มีชื่อเรียกว่า Electra
ต้องลงจอดที่ Lae ประเทศ New Guinea ในมหาสมุทร Pacific
ทั้งคู่วางแผนว่าจะบินไปที่ Howland Island
แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายอาจจะเป็นสาเหตุอย่างหนึ่ง
ที่รบกวนคลื่นวิทยุและแผนที่ที่ไม่ถูกต้อง
ทำให้ทั้งคู่ต่างหลงทาง เสียงวิทยุครั้งสุดท้ายของทั้งคู่
ได้ยินในวันที่ 2 กรกฏาคม 1937
สหรัฐอเมริการประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้วในวันที่ 5 มกราคม 1939
แต่ก็ยังไม่มีใครค้นพบซากศพของเธอ
ภาพที่ถูกค้นพบใหม่นี้มีขนาด 8X10 นิ้ว(20X25 เซ็นติเมตร)
ภาพระบุปี 1937 และรายงานว่าภาพนี้ถ่ายโดยสายลับสหรัฐ
ขณะที่กำลังสอดแนมกองทัพญี่ปุ่นใน Marshall Islands
นักวิจัยช่องประวัติศาตร์ ให้สัมภาษณ์กับ NBC
นักวิจัยประวัติศาสตร์ได้ค้นพบภาพนี้ในไฟล์ภาพข้อมูลแห่งชาติ U.S. National Archives file
Shawn Henry อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร FBI จะบรรยายการค้นพบเรื่องนี้
เป็นเวลา 2 ชั่วโมงในรายการประวัติศาสตร์พิเศษ -
Amelia Earhart: The Lost Evidence ออกอากาศตอน 2 ทุ่มที่ CDT Sunday (9 กรกฏาคม)
" ในภาพจะเห็นสตรีตัดผมสั้นที่ดูเหมือนกับ Earhart กำลังนั่งอยู่บนท่าเรื่อ
เธอสวมกางเกงแบบที่ Earhart ชอบสวมใส่เป็นประจำ
และขนาดรูปร่างของเธอก็สอดคล้องกับภาพถ่ายต่าง ๆ ของ Earhart "
Shawn Henry ให้สัมภาษณ์กับ NBC
" ที่ใกล้ ๆ กันนั้นก็ดูเหมือนจะเป็น Noonan
(เขามีจมูกโด่งที่ดูโดดเด่นกับหัวเถิกแต่ในรูปทรงผมแทบบังใบหน้า)
ยืนอยู่ถัดไปจากกลุ่มชาวบ้าน "
Ken Gibson ผู้เชี่ยวชาญด้านการจดจำใบหน้าให้สัมภาษณ์กับ NBC
วงกลมสีเหลืองที่แยกกันระบุว่าเป็น Amelia Earhart กับ Fred Noonan Credit: National Archives
" การวิเคราะห์ครั้งนี้เปิดกว้างมากในการตีความ
ภาพของ Noonan ดูมืดมากและคงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเลย
และเธอไม่แน่ใจเช่นกันว่า การตัดทรงผมสั้น ๆ ของสตรีช่วงนั้นเป็นเช่นใด
อย่างไรก็ตามถ้าในภาพเป็น Earhart
ก็ดูเหมือนว่าท่าทางเธอไม่ได้ถูกจับเป็นตัวประกันแต่อย่างใด
ฉันอยากจะพูดว่า ภาพนี้ไม่น่าเชื่อถือ หรือระบุได้ชัดเจน "
Ann Ross ให้สัมภาษณ์ว่า
ทางด้านขวามือของภาพนี้
Koshu เรือญี่ปุ่นดูเหมือนบรรทุกเครื่องบินบนลำเรือ
นักวิเคราะห์ภาพถ่ายประมาณการว่ายาวราว 38 ฟุต (11.5 เมตร)
เที่ยบเท่ากับความยาว Electra เครื่องบินของ Earhart
และภาพดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่าไม่มีการตกแต่งแต่อย่างใด
ตามรายงานข่าวของ NBC
ถ้าบุคคลในภาพเป็น Earhart กับ Noonan จริง
บางทีทั้งคู่อาจจะรอดตายด้วยการลงจอดบน Marshall Islands
ตามตำนานชาวเกาะที่เคยบอกเล่าเรื่องนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นที่จดจำไว้มีในรูปแสตมป์ที่ระลึกของ
Republic of the Marshall Islands ในปี 1987
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของเที่ยวบินครั้งสุดท้ายของเธอ
ตามรายงานข่าวของ NBC
" เราเชื่อว่าเรือ Koshu พาเธอไปที่เกาะ Saipan
[ใน Mariana Islands ราว 1,800 ไมล์/3,000 กิโลเมตร
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Marshall Islands]
และเธอเสียชีวิตที่นั่นภายใต้การควบคุมตัวของญี่ปุ่น "
Gary Tarpinian ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตช่องประวัติศาตร์พิเศษ ให้สัมภาษณ์กับ NBC
วงกลมสีเหลืองคล้ายกับ Electra เครื่องบินของ Amelia Earhart Credit: National Archives
เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐรับรู้หรือไม่ว่าใครเป็นใครในภาพนี้
ทีมข่าวได้ไปที่ญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูลจาก กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงกลาโหม และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
แต่ทั้งสามหน่วยงานบอกว่าไม่มีรายงานเรื่องนี้
เรื่องที่ Earhart อยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น
ซึ่งบางทีอาจเป็นไปได้ที่ข้อมูลดังกล่าวสูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
มีแนวคิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ระหว่างเที่ยวบินสุดท้ายของ Earhart
กลุ่มเพื่อการฟื้นฟูอากาศยานประวัติศาสตร์นานาชาติ (TIGHAR)
The International Group for Historic Aircraft Recovery
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งอยู่ที่เมือง Pennsylvania
มีแนวคิดว่าเครื่องบินของ Earhart กับ Noonan
น้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะหมดและได้ลงจอดบนเกาะ Gardner (ปัจจุบันคือ Nikumaroro)
ระยะทางประมาณ 400 ไมล์ทางตอนใต้ใต้ของเกาะ Howland
คือ สถานที่ทั้งคู่ตายหลังจากเครื่องบินอับปาง
Ric Gillespie ไม่เชื่อว่าภาพนี้คือ Earhart กับ Noonan
Ric Gillespie นักเขียนเรื่อง Finding Amelia
และผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ TIGHAR
บอกอย่างมั่นใจกับ BBC ว่า
" ภาพนี้ที่ชาวบ้านเชื่อกัน ผมค่อนข้างประหลาดใจ
ผมหมายความว่า โอ้ พระเจ้า
ดูที่ภาพนี่ซิ ... ลองใช้หัวสมองตรองดูก่อน
มันไม่ได้ระบุวันที่ พวกเขาคิดว่าอยู่ในช่วงปี 1937
โอเค ถ้ามันเป็นวันที่ 1 กรกฏาคม 1937
(เสียงเรียกทางวิทยุครั้งสุดท้าย 2 กรกฏาคม 1937)
มันก็ไม่ใช่ Amelia เพราะเธอยังไม่ขึ้นบินเลย
ถ้ามันเป็นช่วงปี 1935 หรือ 1938 ยิ่งไม่ใช่เธอเลย....
ภาพนี้ดูเหมือนว่าแอบถ่ายจากช่องหน้าต่างแคบ ๆ
ภายในช่วงสองสามวันตอนที่เธอหายตัวไป
ถ้าภาพมาจากหน่วยสืบราชการลับกองทัพเรือ
Office of Naval Intelligence ก็เป็นเรื่องธรรมดามาก
สหรัฐต้องการภาพถ่ายพวกกองทัพเรือญี่ปุ่นอยู่แล้ว
และภาพนี้บอกอะไรบ้างละ ... Jaluit Atoll - Jaluit Island
มันไม่ได้บ่งบอกเลยว่า Earhart ถูกญี่ปุ่นควบคุมตัว
ถ้าในภาพ Earhart ถูกญี่ปุ่นควบคุมตัว ไหนละญี่ปุ่น
ไม่มีทหารสักคนในภาพ ไม่มีใครแต่งเครื่องแบบทหารในภาพนี้สักคนเลย
ภาพคนที่ว่าเป็น Earhart ควรเป็นสตรีผิวขาว
แต่ผมเธอยาวมากกว่าน่าจะเป็นของ Earhart
เรามีภาพถ่ายจำนวนมากของ Earhart
ก่อนที่เธอจะออกบิน และผมของเธอสั้นกว่าภาพนี้มาก
ส่วนภาพผู้ชายที่ระบุว่าเป็น Noonan ไม่น่าจะใช่
เพราะสีเสื้อผิดไป ชายในภาพสวมเสื้อสีขาว
แต่ Noonan สวมเสื้อกางเกงสีดำเป็นประจำ
และ Amelia จะไม่ใช้เสื้อผ้าแบบนี้ในตอนบิน
หรือว่าคนญี่ปุ่นมอบเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับเธอ
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างผิดความเป็นจริง "
เกาะ Nikumaroro ไม่มีคนอยู่อาศัยในตอนที่ Earhart นำเครื่องบินลงจอดที่นี่
เกาะ Nikumaroro ที่คาดว่าเครื่องบิน Earhart ลงจอดที่นั่น
เคยมีคนพบเศษชิ้นส่วนกระดูกที่เกาะแห่งนี่ในปี 1940
ตอนแรกคาดว่าจะเป็นของเธอ แต่แพทย์ระบุว่าเป็นของผู้ชาย
Ric Gillespie ยังได้พาทีมงานสำรวจ 11 คนไปที่นี่
เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับชะตากรรมของ Earhart
เกาะแห่งนี้ยังไม่มีใครมาอยู่ในตอนที่ Earhart ลงจอดที่นั่น
ทีมงานได้ค้นพบกล่องเครื่องสำอางค์สตรีในช่วงปี 1930
ที่เป็นที่ยอดนิยมของสตรีสหรัฐ
พบครีมบำรุงผิว
และเศษเสื้อแจ็กแก็ตแบบใช้ซิป
" จุดที่มีเสียงวิทยุเรียกจากเครื่องบินของ Earhart หลังจากเครื่องบินตก
มีการเรียก คืนแล้วคืนเล่า
(ในช่วงกลางคืนที่นั่น แต่จะเป็นช่วงเวลากลางวันของสหรัฐ)
คาดว่าเครื่องบินน่าจะอยู่บนบก
เพราะถ้าอยู่ในน้ำ วิทยุน่าจะเปียกน้ำและใช้การไม่ได้
หลังจาก 6 คืนผ่านไปสัญญาณวิทยุก็ขาดหายไป
(ในยุคนั้นยังไม่มีระบบดาวเทียม/GPS
วิทยุรับส่งคลื่น SW รับส่งได้ไกลแต่ไม่ค่อยชัด)
เราคิดว่าเครื่องบินน่าจะลงจอดบนแนวโขดหินปะการังรอบเกาะ
ซึ่งเป็นที่แบนราบ แห้งตอนน้ำลง และมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงตลอดเวลา
ในคืนที่ 6 เครื่องบินก็ถูกกวาดลงทะเลไปในที่สุดด้วยกระแสน้ำ
และตอนที่เครื่องบินจากกองเรือรบไปบินค้นหาอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เครื่องบินก็จมหายไปแล้ว ทั้งคู่อาจจมหายไปในท้องทะเลเพราะกระแสน้ำก็ได้
ทำให้เรื่องลึกลับของคนทั้งสองยังรอการพิสูจน์อยู่ " Ric Gillespie
มีดพับแบบของใช้ประจำตัว Earhart
Ric Gillespie กับทีมงานค้นหาบนเกาะ Nikumaroro ที่เชื่อว่าเครื่องบิน Earhart ตกลงที่นี่
ทีมงานกลุ่มนี้ได้ร่วมมือกับ National Geographic
กำลังพาสุนัขนิติวิทยาศาสตร์ไปที่ Nikumaroro
เพื่อสูดดมหากระดูกของมนุษย์/นำมาตรวจสอบว่ากระดูกดังกล่าว
จะตรงกับ Earhart กับ Noonan หรือไม่ ตามข้อสันนิษฐานดังกล่าวนี้
ระยะทางระหว่าง Jaluit Atoll สถานที่ถ่ายภาพนี้ กับ Howland Island ที่ซึ่งคาดว่าเครื่องบิน Amelia Earhart ลงจอดที่นั่น
แต่นักวิจัยบางคนคาดว่า Amelia Earhart ลงจอดที่ Nikumaroro ที่มา Google Maps
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/kwoygv
https://goo.gl/6aGvBq
https://goo.gl/3oqeu5
Earhart กับ Noonan ใน Natal ที่ Brazil เดือนมิถุนายน 1937
Topical Press Agency/Getty Images
ข้อมูลเพิ่มเติม https://goo.gl/zBK6QA