แบบที่เราจะเขียนกันคือใบนี้ครับ
มาดูขั้นตอนการทำแบบกัน
1.ดูแบบดีไซน์ก่อนเลยครับ ว่าเค้าออกแบบมาเป็นยังไง ใช้โคมรุ่นอะไร
- ติดที่ฝ่า หรือ ติดฝังฝ่า
-เป็นหลอดประเภทไหน ฟลูออเรสเซ้นต์ กี่วัตต์ กี่หลอด หรือเป็น LED กี่วัตต์กี่หลอด (หลังๆมาจะเป็น LED สะส่วนใหญ่ ประหยัดไฟ รักโลก ว่างั้น).เพราะมันต้องเขียนอธิบายสัญญาลักษณ์ในแผ่นด้วยครับ
ปกตกถ้าผมเขียนดีไซน์ จะเขียนหน้าตาอุปกรณ์ไว้ให้ด้วยครับ
*จากแบบแผ่นนี้จะเห้นว่าทางผู้ออกแบบใช้ โคม 36Wx2 FLUORESCENT (V-SHAPE TYPE) คือโคมอกไก่หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ 36 w 2หลอด.
*สวิทย์ ทางเดียว 16 a. ปกติ
-อีเมอร์เป็นรู่นแบตในตัว เสียบปลั๊ก (ต้องฝังปลั๊กไว้ให้ด้วย).
2.จากในแบบดีไซน์จะเห้นว่าแอบมีอีเมอร์ อยู่ด้วย 1 ตัว ซึ่งผู้ออกแบบบอกว่าให้ใช้ไฟกับ แสงสว่างเลย(แต่บางคนเค้าก็แยกออกจากแสงส่วาง ถึงแม้ว่าจะมีตัวเดียวก็ตาม) *เรื่องป้ายทางออกและไฟฉุกเฉินจะอธิบายในแบบ EMERGENCY อีกทีแล้วกันครับ แผ่นนี้เอาแสงสว่างก่อน
จะเห็นว่ามีการใชรางไวไว ขนาด 75x50x1.6t ในการติดตั้ง(t คือความหนาครับ) ข้อดีของการใช้ราง ในงานนี้คือ ใช้ในการวายสายได้และสามารถเป็นซัพพอทของโคมได้อีกด้วยหากเราใช้ท่อในการเดินสายเราต้องคิดต่ออีกโคมจะติดตั้งยังไง ส่วนใหญ่ ก็ตัดปัญหาด้วยการใช้รางในการติดตั้ง แต่ “วสท ห้ามใช้รางเดินสายใต้ฝ่า ”แต่ก็มีอนุโลมให้ใช้ได้แต่ต้องเป็นฝ่าที่เข้าถึงได้ตลอดแนวก็น่าจะหมายถึง แบบ T-BAR ก็จะเป็นปัญหาในการดีไซน์ อีก แต่ผมก็ยังแอบใช้อยู่เนื่องจากความสะดวกในหลายๆเรื่อง
2.ดูแบบก่อสร้างต่อครับ
-ฝ่าเป็นแบบไหน T-BAR ,M-BAR
T-BAR จะเป็นล็อคๆครับ เป็นช่องๆเปิดได้ ตลอดแนว
M-BAR เป็นแบบฉาบเลียบ ปิดทึบตลอดแนว
-ถ้าเป็น T-BAR ก็ต้องจัดให้เข้าฝ่าก่อนแล้วค่อยคิดอย่างอื่นต่อ
-ดูแบบโครงสร้างครับ ที่จำเป็นต้องใช้ กับแบบตัวนี้ ก็จะเป็นแบบ PURIN ครับ ดูว่าตรงกับ ทิศทางของรางไหมสามารถแขวนรางได้หรือเปล่า
3.เริ่มเขียนได้แล้วครับ.
**แบบใบ3 เป็นแบบงานซัพพอทครับ
-เอาแบบแปลน กับ PURIN ลงในแบบแผ่นเดียวกันเพื่อจัดระยะซัพพอทของ รางไวไว
องค์ ประกอบของแบบ
-ระยะ ของซัพพอทเพื่อให้ทีมงานไปแขวนซัพพอทไว้รอการติดตั้งรางต่อไป มีดีเทลซัพพอทต่างๆใช้ในการเตรียมงาน อย่างเช่น ซัพพอท ดีเทล B สามารถพับรอได้เลยก่อนแบบ ใบนี้จะเสร็จ โดยการเช็คขนาด ของ PURIN ให้แน่ชัดหรือมีการขึ้นโครงหลังคาแล้ว เพื่อความชัวก้ขึ้นไปวัดเอาเลย ครับ จะได้เช็คระยะระหว่าง PURIN ได้อีกด้วย บางทีเขียนในแบบว่า PURIN ห่างกัน 1เมตร พอไปขึ้นจริง เป้น เมตร ครึ่งซะงั้น จะทำให้รางเรามีปัญหาได้
-โดยส่วนมาก ซัพพอท ดีเทล A จะสั่งเอาครับ แต่ก็มีบางคนพับเอาเอง เหมือนกัน เพื่อประหยัดงบ แต่จะใช้เวลาเตรียมงานมากขึ้นหน่อย
4.แบบแผ่นที่ 4 จะเป็นแบบ วายสาย จะบอกขนาดสาย บอกเซอร์กิต
ถ้ามีพื้นที่ว่างก็เขียนดีเทลต่างๆลงไปด้วย เพื่อความเข้าใจง่ายในการดูแบบครับ
จะเป็นการบอกว่าที่ดึงระยะออกจากประตู 200 FL+1300 เป็นยังไง อะไรประมาณนี้ ดีเทลงานนี้ผมเขียนเป็นแบบฝังในปูนครับ
จากแบบจะเห็นได้ว่า รยะโคมไฟต่างไปจากแบบดีไซน์ เพราะผมจัดใหม่ให้เข้ากับแบบ PURIN ครับ เพื่อง่ายกับการทำงาน แต่หาก ยังยืนยันตำแหน่งเดิมระยะเดิมจากดีไซน์ จะต้องทำการเสริมซัพพอท มันจะเพิ่มงานเพิ่มคอสในการทำงานเพราะจะมีค่าเหล็กเพิ่มขึ้นอีกมากมายครับ
การเสริมซัพพอทประมาณนี้ครับ
มีเรื่องราวเกี่ยวกับการเขียนแบบอีกมากมาย เข้าไปติดตามได้ที่เพจเลยครับผม
เพจ เขียนแบบไฟฟ้า แบบ shop แบบ design
https://www.facebook.com/Mr.worawat/
เขียนแบบไฟฟ้า (มาเขียนแบบแสงสว่างในสายงานก่อสร้างกัน)
มาดูขั้นตอนการทำแบบกัน
1.ดูแบบดีไซน์ก่อนเลยครับ ว่าเค้าออกแบบมาเป็นยังไง ใช้โคมรุ่นอะไร
- ติดที่ฝ่า หรือ ติดฝังฝ่า
-เป็นหลอดประเภทไหน ฟลูออเรสเซ้นต์ กี่วัตต์ กี่หลอด หรือเป็น LED กี่วัตต์กี่หลอด (หลังๆมาจะเป็น LED สะส่วนใหญ่ ประหยัดไฟ รักโลก ว่างั้น).เพราะมันต้องเขียนอธิบายสัญญาลักษณ์ในแผ่นด้วยครับ
ปกตกถ้าผมเขียนดีไซน์ จะเขียนหน้าตาอุปกรณ์ไว้ให้ด้วยครับ
*จากแบบแผ่นนี้จะเห้นว่าทางผู้ออกแบบใช้ โคม 36Wx2 FLUORESCENT (V-SHAPE TYPE) คือโคมอกไก่หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ 36 w 2หลอด.
*สวิทย์ ทางเดียว 16 a. ปกติ
-อีเมอร์เป็นรู่นแบตในตัว เสียบปลั๊ก (ต้องฝังปลั๊กไว้ให้ด้วย).
2.จากในแบบดีไซน์จะเห้นว่าแอบมีอีเมอร์ อยู่ด้วย 1 ตัว ซึ่งผู้ออกแบบบอกว่าให้ใช้ไฟกับ แสงสว่างเลย(แต่บางคนเค้าก็แยกออกจากแสงส่วาง ถึงแม้ว่าจะมีตัวเดียวก็ตาม) *เรื่องป้ายทางออกและไฟฉุกเฉินจะอธิบายในแบบ EMERGENCY อีกทีแล้วกันครับ แผ่นนี้เอาแสงสว่างก่อน
จะเห็นว่ามีการใชรางไวไว ขนาด 75x50x1.6t ในการติดตั้ง(t คือความหนาครับ) ข้อดีของการใช้ราง ในงานนี้คือ ใช้ในการวายสายได้และสามารถเป็นซัพพอทของโคมได้อีกด้วยหากเราใช้ท่อในการเดินสายเราต้องคิดต่ออีกโคมจะติดตั้งยังไง ส่วนใหญ่ ก็ตัดปัญหาด้วยการใช้รางในการติดตั้ง แต่ “วสท ห้ามใช้รางเดินสายใต้ฝ่า ”แต่ก็มีอนุโลมให้ใช้ได้แต่ต้องเป็นฝ่าที่เข้าถึงได้ตลอดแนวก็น่าจะหมายถึง แบบ T-BAR ก็จะเป็นปัญหาในการดีไซน์ อีก แต่ผมก็ยังแอบใช้อยู่เนื่องจากความสะดวกในหลายๆเรื่อง
2.ดูแบบก่อสร้างต่อครับ
-ฝ่าเป็นแบบไหน T-BAR ,M-BAR
T-BAR จะเป็นล็อคๆครับ เป็นช่องๆเปิดได้ ตลอดแนว
M-BAR เป็นแบบฉาบเลียบ ปิดทึบตลอดแนว
-ถ้าเป็น T-BAR ก็ต้องจัดให้เข้าฝ่าก่อนแล้วค่อยคิดอย่างอื่นต่อ
-ดูแบบโครงสร้างครับ ที่จำเป็นต้องใช้ กับแบบตัวนี้ ก็จะเป็นแบบ PURIN ครับ ดูว่าตรงกับ ทิศทางของรางไหมสามารถแขวนรางได้หรือเปล่า
3.เริ่มเขียนได้แล้วครับ.
**แบบใบ3 เป็นแบบงานซัพพอทครับ
-เอาแบบแปลน กับ PURIN ลงในแบบแผ่นเดียวกันเพื่อจัดระยะซัพพอทของ รางไวไว
องค์ ประกอบของแบบ
-ระยะ ของซัพพอทเพื่อให้ทีมงานไปแขวนซัพพอทไว้รอการติดตั้งรางต่อไป มีดีเทลซัพพอทต่างๆใช้ในการเตรียมงาน อย่างเช่น ซัพพอท ดีเทล B สามารถพับรอได้เลยก่อนแบบ ใบนี้จะเสร็จ โดยการเช็คขนาด ของ PURIN ให้แน่ชัดหรือมีการขึ้นโครงหลังคาแล้ว เพื่อความชัวก้ขึ้นไปวัดเอาเลย ครับ จะได้เช็คระยะระหว่าง PURIN ได้อีกด้วย บางทีเขียนในแบบว่า PURIN ห่างกัน 1เมตร พอไปขึ้นจริง เป้น เมตร ครึ่งซะงั้น จะทำให้รางเรามีปัญหาได้
-โดยส่วนมาก ซัพพอท ดีเทล A จะสั่งเอาครับ แต่ก็มีบางคนพับเอาเอง เหมือนกัน เพื่อประหยัดงบ แต่จะใช้เวลาเตรียมงานมากขึ้นหน่อย
4.แบบแผ่นที่ 4 จะเป็นแบบ วายสาย จะบอกขนาดสาย บอกเซอร์กิต
ถ้ามีพื้นที่ว่างก็เขียนดีเทลต่างๆลงไปด้วย เพื่อความเข้าใจง่ายในการดูแบบครับ
จะเป็นการบอกว่าที่ดึงระยะออกจากประตู 200 FL+1300 เป็นยังไง อะไรประมาณนี้ ดีเทลงานนี้ผมเขียนเป็นแบบฝังในปูนครับ
จากแบบจะเห็นได้ว่า รยะโคมไฟต่างไปจากแบบดีไซน์ เพราะผมจัดใหม่ให้เข้ากับแบบ PURIN ครับ เพื่อง่ายกับการทำงาน แต่หาก ยังยืนยันตำแหน่งเดิมระยะเดิมจากดีไซน์ จะต้องทำการเสริมซัพพอท มันจะเพิ่มงานเพิ่มคอสในการทำงานเพราะจะมีค่าเหล็กเพิ่มขึ้นอีกมากมายครับ
การเสริมซัพพอทประมาณนี้ครับ
มีเรื่องราวเกี่ยวกับการเขียนแบบอีกมากมาย เข้าไปติดตามได้ที่เพจเลยครับผม
เพจ เขียนแบบไฟฟ้า แบบ shop แบบ design
https://www.facebook.com/Mr.worawat/