@@@มุมกาแฟ NON แดง:วันเสาร์ที่ 8/7/2017: คิดอย่างไรต่อการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว@@@

เขาให้ลงทะเบียนมาหลายรอบระครับตั้งแต่ปีที่แล้ว  แต่ก็มีคนทำบ้างไม่ทำบ้างเพราะคิดว่ารัฐบาลไม่เอาจริง   ตอนนี้เวลาบังคับใช้กฏหมาย ก็ย่อมมมีผลกระทบ  แต่คือสัญญาณในการกระตุ้นให้เห็นความจริงจัง  แก้ปัญหาค้ามนุษย์ที่ต่างชาติทำกำแพงการค้าจากปัญหานี้  ถ้าไม่ทำก็เหมือนเดิมแต่ถ้าทำมีผลกระทบแต่ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง  ครับ

กทม.มีประชากรที่เป็นคนไทยเกือบ 10ล้านคน มีแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานน่าจะหลายแสนคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการดูแลจัดการที่เข้มงวดกว่าที่เป็๋นอยู่ ต่อไปหากเรามี รบ.จากการเลือกตั้งแล้วไม่ต้องคาดหวังเลยครับว่าจะมีการจัดการอะไรได้อีก เพราะดูจากที่ผ่านๆมาเมื่อเปรียบเทียบกันเล้วมันทั้งอ่อนเปลี้ยและอ่อนแรง คิดแต่จะเอาใจฐานเสียงเพื่อเรียกคะแนนในสมัยหน้า นโยบายทำลายประเทศบ้าๆบอๆก็ยังงัดออกมาหาเสียงได้ อย่าเลยครับ รีบจัดระเบียบยกเครื่องกันเสียแต่ตอนนี้นั่นแหละดีแล้ว

สมัยก่อนเวลาผมไปพักรีสอร์ทของเพื่อนที่อุ้มผาง ขากลับเรามักจะนั่งสองแถวข้ามเขามาแม่สอด ในรถขาเข้าพม่าเพียบครับ(สมัยนั้นค่าแรงขั้นต่ำยังไม่ถึง200) เขาจะลงรถก่อนถึงด่านตรวจแล้วเดินตัดป่าอ้อมด่านไปรอขึ้นรถสองแถวใหม่ เป็นที่รู้กัน... แล้วคิดว่ายุคค่าแรงขั้นต่ำทะลุเพดานแบบนี้ แรงงานเถื่อนจะทะลักเข้ามาเท่าไหร่ ถ้าไม่มีการดูแลอย่างเข้มงวดความเดือดร้อนมันก็มาตกอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่นายจ้างของแรงงานต่างด้าว จะโทษใครดี โทษไอ้คนที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือพวกกองเชียร์ที่หลับหูหลับตาเชียร์ดี ตอนนั้นผู้ประกอบการออกมาโวยมันไม่สน ทีตอนนี้แทบจะก้มกอดขาเลียแพร็บๆกันเลยทีเดียว 555

การจัดระเบียบสังคม ไม่ว่าจะเรื่องไหน ย่อมมีผู้ที่เดือดร้อนครับ โดยเฉพาะผู้ที่เอาเปรียบสังคมมาแสนนาน พอถูกบังคับโดยกฏหมายก็ออกมาดิ้นทุกงาน คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไม่ใช่นายจ้างของแรงงานต่างด้าวครับ ผมขอย้ำ ดังนั้น ไม่มีใครชอบเวลามีต่างด้าวตีกัน ฆ่ากันแล้วทิ้งศพไว้ข้างๆบ้าน ถ้ามันมาแบบเถื่อน มันก็เถื่อนครับ เพื่อนผมที่ทำธุรกิจที่พม่าก็เล่าให้ฟังอยู่ว่า แรงงานที่ข้ามเข้ามาแม้จะถูกกฏหมายก็มันจะไม่ใช่พม่าในเมือง เป็นพวกรอบนอกๆเสียมากกว่าก็เปรียบได้กับคนชายแดนของเขานั่นแหละ มีเรื่องเขาก็หนีกลับ ไม่ยากเลย

ดังนั้น การจัดระเบียบมันทำให้ประชาชนส่วนใหญ่อุ่นใจมากขึ้นครับ ส่วนคนส่วนน้อยที่คิดว่าตัวเองเป็นคนส่วนใหญ่ หรือเข้าใจว่าตัวเองมีอำนาจต่อรองมากกว่าชาวบ้านเขา จะคิดอย่างไรผมคงไม่สน กฏหมายเป็นเรื่องบังคับรู้ และบังคับปฏิบัติครับ ไม่ชอบใจไม่ใช่คำตอบ

เรื่องแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วหรือมีปัญหาทีต้องจัดการกันในปีนี้
แต่เรื่องนี้มีปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว นับเป็นสิบปีมาแล้ว ผ่านรัฐบาลมาหลายรัฐบาลแล้ว
เปรียบเป็นแผลเล็กๆ ที่ปล่อยปละละเลยไม่จัดการใส่ยาเย็บแผลให้เรียบร้อย มันก็เกิดเป็นแผลเน่าเกิดฝีหนองบวมขึ้นเรื่อยๆ มา ทุกรัฐบาล

การออกมาติเตียนรัฐบาลชุดนี้ว่า ทำไม่ถูกในประเด็นเรื่องนี้ 1.-2.-3.-4. ว่าทำให้แรงงานหนีจากไทย ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย ทำให้เสียเวลา ฯลฯ
เหมือนกับการพยายามเอาพลาสเตอร์และผ้าพันแผล มาแปะปิดแผลหนองที่ระบมอยู่  เนื่องจากความรังเกียจรัฐบาลชุดนี้ว่า มีที่มาไม่ถูกต้อง
โดยไม่ได้มองเลยว่า สิ่งที่รัฐบาลซึ่งมีที่มาไม่ถูกต้องไม่ถูกใจ  กำลังทำสิ่งที่ถูกต้องและควรทำมานานแล้ว

รอยแผลที่ปล่อยทิ้งกันมานานเป็นสิบปี จะด้วยเหตุอะไรเป็นอีกเรื่องที่ต้องพูดถึง แต่การที่ละเลยจนอาการถึงขั้นที่ใส่ยาแดงทายาหม่อง
มันไม่ช่วยให้แผลหายได้แล้ว  มันจำเป็นที่จะต้อง "ผ่าตัด" ใช้มีดหมอผ่าแผลแคะเอาหนองออกให้หมด เย็บแผลใส่ยา มันจึงจะหายได้
และแน่นอนว่า การผ่าแผลที่เป็นฝีเป็นหนองอยู่เพื่อรักษา มันต้องเกิดความเจ็บปวดขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้ความอดทนรับให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่ต้องรักษากัน

บอกตรงๆว่า ผมไม่ชอบใจเลย ที่มีการใช้ ม.44 ยืดเวลาออกไปให้อีกตั้ง 6 เดือน ในเมื่อเขาให้เวลามาเป็นปีๆแล้ว แต่ก็อ้างเหตุต่างๆนาๆ
ไม่ยินยอมเสียเวลาเสียเงินเพื่อทำให้ถูกกฎหมาย พอจะมีการเข้มงวดตามกฎหมาย ก็อ้างกันอีกสารพัดเหตุผล เพื่อจะไม่ทำตามกฎหมาย
นี่ก็รอดูอยู่ว่า ถึงต้นปีหน้ายังจะขอเลื่อนเวลากันออกไปอีกหรือไม่